เนื่องจากมีการจัดพิธีอภิเษกสมรส ฮ่องเต้ฉงเต๋อจึงอนุญาตให้อวี้ฉู่จาวไม่ต้องเข้าร่วมประชุมในยามเช้า เพื่อให้บุตรชายกลับไปเยี่ยมเยือนพ่อแม่ของฝั่งพระชายาเป็เวลาสามวัน
แม้จะไม่ต้องเข้าร่วมการประชุมหารือในยามเช้า แต่การเข้าเฝ้าฮ่องเต้กับฮองเฮาหลังคืนอภิเษกสมรสนับเป็สิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้
อวี้ฉู่จาวลุกขึ้นมาก็พบว่าเวลาล่วงเลยยามเช้าไปมากแล้ว จึงได้เตรียมที่จะปลุกหลินหร่าน
เขาลูบหัวของหลินหร่านแ่เบาแล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน “อวิ๋นซี อวิ๋นซี ตื่นเถิด”
หลินหร่านได้ยินเสียงเรียก แต่ดวงตาก็รู้สึกหนักเกินกว่าจะลืมขึ้น
เขาขมวดคิ้วก่อนหันไปซุกเข้ากับอ้อมกอดของอวี้ฉู่จาวพร้อมกับถูไปมา
“อวิ๋นซี” อวี้ฉู่จาวเรียกอีกครั้ง
ครั้งนี้หลินหร่านส่งเสียงออกมา “อื้อ~” เป็เสียงขึ้นจมูกของคนที่เพิ่งตื่นนอน
เปลือกตาของหลินหร่านขยับเล็กน้อย ค่อยๆ ลืมตาขึ้น
“ตื่นแล้วหรือ” อวี้ฉู่จาวถามหลินหร่านที่ยังคงมีท่าทีงัวเงียอยู่
“อื้อ...ท่านอ๋อง…” หลินหร่านเงยหน้าขึ้นก็พบกับแผงอกของอวี้ฉู่จาว พร้อมกับแสงแดดที่ส่องกระทบเข้ามาเล็กน้อย ก่อนที่หลินหร่านจะจำได้ดีถึงเหตุการณ์ที่ตนเองได้ทำไว้
พอมาลองคิดดูตอนนี้ เมื่อคืนนี้เรียกได้ว่าเขานี่แหละที่เป็ฝ่าย ‘เข้าหา’
ช่วยไม่ได้นี่ ก็เขาชอบท่านอ๋องมากนี่นา
ใบหน้าของหลินหร่านแดงระเรื่อ หลังอวี้ฉู่จาวเห็นท่าทีเช่นนี้จึงอดไม่ได้ที่จะล้อ
หลังจากที่เขาได้อยู่กับหลินหร่าน ภายจิตใจเขากลับเอาแต่คิดไม่ดีอยู่ตลอดเลย
“อวิ๋นซี เ้าจำได้หรือไม่ว่าเมื่อคืน เ้าช่าง…”
อวี้ฉู่จาวยังไม่ทันพูดจบ หลินหร่านก็รีบยกมือมาปิดปากเขาไว้
“ข้า...จำ...จำได้ทั้งหมด ท่านอ๋อง...ไม่ต้องกล่าวแล้วพ่ะย่ะค่ะ”
หลินหร่านเอามือปิดปากท่านอ๋องไว้ ครู่ต่อมากลับรู้สึกว่าไม่ค่อยเหมาะสมจึงได้เอามือลง แล้วจูบแ่เบาเป็การขออภัย “ข้าจำได้ทั้งหมด...ไม่มีทางลืมเด็ดขาด ท่านอ๋องไม่ต้องเอ่ยถึงแล้วพ่ะย่ะค่ะ”
ท่าทีของหลินหร่านตรงไปตรงมาตามที่อวี้ฉู่จาวคิดไม่มีผิด นั่นยิ่งทำให้อวี้ฉู่จาวระบายยิ้มกว้างกว่าเดิม
