หยิ่นยวี๋โม่ได้ยินเสียงน้ำจากในห้องน้ำมันทำให้เธอนิ่งไปครู่ใหญ่ แท้จริงแล้วเขาเป็คนจริงใจหรือเป็คนหลอกลวงกันแน่? กับมู่อี้หาน ไม่ว่าเธอจะดูอย่างไรก็ดูไม่ออก
เอวของมู่อี้หานมีผ้าเช็ดตัวพันรอบไว้ปรากฏให้เห็นผลไม้สีแดงระเรื่อ และกล้ามอกแข็งแรงกำยำ
หยิ่นยวี๋โม่แอบเปิดตาโดยไม่รู้ตัวรูปร่างของราวกับนายแบบ ไม่มีแม้แต่ไขมันส่วนเกินถึงเขาและเธอจะมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกันมาหลายครั้งแต่เธอไม่เคยเผชิญหน้ากับเขาแบบนี้ แบบที่ต้องเห็นร่างกำยำล่ำสันและเ้าผลไม้สีแดงระเรื่อ
“ดูท่า คุณคงกำลังตั้งตารอผมเลยสินะ” มู่อี้หานก้าวเข้าหาเธอทีละก้าว ทีละก้าวและมองดูแก้มที่เริ่มเปลี่ยนเป็สีแดง รอยยิ้มแสนเ้าเล่ห์ของเขาค่อยๆ ปรากฏขึ้นบนใบหน้า
“ฉันไปเอาชุดนอนมาให้นะ” หยิ่นยวี๋โม่พูดไปมองพื้นไป ไม่ทันไร เธอก็รีบเดินจ้ำอ้าวเข้าไปในห้องแต่งตัวแต่ทันใดนั้น ข้อมือเล็กของเธอกลับถูกมือใหญ่ที่เย็นเฉียบคว้าเอาไว้
“ชุดนอน? เธอยัง้ามันอีกเหรอ? ที่รัก” มู่อี้หานค่อยๆ ชักมือกลับและกอดเธอไว้ในอ้อมแขน หยิ่นยวี๋โม่ค่อยๆโน้มตัวลงไปอยู่ในอ้อมแขนของเขา มือของเธอััเข้ากับแผงอกของเขาร่างกายที่ยังไม่เช็ดให้แห้ง กลับมีอุณหภูมิที่ร้อนผ่าว จนทำเอานิ้วของเธอสั่น
“คืนนี้ พวกเราไม่ เอ่อ...กันได้ไหม” เพียงหยิ่นยวี๋โม่คิดว่าหยิ่นยวี๋ซินอยู่ข้างห้อง มันก็ทำให้เธอรู้สึกไม่สบายไปทั่วร่าง
“ไม่อะไรเหรอ?” มู่อี้หานแกล้งทำเป็ไม่เข้าใจและมองเธอด้วยสีหน้าสงสัย หยิ่นยวี๋โม่รู้สึกได้ทันทีว่าร่างกายของเขาเริ่มเปลี่ยนไปเธอปฏิเสธเขาไม่ได้เลยใช่ไหม?
“ทำไมไม่พูดล่ะ หืม? ไม่อะไรนะ?” มู่อี้หานก้มหน้า เกยคางบนไหล่ของเธอเอียงหน้าเข้าหาแล้วใช้ริมฝีปากกัดเข้าไปที่ติ่งหูอย่างแ่เบา
“ก็...ก็นั่นแหละ ยวี๋ซินกลับมาแล้วนะ” มันไม่ง่ายที่หยิ่นยวี๋โม่จะพูดอะไรแบบนี้ออกมา
“อือ เื่นั้นผมรู้อยู่แล้วน่า” มู่อี้หานเริ่มจูบเธอไม่หยุด และเสียงของเธออื้ออึงจนฟังไม่ถนัด หยิ่นยวี๋โม่อยากจะผลักเขาออกไปแต่ก็ถูกเข้าอุ้มขึ้นไปที่เตียงใหญ่ในห้องอยู่ดี
ทั้งคู่ยังคงนัวเนียกันอยู่บนเตียงเขาค่อยๆไล่ฝ่ามือััไปในทุกตารางนิ้วบนร่างกายเธอ
“โม่โม่ คุณไม่สบายใจอะไร? หืม?” ตลอดทั้งคืนเธอเอาแต่พูดคำว่า ไม่ทั้งที่จริงๆ แล้วเธอควรพูดว่า ั้แ่หยิ่นยวี๋ซินปรากฎตัวขึ้น เธอก็ไม่สบายใจและกลัวมาโดยตลอดเขาดูเธอออกทั้งหมด เธอไม่คิดว่าหยิ่นยวี๋ซินจะกลับมา ส่วนภรรยาที่แม้จะถูกต้องตามกฎหมายอย่างเธอคงจะต้องจากไปทั้งแบบนี้น่ะหรือ?
