เซวียเสี่ยวหรั่นกับอูหลันฮวากำลังนั่งกินเส้นวุ้นถั่วลันเตาเย็น [1] ซึ่งเป็อาหารประจำท้องถิ่นของเมืองชิงหลิงอยู่ที่ร้านมุมถนน
วุ้นถั่วลันเตาเย็นเส้นบางนุ่มละมุน รสชาติออกเปรี้ยวเผ็ดชาลิ้นหน่อยๆ เป็อาหารที่เหมาะสมสำหรับฤดูร้อน
"บะหมี่เย็นของที่นี่ไม่ค่อยเหมือนกับบ้านเรา ของพวกเราเส้นจะแบนและเหนียวนุ่ม รสชาติออกหวาน ที่นี่ค่อนข้างเผ็ด แต่อร่อยมาก"
อูหลันฮวากินอย่างมีความสุข
"อื้ม ยังมีเฉาก๊วยอีกอย่าง เส้นนุ่มลื่นรูปสี่เหลี่ยมลูกเต๋า หน้าร้อนเติมน้ำแข็งเข้าไปอีกหน่อย ยามเคี้ยวอยู่ในปากยิ่งเย็นสบาย"
เซวียเสี่ยวหรั่นนึกถึงของอร่อยแถวโรงเรียน
"แต่ฤดูร้อนจะเอาน้ำแข็งมาจากไหน?" อูหลันฮวากินเส้นวุ้นถั่วลันเตาเย็นพลางเอ่ยถาม
"เอ่อ... ก็มีวิธีเก็บน้ำแข็งนะสิ" เซวียเสี่ยวหรั่นลองนึกดู ในบ้านของคนตระกูลใหญ่น่าจะมีห้องเย็นเก็บน้ำแข็งใต้ดินกระมัง
ฟางขุยซึ่งนั่งอยู่โต๊ะถัดไปกำลังชิมเส้นวุ้นเย็นถั่วลันเตาอยู่ ได้ยินพวกนางสนทนากัน ก็ยิ้มพลางรีบกล่าวว่า "ในจวนก็มีห้องเย็นขอรับ ถ้าคุณหนูเซวีย้าน้ำแข็งก็บอกนายท่านได้เลย"
บ้านตระกูลใหญ่มีห้องเย็นจริงๆ ด้วย เซวียเสี่ยวหรั่นหันไปยิ้มให้เขา
"เช่นนั้นคุณหนูทำเฉาก๊วยเป็หรือไม่" อูหลันฮวามองนางด้วยสายตาวาดหวัง
"ต้องมีผงหญ้าเหลียงเฝิ่นถึงจะได้ แต่ไม่รู้ว่าจะมีขายหรือเปล่าสิ" เซวียเสี่ยวหรั่นทำเป็ แต่ก็ต้องมีวัตถุดิบด้วยถึงจะทำได้
"เอาไว้มีเวลาว่าง ข้าจะไปตลาดหามา" อูหลันฮวาชื่นชอบอาหารจำพวกเส้นลื่นเย็นลื่นคล่องคอประเภทนี้เป็ที่สุด
"ได้สิ ถ้าหากได้ ข้าจะทำให้พวกเ้าชิม" เซวียเสี่ยวหรั่นเองก็คิดถึงเฉาก๊วยเย็นหวานชื่นใจมากเหมือนกัน
ทั้งสองกำลังคุยกันอยู่ ก็เกิดเหตุโกลาหลกะทันหันที่มุมถนน
ผู้คนเป็กลุ่มก้อนต่างวิ่งกรูกันไปทางทิศเดียวกัน
ฟางขุนขมวดคิ้วลุกขึ้น เอาตัวขวางหน้าโต๊ะของเซวียเสี่ยวหรั่นไว้
"นี่มันเกิดอะไรขึ้น" เซวียเสี่ยวหรั่นมองฝูงชนที่เสียงดังจอแจอย่างประหลาดใจ
"รีบไป เขยที่แต่งเข้าบ้านเศรษฐีหลิวก่อเื่แล้ว"
