บทที่ 11
...
แสงตะวันสาดลอดผ้าม่านเข้ามากระทบกับใบหน้าของผู้ที่นอนหลับพริ้มอยู่บนเตียง เธอค่อย ๆ ขยับเปลือกตาที่หนักอึ้ง เมื่อลืมตาโฟกัสภาพเบื้องหน้าก็เห็นว่าที่นี่คือห้องนอนที่คอนโดไม่ผิดแน่ เธอขยับตัวลุกขึ้นนั่ง ส่ายสายตามองหาราชันย์ ก็ไม่มีวี่แวว ความปวดเมื่อยจากสถานการณ์เมื่อคืนแล่นเข้ามา และคำพูดที่เธอได้ยินชัดเจนก่อนจะหลับไปก็ผุดขึ้นมาย้ำเธออีกครั้ง
‘หายาคุมกินให้ดี ๆ เพราะถ้าเธอท้อง ฉันจะไม่รับผิดชอบ เพราะฉันก็ไม่รู้ว่าใช่ลูกของฉันหรือเปล่า’
มือทั้งสองข้างของเธอกำแน่นจนรู้สึกได้ว่าเล็บของเธอจิกเข้าไปในเนื้อ แต่เธอไม่แม้แต่จะเอาออก ราวกับว่าเธอไม่รู้สึกอะไรทั้งนั้น ดวงตาเริ่มแสบร้อนเพราะน้ำตาเม็ดเล็กกำลังก่อตัวอยู่พร้อมที่จะหลั่งไหลออกมาได้ทุกเมื่อ และไม่นานนักน้ำใส ๆ ก็กลิ้งหลุนออกมาจากดวงตาของเธอจริง ๆ
ติ๊ง!
ปอร์เช่ ส่งรูปภาพแล้ว
‘วันนี้มีมินิคอนเสิร์ตวงที่เธอชอบมาด้วยนะ เธออยากมาไหม’
เธอหยิบมือถือมาเปิดอ่านข้อความของปอร์เช่ เห็นศิลปินวงที่เธอชื่นชอบ ทำให้เธอที่จิตใจห่อเหี่ยวก็พองโตขึ้นมาอีกครั้ง
‘ซื้อบัตรรอได้เลย’
เธอตอบไปแค่นั้น แต่แล้วก็ต้องชะงักเพราะเพิ่งคิดได้ว่า ถ้าราชันย์รู้ว่าเธอไปกับปอร์เช่จะเกิดอะไรขึ้นอีก เธอนั่งใช้ความคิดสักพักก็ได้ข้อสรุปว่า ถ้าราชันย์ไม่รู้ก็ไม่น่าจะเกิดเื่อะไรขึ้น เธอพับความฟุ้งซ่านลง ท้องน้อย ๆ ก็ส่งเสียงประท้วงขึ้นมาอย่างกับรู้เวลา เธอลุกขึ้นเข้าไปจัดการตัวเอง ก่อนจะเดินออกมาที่ห้องครัวทำอาหารง่าย ๆ ทานรองท้อง ก่อนที่มือของเธอจะลูบไล้ท้องของเธอไปมา
เมื่อเธอจัดการทุกอย่างเรียบร้อย ทำความสะอาดทุกอย่างจนสิ้น เวลาก็เคลื่อนไปจนใกล้จะถึงเวลาที่เริ่มแสดง เธอรีบอาบน้ำแต่งตัวด้วยชุด เสื้อคอเต่า กางเกงยีนขายาวเพื่อปกปิดรอยจ้ำสีแดงเรื่อเล็ก ๆ แต่หลายจุด บนผิวของเธอ รวมไปถึงรอยแดงสีกุหลาบหลายจุดที่อยู่ตามลำคอของเธอด้วย เมื่อจัดการตัวเองเรียบร้อยเธอรีบหยิบกระเป๋าสะพายเพื่อออกไปยังจุดนัดหมายทันที