ส่วนเขาไม่เคยคิดถึงเื่นี้เลยแล้วเธอจะยังไปกังวลเื่อะไรอีก? เมื่อเปรียบกับหยิ่นยวี๋ซิน คนที่เขา้าไม่อย่างไรก็คือหยิ่นยวี๋โม่
“ไม่...ไม่มี” หยิ่นยวี๋โม่ปฏิเสธแต่ความคิดของเธอล้วนซ่อนไม่พ้นจากสายตาของเขา เธอไม่ยอมรับอีกเช่นเคย
“ถ้าไม่ ก็ดีแล้วล่ะ” มู่อี้หานเขยิบตัวทาบทับร่างบอบบางของเธอแล้วยิ้มออกมาอย่างมีเลศนัย มือของหยิ่นยวี๋โม่คว้าผ้าปูเตียงจับไว้จนแน่นเธอกำลังอดทนต่อความเจ็บนั้น
“ที่รักจ๋า เป็ยังไงบ้าง? มีความสุขไหม?”มู่อี้หานคลายมือของเธอที่ทั้งสิบนิ้วกำไว้จนแน่นภายในห้อง ทั้งคู่กำลังนัวเนียกอดก่ายและร่วมรักกันบนเตียงอย่างอ่อนโยนจนเขาแทบจะกลืนกินเธอทั้งตัว
ด้านนอกห้อง หยิ่นยวี๋ซินยืนอยู่หน้าประตูหล่อนได้ยินเสียงของทั้งคู่ที่เล็ดลอดออกมาจากประตูซึ่งถูกปิดสนิทสีหน้าของหล่อนเปลี่ยนไปเป็ไม่สู้ดีนัก และกำมือทั้งสองข้างจนแน่น
หลังจากนั้นนานพอสมควรหล่อนเดินกลับห้อง บนโต๊ะ มีเหล้าและแก้วทรงสูง หล่อนนั่งบนโซฟาและเริ่มดื่มแก้วแล้วแก้วเล่า หล่อนไม่สามารถแทรกกลางระหว่างความสัมพันธ์ของมู่อี้หานและหยิ่นยวี๋โม่ให้สั่นคลอนได้เลย
หยิ่นยวี๋โม่นอนสลบไสลผ้าห่มที่หุ้มตัวเธอเลื่อนลงมาจนถึงเอว มู่อี้หานลุกขึ้นดึงผ้าห่มมาห่มให้เธอ แล้วลุกไปเข้าห้องน้ำ
บนโซฟาชั้นหนึ่งหยิ่นยวี๋ซินนั่งรอเขาอยู่ตรงนั้นจนเช้า หล่อนไม่ได้นอนและดื่มเหล้าทั้งคืนเพื่อรอเวลาที่เช้านี้จะได้ออกไปข้างนอกกับมู่อี้หานสองต่อสอง
มู่อี้หานยังคงสวมเสื้อเชิ้ตสีดำและกางเกงสีดำ สูทสีเดียวกันพาดบ่า เดินลงจากบันไดทีละก้าว ละก้าว
“อี้หาน”หยิ่นยวี๋ซินลุกจากโซฟาพร้อมเดินมาหามู่อี้หาน
“ยวี๋ซิน ทำไมเธอตื่นเช้าแบบนี้ล่ะ” มู่อี้หานไม่แปลกใจเท่าไรที่เห็นหล่อน
“ฉันยังเจ็ทแล็กอยู่น่ะ เลยไม่ได้นอนทั้งคืน อี้หานตอนนี้ยังเช้าอยู่ เราสองคนไปหาเบรคฟาสท์กินข้างนอกกันดีไหมคะ?”หยิ่นยวี๋ซินเอาแขนโอบรอบคอของเขา ใบหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้ม
วันนี้หล่อนเปลี่ยนการแต่งตัวเป็สาวเรียบร้อยโดยชุดที่หล่อนใส่เป็เดรสสีม่วงอ่อน ชุดคลุมสีขาว ส่วนผมไดร์ยาวตรงเครื่องสำอางบนใบหน้าก็มีเพียงเบาบาง แทบจะเผยหน้าสด
เพื่อเรียนรู้การเป็หยิ่นยวี๋โม่เพื่อจะได้เข้าใกล้ความเป็หยิ่นยวี๋โม่อีกสักนิด หล่อนใช้เวลาทบทวนอยู่นาน
เมื่อก่อนมู่อี้หานชอบสาวพราวเสน่ห์ที่ยิ้มและหัวเราะได้ทั้งวันเช่นหล่อนแต่ในตอนนี้เขากลับชอบสาวเรียบร้อยอย่างหยิ่นยวี๋โม่
มู่อี้หานมองเข้าไปในครัว “แม่บ้านโจว ยังไม่เตรียมอาหารเช้าอีกเหรอ?”