"ได้ยินว่าคุณหนูหลิวเสียชีวิตเพราะคลอดยาก เหลือเพียงบุตรสาวที่ถือกำเนิดออกมาเพียงคนเดียว"
"ไม่ใช่สักหน่อย เด็กคนนั้นคลอดก่อนกำหนด เขยที่แต่งเข้าบ้านบอกว่าจะฟ้องร้องคุณหนูหลิวที่หลอกแต่งงาน บอกว่าเด็กคนนั้นไม่ใช่บุตรของเขา และจะเรียกร้องค่าเสียหายกับเศรษฐีหลิว"
"คนผู้นี้ช่างหน้าหนายิ่งนัก ไม่เพียงแต่โวยวายไปทั่ว ยังคิดจะเรียกร้องเงินก้อนใหญ่"
"มันพูดยากอยู่นะ เด็กเก้าเดือนก็คลอดออกมาแล้ว เป็เ้าจะคิดอย่างไรล่ะ"
"เป็ไปไม่ได้ บ้านเศรษฐีหลิวมีพื้นเพที่ไม่เลว ยามแต่งเขยเข้าตระกูลเมื่อปีกลาย มีคนแห่ไปสมัครตั้งเยอะ ไม่รู้ว่าเพราะเหตุใดถึงเลือกแต่งเขยจากต่างถิ่น คราวนี้ก็ทำงามหน้า ก่อเื่ราวใหญ่โต"
"ไปๆๆ พวกเราไปดูกัน ได้ยินว่ามีเื่เด็ดยิ่งกว่านี้อีก คุณหนูหลิวคลอดยาก ไม่สามารถให้กำเนิดได้ ก่อนจะหมดลมหายใจ หมอตำแยบอกว่าช่วยชีวิตไม่ได้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ แต่ต่อมา มีหมอพเนจรท่านหนึ่งช่วยต่อชีวิตเด็กเอาไว้ได้"
"อะไรนะ? คนตายแล้ว เด็กยังฟื้นขึ้นมาได้อีกหรือ หมอพเนจรที่ไหน ไยถึงเก่งกาจปานนั้น"
"ก็นั่นน่ะสิ ตอนนี้ข่าวลือแพร่ไปทั่วเมือง บ้านเศรษฐีหลิวกำลังชุลมุนวุ่นวายเชียวล่ะ"
กระแสคนระลอกแล้วระลอกเล่าต่างมุ่งหน้าไปทางเดียวกัน เซวียเสี่ยวหรั่นกับอูหลันฮวาสบตากัน "พวกเราไปดูกันดีไหม"
"ดีเ้าค่ะ ดีเ้าค่ะ" มีเื่ครึกครื้นให้ชม อูหลันฮวาต้องอยากไปดูอยู่แล้ว
ฟางขุยเห็นพวกนางเดินตามฝูงชนไปด้วยความสนใจ ก็จำต้องตามไปอย่างจนปัญญา
บ้านเศรษฐีหลิวอยู่ไม่ไกลนัก ตามผู้คนไปครึ่งเค่อก็ถึงแล้ว
ยามนี้หน้าคฤหาสน์สกุลหลิวถูกมุงล้อมแน่นขนัดแม้แต่น้ำก็ยังไหลออกไปไม่ได้
อูหลันฮวาอาศัยที่รูปร่างสูง คุ้มกันเซวียเสี่ยวหรั่นเบียดเข้าไปด้านหน้า
ฟางขุยเห็นแล้ว ก็จำเป็ต้องแข็งใจเบียดตามเข้าไปด้วย
ทางหนึ่งเบียด อีกทางก็ด่าทอ
"เบียดอะไรนักหนา จะรีบไปเกิดใหม่หรือไง"
"มารดามันเถอะ ใกล้จะเป็ขนมเปี๊ยะเนื้ออยู่แล้ว ยังเบียดอยู่ได้"
"ปัดโธ่เว้ย อย่าเบียดสิ ใครเหยียบรองเท้าบิดาหา!"
