จ้าวซีเหอมองแม่เล้าที่ทั้งเนื้อทั้งตัวอุดมไปด้วยไขมันตาโตลุกวาวเมื่อเห็นเงิน เขากระตุกยิ้มมุมปากอย่างดูแคลน น้ำเสียงที่พูดเต็มไปด้วยความดูถูก “วันนี้ข้าจะมาไถ่ตัวเมิ่งเอ๋อร์…”
ทันทีที่เขาเอ่ยจบ ฉู่เมิ่งเอ๋อร์ในชุดเสื้อตัวนอกสีชมพูอ่อนเสื้อตัวในสีขาวก็ปรากฏตัวขึ้น ชุดเผยให้เห็นลำคอยาวระหงของนาง นางเดินลงบันไดมาข้างล่าง ทั่วใบหน้าระบายไปด้วยความอิ่มเอิบแห่งรักขณะเดินไปหาจ้าวซีเหอ นางยิ้มหวานขณะเอ่ย “ซื่อจื่อ เมิ่งเอ๋อร์กำลังรอท่านอยู่พอดีเลยเ้าค่ะ”
เอ่ยจบดวงตาก็คลอไปด้วยหยาดน้ำตา ท่าทางแลดูน่าสงสารเหลือคณา
จ้าวซีเหอลูบศีรษะฉู่เมิ่งเอ๋อร์เบาๆ เอ่ยด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน “ไม่ต้องใจร้อน ข้ามารับเ้ากลับตำหนักแล้วอย่างไรเล่า”
ฉู่เมิ่งเอ๋อร์เลื่อนสายตาไปยังหีบด้านหลัง นางรู้สึกดีใจยิ่งนัก ดูท่าจ้าวซีเหอจะทำตามสัญญาที่ให้ไว้กับนาง
“เอาละ ทั้งสองอย่าเพิ่งพูดคุยกันเลย ในเมื่อมีเงินมาแล้ว ข้ารับเงินแล้วก็จะปล่อยคนทันที” แม่เล้าพูดราวกับเป็โจรเรียกค่าไถ่
จ้าวซีเหอมองแม่เล้าที่เห็นเงินแล้วตาโตอย่างดูถูก “หีบเหล่านี้ข้างในมีเงินรวมกันทั้งหมดหนึ่งแสนตำลึงเงิน ข้านำเงินมามอบให้แล้ว เช่นนั้นข้าพาคนไปแล้วนะ”
ฉู่เมิ่งเอ๋อร์มองจ้าวซีเหออย่างซาบซึ้งใจ ยิ้มอ่อนขณะเอ่ย “ซื่อจื่อ เมิ่งเอ๋อร์ยอมเป็วัวเป็ม้าให้ท่านทุกชาติไปเ้าค่ะ”
จ้าวซีเหอมองหน้าฉู่เมิ่งเอ๋อร์นิ่ง ในใจรู้สึกเ็ปขึ้นมาอย่างไม่มีสาเหตุ เขานึกถึงสตรีผู้หนึ่งที่เคยบอกกับเขาว่า จะตอบแทนบุญคุณเขา ทว่าตอนนี้กลับ…
เขาถอนหายใจออกมา ก่อนจะช่วยฉู่เมิ่งเอ๋อร์จัดทรงผม “เช่นนั้นเ้าไปเก็บของเถิด เก็บของให้หมด แล้วตามข้ากลับตำหนัก”
ฉู่เมิ่งเอ๋อร์พยักหน้า รีบวิ่งขึ้นไปชั้นบนอย่างรวดเร็วประหนึ่งเหาะขึ้นไป นางเก็บของที่นางซื้อในหลายปีมานี้ทั้งหมดใส่ห่อผ้า
จ้าวซีเหอนั่งรออยู่ชั้นล่าง ฉีอันมองจ้าวซีเหอ อดไม่ได้ที่จะถามอย่างเป็ห่วง “ซื่อจื่อ ท่านจะรับฉู่เมิ่งเอ๋อร์เป็อนุจริงๆ หรือขอรับ”
“เหตุใดจะไม่ได้ ซื่อจื่ออย่างข้าไม่สามารถรับอนุได้เยี่ยงนั้นหรือ” จ้าวซีเหอรินสุราใส่จอก ก่อนจะยกจอกขึ้นมาเขย่าเล่น สีหน้าประดับไปด้วยรอยยิ้มเ้าชู้
ฉีอันได้ฟังก็หุบปากฉับ ไม่เอ่ยถามอันใดต่ออีก ทว่าตายังคงมองจ้าวซีเหอด้วยความเป็ห่วง ก่อนจะลอบถอนหายใจออกมาคราหนึ่ง ขณะกำลังจะเอ่ยบางอย่างออกมา สายตาเหลือบไปเห็นฉู่เมิ่งเอ๋อร์ที่กำลังเดินลงบันไดมาเสียก่อน เขาจึงต้องปิดปากเงียบอีกครั้ง
