เห็นท่าทางลำบากใจของเฉียวรุ่ยแล้ว หัวใจหลิ่วเทียนฉีพลันบีบรัดขึ้นมา เขาจำได้ ในนิยายต้นฉบับเขียนไว้ ‘เมื่อพระเอกถาม เฉียวรุ่ยบอกทุกสิ่งโดยไม่ปิดบังสักนิด’ แต่พอเป็ตนกลับมีท่าทีเปลี่ยนไป นี่เขายังสู้พระเอกไม่ได้จริงๆ สินะ?
เมื่อคิดว่าตนที่ชอบเฉียวรุ่ยจากใจจริงกลับสู้ผู้ชายสวะมีเมียห้าคนไม่ได้ หัวใจหลิ่วเทียนฉีก็เ็ปไปวูบหนึ่ง เป็อย่างที่คิดจริงด้วย ไม่ว่าเขาจะทำเท่าใด ตำแหน่งในหัวใจคงสู้พระเอกได้ยาก
“เ้าพักผ่อนสักหน่อยเถิด ข้าจะกลับไปก่อน!” หลิ่วเทียนฉีมองเฉียวรุ่ยนิ่งๆ ทีหนึ่งก่อนเดินจากไปเงียบๆ
“เทียนฉี!” เฉียวรุ่ยลนลาน ยื่นมือมารั้งแขนอีกฝ่ายไว้
“หืม?” เขาผินหน้ามามองอีกฝ่ายอย่างฉงน
“เ้า เ้าโกรธใช่ไหม?” เฉียวรุ่ยมองสีหน้าเขาอย่างระมัดระวังพลางเอ่ยถามเสียงเบา
“เปล่า เ้าก็รู้ ขอเพียงเ้าไม่ยินดี ข้าย่อมตัดใจ ไม่ฝืนใจบังคับเ้าหรอก” หลิ่วเทียนฉีกระตุกมุมปากเผยรอยยิ้มน้อยๆ สื่อว่าไม่โกรธ แม้ในใจขุ่นเคืองแค่ไหนก็กล่าวโทษไม่ลง!
ได้ยินคำนี้ เฉียวรุ่ยก็กัดริมฝีปากโดยไม่รู้ตัว “ข้า ไม่ใช่ข้าไม่อยากบอกเ้านะ ข้าแค่กลัวว่าหากเ้ารู้ เ้าจะมองข้าเป็ตัวประหลาด เ้า เ้าคงไม่ชอบข้าเฉกเช่นตอนนี้แล้ว”
ไม่ง่ายที่จะพบคู่หมั้นรักตนปานนี้ เฉียวรุ่ยจึงไม่อยากให้ความสุขผ่านเลยไปเร็ว เขาถูกเทียนฉีรักจนเคยตัวเสียแล้ว คงยอมรับที่จะถูกทอดทิ้งในพริบตาไม่ได้
“เ้าไม่ใช่ตัวประหลาด เ้าเป็คนที่ข้าชอบ เ้าเป็ภรรยาของข้า!” หลิ่วเทียนฉีมองเฉียวรุ่ยมีสีหน้ากังวลก็เอ่ยออกมาทีละคำอย่างจริงจัง
“แต่ แต่ข้าไม่ค่อยเหมือนคนอื่น” เฉียวรุ่ยกัดริมฝีปาก เอ่ยอย่างกระวนกระวาย
“ข้าไม่เห็นรู้สึกว่าเ้าไม่เหมือนคนอื่นที่ตรงไหนเลย!” มองอีกฝ่ายบนๆ ล่างๆ พักหนึ่งก่อนตอบ
“ตา ดวงตา!” เฉียวรุ่ยพูดพลางชี้ดวงตาของตน
“สุกใสน่าหลงใหล งดงามยิ่งนัก!” นี่คือความจริง ดวงตาหวานฉ่ำของเสี่ยวรุ่ยเป็สิ่งที่หลิ่วเทียนฉีชอบมาโดยตลอด
“ข้า ข้ามองเห็นในสิ่งที่ผู้อื่นมองไม่เห็น” เฉียวรุ่ยกำชายเสื้อ ยังคงมีท่าทีหวาดหวั่น
“อ้อ? อย่างเช่น?” เสี่ยวรุ่ยจะบอกตนแล้วใช่ไหมนะ?
“ตัวอย่างเช่นหินก้อนนี้ เ้าลองดูสิ!” พูดพลางหยิบก้อนหินสีดำก้อนหนึ่งออกมาจากชามใบหนึ่ง
“ก็แค่หินสีดำธรรมดาก้อนหนึ่งนี่?” หลิ่วเทียนฉีจ้องหินก้อนนั้นอย่างละเอียดแล้วตอบกลับ
“ข้างใน ของข้างใน เ้ามองเห็นไหม?” เฉียวรุ่ยจ้องเขา เอ่ยถามจริงจัง
“ข้ามองไม่เห็น!” หลิ่วเทียนฉีส่ายศีรษะ ตอบอย่างซื่อตรง
“เ้าอาจเห็นว่าหินก้อนนี้ข้างนอกดูธรรมดา ไม่มีสิ่งใดประหลาด อันที่จริงมันถูกหุ้มวารีเลี้ยงิญญาหยดหนึ่งไว้ข้างใน มีความล้ำค่ายิ่งนัก!”