ฟางขุยเบียดเข้ามาจนกระทั่งถึงหน้าสุด ผมยุ่ง เสื้อผ้าก็ยับ มีแต่กลิ่นเหงื่อเหม็นไปทั้งตัว แต่เขาก็ไม่นำพา สายตากวาดมองไปโดยรอบจนพบสตรีสองนางยืนอยู่ข้างสิงโตหิน กำลังชะเง้อคอมองเข้าไปที่ประตูใหญ่ของจวนสกุลหลิว
ฟางขุยตามเข้าไปอย่างเงียบเชียบ ก่อนใช้เรือนกายที่ไม่นับว่าสูงมากกันคนข้างหลังให้แก่พวกนาง
ประตูใหญ่สกุลหลิวเปิดอยู่ มีบ่าวรับใช้ยืนขวางหน้าประตู ด้านในก็มีเสียงอึกทึกครึกโครมอย่างเดียวกัน แต่ไม่มีการลงไม้ลงมือ
"ลู่ฉง เ้าคนถ่อย บุตรสาวข้าบริสุทธิ์ผุดผ่อง เป็สตรีที่อยู่ในกรอบประเพณี เ้ากล้าทำลายชื่อเสียงของนาง ข้าไม่ปล่อยเ้าแน่"
เศรษฐีหลิวสวมอาภรณ์คอกลมตัวยาว จอนผมสองด้านเริ่มมีผมขาวแซมโกรธจนหน้าซีด มือสั่นระริกชี้ไปที่บุรุษแต่งกายแบบบัณฑิตชุดผ้าไหมสีถั่วเขียว สวมหมวกสี่เหลี่ยมทรงสูงนามว่าลู่ฉงที่อยู่ตรงข้าม
"ท่านพ่อตา คืนวันแต่งงานพวกท่านจับข้ากรอกสุราจนเมามาย เด็กก็เกิดก่อนกำหนดหนึ่งเดือน บ้านของพวกท่านเห็นว่าข้าโง่นักใช่หรือไม่ ข้าลู่ฉงแม้ฐานะยากจน ก็เป็คนเรียนหนังสือ แต่กลับถูกพวกเ้าหลอกให้แต่งงาน หากไม่ชดใช้ค่าเสียหาย ก็อย่าหาว่าบุตรเขยไม่ไว้หน้า"
ภายนอกลู่ฉงดูเป็คนสุภาพอ่อนโยน แต่ั์ตาลุกวาวกับถ้อยคำที่ฉายแววละโมบ ไม่ว่าจะมองอย่างไรก็ดูเป็วิญญูชนจอมปลอม
เซวียเสี่ยวหรั่นหรี่ตาดูสถานการณ์ด้านใน "ลู่ฉงคนนี้ดูแล้วไม่ใช่คนดีอะไร ไม่รู้ว่าตอนคัดเลือกเขยเข้าบ้าน สกุลหลิวเลือกคนแบบนี้มาได้อย่างไร"
"นั่นสิ บุรุษผัดหน้าใส่น้ำมันผม ท่าทางเหมือนคนหิวเงินมากกว่า" อูหลันฮวาก็เห็นด้วย
"โอ๊ย พวกเ้าไม่รู้อะไร ตอนแรกคนที่เศรษฐีหลิวหมายตามาเป็เขยหาใช่ลู่ฉงผู้นี้ ต่อมาไม่ได้ว่าหมอนี่ไปโปรยเสน่ห์ใส่คุณหนูหลิวอย่างไร นางถึงเลือกเขา ดังนั้นจึงเป็คุณหนูหลิวที่มองคนผิดมากกว่า"
หญิงร่างท้วมซึ่งยืนอยู่หลังสิงโตหินอีกด้านเอ่ยพลางส่ายหน้า
"ก็เพราะเ้าลู่ฉงชาติสุนัขผู้นี้ใช้วาจาภาษาดอกไม้ล่อลวงคุณหนูหลิวน่ะสิ"
"ใช่แล้วๆ ก่อนที่ลู่ฉงจะแต่งเข้ามาเป็เขย มีแต่ตัวเปล่า แม้แต่เสื้อผ้าดีๆ ก็ยังไม่มี ดูเขาแต่งตัวตอนนี้สิ ใช้เงินของสกุลหลิวทั้งนั้น"