ฉู่เมิ่งเอ๋อร์มองแผ่นหลังสง่างามของจ้าวซีเหอ ก่อนจะวิ่งเข้าไปหาด้วยความดีใจ เมื่อมาถึงก็ส่งยิ้มกว้างให้ “ซื่อจื่อ เมิ่งเอ๋อร์เก็บของเสร็จแล้วเ้าค่ะ”
จ้าวซีเหอลุกขึ้นยืน มองสำรวจฉู่เมิ่งเอ๋อร์และห่อผ้าใส่ของของนาง ก่อนจะเอ่ยกับฉีอัน “ฉีอัน เ้าช่วยเมิ่งเอ๋อร์ถือของสิ เวลาล่วงเลยมาได้พอประมาณแล้ว พวกเรากลับตำหนักกันเถิด”
ฉีอันพยักหน้า แม้ในใจจะไม่ชอบผู้หญิงเช่นฉู่เมิ่งเอ๋อร์ หากก็ยังเดินเข้าไปรับห่อผ้าใส่ของของนางมา ยิ่งเห็นท่าทางของนางที่ราวกับว่าเื่นี้เป็เื่ที่สมเหตุสมผลอยู่แล้ว ในใจยิ่งนึกรังเกียจอีกฝ่ายมากขึ้นไปอีก เขาลอบกลอกตาให้นาง
ฉู่เมิ่งเอ๋อร์เดินตามจ้าวซีเหอออกมายังท้องถนน บนท้องถนนมีผู้คนเดินสวนไปมามากมาย นางทำตัวประหนึ่งนานแล้วที่ไม่ได้มีอิสระ จูงมือจ้าวซีเหอแล้วพาออกวิ่ง
จ้าวซีเหอมองมือฉู่เมิ่งเอ๋อร์ที่จับกับมือของตัวเองก็รู้สึกอึดอัดใจ แต่เมื่อเห็นสีหน้าที่เต็มไปด้วยความสุขของนาง เขาจึงปล่อยเลยตามเลย มุมปากยกขึ้นเป็รอยยิ้มบาง
ฉีอันแบกห่อผ้าใส่ของที่แสนจะหนักอึ้งของฉู่เมิ่งเอ๋อร์วิ่งตามมาด้านหลัง ความที่ต้องแบกของไปด้วยเขาจึงต้องออกแรงมากกว่าปกติ เขาวิ่งไปด้วยหอบหายใจด้วยความเหนื่อยไปด้วย ขณะที่ในใจนึกเกลียดฉู่เมิ่งเอ๋อร์เข้าไส้ยิ่งกว่าเดิม ฉวยโอกาสตอนที่จ้าวซีเหอไม่สนใจก่นด่าด้วยเสียงไม่ดังนักออกมา “คนอะไร นึกว่าตัวเองเป็เ้านายคนหนึ่งของตำหนักอ๋องไปแล้วจริงๆ หรือไร!”
จ้าวซีเหอเห็นฉีอันตามมาไม่ทันจึงเอามือออกจากการเกาะกุมของฉู่เมิ่งเอ๋อร์ สีหน้าฉู่เมิ่งเอ๋อร์พลันเปลี่ยนไปทันที นางที่กำลังเลือกเครื่องประดับตรงแผงร้านข้างทางอย่างเพลิดเพลิน เมื่อรับรู้ได้ว่าจ้าวซีเหอดึงมือออก นางไม่มีกะจิตกะใจจะเลือกเครื่องประดับต่ออีกต่อไป หันไปมองจ้าวซีเหอด้วยความไม่พอใจ
จ้าวซีเหอมองฉีอันที่วิ่งอย่างเหนื่อยหอบมาหยุดอยู่ตรงหน้าเขา เขาเอามือลูบหลังเพื่อให้อีกฝ่ายหายใจได้สะดวกยิ่งขึ้น พร้อมกับส่งยิ้มไปให้
ฉีอันพูดพลางหอบ “…แฮ่กๆ ซื่อจื่อ พวกท่านวิ่งช้า...กว่านี้ได้หรือไม่ขอรับ ข้าวิ่งตามไม่ทัน”
ฉู่เมิ่งเอ๋อร์เดินเข้ามาหาจ้าวซีเหอ จงใจเอาหน้าอกเข้าไปแนบชิดกับแผงอกของจ้าวซีเหอ เอ่ยออดอ้อนเสียงหวานว่า “ซื่อจื่อ ปิ่นปักผมที่เมิ่งเอ๋อร์เลือกสวยหรือไม่เ้าคะ” เอ่ยพลางชูปิ่นปักผมฝีมือประณีตไปตรงหน้า
