เมื่อมาถึงตรงหน้าเสวียนเทียนถึงได้เห็นหน้าตาของศิษย์พี่หญิงทั้งสองชัดเจน ทั้งสองงดงามโดดเด่นสวยดุจนาง์
คนหนึ่งสวมเสื้อสีฟ้า รูปร่างสูงเพรียวสูงกว่าเสวียนเทียนที่สูงหนึ่งเมตรเจ็ดสิบเพียงนิดเดียวสองขาที่ซ่อนอยู่ในกางเกงที่ค่อนข้างกระชับติดตัวเห็นชัดว่าเพรียวยาวยิ่งเอวอ้อนแอ้นไม่ถึงหนึ่งฝ่ามือ ทำให้ทรวงอกอิ่มทั้งคู่ดูโดดเด่นขึ้นมาชวนให้คนเห็นยากที่จะลืม โดยเฉพาะใบหน้างดงามสมบูรณ์แบบแทบจะหาตำหนิไม่ได้ราวกับคนในภาพวาดงามล้ำไม่อาจหาสิ่งใดเปรียบ
ส่วนอีกคนสวมชุดขาว สูงน้อยกว่าเสวียนเทียนครึ่งศีรษะผิวขาวผ่องยากหาใครเทียบ ดวงตาโตแวววาวเป็ที่สุดแพขนตายาวกว่าหญิงสาวทั่วไปครึ่งหนึ่ง ดวงตาดูมีแววเย้ายวน ล่อลวงหัวใจและิญญาของผู้คนที่โดดเด่นที่สุดคือทรวงอกอิ่ม แม้ว่านางจะอายุไม่มากแต่ทรวงอกคู่นั้นกลับล้นปรี่ใหญ่โตกว่าเด็กสาวร่างสูงเพรียวในชุดฟ้าถึงรอบหนึ่งถึงหน้าตาของนางจะด้อยกว่าเด็กสาวในชุดฟ้าไปบ้างแต่ดวงตาเย้ายวนใจคนคู่นั้นกับทรวงอกโดดเด่นทั้งสองข้างทำให้นางมีเสน่ห์ดึงดูดไม่แพ้เด็กสาวชุดฟ้าแม้แต่น้อย
ตอนนี้เสวียนเทียนตกอยู่ในวงล้อมของผึ้งเหล็กในั์ไม่ทันพิจารณาศิษย์พี่หญิงทั้งสองโดยละเอียดได้แต่มองผ่านๆ ทีหนึ่ง แต่ก็เห็นลักษณะเด่นบนตัวของทั้งสองได้มากมายขนาดนี้เห็นได้ว่าเสน่ห์ของเด็กสาวทั้งสองไม่ธรรมดาจริงๆ
สาวงามชุดฟ้าและสาวงามชุดขาวเดิมต่อสู้หลังชนหลังสองคนต่างรับมือการโจมตีของผึ้งเหล็กในั์กินบริเวณหนึ่งร้อยแปดสิบองศาตอนนี้มีเสวียนเทียนเพิ่มขึ้นมา สามคนยืนหันหลังให้กันเป็สามเหลี่ยมแต่ละคนเผชิญหน้ากับการโจมตีของผึ้งเหล็กในั์หนึ่งร้อยยี่สิบองศาไม่ต้องแบ่งความคิดมากังวลว่าด้านหลังตนจะถูกผึ้งเหล็กในั์ลอบโจมตีแรงกดดันของเด็กสาวทั้งสองฉับพลันก็ลดน้อยลงไปมาก
ทว่าเมื่อเผชิญหน้ากับผึ้งเหล็กในั์ที่ไม่เกรงกลัวความตายหน้ารุกหลังตาม ถึงแม้เสวียนเทียนจะรับมือการโจมตีของผึ้งเหล็กในั์แค่อาณาเขตหนึ่งร้อยยี่สิบองศาก็ยังคงวิกฤติเหมือนเดิมโดยเฉพาะมือข้างที่ถือกระบี่ปวดร้าวไม่เลิกแรงสะท้อนต่อเนื่องไม่ขาดสายทำให้เสวียนเทียนก่นด่าว่าลำบากไม่ขาด
