“มีเื่ใดกัน ผู้ใดร้องโวยวายอยู่ตรงนั้น”หั่วอี้ประคองหลิ่วจิ้งให้ลุกขึ้นอย่างไม่สบอารมณ์ กุมมือนางแล้วเดินไปตามเสียง
“ท่านแม่ทัพเ้าคะ ท่านแม่ทัพ ท่านรีบมาดูฮูหยินใหญ่เถิดเ้าค่ะไม่ทราบฮูหยินใหญ่เป็อะไรไป เมื่อครู่นี้ยังดีอยู่ แต่จู่ๆ ก็หมดสติไปเ้าค่ะ”
เหมยเซียงอยากประคองตัวฮูหยินใหญ่ขึ้นมาแต่จนใจนักที่ร่างของคนที่หมดสตินั้นอ่อนปวกเปียกไปหมดเหมยเซียงเป็เด็กสาวตัวเล็กๆ จะมีแรงพยุงนางขึ้นมาได้อย่างไร จึงได้แต่ร้องเสียงดังไปทางหั่วอี้
ที่สุดครานี้หั่วอี้ก็ได้ยินเสียงร้องของเหมยเซียงชัดเจนแล้ว เขาพลันใจเต้นเมื่อได้ยินว่านางจ้าวนอนอยู่บนพื้นความจริงเขาไม่ได้รักใคร่นางจ้าว เพียงแต่เห็นใจที่นางติดตามเขามาหลายปี ยามนี้ยังตั้งท้องลูกของเขาด้วยจึงนับได้ว่ามีความเกรงใจต่อนาง
เมื่อคิดถึงลูกในท้องนางจ้าว หั่วอี้ก็เร่งฝีเท้าเดินไปหาอย่างไม่ทันรู้ตัวโดยที่ยังกุมมือของหลิ่วจิ้งเอาไว้เมื่อเขาเร่งเดินหลิ่วจิ้งจึงต้องวิ่งเหยาะๆ เพื่อให้ตามฝีเท้าของเขาทัน
“ไฉ่เอ๋อร์ เป็อะไรไป” เมื่อหั่วอี้มาถึงตรงหน้านางก็เห็นว่านางจ้าวนอนหลับตาแน่นอยู่บนพื้น เขารีบปล่อยมือที่กุมมือหลิ่วจิ้งออกก่อนย่อตัวลงร้องเรียกหลายคราแต่กลับไม่เห็นนางจ้าวจะได้สติ
หั่วอี้จึงเอื้อมสองมือไปอุ้มนางจ้าวและสั่งความให้เหมยเซียงรีบไปเชิญหมอมาจากนั้นก็อุ้มนางจ้าวเดินไปที่เรือนของนาง
หลิ่วจิ้งเห็นดังนั้นพลันเลิกคิ้วขึ้นนางเดินอยู่ข้างกายหั่วอี้ไปพลาง ในใจก็คิดไปพลางว่าวันนี้มันเื่ใดกันตอนแรกเป็ตนหมดสติ ตอนนี้นางจ้าวก็มาหมดสติไปอีกคน หรือวันนี้จะเป็วันซวยของจวนแม่ทัพ
หั่วอี้สาวเท้ารวดเร็วราวกับโบยบิน จนหลิ่วจิ้งต้องวิ่งเหยาะๆตามไปจึงจะตามเขาทัน ส่วนเหมยเซียงก็วิ่งออกไปเชิญท่านหมอนานแล้ว
ในขณะที่หลิ่วจิ้งรู้สึกว่าตนวิ่งต่อไปไม่ไหวแล้วและคิดจะให้พวกของหั่วอี้กลับไปก่อนที่สุดก็มาถึงเรือนของนางจ้าวพอดี
หั่วอี้อุ้มนางจ้าวเข้าไปในห้องก่อนวางนางลงบนเตียง แต่เขากลับทำได้เพียงร้องเรียก“ไฉ่เอ๋อร์ เ้าตื่นสิ” ทว่าก็ไม่เกิดผลใด
หลิ่วจิ้งรอให้ตนหอบจนหายใจปกติเสียก่อนจึงค่อยเดินไปดูนางจ้าวที่ข้างเตียงแม้จะเห็นว่านางจ้าวหมดสติแต่คนละเอียดอ่อนเช่นหลิ่วจิ้งกลับบังเอิญพบว่าลูกตาของนางจ้าวมีการเคลื่อนไหวอยู่ช้าๆ
“นี่!” หลิ่วจิ้งแอบนึกฉงนในใจ ลูกตาของคนที่หมดสติไปแล้วยังขยับซ้ายขวาได้อีกหรือแต่เพราะไม่มีประสบการณ์ด้านนี้มาก่อนนางจึงไม่แน่ใจนัก
ในขณะที่หลิ่วจิ้งคิดจะขยับเข้าไปดูให้ถี่ถ้วนอีกสักหน่อยเหมยเซียงก็พาหมอมาพอดี นางจึงขยับออกไปเล็กน้อยเพื่อหลีกทางให้ท่านหมอ
หลิ่วจิ้งดูหมอจับชีพจรให้นางจ้าวไปพลางหันหน้าไปมองประตูใหญ่ของจวนแม่ทัพไปพลาง นางคำนวณระยะทางจากสวนหลังจวนจนถึงเรือนนางจ้าวจากนั้นคำนวณระยะทางจากประตูใหญ่ของจวนแม่ทัพจนถึงเรือนนางจ้าวอยู่ในใจ ไม่ว่าอย่างไรก็รู้สึกว่าท่านหมอผู้นี้มาเร็วเกินไป แทบจะมาหลังจากที่พวกนางมาถึงเพียงเล็กน้อยเท่านั้นหรือว่านางจ้าวโชคดีนัก บังเอิญมีท่านหมอเดินผ่านประตูจวนแล้วถูกเชิญเข้ามาเช่นนั้นหรือ?