“หากจำได้ก็ดีแล้ว…”
อวี้ฉู่จาวโอบกอดร่างของหลินหร่าน ทั้งคู่นอนอยู่บนเตียงอีกครู่หนึ่งถึงลุกจากเตียง
ตอนนี้ติงหร่วนได้พาสาวใช้มารออยู่ด้านนอกเรียบร้อย
อวี้ฉู่จาวเรียกเข้ามา จากนั้นให้พวกเขาวางของลง ก่อนให้ทุกคนออกไปรอข้างนอก
สภาพของพระชายาตัวน้อยของเขาในตอนนี้ ให้เขาเห็นเพียงผู้เดียวจะเป็การดีที่สุด อีกทั้งนับแต่นี้เป็ต้นไป ทุกเื่ที่เกี่ยวกับหลินหร่าน เขาจะเป็คนทำด้วยตัวเขาเอง
อวี้ฉู่จาวลงมาจากเตียง เขาแหวกม่านของเตียงออกแล้วเดินไปหยิบเสื้อผ้าชุดใหม่มาไว้ในมือ
“มาเปลี่ยนเสื้อผ้าเถิด ชายาของข้า”
หลินหร่านเงยหน้าขึ้นพลางส่งยิ้ม
“พ่ะย่ะค่ะ” หลินหร่านตอบรับแล้วลุกขึ้นจากเตียง
เสื้อผ้าเหล่านี้ อวี้ฉู่จาวสั่งให้คนตัดเย็บไว้ให้แล้ว ล้วนแต่ใช้เส้นไหมทองที่ดีที่สุด
เนื่องจากสถานะนับแต่บัดนี้ของหลินหร่านคือพระชายา เสื้อผ้าของเขาจึงไม่ได้ดูเหมือนคุณชายน้อยวัยเยาว์อย่างที่เคยเป็
ชุดของพระชายาเป็เสื้อแขนกว้างสีเหลืองกับสีแดง สายคาดเอวรัดรอบเอวเข้ารูป เสื้อคลุมตัวนอกเป็ปกเสื้อแบบสั้นทำให้ดูอ่อนช้อยมากขึ้น
เมื่อสวมอยู่บนร่างของหลินหร่านทำให้เขาดูแตกต่างจากก่อนหน้านี้ยิ่งนัก รู้สึกได้ถึงกลิ่นอายของความเป็พระชายาสูงส่ง ดูเคร่งขรึม สง่างาม เข้ากันกับเสื้อผ้าสำหรับเทพเ้าแห่งาของอวี้ฉู่จาวเป็อย่างดี
หลังจากหลินหร่านสวมเสื้อผ้าเสร็จเรียบร้อย อวี้ฉู่จาวก็มองั้แ่หัวจรดเท้าด้วยความพอใจ
“เสื้อผ้าชุดนี้ ราชสำนักทำออกมาได้ไม่เลว”
“เดี๋ยวข้าช่วยท่านอ๋องเปลี่ยนเสื้อผ้านะพ่ะย่ะค่ะ” หลินหร่านเสนอ
ท่านอ๋องเปลี่ยนเสื้อผ้าให้เขา และตอนนี้เขาเองก็อยู่ในสถานะพระชายาแล้ว ก็ควรต้องเป็คนช่วยเปลี่ยนชุดให้ท่านอ๋องด้วยเช่นกัน
“ดี”
พอทั้งคู่เปลี่ยนเสื้อผ้ากับล้างหน้าล้างตาเสร็จ ด้านนอกก็เตรียมอาหารเช้าไว้เป็ที่เรียบร้อย
ในระหว่างรับประทานอาหารเช้า ลุงตงได้นำสาวใช้สี่คนซึ่งอยู่ในวัยที่เหมาะสมและมีใบหน้าสะสวยเข้ามา
“ท่านอ๋อง นี่คือสาวใช้สี่คนที่กระหม่อมเลือกมาเองกับมือ จากนี้ไปพวกนางจะทำหน้าที่รับใช้พระชายา ไปสิ รีบเข้าไปทำความเคารพท่านอ๋องกับพระชายา”