ถึงจะเป็ยอดฝีมือชั้นเบิกนภา หากเผชิญหน้ากับการโจมตีหน้ารุกหลังตามของผึ้งเหล็กในั์ก็ยังยากจะต้านทานพลังภายในลึกล้ำที่เกิดจากการฝึกฝนปราณเบิกนภารวมถึงกระบี่อันรวดเร็วยิ่งยวดของเพลงกระบี่ถลาลมที่ฝึกถึงขั้นก้าวสู่เทพวิถีที่เสวียนเทียนภาคภูมิใจต่อหน้าการโจมตีไร้ความกลัวตายของผึ้งเหล็กในั์ล้วนแต่ไร้ประโยชน์
นาทีนี้ เสวียนเทียนรู้สึกแค่ว่าพลังของตัวเองนั้นช่างอ่อนแอนักความเร็วก็ช้าเหลือเกิน
สาวงามในชุดสีฟ้าเห็นได้ชัดว่าพลังสูงส่งกว่าสาวงามชุดขาวอยู่ขั้นหนึ่งเมื่อเห็นเสวียนเทียนเข้าใกล้อันตรายก็ขยายขอบเขตการโจมตีของตัวเองให้กว้างขึ้น ล่อผึ้งเหล็กในั์ในอาณาเขตหนึ่งร้อยแปดสิบองศาเบื้องหน้าเข้าไปหาตนให้เสวียนเทียนรับมือผึ้งเหล็กในั์ระยะเพียงหกสิบองศาเพราะเช่นนี้แรงกดดันถึงลดน้อยลงไปมาก
สาวงามในชุดฟ้าเปิดปากพูดขึ้นว่า “ขอบคุณศิษย์น้องที่เข้ามาช่วยเหลือศิษย์น้องจิตใจกล้าหาญ ทำให้ข้านับถือนัก”
เมื่อสาวงามชุดฟ้าพูดขึ้นเสวียนเทียนก็ฟังออกทันทีว่าเป็เสียงเดียวกันกับเสียงเสนาะหูที่ได้ยินเมื่อครู่
ถึงสาวงามชุดฟ้าจะพูดจากใจจริงแต่เสวียนเทียนได้ยินแล้วในใจกลับรู้สึกอับอายขึ้นมาเขาพุ่งเข้ามาในฝูงผึ้งก็พลันตกอยู่ในวิกฤติผลคือไม่ใช่เขามาช่วยศิษย์พี่หญิงทั้งสอง แต่เป็ศิษย์พี่หญิงทั้งสองเข้ามาช่วยเขา
สาวงามในชุดขาวผู้มีทรวงอกล้นเหลือผู้นั้นเมื่อได้ยินคำพูดของสาวงามชุดฟ้าก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมาเสียงหัวเราะนี้ต่างจากน้ำเสียงของสาวงามชุดฟ้าไปมาก ค่อนข้างแฝงแววประชดเหมือนกับจะตำหนิเสวียนเทียนว่าพุ่งเข้ามาในฝูงผึ้งโดยไม่ประเมินกำลังตนเองทำให้ในใจเสวียนเทียนเกิดหงุดหงิดขึ้นมาในใจคิดว่าถ้าข้าไม่ได้จะเข้ามาช่วยพวกท่าน มีหรือจะโง่เช่นนี้? ทะเล่อทะล่าเข้ามาในฝูงผึ้งยุบยับนี่ ความรู้สึกประทับใจที่มีต่อศิษย์พี่หญิงชุดขาวดิ่งลงความรู้สึกดีที่มีต่อศิษย์พี่หญิงชุดฟ้าเพิ่มขึ้นมาก