"ภรรยาตายแล้ว ยังคิดจะแบ่งเงินจากสกุลหลิว เขยแต่งเข้าบ้านพรรค์นี้ช่างหน้าใหญ่เสียเหลือเกิน"
มีบางคนในฝูงชนร่วมผสมโรงด่าทอ
ดูท่าคุณหนูหลิวผู้นั้นคงจะตาถั่วถึงได้ตกหลุมรักคนไม่รู้ถูกผิดดีชั่วอย่างลู่ฉง
เซวียเสี่ยวหรั่นกับอูหลันฮวาซุบซิบกัน
าน้ำลายด้านในยังคงดำเนินต่อไป
ทันใดนั้น เด็กหนุ่มหน้าตาดีอายุสิบสามคนหนึ่งก็เดินหน้าหงิกออกมาจากด้านหลังผนังกั้นประตูชั้นใน
"เศรษฐีหลิว พวกท่านทะเลาะกันไม่จบไม่สิ้นเสียที เซียนเซิงของข้าให้มาถามว่าเมื่อไรจะจ่ายค่ารักษาเสียที"
เศรษฐีหลิวซึ่งกำลังโกรธจนหน้าเขียว เปลี่ยนสีหน้าทันที "พี่ชายตัวน้อย ต้องขออภัย ที่ทำให้เซียนเซิงของท่านต้องรอนาน ตอนนี้ในบ้านไม่มีเงินสดขนาดนั้น เ้าเดรัจฉานหน้าไม่อายผู้นี้พูดจาสาดโคลนใส่ร้ายคน ข้าโมโหจนหน้ามืดไปหน่อย เดี๋ยวจะให้พ่อบ้านไปเอาเงินจากที่ร้านมาจ่ายให้ตอนนี้เลย"
พอเขากล่าวจบ ลู่ฉงที่อยู่ตรงข้ามก็ะโออกมา
"ไม่ได้เป็อันขาดนะขอรับท่านพ่อตา ฉยงฮวาคลอดยาก ถูกหมอพเนจรผ่าท้อง วิธีโเี้น่ากลัวเช่นนี้ เขายังกล้าเรียกเงินค่ารักษา ข้าจะฟ้องร้องว่าเขาทำลายศพ ไม่เคารพคนตาย"
เพียงเขาพูดคำนี้ออกมา ก็นำพาความโกลาหลกลับมาอีกระลอก
ถึงขั้นผ่าท้องเอาเด็กออก เป็เื่ที่ไม่เคยได้ยินจากที่ไหนมาก่อน
ฟางขุยซึ่งยืนอยู่หลังเซวียเสี่ยวหรั่น มองเด็กหนุ่มหน้าตาหมดจดผู้นั้นด้วยสีหน้าคลางแคลง
ไฉนหนุ่มน้อยผู้นี้ถึงแลดูคุ้นตานัก
...
[1] เส้นวุ้นถั่วลันเตาเย็น หรือ วานโต้วเหลียงเฝิ่น เป็อาหารประเภทเดียวกับบะหมี่เย็น เป็อาหารประจำท้องถิ่นของชนเผ่าน่าซี เส้นวุ้นถั่วลันเตา ทำมาจากแป้งถั่วลันเตา หั่นเป็เส้นสี่เหลี่ยมที่มีความหนาประมาณ 1 เิเ ความยาวหั่นตามชอบ กินกับแตงกวาสดหั่นเส้น ราดด้วยน้ำจิ้มซึ่งมีประกอบด้วยซีอิ๊วขาว ซอสหอยนางรม พริกน้ำมันหมาล่า ขิงสับ กระเทียมสับ พริกดอง มักรับประทาน่ฤดูร้อน
[2] เซียนเซิง เป็คำเรียกบุรุษในเชิงยกย่อง หมายความว่าคุณ หรือ ท่าน มักเป็ผู้ทรงภูมิความรู้