ลุงตงเข้ามาแนะนำสาวใช้ทั้งสี่คน พร้อมให้พวกเขาก้าวไปข้างหน้าเพื่อทำความเคารพ
“หม่อมฉันหลานจื่อเพคะ”
“หม่อมฉันจื่อเหอเพคะ”
“หม่อมฉันจื่อจู๋เพคะ”
“หม่อมฉันเหม่ยจื่อเพคะ”
“ถวายบังคมท่านอ๋อง ถวายบังคมพระชายา”
เด็กสาวทั้งสี่คนคุกเข่าและโค้งคำนับทำความเคารพ กิริยาท่าทางและท่วงท่าช่างดูเป็ธรรมชาติ ไม่ติดขัด รู้ได้ทันทีว่าผ่านการฝึกอบรมมาก่อน
อวี้ฉู่จาวมิได้ใส่ใจ ยังคงลงมือรับประทานมื้อเช้าและคีบอาหารซึ่งเป็ของโปรดของหลินหร่านใส่ในถ้วยให้อีกคนต่อไป
หลินหร่านมองและฟังอยู่ตลอด เขาดูเหล่าเด็กสาวที่คุกเข่าอยู่บนพื้น
หลินหร่านไม่รู้ว่าตนเองควรจะทำเช่นไรต่อจึงหันไปมองอวี้ฉู่จาว
พอเห็นหลินหร่านจ้องมองมาราวกับมีคำถาม อวี้ฉู่จาวจึงวางตะเกียบลง เขายื่นมือไปช่วยจัดคอเสื้อของหลินหร่านพร้อมเอ่ยบอก “เ้าเป็พระชายา เื่พวกนี้ให้เ้าเป็คนจัดการ หากพอใจก็เก็บพวกนางเอาไว้ หากเ้าไม่พอใจก็เปลี่ยนคนใหม่ ต่อไปเื่ในตำหนักก็ให้เ้าเป็คนจัดการ ข้าเองก็จะฟังเ้าเช่นกัน”
คำพูดของอวี้ฉู่จาวยังเป็ดังเดิม อบอวลไปด้วยความรัก
เวลานี้หลินหร่านเพิ่งจะเข้าใจ
ตนเองถือตำแหน่งพระชายาแล้ว เป็คนในราชวงศ์และเป็เ้านายอีกคนหนึ่งของตำหนักเทพเ้าแห่งา ั้แ่วันนี้เป็ต้นไป เขาต้องช่วยอวี้ฉู่จาวดูแลเื่ในตำหนัก ไม่ให้ท่านอ๋องต้องมาคอยกังวล
ต่อจากนี้ เขาต้องเป็คนจัดการดูแลเื่ในตำหนักทั้งหมด
“อืม ข้าทราบแล้วพ่ะย่ะค่ะ แต่ข้าต้องเป็คนฟังท่านอ๋อง ไม่ใช่ท่านอ๋องรับฟังข้า”
อวี้ฉู่จาวไม่ได้ตอบอะไร
เื่นี้คงต้องค่อยเป็ค่อยไป ภายภาคหน้าอวิ๋นซีต้องรับรู้อย่างแน่นอนว่าความรักที่เขามีให้นั้นมากมายเพียงใด
“อืม…พวกเ้าอายุเท่าไรกันแล้ว” หลินหร่านพยายามทำความเข้าใจ วิเคราะห์และจัดการกับเื่เหล่านี้
“กราบทูลพระชายา หม่อมฉันกับจื่อเหอปีนี้อายุ 16 ส่วนจื่อจู๋กับเหม่ยจื่อปีนี้อายุ 15 เพคะ” เด็กสาวนามว่าหลานจื่อลุกขึ้นตอบคำถาม ดูออกได้ทันทีว่าเด็กสาวคนนี้เป็ผู้นำ