การโจมตีของผึ้งเหล็กในั์ยิ่งเวลาผ่านไปยิ่งดุร้ายขึ้นทั้งรุมล้อมเบียดแน่นเต็มฟ้ายิ่งฆ่าก็ยิ่งมากขึ้นดูเหมือนยังมีผึ้งเหล็กในั์ตบเท้าเข้าสนามรบมาไม่ขาดสาย
แม้ว่าสาวงามทั้งสองจะมีพลังวัตรชั้นเบิกนภาก็รู้สึกกดดันอย่างมากพวกนางไม่พูดอะไรอีก
เสวียนเทียนพลังวัตรน้อยที่สุด ความสามารถอ่อนที่สุดเมื่อเผชิญหน้ากับผึ้งเหล็กในั์ที่พุ่งเข้ามาระลอกแล้วระลอกเล่าสถานการณ์วิกฤติยิ่งยวด ยิ่งไม่กล้าพูดสักคำ เพ่งสมาธิทั้งหมดไปกับการรับมือการโจมตีของผึ้งเหล็กในั์
เวลาแต่ละนาทีแต่ละวินาทีผ่านไปการโจมตีของผึ้งเหล็กในั์ยิ่งรุนแรงขึ้นขอบเขตการป้องกันของทั้งสามคนยิ่งเล็กลงจนในที่สุดแผ่นหลังก็มาชนกันแรงกดดันที่เผชิญยิ่งมากขึ้นทุกที
“ศิษย์พี่ฉู่ทำไมยังไม่มาอีก? ข้าใกล้จะต้านไว้ไม่อยู่แล้ว” สาวงามชุดฟ้าเปิดปากพูดขึ้นอีกครั้ง น้ำเสียงร้อนรนขึ้นเล็กน้อยพูดจบหนึ่งประโยคเสียงหอบหายใจก็ชัดเจนขึ้นมาอีกมากทั้งขอบเขตการป้องกันก็ยิ่งหดเล็กลงมาเรื่อยๆ
สาวงามชุดขาวหอบหนักยิ่งกว่า เห็นได้ชัดว่าสภาพย่ำแย่ยิ่งกว่าสาวงามชุดฟ้าตอบว่า “พวกเราอดทนอีกนิดขอเพียงศิษย์พี่ฉู่เห็นสัญญาณต้องรีบมาโดยเร็วแน่ศิษย์พี่ฉู่มาถึงพวกเราก็ปลอดภัยแล้ว”
“ศิษย์พี่ฉู่? หรือจะเป็ยอดอัจฉริยะคนนั้นของสำนักกระบี่์อายุเพียงสิบห้าปีพลังวัตรก็บรรลุถึงชั้นเบิกนภาขั้นสามต่อสู้ทั่วสำนักในไร้คู่ต่อกร ศิษย์ในอันดับหนึ่งฉู่เฟิง?”
หลังขอบเขตการป้องกันของสาวงามชุดฟ้าหดเล็กลงเรื่อยๆเสวียนเทียนก็ยิ่งเผชิญการโจมตีของผึ้งเหล็กในั์มากขึ้นสภาพยิ่งอันตรายขึ้นทุกที สถานการณ์วิกฤติยิ่งนัก ต้องรวมสมาธิทั้งหมด แม้กระทั่งแรงจะเปิดปากพูดยังไม่มีแต่เมื่อได้ยินศิษย์พี่หญิงทั้งสองพูดขึ้น ในใจก็ภาวนาขึ้นมาเหมือนกัน
“หากเป็ศิษย์ในอันดับหนึ่งฉู่เฟิงจริงๆถ้าอย่างนั้นเ้าก็รีบโผล่มาเสียทีเถอะ เ้ายังไม่มาอีกหรือ ข้าข้ามโลกมายังโลกนี้แค้นยังไม่ชำระ สุขยังไม่ได้เสพก็ต้องมาโดนผึ้งเหล็กในั์ฝูงนี้สูบเืสูบเนื้อกลายเป็ศพแห้งกรังเหลือแต่หนังหุ้มกระดูกร่างหนึ่งเสียก่อนแล้ว”