“ทางนี้กอหญ้า”
"ได้ที่ดี ๆ ไหม"
"ระดับนี้แล้ว ได้แถวหน้าเลยละ.. ว่าแต่ทำไมทักหาเธอไม่ตอบเลย"
"ลืมมือถือน่ะ เราเข้าไปกันเถอะ"
2 ชั่วโมงต่อมา
“เป็ไงบ้าง สนุกไหม”
“ที่สุดเลย ขอบใจนะที่ชวนหญ้ามา”
“แน่นอนอยู่แล้ว ก็หญ้าเป็คนที่คลั่งไคล้วงนี้ั้แ่ ม.ปลายแล้วนิ”
“ขอบใจที่ยังจำได้ แต่มันน่าอายไปไหมเนี่ย”
“กอหญ้า .. เื่ที่กาสิโนวันนั้น”
“งานพิเศษที่หญ้าเคยบอกไง”
“แต่มันไม่ควรเป็สถานที่แบบนี้เลยนะ มันอันตรายมากนะ ถ้าหญ้าเดือดร้อนเื่เงินจริง ๆ เราช่วยหางานให้เอาไหม”
“ขอบใจนะ แต่หญ้ามีความจำเป็ต้องทำต่อที่นี่ แต่อีกไม่นานหรอก ไม่ต้องห่วงนะ”
“เราไม่ชอบเ้าของที่นั่นเลย เราเป็ห่วงนะ”
“หญ้าไม่เป็ไร เื่นี้อย่าพูดถึงเลย เราไปหาอะไรกินกันไหม หญ้าหิวแล้ว”
ติ๊ง!
เขาเปิดมือถือที่ส่งเสียงดังขึ้นมาก็เห็นว่าเป็แชตของผู้ชายคนนั้น ข้อความที่ที่ส่งมาแม้จะไม่สามารถเปิดหน้าจอได้ทั้งหมด แต่ก็พอจับใจความได้ว่า ทั้งคู่กำลังนัดกันไปที่ไหนสักที่ มือหนาของราชันย์กำแน่นราวด้วยความโมโห
ตื๊ด ตื๊ด
‘คุณราชันย์ขา มาหยาดีใจจังเลยค่ะที่คุณโทรหามาหยาแล้ว’
‘คืนนี้ว่างไหม’
‘สำหรับคุณราชันย์ มาหยาว่างเสมอ .. ให้มาหยาไปหาที่ไหนดีคะ’
'คอนโด'
'ส่งโลเคชั่นมาได้เลยค่ะ มาหยาคิดถึงคุณจัง'
ติ๊ด!
สิ้นเสียงสนทนาเขาปิดหน้าจอมือถือของเธอก่อนจะโยนลงบนเตียงอย่างไม่ไยดี ราชันย์ถอดเสื้อผ้าออกโยนลงบนพื้นคนละทิศละทาง บัดนี้เขาอยู่ในสภาพที่เปล่าเปลือย มือหนาคว้าผ้าเช็ดตัวมาสวมลวก ๆ เขาเดินเข้าห้องน้ำเพื่ออาบน้ำชำระคราบเหงื่อไคลอย่างสบายอารมณ์
เวลาผันผ่านไปได้ไม่นานมากนัก เสียงกริ่งหน้าห้องของเขาก็ดังขึ้น ราชันย์กระตุกยิ้มเ้าเล่ห์เมื่อรู้ว่าคนที่มานั่นเป็ใคร เขาเหลือบมองนาฬิกาที่หน้าปัดชี้ให้เห็นว่าเวลาสองทุ่มเกือบจะครึ่งแล้ว เขาสวมผ้าเช็ดตัวผืนเล็กที่ปกปิดได้แค่ส่วนสงวน เดินออกไปเปิดประตูอย่างไม่รอช้า
จุ๊บ!