“ฉันบอกแม่บ้านโจวว่าไม่ต้องเตรียมเองแหละ พวกเราจะไปกินกันข้างนอกอ้อ มีพี่ด้วย” หยิ่นยวี๋ซินไม่ค่อยอยากจะพูดออกมาสักเท่าไหร่
“ไม่ต้องหรอก พี่เธอยังหลับอยู่ พวกเราไปกันสองคนนี่แหละ” มู่อี้หานไม่ได้ปฏิเสธแต่กลับหันหลังเข้าไปในครัวสั่งให้แม่บ้านโจวเตรียมอาหารให้หยิ่นยวี๋โม่คนเดียว
ขณะนั่งรถของมู่อี้หานแล่นออกไปหยิ่นยวี๋ซินมองมู่อี้หานที่กำลังขับรถอยู่ตลอด เมื่อมองจากด้านข้างไม่ว่าจะเป็ใบหน้าที่ได้รูป ริมฝีปากที่ปิดสนิทมันทำให้เธอแทบอยากจะเข้าไปขโมยจูบจากเขา
ในตอนนี้แม้เธอจะคร่ำครวญเสียใจสำนึกผิดขนาดไหนความสัมพันธ์ของเขาและเธอก็ไม่อาจกลับไปเป็เหมือนเดิมได้อีกถึงเธอจะยังคงเชื่อว่าภายในใจของเขายังมีเธออยู่ก็ตาม ถ้าไม่ใช่ทำไมเขาถึงต้องดีกับเธอขนาดนี้? ทำไมเขาถึงตอบตกลงโดยที่ไม่บ่ายเบี่ยงอะไรเลย?
“อี้หาน คุณชอบกินอะไรคะ? อาหารฝรั่งหรือว่าอาหารจีนน้า?” หยิ่นยวี๋ซินดูเมนูอาหารพลางถามมู่อี้หานซึ่งนั่งอยู่ตรงข้าม
“เธอเลือกเลยแล้วกัน ผมขอกาแฟแก้วนึง” มู่อี้หานหยิบหนังสือพิมพ์ฉบับเช้าขึ้นมาอ่าน พลิกไปพลิกมาหลายหน้าหยิ่นยวี๋ซินไม่ได้สั่งอะไรมากเช่นกัน เธอสั่งเพียงแค่ขนมนิดหน่อย และนมหนึ่งแก้ว
“ทำไมกินแค่นี้เองล่ะ?” มู่อี้หานเอ่ยขึ้นเพราะดูเหมือนเธอจะไม่ค่อยเจริญอาหาร
“ฉันว่า ฉันกินเยอะแล้วนะอี้หานถ้าขืนกินเยอะกว่านี้ฉันต้องอ้วนแน่ๆ ถ้าเป็แบบนั้นคุณยังจะชอบฉันอยู่หรือเปล่าคะ?” หยิ่นยวี๋ซินทำเสียงหวานออดอ้อนเขา แต่มู่อี้หานไม่ได้ตอบอะไรเธอ หยิ่นยวี๋ซินไม่เคยปิดโอกาสตัวเองตรงกันข้ามกับหยิ่นยวี๋โม่ซึ่งเป็ยัยโง่ที่ทำให้เขาต้องคอยกังวล
เอ๊ะ! เมื่อความคิดนี้แล่นผ่านไป แล้วทำไมเขาต้องเป็ห่วงเธอด้วย หยิ่นยวี๋โม่? หยิ่นยวี๋โม่ยัยคนหัวรั้น ที่คอยแต่จะหลบหน้าเขา แล้วยังทำให้เขาต้องไม่สบายใจอีก
โจวลี่ฉีเดินเข้ามาในร้านอาหารมองเห็นมู่อี้หานและหยิ่นยวี๋ซิน หล่อนใส่รองเท้าส้นสูง จึงเดินส่ายสะโพกเข้าหาคนทั้งคู่