หลิ่วจิ้งรู้สึกว่ามีบางสิ่งผิดปกติ แต่นางกลับคิดไม่ออกว่าที่ใดไม่ถูกต้อง
หลังจากเหมยเซียงพาท่านหมอเข้ามาในห้องแล้ว เดิมทีนางเพียงยืนอยู่ข้างๆอย่างกระวนกระวายระหว่างดูท่านหมอตรวจชีพจรให้ฮูหยินจ้าว แต่ทันใดนั้นก็คล้ายว่านางนึกบางสิ่งออกจึงรีบวิ่งออกไป
เหมยเซียงเพิ่งนึกขึ้นมาได้ว่าก่อนที่ฮูหยินใหญ่จะหมดสติไปได้สั่งเอาไว้ว่า“รีบไปรายงานฮูหยินผู้เฒ่า”
แม้เหมยเซียงจะไม่แน่ใจว่าตนได้ยินผิดไปเองหรือไม่เพราะฮูหยินใหญ่ก็ไม่ได้เอ่ยปากพูดกับตนอย่างชัดเจน แต่เมื่อเห็นว่าฮูหยินใหญ่หมดสติไปซึ่งนี่ก็เป็เื่ใหญ่ที่สมควรให้ฮูหยินผู้เฒ่ารับรู้นางจึงรีบวิ่งไปที่เรือนของฮูหยินผู้เฒ่า
ดีที่เรือนของฮูหยินผู้เฒ่าห่างจากเรือนของฮูหยินใหญ่ไม่ไกลนัก ใช้เวลาไม่นานเหมยเซียงก็วิ่งมาถึง
“แย่แล้ว แย่แล้วเ้าค่ะ ฮูหยินผู้เฒ่า” เมื่อเข้าไปในเรือนฮูหยินผู้เฒ่าเหมยเซียงที่รีบวิ่งมาจึงพูดได้เพียงคำหนึ่งก็เหนื่อยจนต้องยืนงอตัวหอบ มิได้สังเกตเห็นว่าบรรยากาศภายในห้องหาได้เป็ปกติไม่
บ่ายวันนี้ป้าหวังและป้าจ้าวกลับมาที่เรือนฮูหยินผู้เฒ่าก่อนหลังกันตามลำดับแต่เพราะฮูหยินผู้เฒ่าเพิ่งหลับไปได้ไม่นานพวกนางสองคนจึงยังไม่ได้รายงานเื่ที่ท่านแม่ทัพบอกว่าจะจัดพิธีสมรสให้ฮูหยินผู้เฒ่าทราบ
แต่คิดไม่ถึงว่าวันนี้ฮูหยินผู้เฒ่าจะหลับดีนักนอนจนยามพระจันทร์โค้งดั่งคิ้วงามลอยขึ้นมาจึงตื่นป้าจ้าวรู้ว่าฮูหยินผู้เฒ่าไม่ชื่นชอบองค์หญิงต้าเว่ยผู้นั้น นางเป็ห่วงว่าหากฮูหยินผู้เฒ่าได้ยินข่าวท่านแม่ทัพจะจัดงานแต่งงานแล้วจะทานข้าวไม่ลงจึงตัดสินใจว่าให้ฮูหยินผู้เฒ่าทานอาหารเย็นเสร็จก่อนค่อยบอกข่าวนี้
ด้วยเหตุนี้ เมื่อครู่ฮูหยินผู้เฒ่าผู้ยังถูกปิดหูปิดตาอยู่จึงทานอาหารได้อย่างเอร็ดอร่อยรอจนบ่าวเก็บสำรับเสร็จแล้ว ป้าจ้าวจึงเล่าเื่ที่เกิดขึ้นในบ่ายวันนี้ให้ฮูหยินผู้เฒ่าฟัง
ปรากฏว่าเป็ดังที่ป้าจ้าวคาดเอาไว้ไม่ผิดเมื่อฮูหยินผู้เฒ่าได้ยินข่าวว่าท่านแม่ทัพอยากจะจัดงานแต่งงานก็ดีใจหนักหนานางอยากให้หั่วอี้หาสตรีจากบ้านดีๆ สักคนมาแต่งงานเข้าจวนอย่างเป็ทางการ วันหน้าจวนแม่ทัพก็นับว่ามีนายหญิงจริงๆเสียที แม้แต่ตัวเลือกของฮูหยินแม่ทัพนางก็ยังเลือกเอาไว้ให้หั่วอี้เรียบร้อยแล้วซึ่งก็คือหลานสาวของผู้สำเร็จราชการนามว่าทัวป๋าเซียง