“อายุสิบหน้าสิบหกกันเองหรือ” เด็กสาวที่อายุน้อยกว่าเขาต้องมาคอยรับใช้เขาหรือนี่ ไม่ว่าจะคิดอย่างไรก็รู้สึกผิดอย่างบอกไม่ถูก
แต่หลินหร่านก็ใช้ชีวิตอยู่ที่นี่มาเจ็ดปีแล้ว จึงพอจะรู้ว่าเด็กสาวที่อายุเท่านี้ สำหรับที่แห่งนี้ก็สามารถออกเรือนได้แล้ว
“ถ้าอย่างนั้น...ก็อยู่ที่นี่แล้วกัน พวกเ้าต้องทำอะไรก็ฟังที่อาหร่วนบอก” หลินหร่านเริ่มจัดแจง แต่ก็ไม่ลืมที่จะหันไปถามความเห็นของอวี้ฉู่จาว “ท่านอ๋องมีความเห็นอย่างไร”
อวี้ฉู่จาวใช้ตะเกียบคีบฮะเก๋าป้อนใส่ปากหลินหร่าน แล้วเ้าตัวก็อ้าปากรับพร้อมเคี้ยวจนแก้มตุ่ย
“จัดการได้ดีมาก”
หลังจากนั้น อวี้ฉู่จาวหันไปเอ่ยกับลุงตง “จัดการเื่อื่นเรียบร้อยแล้วใช่หรือไม่”
ลุงตงโค้งตัวเล็กน้อยพร้อมตอบกลับ “จัดการเรียบร้อยแล้วพ่ะย่ะค่ะ ผู้ที่อยู่ในตำหนักต่างได้รับเงินรางวัลกันหมดแล้ว แม่นม นางกำนัล คนรับใช้ที่อยู่ในหอเนี่ยนอวิ๋นเมิ่งซีก็ได้จัดแบ่งให้อย่างเหมาะสม”
เมื่อวานนี้เป็งานอภิเษกสมรสของเ้าของตำหนัก เป็งานมงคลที่ทุกคนต้องเหน็ดเหนื่อย ดังนั้น พวกเขาจึงควรได้รับรางวัล
อันที่จริงเื่นี้เป็หน้าที่ของพระชายา ซึ่งต้องเป็คนจัดการเมื่อตื่นขึ้นมาในตอนเช้า ทว่าอวี้ฉู่จาวสงสารหลินหร่านจึงให้ลุงตงเป็ผู้จัดการเื่นี้
“แล้วก็ เหล่าคนรับใช้เก่าแก่ได้แยกรายชื่อเอาไว้แล้ว หากพระชายามีเวลาค่อยนำเงินรางวัลไปให้ก็ได้พ่ะย่ะค่ะ”
อวี้ฉู่จาวพยักหน้ารับ “ถ้าอย่างนั้นรอให้อวิ๋นซีมีเวลาค่อยว่ากัน เขาเพิ่งเข้ามาอยู่ในตำหนัก มีอีกหลายเื่ที่ยังไม่คุ้นเคย รอให้ชินแล้วค่อยว่ากันอีกที ตอนนี้ให้เป็หน้าที่เ้าไปก่อน”
เดิมทีอวี้ฉู่จาวไม่ได้้าให้อวิ๋นซีของเขาคอยจัดการเื่เล็กน้อยเหล่านี้ เพราะหากทำให้อวิ๋นซีของเขาเหนื่อย เขาคงอดสงสารไม่ได้
แต่ว่าหลินหร่านถือตำแหน่งพระชายาแล้ว หากไม่ดูแลในส่วนที่เป็หน้าที่ของพระชายา เกรงว่าจะไม่เหมาะสม บางคนก็ไม่สนใจและมองว่าหลินหร่านนั้นไม่เข้าตา หรือหากมีเื่เล่าลือออกไปว่าพระชายาของท่านอ๋องผู้นี้ดูแลไม่ได้แม้กระทั่งเื่ในตำหนัก
ถ้าเป็เช่นนั้น หลายคนอาจดูถูกหลินหร่านเอาได้
--------------------------------------------