ได้ยินเช่นนั้น หลิ่วเทียนฉีก็เลิกคิ้วสูง “เ้ามีตามองทะลุงั้นหรือ?”
“ข้าไม่รู้ว่าใช่ตามองทะลุหรือไม่ แต่ดวงตาของข้ามองเห็นโฉมหน้าที่แท้จริงของสมบัติบางอย่างได้ โฉมหน้าแท้จริงบางอย่างที่ผู้อื่นไม่รู้! แต่ แต่ข้ามองเห็นได้เพียงสมบัติเท่านั้น สิ่งอื่นมองไม่เห็นหรอกนะ!” เฉียวรุ่ยมองอีกฝ่ายอย่างเป็กังวลแล้วเอ่ยขึ้นเสียงเบา เขากลัวจะถูกรังเกียจ
“หรือจะเป็ตาทิพย์หยั่งรู้?” คำนี้ ในนิยายต้นฉบับหนึ่งร้อยกว่าบท บทท้ายเพิ่งเขียนถึง ดังนั้นตอนนี้เฉียวรุ่ยจึงยังไม่รู้ว่าดวงตาของตนเป็อะไร
“ไม่ ไม่หรอกมั้ง?” เฉียวรุ่ยส่ายศีรษะ ตนไม่ค่อยรู้ชัด สิ่งใดคือตาทิพย์หยั่งรู้กัน ทำไมฟังดูดี ความสามารถร้ายกาจนักเชียว
“เื่นี้ มีคนอื่นรู้ไหม?” เื่นี้จะให้ใครรู้ไม่ได้เด็ดขาด โดยเฉพาะพระเอก
“ไม่มี ข้ากลัวคนอื่นมองข้าเป็ตัวประหลาดจึงไม่กล้าบอก แล้วข้า ข้า ข้าก็กล้วเ้ามองแบบนั้นหมือนกัน” พูดถึงตรงนี้ ใบหน้าของเฉียวรุ่ยก็ดูกังวลขึ้นไปอีก
“จะเป็ไปได้อย่างไรเล่า เ้าเป็ภรรยาของข้านะ!” หลิ่วเทียนฉีจับมืออีกฝ่ายไว้ เอ่ยปลอบอย่างจริงใจ
“เทียนฉี เ้าอย่าเลิกชอบข้าเพราะดวงตาของข้าเลยนะ?” เฉียวรุ่ยคว้ามือนั้นไว้อย่างหวาดกลัว เอ่ยถามอย่างไม่วางใจ
“ไม่มีทางแน่นอน เ้าเป็คนที่ข้ายอมรับ ข้าจะไม่ชอบเ้าได้อย่างไรเล่า?”
“เทียนฉี!” ได้ยินเขาเอ่ยเช่นนี้ถึงวางใจ
“แต่เื่นี้อย่าบอกผู้อื่นเป็อันขาด หากผู้ใดรู้ว่าเ้ามีความสามารถเช่นนี้ พวกเขาต้องคิดหาวิธีจับตัวเ้าหรือควักดวงตานี้ไปปลูกถ่ายบนร่างตนเป็แน่ นั่นเป็เื่อันตรายมาก เ้าเข้าใจไหม?” นี่เป็เื่ที่หลิ่วเทียนฉีกังวลที่สุด
“อืม ข้าเข้าใจแล้ว ข้าบอกแค่เทียนฉีคนเดียว ไม่บอกคนอื่นหรอก!” เฉียวรุ่ยพยักหน้ารับตกลง
“ดี!” หลิ่วเทียนฉีมองท่าทางจริงจังนั่นพลางยิ้ม
ดูท่าเขาจะคิดผิดไปเสียแล้ว เขาคิดว่าเสี่ยวรุ่ยยังคงไม่ยินดีบอกเื่นี้กับตนเสียอีก? แท้จริงกลับไม่ใช่ เขาแค่กลัวตนไม่ชอบเท่านั้น ถ้าเช่นนั้น ตำแหน่งตนในใจเสี่ยวรุ่ยอยู่สูงกว่าพระเอกหรือยังนะ?
พอคิดถึงขั้นนี้ รอยยิ้มที่มุมปากหลิ่วเทียนฉียิ่งกดลึกขึ้นสามส่วน
“ไม่ ไม่โกรธข้าแล้วหรือ?” เฉียวรุ่ยเห็นเขายิ้มอ่อนโยนปานนั้นก็รู้ว่าอีกฝ่ายหายโกรธแล้ว
“ก็บอกว่าไม่ได้โกรธ” หลิ่วเทียนฉีลูบใบหน้าน้อยของคนรักพลางเอ่ยอย่างอ่อนใจ
“เทียนฉี ข้ารู้ว่าเ้าจริงใจต่อข้า หลังจากนี้ไม่ว่าเื่อะไร ขอเพียงเ้าอยากรู้ ข้าจะบอกเ้าทั้งสิ้น ไม่ปิดบังเ้าเป็อันขาด ดีไหม?” เฉียวรุ่ยยื่นมือไปจับ แสดงท่าทีรับประกันต่ออีกฝ่ายอย่างยิ่ง
“ฮ่าๆๆ ดี!” หลิ่วเทียนฉีเห็นเฉียวรุ่ยว่าง่ายเช่นนี้ก็ส่งเสียงหัวเราะ