จ้าวซีเหอมองปิ่นปักผมอย่างไม่ตั้งใจผาดหนึ่ง ทว่าเวลานั้นเองที่สายตาเหลือบเห็นปิ่นปักผมรูปดอกไม้รูปลักษณ์เรียบง่ายซึ่งทำจากไม้ เขาหยิบขึ้นมาพิเคราะห์ดู ก่อนจะเอ่ยถามราคาจากเ้าของร้าน “ปิ่นปักผมอันนี้ราคาเท่าไหร่”
ฉู่เมิ่งเอ๋อร์ไม่ชอบปิ่นปักผมที่จ้าวซีเหอถืออยู่ในมือ จึงเขย่าแขนเสื้ออย่างออดอ้อน “ซื่อจื่อ ปิ่นที่เมิ่งเอ๋อร์ชอบไม่ใช่อันนั้นเ้าค่ะ”
จ้าวซีเหอวางปิ่นปักผมลงที่เดิมอย่างกระอักกระอ่วน เ้าของร้านเห็นก็กล่าวแนะนำปิ่นปักผมในมือฉู่เมิ่งเอ๋อร์ยกใหญ่ “คุณชาย ท่านดูปิ่นปักผมในมือแม่นางคนนี้สิขอรับ อันนี้ต่างหากถึงจะเป็ของดีและงดงาม ปิ่นปักผมอันนี้ฮูหยินข้าตั้งใจแกะสลักเองกับมือเลยนะขอรับ”
ฉู่เมิ่งเอ๋อร์ได้ฟังรู้สึกดีใจยิ่งขึ้นไปอีก มองจ้าวซีเหออย่างรอคอยพร้อมทั้งเอ่ยปากออดอ้อน “ซื่อจื่อ ท่านดูสิเ้าคะว่าความหมายของปิ่นอันนี้ดีเพียงใด”
จ้าวซีเหอถอนหายใจอย่างอ่อนใจ พร้อมทั้งใช้มือรั้งแขนฉู่เมิ่งเอ๋อร์เอาไว้ “ปิ่นเช่นนี้ในตำหนักอ๋องมีเยอะแล้ว ทั้งยังเป็เงินแท้อีกด้วย ของพวกนี้เป็ได้เพียงของเล่นเท่านั้น ไว้กลับถึงตำหนักข้าจะให้คนทำให้เ้าสักหลายๆ อัน”
ฉู่เมิ่งเอ๋อร์วางปิ่นลงด้วยสีหน้าหม่นหมอง ฝืนยิ้มให้จ้าวซีเหอ “ห้ามผิดคำพูดเด็ดขาดนะเ้าคะ”
จ้าวซีเหอส่งยิ้มให้เ้าของร้าน “ขอโทษด้วย ปิ่นอันนี้พวกเราไม่้าแล้ว ไว้วันหลังถ้ามีสิ่งที่ชอบจะมาดูของร้านเ้าใหม่”
เ้าของร้านส่งยิ้มตอบกลับมา เป็การบอกว่าไม่เป็ไร
จ้าวซีเหอหยิบพัดขึ้นมาคลี่พัดตรงหน้าอกอย่างคุณชายเ้าสำราญ ฉู่เมิ่งเอ๋อร์มองจ้าวซีเหออย่างน้อยใจ แต่เมื่อคิดได้ว่านางคืออนุผู้เดียวของเขา สีหน้าก็กลับมาดีใจดังเดิม
ทว่าที่ฉู่เมิ่งเอ๋อร์ไม่รู้เลยก็คือ การตัดสินใจเช่นนี้คือจุดเริ่มต้นของฝันร้ายของนาง มีสตรีมากมายที่อยากได้ตำแหน่งชายาเอกของจ้าวซีเหอ การที่นางได้เป็อนุ ทำให้นางกลายเป็เป้าถูกข่มขู่และถูกเล่นงาน
จ้าวซีเหอพาฉู่เมิ่งเอ๋อร์เข้าไปในตำหนักอ๋อง เมื่อฉู่เมิ่งเอ๋อร์เห็นการตกแต่งภายในตำหนักอ๋องก็ตาโต เมื่อคิดว่านับแต่นี้ต่อไปนางคือเ้านายคนหนึ่งของตำหนักแห่งนี้ ก็ยิ้มกว้างอย่างตื่นเต้นดีใจ
ฉีอันที่ถือห่อผ้าใส่ของของฉู่เมิ่งเอ๋อร์เดินตามมาด้านหลัง พร้อมทั้งหอบหายใจด้วยความเหนื่อยไปด้วย