“ศิษย์น้อง เ้าระวังด้วย การโจมตีของผึ้งเหล็กในั์ดุร้ายเกินไปข้าต้านไว้ไม่ไหวแล้ว ขอบเขตการป้องกันคงจะเล็กลงไปอีก เ้าต้องระวังเพิ่มขึ้น! อ๊ะ...” สาวงามชุดฟ้าลนลานร้องขึ้น
ที่นางพลันร้องใขึ้นมาหลังรีบร้อนตักเตือนเสวียนเทียนก็เพราะขอบเขตการป้องกันของสาวงามชุดฟ้ากว้างเกินไปผึ้งเหล็กในั์สองตัวจึงทะลวงผ่านม่านกระบี่มาได้เหล็กในั์ที่ก้นของพวกมันแบ่งกันโจมตีเข้ามาที่หว่างคิ้วและหัวใจของสาวงามชุดฟ้า
สาวงามชุดฟ้ารีบชักกระบี่กลับอาณาเขตป้องกันอย่างม่านกระบี่บนฟ้าก็สลายหายไป หนึ่งกระบี่ฟาดฟันผ่าผึ้งเหล็กในั์สองตัวที่เกือบต่อยโดนร่างนางขาดเป็สองท่อน
เสวียนเทียนตระหนก พอสาวงามชุดฟ้าชะงักกระบี่ไป ผึ้งเหล็กในั์ที่เขาต้องป้องกันก็เพิ่มขึ้นมาเกือบเท่าตัวในฉับพลันกองทัพผึ้งเหล็กในั์พุ่งเข้ามาหาเขาเพลงกระบี่ถลาลมของเขาต่อให้ใช้ได้เก่งกาจเพียงใดก็เป็เพียงเพลงกระบี่ชั้นทองขั้นกลางเทียบไม่ได้กับเพลงกระบี่ชั้นนิลของศิษย์พี่หญิงทั้งสอง พริบตาก็มีผึ้งเหล็กในั์ถึงหกตัวทะลุผ่านม่านกระบี่ป้องกันของเสวียนเทียนเข้ามาแยกกันโจมตีหกจุดต่างกัน พุ่งเข้ามาจะต่อยศีรษะ ลำตัว ขาของเสวียนเทียน
“ศิษย์น้องระวัง!” สาวงามชุดฟ้าร้องเตือนแต่เมื่อครู่เธอสลายม่านกระบี่เพื่อโจมตีสังหารผึ้งเหล็กในั์สองตัวตรงหน้าทำให้ผึ้งเหล็กในั์มากกว่าเดิมพุ่งเข้ามาหาเธอตอนนี้ก็ตกอยู่ในสถานการณ์วิกฤติเช่นกัน ไม่มีเวลาดูแลเสวียนเทียนเลย
สาวงามชุดขาวแต่เดิมความสามารถก็เป็รองสาวงามชุดฟ้าอยู่เล็กน้อยตอนนี้แม้แต่ตัวเองก็ยังยากรักษา
เสวียนเทียนตกอยู่ในอันตรายแต่ศิษย์พี่หญิงทั้งสองตอนนี้ล้วนไม่สามารถเข้ามาช่วยเหลือได้
ดวงตาจับจ้องเหล็กในั์ทั้งหกแท่ง ที่ยิ่งดูใหญ่ขึ้นทุกทีตรงหน้าในใจเสวียนเทียนคิดคับแค้น อุตส่าห์ได้ข้ามโลกกับเขาครั้งหนึ่งจะต้องน่าสมเพชเช่นนี้จริงหรือ? ถูกฝูงผึ้งเหล็กในั์ดูดเืจนแห้ง? กลายเป็ศพแห้งกรัง?
