เธอตื่นขึ้นในขุมนรกแห่งความยากจน
“นังเด็กอัปมงคล! จะตายก็ไม่ตายเสียที เปลืองน้ำข้าวบ้านข้าไปกี่ถ้วยแล้ว! พ่อแม่แกมันก็โง่เง่า ที่เลี้ยงลูกใกล้ตายแบบนี้ เสียข้าวสุกจริงๆ!”
เสียงแหลมสูงพ่นคำด่าทอที่เต็มไปด้วยไอเน่าแห่งความใจแคบ ปลุกให้วิญญาณที่ควรจะดับสูญไปแล้วของหลี่อันสะดุ้งสุดตัว
ความรู้สึกแรกที่จู่โจมไม่ใช่ความเจ็บปวดจากบาดแผลกระสุนปืน แต่เป็น ความหิว ที่รุนแรงจนลำไส้แทบจะบิดเป็นเกลียว ร่างกายนี้เบาหวิวและเย็นเฉียบประหนึ่งซากศพที่ยังมีลมหายใจ
หลี่อันพยายามลืมตาที่หนักอึ้ง ภาพเบื้องหน้าคือเพดานฟางผุพังที่มีแสงแดดลอดผ่านรูโหว่ กลิ่นอับชื้นของดินและสาบคนโชยเข้าจมูก
นี่มันที่ไหน? โรงพยาบาลสนามงั้นหรือ? ไม่สิ... กลิ่นแบบนี้มัน... ยุคโบราณ?
“ท่านแม่! ได้โปรดเถิดเจ้าค่ะ อันอันฟื้นแล้ว นางยังไม่ตาย อย่าเอานางไปทิ้งเลยนะเจ้าคะ!” เสียงผู้หญิงสะอื้นไห้อยู่ข้างกาย พร้อมสัมผัสจากมือที่สากระคายแต่เต็มไปด้วยความอบอุ่นที่ลูบหน้าผากเธออยู่
หลี่อันขยับสายตามอง... มือนั้นเล็กลง? ไม่สิ ตัวเธอต่างหากที่เล็กลง! มือน้อยๆ ที่เหลือเพียงหนังหุ้มกระดูก เล็บสั้นกุด นี่คือร่างกายของเด็กหญิงอายุไม่เกินห้าขวบที่กำลังจะอดตาย!