“พวกเ้าช่างหาญกล้านัก ที่นี่คือเขตล่าสัตว์ของราชวงศ์ ไม่กลัวหัวหลุดจากบ่าหรืออย่างไร?”
แม้ว่าโหยวพิงถิงจะเติบโตในค่ายทหารั้แ่เล็ก ขี่ม้ายิงธนูล้วนทำได้อย่างเชี่ยวชาญ ทว่านี่ถือเป็ครั้งแรกที่นางได้เผชิญกับดาบหรือกระบี่ของจริง
ไม่แปลกใจเลยที่นางจะพ่ายแพ้อย่างหมดรูป
“เหอะๆๆ”
คนชุดดำที่จับตัวนางเอาไว้ส่งเสียงหัวเราะ ดาบในมือขยับเล็กน้อย
โลหิตสดๆ ไหลออกมาเล็กน้อย
“อา พี่เยี่ยนไหว ช่วยข้าด้วยเ้าค่ะ ข้าเืออกแล้ว อย่านะ อย่าทำร้ายข้า ไม่เช่นนั้นจะเป็แผลเป็”
“...”
ไป๋เซี่ยเหอไม่รู้ว่าควรใช้คำใดมาอธิบายดี
“ปล่อยนาง มิฉะนั้นพวกเ้าจะตายทั้งหมด!”
ฮั่วเยี่ยนไหวไม่ขยับเขยื้อน แววตาเต็มไปด้วยความเ็าและจิตสังหาร
เห็นอยู่ชัดๆ ว่าตอนแรกพวกเขาบดขยี้เหล่ามือสังหารอยู่ฝ่ายเดียว ทว่าเมื่อหญิงสาวที่ไร้ฝีมือโผล่ขึ้นมาอย่างน่างุนงง ก็กลายเป็การเจรจาต่อรองไปเสียอย่างนั้น
บรรยากาศแปลกประหลาดเสียจนไม่อาจอธิบายได้
‘ฟิ้ว’
ลูกธนูยาวสีเงินพุ่งออกไปอย่างรวดเร็ว ตรงไปที่โหยวพิงถิง!
“สมควรตาย!”
น้ำเสียงเ็าดังขึ้นที่ข้างหูของไป๋เซี่ยเหอ หางตาของนางเห็นเพียงเงาร่างสายหนึ่งพุ่งตรงไปหาโหยวพิงถิง
สายลมพัดมาแ่เบา ฝ่ามือที่เปียกชื้นเล็กน้อยเริ่มเย็นเยียบขึ้นเรื่อยๆ
‘ฟึ่บ’
วินาทีต่อมาหลังจากฮั่วเยี่ยนไหวพุ่งไปหาโหยวพิงถิง
มือสังหารที่อยู่ด้านหลังไป๋เซี่ยเหอถือโอกาสลงมือ ทว่านางกำลังสนใจฝ่ามือของตนเอง จึงไม่ทันได้ตอบสนอง
กว่านางจะััได้ถึงไอสังหาร แสงสีเงินก็ใกล้จะััตัวนางแล้ว นางพยายามหลบหลีกไม่ให้คมดาบโดนจุดสำคัญ ถึงอย่างนั้นมันก็ฟันเข้าที่แผ่นหลัง ก่อให้เกิดาแยาวสายหนึ่ง
ความเ็ปทำให้ไป๋เซี่ยเหอได้สติ
นางกัดฟันพลิกกาย ก่อนจะยิงเกาทัณฑ์แขนเสื้อในมือออกไปอย่างไร้ความปรานี อารมณ์อันมืดมนลอยอ้อยอิ่งอยู่ในใจของนาง
เกาทัณฑ์แขนเสื้อแทงทะลุหัวใจของอีกฝ่าย ไป๋เซี่ยเหอเดินตรงไปบิดมันอย่างโเี้แล้วกระชากออกมา ทำให้โลหิตพุ่งกระฉูดราวกับสายน้ำ ก่อนที่มือสังหารผู้นี้จะตายลง
เวลานี้นางดูราวกับเทพแห่งความตายที่กำลังปลิดชีพของผู้คนก็ไม่ปาน
ทุกย่างก้าวของนางไม่หลงเหลือกลิ่นอายมนุษย์อีกต่อไป
ไอสังหารบนร่างของนางเพิ่มขึ้นกว่าตอนแรกมาก
ความเชื่อใจหรือ? ความร่วมมือหรือ?
เฮอะ
“ไป๋เซี่ยเหอ!”
เมื่อฮั่วเยี่ยนไหวจัดการมือสังหารที่จับตัวโหยวพิงถิงได้แล้ว ก็หันกลับมาเห็นว่าแผ่นหลังของไป๋เซี่ยเหอถูกฟันอย่างโเี้
ดวงตาของเขาเบิกโพลง
ต้องโทษเขา!
หากเขาไม่ได้ผละออกมาโดยพลการ แผ่นหลังของนาง จุดอ่อนของนาง จะมีช่องโหว่ได้อย่างไร?