สรรพสิ่งทั้งหลาย ทุกสิ่งหายไปจากสายตาของเสวียนเทียนเหลือเพียงเหล็กในั์หกแท่งที่ปรี่พุ่งเข้ามา ใหญ่ขึ้นทุกทีๆ ตอนนั้นเองหว่างคิ้วของเสวียนเทียนพลันสะท้านอย่างรุนแรง เขาบรรลุสู่สภาวะที่มองเห็นภายในหว่างคิ้วของตัวเองอีกครั้งมองเห็นกระบี่หยกขาวเล่มน้อยที่แขวนอยู่กลางหว่างคิ้วความรู้สึกหนึ่งพลันทะลักเข้ามาในสมอง
นาทีสุดท้ายระหว่างความเป็ความตายจากการกระตุ้นของกระบี่หยกขาวเล่มน้อยกลางหว่างคิ้ววินาทีนั้นเสวียนเทียนก็กระจ่างแจ้งใจถึงความหมายของคำว่าเร็วของ ‘เพลงกระบี่ดับเงา’
กระบี่ในมือของเสวียนเทียนขยับ พริบตา สรรพสิ่งทั้งหมดคล้ายสลายหายไปทั้งโลกเหลือเพียงแสงกระบี่ที่รวดเร็วจนถึงขีดสุด
ตัดหัวใจ ทะลุคอ แทงขนง บั่นเอว สะบั้นร่าง ไร้ศีรษะ...
ชั่วพริบตา เสวียนเทียนใช้หกกระบวนท่าของ ‘เพลงกระบี่ดับเงา’ ออกมาอย่างต่อเนื่องดวงตามองเห็นผึ้งเหล็กในั์หกตัวที่กำลังจะเสียบเหล็กในเข้ามาในร่างของเสวียนเทียนพริบตาเดียวทั้งหมดก็ตายตก บ้างถูกแทงทะลุร่าง บ้างถูกฟันขาดสองท่อนบ้างถูกผ่าเป็สองซีก
จิตใจของเสวียนเทียนตอนนี้ปลอดโปร่งหาใดเปรียบ นิ่งสงบเป็อย่างมากผึ้งเหล็กในั์ที่บินฉวัดเฉวียนอยู่เต็มท้องฟ้าในสายตาของเขาคล้ายจะกลายเป็ภาพช้า
ความจริงแล้ว การเคลื่อนไหวของผึ้งเหล็กในั์ไม่ได้ช้าแม้แต่น้อยแต่ความเร็วของเสวียนเทียนรวดเร็วเกินไปอย่างแท้จริง เร็วเหนือจินตนาการ
เห็นเพียงแสงกระบี่ของเสวียนเทียนฟันออกมาชั่วพริบตาผึ้งเหล็กในั์ข้างๆ ตัวเขาก็ทยอยร่วงตกพื้น หนึ่งกระบี่ปลิดชีวิตศิษย์พี่หญิงทั้งสองมองไม่เห็นกระบี่ของเสวียนเทียนเห็นเพียงเงาเลือนรางเป็ทางสายหนึ่ง
เมื่อความเร็วเพิ่มถึงขีดสุดการสังหารผึ้งเหล็กในั์ก็กลายเป็เื่สบายยิ่งนักร่างของผึ้งเหล็กในั์ถูกเสวียนเทียนหนึ่งกระบี่ฟันขาดเป็สองท่อนอย่างง่ายดายเพราะเร็วเกินไปจึงแทบไม่รู้สึกถึงแรงสะท้อนแม้แต่น้อย
“เป็กระบี่ที่เร็วเหลือเกิน!” ในใจของศิษย์พี่หญิงทั้งสองล้วนอุทานขึ้นมา
ผึ้งเหล็กในั์ข้างตัวของเสวียนเทียน ร่วงหล่นราวกับสายฝนไม่เพียงต้านผึ้งเหล็กในั์ทั้งหมดในขอบเขตหนึ่งร้อยยี่สิบองศาไว้ได้จนหมดเท่านั้นทั้งขอบเขตกลับยิ่งกว้างขึ้นๆ หนึ่งร้อยสี่สิบองศา หนึ่งร้อยหกสิบองศา หนึ่งร้อยแปดสิบองศา...