ฮูหยินผู้เฒ่าวางแผนเอาไว้ว่าเมื่อจวนแม่ทัพแต่งงานกระชับความสัมพันธ์กับตำหนักอ๋องของผู้สำเร็จราชการเช่นนั้นวันหน้าแคว้นชางอี้ก็จะตกเป็อาณาจักรของหั่วอี้แล้ว
แต่ฮูหยินผู้เฒ่าคิดเป็พันเป็หมื่นครั้งก็ไม่คาดคิดว่านายผู้หญิงแห่งจวนแม่ทัพที่อี้เอ๋อร์ของนางอยากจะแต่งเข้าจวน ที่แท้ก็คือองค์หญิงต้าเว่ยผู้ไม่รู้จักเส้นสนกลใน
ถึงจะบอกว่าองค์หญิงต้าเว่ยผู้สูงศักดิ์ย่อมสูงส่ง ทว่าแม้เบื้องหน้าสองแคว้นคล้ายปรองดองกันแต่อย่างไรทั้งสองแคว้นก็ยังคงเป็ศัตรู ไม่แน่วันใดอาจเปิดศึกขึ้นมาได้ฮูหยินผู้เฒ่าจึงไม่้าฮูหยินแม่ทัพที่เป็ดังนี้ หากอี้เอ๋อร์ชอบก็เก็บนางเอาไว้ให้อี้เอ๋อร์อุ่นเตียง เช่นนั้นนางยังพอปิดตาข้างหนึ่งได้
แต่หากหั่วอี้้าจะแต่งองค์หญิงต้าเว่ยผู้นี้อย่างเป็ทางการ ย่อมทำไม่ได้โดยเด็ดขาด
ฮูหยินผู้เฒ่ากำลังโมโหที่หั่วอี้จะแต่งงานและเื่ใหญ่โตเช่นนี้กลับไม่มาหารือนางอยู่ทีเดียวเหมยเซียงก็ดันวิ่งเข้ามาใส่ปลายหอกเสียอีก
“เ้าตัวยุ่งนี่รู้จักกาลเทศะหรือไม่ พูดจาอะไรของเ้ามีเื่ใดแย่แล้ว ก็ดีๆ กันอยู่มีเื่ใดไม่เป็มงคลถึงได้พูดเช่นนี้”ป้าจ้าวอยากจะเข้าไปตบเหมยเซียงสักฉาดจริงๆ แต่นางก็เห็นแก่ฮูหยินผู้เฒ่ากลัวว่าฮูหยินผู้เฒ่าจะยิ่งโกรธจนกระทบกระเทือนจิตใจ จึงเพียงตวาดใส่มิได้ลงมือ
“มีเื่ใดเล่า” แต่ไรมาฮูหยินผู้เฒ่าก็ไม่ได้ให้ความสนใจนักเพราะเื่การทะเลาะเบาะแว้งของสตรีภายในเรือนนั้นมีมาโดยตลอดทุกวันล้วนมีแต่เื่นั้นเื่นี้เล็กน้อยไร้สาระมาทำให้นางรำคาญใจ
แต่จู่ๆ ฮูหยินผู้เฒ่าก็คิดขึ้นมาได้ว่าเหมยเซียงเป็คนของนางจ้าวหรือว่านางจ้าวจะเกิดเื่ใดขึ้น ยามนี้นางจ้าวกำลังตั้งครรภ์ลูกของหั่วอี้อยู่จึงมีความสำคัญเป็อย่างมาก
คิดได้ดังนี้ ฮูหยินผู้เฒ่าจึงรีบชี้นิ้วถามเหมยเซียง “เื่ใดรีบพูดมา”
“เรียนฮูหยินผู้เฒ่าเมื่อครู่นี้ฮูหยินบ้านข้าหมดสติอยู่ในสวนหลังจวนเ้าค่ะ”ยังไม่ทันสิ้นเสียงของเหมยเซียง ร่างของฮูหยินผู้เฒ่าก็โอนเอนไปมาเนิ่นนานกว่านางจะสงบสติอารมณ์ได้ “เ้าว่าอย่างไรนะ จ้าวไฉ่เอ๋อร์เป็อะไรไปเชิญหมอมาหรือยัง?”
ฮูหยินผู้เฒ่าพูดพลางลุกขึ้นยืนป้าจ้าวที่มีสายตาว่องไวจึงรีบลุกขึ้นประคองมือฮูหยินผู้เฒ่า ก่อนจะเดินตามผู้เป็นายไปยังเรือนของนางจ้าวโดยมีเหมยเซียงที่รีบเดินตามหลังมาด้วยกลับไปพร้อมกัน
_____________________________