เสียงะโของเขาไม่อาจดึงดูดความสนใจของไป๋เซี่ยเหอได้เลย
ขณะยิงเกาทัณฑ์แขนเสื้อ เืที่แผ่นหลังของนางก็หยดไปตามทาง ริมฝีปากของนางซีดขาวลงขึ้นเรื่อยๆ
ฮั่วเยี่ยนไหวคิดจะวางโหยวพิงถิงไว้บนพื้นแล้วไปช่วยไป๋เซี่ยเหอ
ทันใดนั้นมือคู่หนึ่งก็โอบรอบลำคอของเขาไว้ “พี่เยี่ยนไหว ข้าดีใจนักที่ท่านรีบมาช่วยข้า แต่ข้าเจ็บเหลือเกินเ้าค่ะ ข้าใกล้ตายแล้วใช่หรือไม่เ้าคะ? หากได้ตายในอ้อมแขนของท่าน ข้าก็ยินดีนักเ้าค่ะ”
เมื่อกล่าวจบ ดวงตาของนางก็ค่อยๆ ปิดลง ทว่ามือยังคงโอบรอบคอของฮั่วเยี่ยนไหวเอาไว้
ฮั่วเยี่ยนไหวตั้งใจจะเข้าไปดูในป่าว่าลูกธนูเมื่อครู่ผู้ใดเป็คนยิงกันแน่ และมันยิงออกมาจากที่ใด?
หากหาตัวมือธนูลึกลับไม่พบ ก็ไม่อาจรู้ได้เลยว่าโหยวพิงถิงาเ็หนักเพียงใด ตอนนี้เขาจึงไม่อาจปล่อยนางไว้เพียงลำพังได้
“สมควรตาย!”
ฮั่วเยี่ยนไหวเอามือทุบลำต้นหนาของต้นไม้ที่อยู่ข้างๆ จนโลหิตไหลริน
เมื่ออิ๋งเฟิงพาคนมาถึง ไป๋เซี่ยเหอก็กำจัดมือสังหารคนสุดท้ายเรียบร้อยแล้ว
จู่ๆ สองขาของนางก็หมดแรง ความเ็ปที่แผ่นหลังทำให้นางซวนเซจนแทบล้มลงกับพื้น
“ท่านอ๋อง นี่มันเกิดอะไรขึ้นพ่ะย่ะค่ะ? เขตล่าสัตว์ของราชวงศ์มีมือสังหารได้อย่างไร?”
ฮั่วเยี่ยนไหวมองไป๋เซี่ยเหอ เหงื่อเย็นผุดขึ้นเต็มหน้าผากของนาง ริมฝีปากซีดเซียว เห็นได้ชัดว่าเป็อาการของการเสียเืมากเกินไป
“เหตุใดถึงมัวแต่พูดจาไร้สาระ? ยังไม่รีบไปประคองนางอีก!”
ฮั่วเยี่ยนไหวดึงมือที่โอบรอบลำคอของเขาออก ทว่านึกไม่ถึงว่าจะดึงไม่ออก
ขณะเดียวกันก็เกรงว่าในป่าจะยังคงมีมือธนูลึกลับซ่อนตัวอยู่ เขาจึงจำต้องปลอบโยนไป๋เซี่ยเหอด้วยน้ำเสียงที่อ่อนลง “เชื่อฟัง ให้อิ๋งเฟิงพาเ้ากลับไป...”
อิ๋งเฟิงเดินไปหาไป๋เซี่ยเหอ เมื่อเห็นหวังเฟยในอนาคตของจวนเซ่อเจิ้งอ๋องาเ็สาหัสปานนี้ ทว่ายังยืนหยัดอยู่ได้ เขาก็ลอบชูนิ้วโป้งอยู่ในใจ
าแสาหัสปานนั้น หากเปลี่ยนเป็เขาคงไม่สามารถยืนหยัดได้เช่นนี้แน่
“ไม่จำเป็ ออกไปห่างๆ ข้า!”
น้ำเสียงของนางเย็นเยียบจนถึงขีดสุด แววตาเต็มไปด้วยความเ็า
“คุณหนูใหญ่สกุลไป๋ คิดเสียว่าข้าเป็คนแปลกหน้าก็พอขอรับ”
ไม่ต้องเดาก็พอรู้คร่าวๆ ว่าเกิดอะไรขึ้น ทว่าท่านอ๋องของเขา...
“คนแปลกหน้าหรือ?”
ไป๋เซี่ยเหอหัวเราะหยัน “ข้าไม่เคยปล่อยให้คนแปลกหน้าเข้าใกล้ข้า”
นางเก็บดาบของมือสังหารขึ้นมาจากพื้นเพื่อใช้พยุงตัวเอง
มือซ้ายที่เปียกชุ่มไปด้วยเหงื่อถูกลมหนาวพัดจนเย็นเยียบ นางกำมือไว้แน่นก่อนจะคลายออก
รอบกายของนางแผ่ไอเย็นะเืออกมาราวกับไม่ให้ใครเข้าใกล้ แม้ว่าจะาเ็จนเห็นกระดูก แม้ว่าจะเดินโซซัดโซเซโดยใช้ดาบยาวพยุงตัวเอง นางก็ต้องต่อสู้เพียงลำพัง
ความรู้สึกของนางมืดมนและโดดเดี่ยวเกินไป
เมื่อออกมาจากป่า ก็พบว่าทุกคนยืนอยู่หน้ากระโจม
อิ๋งเฟิงเดินเข้าไปในกระโจม
เมื่อเห็นร่างโชกเืของไป๋เซี่ยเหอโผล่มาจากป่า ฮองเฮาก็ตกตะลึง
นางปรี่เข้าไปประคองไป๋เซี่ยเหอโดยไม่สนใจว่าอาภรณ์ของตนเองจะเปรอะเปื้อนหรือไม่ “แม่หนูเซี่ยเหอ เ้าเป็อะไรไป?”