เสวียนเทียนขยายขอบเขตการโจมตีไปถึงหนึ่งร้อยแปดสิบองศาครึ่งหนึ่งของบริเวณถูกเขาต้านทานเอาไว้ กระบี่ของเขารวดเร็วดุจพายุฝนอันบ้าคลั่งไม่มีผึ้งเหล็กในั์ตัวไหนเล็ดลอดม่านกระบี่ของเสวียนเทียนมาได้
ศิษย์พี่หญิงทั้งสองแต่ละคนต้องป้องกันเพียงพื้นที่กว้างเก้าสิบองศาทั้งคู่ต่างก็เป็ยอดฝีมือชั้นเบิกนภาถึงการโจมตีของผึ้งเหล็กในั์จะดุร้ายเพียงใดก็สามารถต้านทานไว้ได้
เมื่อเป็แบบนี้การโจมตีอันดุร้ายของผึ้งเหล็กในั์ก็ถูกหยุดยั้งไว้ได้ชั่วคราวพวกเสวียนเทียนทั้งสามคน ป้องกันพื้นที่สามร้อยหกสิบองศารอบตัวไว้ได้จนหมดปิดแน่นไม่มีสิ่งใดเล็ดรอด ผึ้งเหล็กในั์มากกว่านี้ก็โจมตีเข้ามาไม่ได้ขอแค่มีเวลามากพอ ต่อให้จำนวนผึ้งเหล็กในั์มีมากกว่านี้ ต่อให้มีถึงแสนตัวภายใต้การฆ่าสังหารของทั้งสามคนอย่างไรก็ต้องมีเวลาที่สังหารหมดสิ้น
จากป่าบนเขา เงาร่างของคนสองคน หนึ่งหน้าหนึ่งหลังเหยียบย่างบนใบไม้ทะยานมาด้วยความรวดเร็ว ตรงมายังหุบเขาที่เสวียนเทียนกับพวกสามคนอยู่
จากที่ไกลๆ ทั้งสองเห็นฝูงผึ้งที่รุมล้อมเต็มฟ้าในหุบเขาแล้ว
ทั้งคู่อายุยังไม่มาก คนข้างหน้าอายุราวสิบห้าปีคนด้านหลังอายุราวสิบเจ็ดสิบแปดปี
“ศิษย์พี่ฉู่!”
เสียงเรียกเสียงหนึ่งดังขึ้น ผู้ที่เปิดปากพูดขึ้นมาคือเด็กหนุ่มอายุราวสิบเจ็ดสิบแปดปีที่อยู่ข้างหลังแต่กลับเรียกคนอายุน้อยที่อยู่ด้านหน้าว่าศิษย์พี่ “ผึ้งเหล็กในั์จำนวนมากมายเหลือเกินเกรงว่าไม่น้อยกว่าห้าหมื่นตัวไม่รู้ว่าศิษย์น้องหลิงกับศิษย์น้องไป๋จะเป็อย่างไรบ้างอย่าได้พลาดท่าเสียทีไปเลย”
ศิษย์พี่ฉู่ที่อยู่ด้านหน้าพูดขึ้นเสียงเข้ม “ไม่ต้องพูดแล้วเร่งฝีเท้าใช้ความเร็วสูงสุด!”
ทั้งสองทะยานเหมือนดั่งสายฟ้า เพียงไม่นานก็มาปรากฏที่ด้านนอกหุบเขาเงาร่างของพวกเสวียนเทียนทั้งสามคนเข้ามาในครรลองสายตา เห็นทั้งสามต้านทานการโจมตีของผึ้งเหล็กในั์ได้อย่างสบายๆดวงตาก็เต็มไปด้วยความตกตะลึง
“เด็กนั่นเป็ใคร? ความเร็วกระบี่จะรวดเร็วขนาดนี้ได้อย่างไร? ในหมู่ศิษย์ในเหมือนจะไม่มีคนเช่นนี้อยู่นะ?” เด็กหนุ่มอายุสิบเจ็ดสิบแปดปีผู้นั้นอุทานขึ้นมา