"คุณราชันย์ มาหยาคิดถึงคุณจัง"
"เข้ามาก่อนสิ"
"แหม..คุณแต่งตัวแบบนี้ จงใจยั่วยวนมาหยาหรือเปล่าคะ"
เขาดันเธอเบา ๆ เพียงเล็กน้อย แผ่นหลังของเธอก็ปะทะเข้ากับผนังห้องเย็น ๆ ชุดเดรสรัดติ้วเกาะอกสีดำที่เธอจงใจแต่งมาวันนี้ เผยให้เห็นเนินอกขนาดใหญ่ที่ถูกดันออกมาจนเกือบปิดไม่มิด
เธอใช้เรียวนิ้วเขี่ยไปตามแผงอกของเขาอย่างยั่วยวน ส่งสายตาที่หวานเยิ้มแสดงความ้าอันชัดเจนออกมาอย่างไม่เอียงอาย สองมือเล็ก ๆ ของเธอตวัดโอบรัดรอบคอของราชันย์อย่างช่ำชอง เมื่อราชันย์ไม่ได้ปฏิเสธการกระทำของเธอ เธอก็ยิ่งมั่นใจว่าความรู้สึกของเธอและเขาตรงกัน มาหยาขยับเลื่อนเรียวนิ้วต่ำลงไปเรื่อย ๆ เรียวนิ้วนั้นัักับปมผ้าเช็ดตัวที่เขาสวมไว้แบบลวก ๆ
ราชันย์ไม่พูดพร่ำทำเพลง เขาค่อย ๆ ไล่ต้อนร่างเล็ก ๆ ของมาหยาให้ขยับถอยหลังไปเรื่อย ๆ โดยที่เรียวนิ้วของเธอก็ไม่ได้ขยับออกจากอกแกร่งของเขาเลยแม้แต่น้อย กระเป๋าใบหรูราคาแพงถูกโยนไว้บนโซฟาตัวใหญ่กลางห้อง ราชันย์ไล่ต้อนให้เธอถอยหลังไปเรื่อย ๆ มือหนาของเขาบิดลูกบิดประตูห้องนอนก่อนจะดันให้ร่างบางของเธอถอยเข้าไปอย่างง่ายดาย
กริ๊ก!
กอหญ้าที่รีบร้อนกลับมาห้องเพราะกลัวว่าถ้าราชันย์กลับมาก่อนไม่เห็นว่าเธออยู่ห้องจะโมโหขึ้นมา แต่เมื่อเธอเดินเข้ามาก็ต้องใ รองเท้าส้นสูงคู่หนึ่งถูกถอดทิ้งวางไว้ที่หน้าประตูอย่างลวก ๆ เธอค่อย ๆ เดินเข้ามาในห้องอย่างช้า ๆ แต่ความรู้สึกเจ็บแปลบที่ใจกลับเด่นชัดในความรู้สึก ดวงตาทั้งสองต้องเบิกโพลงอีกครั้งเมื่อเห็นกระเป๋าใบหนึ่งถูกวางทิ้งไว้ที่โซฟา แต่กลับไร้วี่แววของผู้คนในห้องรับแขก
“พี่พราว”
“…..”
“พี่พราวหรือเปล่าคะ”
“…..”
ไร้ซึ่งเสียงตอบรับจากสิ่งมีชีวิต ความรู้สึกแปลก ๆ ดึงให้เธอหันไปมองที่ประตูห้องนอน ถึงแม้ในใจของเธอจะมีความคิดหนึ่งแล่นเข้ามา แต่อีกใจก็หวังว่าจะไม่ใช่อย่างที่เธอคิด
แต่แล้วความคิดของเธอกลับต้องชะงักลงเพราะประตูห้องนอนถูกเปิดออก แต่คนที่เดินออกมาจากห้องนั้นกลับไม่ใช่ราชันย์ แต่เป็ผู้หญิงคนหนึ่งที่สวมเสื้อผ้าชุดเดรสรัดรูป เธอหันมามองกอหญ้าเล็กน้อย ก่อนจะเชิดหน้าใส่แล้วเดินตรงมาที่เธอ บุคลิกที่กอหญ้าเห็นตอนนี้เธอสวยมาก สง่าราวกับนางพญา
“แกเป็ใคร เข้ามาในห้องราชันย์ได้ยังไง”
“คุณต่างหาก เป็ใครคะ”
“แกก็ถามแปลก ฉันเดินออกมาจากห้องนอนราชันย์ ก็ต้องเป็แฟนราชันย์อยู่แล้วสิ”
“คุณเป็แฟนคุณราชันย์?”