โชคดีที่มีฮองเฮาประคองเอาไว้ ไป๋เซี่ยเหอจึงไม่อับอายขายหน้าต่อหน้าทุกคน ตอนนี้นางอดทนจนถึงขีดจำกัดแล้ว
กลิ่นคาวเือบอวลอยู่เต็มลำคอจนนางพูดไม่ออก
“เซ่อเจิ้งอ๋องเล่า? เหตุใดเซ่อเจิ้งอ๋องถึงไม่ได้คอยปกป้องเ้า? เหตุใดเ้าถึงได้าเ็สาหัสปานนี้?”
น้ำเสียงของฮองเฮาสั่นเครือ หากไม่ใช่เพราะนางต้องรักษาภาพลักษณ์ของมารดาแห่งแผ่นดิน เกรงว่าจะร่ำไห้ออกมาแล้ว
เด็กสาวนางหนึ่ง เหตุใดถึงได้าเ็สาหัสปานนี้? เห็นแล้วปวดใจนัก
“เซ่อเจิ้งอ๋องมาแล้ว!”
มีเสียงคนะโขึ้น ทุกคนจึงมองตาม
“เขาอุ้มคนไว้ในอ้อมแขนด้วย”
“เป็อันหนิงจวิ้นจู่”
“...”
เสียงเอะอะโวยวายแปรเปลี่ยนเป็ความเงียบทันที ทั้งหมดนี้ใช้เวลาเพียงสี่ถึงห้าวินาทีเท่านั้น
ฮองเฮารู้สึกได้ว่าร่างของไป๋เซี่ยเหอที่อยู่ในอ้อมแขนของนางแข็งทื่อเล็กน้อย
ชัดเจนแล้ว
“หมอหลวงฉินเล่า? เร็วเข้า ไปตามหมอหลวงฉินมา ให้เขาตรงไปที่กระโจมของคุณหนูใหญ่สกุลไป๋โดยเร็ว”
ไป๋เซี่ยเหอฝืนยิ้มออกมา ก่อนยื่นมือไปเขียนคำว่าขอบคุณที่กลางฝ่ามือของฮองเฮา
ถ้อยคำของผู้คนคมกริบเสียยิ่งกว่าดาบเมื่อครู่นี้เสียอีก มันทิ่มแทงาแของนางครั้งแล้วครั้งเล่า
สีรัตติกาลกลืนกินทัศนวิสัยของนาง...
“แม่หนูเซี่ยเหอ เร็ว รีบไปตามหมอหลวงฉินมา...”
“ไป๋เซี่ยเหอ!”
“...”
เมื่อไป๋เซี่ยเหอได้สติ นางก็ได้ยินเสียงร้องห่มร้องไห้ดังขึ้นที่ข้างหู ชวนให้หงุดหงิด
“หุบปาก!”
ลำคอแห้งผาก เสียงที่เปล่งออกมาไม่ได้ฟังดูไพเราะอีกต่อไป
ทว่าสำหรับผู้ที่ร้องไห้จนตาบวมแดงอยู่ข้างเตียง สองคำนี้ทำให้นางดีใจมาก
“คุณหนู ฮือๆๆ ในที่สุดท่านก็ฟื้นแล้ว ฮือๆๆ”
ตอนแรกเพียงสะอึกสะอื้นเล็กน้อย จู่ๆ ก็แปรเปลี่ยนเป็ร้องไห้เสียงดังลั่น
อาการปวดศีรษะของไป๋เซี่ยเหอรุนแรงขึ้น ทว่าเมื่อเห็นคนที่ร้องไห้จนน้ำหูน้ำตาไหลอยู่ตรงหน้า ก็ไม่มีอารมณ์จะตวาดอีก
“ไม่ต้องร้องแล้ว ข้ายังไม่ตายเสียหน่อย”
“ฮือๆๆ คุณหนู ท่านอย่าซี้ซั้วพูดสิเ้าคะ บ่าวกลัวเหลือเกิน บ่าวใแทบตายแล้วเ้าค่ะ”
์รู้ดีว่ายามที่นางเห็นร่างโชกเืของคุณหนูถูกอุ้มเข้ามาในกระโจม หัวใจของนางหยุดเต้นไปหลายวินาที
“พอแล้ว ข้าไม่เป็อะไรแล้วไม่ใช่หรือ? แล้วข้าสลบไปกี่วัน?”
“ท่านสลบไปห้าวันแล้วเ้าค่ะ!”
------------------------
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้