“ก็ใช่สิยะ ว่าแต่แกเถอะเป็ใคร ดูจากสภาพ... คนใช้สินะ”
“….”
“อ๋อ หรือว่าแกอยากเป็มากกว่าคนใช้ใช่ไหม คิดจะมาอ่อยราชันย์ละสิ ฉันจะบอกอะไรให้นะ สภาพแม่บ้านแบบแก ราชันย์เขาไม่มองหรอก”
“คุณจะดูถูกฉันมากเกินไปแล้วนะคะ คุณราชันย์อยู่ไหน”
“ราชันย์นะหรอ แฟนมาหาทั้งทีก็ต้องออกกำลังกายจนเหนื่อยไปแล้วนะสิ ยิ่งถึก ๆ แบบราชันย์ก็ต้องใช้เวลาออกกำลังกายนานหน่อย เรี่ยวแรงก็จะหายไปเยอะหน่อย .. ทำไม อิจฉาหรอ”
“.....”
“แล้วก็นะ ฉันจะให้ราชันย์ไล่แม่บ้านแบบแกออกด้วย แค่เห็นก็ไม่ถูกชะตา”
“คุณไม่คิดว่าคุณมากเกินไปหน่อยหรอคะ”
“นี่แก! ฉันเป็แฟนราชันย์ ก็ต้องเป็เ้านายแกด้วย แกมาพูดกับฉันแบบนี้หมายความว่าไง!”
“คุณราชันย์ไม่เคยบอกว่ามีแฟน เพราะฉะนั้นฉันไม่นับ หรือหากคุณราชันย์มีแฟนจริง แบบคุณ..”
“แบบฉันมันทำไมยะ แกอย่ามาเหิมเกิมนะ!!”
เพล้ง!!
แจกันที่ถูกปักด้วยดอกกุหลาบสีแดงสลับขาวบนโต๊ะรับแขก ถูกมือของหญิงสาวที่อ้างตัวว่าเป็แฟนของราชันย์ปัดตกแตกกระจายบนพื้น ด้วยอารมณ์ขุ่นมัวของเธอ ก่อนที่เธอจะหันมายกยิ้มมุมปากให้กับกอหญ้าราวกับสะใจกับเหตุการณ์นี้
เธอร้องเสียงดังออกมาราวกับว่าเ็ปแสนสาหัส คว้ามือของกอหญ้าที่ยังใกับเหตุการณ์นั้นมาฟาดลงบนใบหน้าจนเกิดสีแดงระเรื่อ
“โอ๊ย! อย่าทำอะไรฉันเลย!”
กอหญ้าใกับเหตุการณ์นั้นเป็อย่างมาก ในหัวรู้สึกมึนงง ว่าผู้หญิงคนนี้ทำอะไร ทำไมต้องดึงมือเธอไปฟาดลงบนใบหน้าของเธอ แต่แล้วเธอก็เข้าใจทันทีเมื่อเห็นว่าราชันย์เปิดประตูห้องนอนออกมาอย่างรีบร้อนมองหน้ากอหญ้าอย่างไม่ชอบใจ มือหนาของเขาเอื้อมไปดึงหญิงสาวตรงหน้าขึ้นมาประคอง
“ไม่ใช่อย่างที่คุณราชันย์เห็นนะคะ กอหญ้าอธิบายได้”
“เธอเป็อะไรกอหญ้า เธอทำร้ายคนของฉันทำไม!!”
“กอหญ้าไม่ได้ทำ ผู้หญิงคนนี้ดึงมือกอหญ้าเข้าไป”
“คนบ้าที่ไหนจะดึงมือตัวเองเข้าไปตบหน้าตัวเอง เธอดูละครมากไปหรือเปล่า!!”
“คุณเชื่อกอหญ้าสิคะ กอหญ้าไม่ได้ทำจริง ๆ”
“ราชันย์ขา มาหยาเจ็บจังเลยค่ะ”
“คุณโกหก คุณทำแบบนี้ทำไม!! คุณราชันย์ กอหญ้าไม่ได้ทำจริง ๆ”
