ซูอินยกกระโปรงขึ้นและเดินออกมาจากห้องพัก พอดีกับที่อู๋อู๋วิ่งมา
“เธอ…”
อู๋อู๋ขมวดคิ้วด้วยความเครียด ท่าทีในตอนนี้แสดงถึงความโกรธ แต่เมื่อเห็นไมโครโฟนที่อยู่ในมือ ท่าทีของเธอก็เปลี่ยนเป็ระแวดระวังและยับยั้งชั่งใจ
“จะต้องก่อเื่ให้มันแย่ถึงขนาดนี้เลยใช่ไหม”
เหมือนซูอินจะยิ้ม แต่ก็ไม่ได้ยิ้ม “ใครที่เป็คนเริ่มก่อนคะ”
อู๋อู๋ : …
เสียงสนทนาของทั้งคู่ที่ออกมาจากลำโพงเมื่อครู่ได้ยินอย่างชัดเจน ทุกคนในงานต่างก็ได้ยินหมดแล้ว เธอไม่สามารถโต้เถียง
ทำไมเมิ่งเมิ่งถึงได้โง่แบบนี้นะ
อู๋อู๋กระทืบเท้าด้วยความโกรธก่อนจะขมวดคิ้ว มองเข้าไปด้านใน
ในห้องพัก หลิงเมิ่งที่ดึงสติกลับมาจากความโกรธได้ยินเสียงจากลำโพงด้านนอกจึงเข้าใจแล้วว่าเกิดอะไรขึ้น ตอนนี้เธอทำอะไรไม่ถูก ยืนนิ่งอยู่ที่เดิมไม่กล้าขยับ
เมื่อเห็นแววตาสิ้นหวังของบุตรสาวอันเป็ที่รัก ความโกรธและความหดหู่ใจของอู๋อู๋ในยามนี้เปลี่ยนเป็ความสงสาร
“เมิ่งเมิ่ง”
“คุณแม่คะ”
หลิงเมิ่งเดินมาสองก้าวอย่างรวดเร็วและโผเข้าสู่อ้อมกอดของอู๋อู๋ เธอเอ่ยพร้อมสะอื้น “หนูไม่รู้ หนูไม่รู้จริงๆ ว่าด้านนอกจะได้ยินด้วย”
หมายความว่า หากด้านนอกไม่ได้ยินก็ไม่เป็ไรหรือ
ซูอินยืนมองสถานการณ์ เธอหมุนตัวก่อนจะเห็นหลิงจื้อเฉิงที่มายืนอยู่ด้านหลังพอดี
“อินอิน”
ซูอินพยักหน้า “คุณก็เห็นแล้วใช่ไหมคะ”
“นี่…นี่คือ…”
เมื่อเทียบกับอู๋อู๋ที่รักหลิงเมิ่งโดยไม่คำนึงเื่ความถูกผิด ถึงแม้หลิงจื้อเฉิงจะรักบุตรสาว แต่อย่างน้อยก็ควรมีทัศนคติสามประการ
“ฉันจำได้ว่าก่อนหน้านี้คุณบอกว่า จัดงานฉลองวันเกิดครั้งนี้เพื่อเราสองคน หากฉันเข้าใจไม่ผิด เงินที่แขกผู้ร่วมงานให้เป็ของขวัญวันเกิดก็ควรเป็ของฉันครึ่งหนึ่งใช่ไหมคะ”
หลิงจื้อเฉิงพยักหน้า
ด้วยความสำคัญของซูอินในเวลานี้ อย่าว่าแต่เงินก้อนนี้ครึ่งหนึ่งเลย ต่อให้ยกให้เธอทั้งหมดเขาก็ไม่เสียดาย
ทั้งที่ก่อนหน้านี้เขาได้วิเคราะห์และอธิบายกับเมิ่งเมิ่งอย่างละเอียดแล้วถึงข้อดีและข้อเสีย แต่ทำไมเธอยังเป็แบบนี้อีก!
ความคิดซับซ้อนวุ่นวายผุดขึ้นในหัวหลิงจื้อเฉิง และเขาก็ได้สติอย่างรวดเร็วว่า คราวนี้พลาดอีกแล้ว
ทำพลาด ก็เท่ากับว่าไม่สามารถแก้ไขความสัมพันธ์ระหว่างซูอินได้อีก เมื่อเป็เช่นนั้น เธอยังคงยืนอยู่เื้ัเพื่อมองดูตระกูลหลิงที่ไม่มีความสุข เธอคนเดิมนั้นที่ไม่้าเป็ศัตรูกับใคร ตราบใดที่เขาแสดงความเห็นในเื่นี้สักหน่อย การยื่นเื่เพื่อขอเป็โรงแรมห้าดาวก็อาจไม่ใช่เื่ไกลเกินเอื้อม
เมื่อเห็นผลเสียที่ถูกโยงต่อมาเป็ลูกโซ่ หลิงจื้อเฉิงก็สามารถเลือกได้อย่างรวดเร็ว
“อินอิน เื่ในวันนี้เมิ่งเมิ่งทำผิด พ่อจะให้เงินของขวัญแก่ลูกเพิ่มเพื่อขอโทษ พ่อสัญญา...”
ซูอินไม่ให้โอกาสเขาได้พูดต่อ “ไม่ต้องค่ะ หลายครั้งแล้ว คำสัญญาของคุณไม่มีประโยชน์”
ในตอนที่หลิงจื้อเฉิงเอ่ยและแสดงท่าทีเชื้อเชิญเธอมางานวันเกิดด้วยความจริงใจ ทำให้ซูอินเคยมี่เวลาที่โอนอ่อนตาม
หรือว่าในใจของหลิงจื้อเฉิงยังมีความรู้สึกมอบให้เธอในแบบของบิดาและบุตรสาวบ้างกระมัง
เธอนั้น้าเพียงแย่งจุดสนใจมาจากหลิงเมิ่ง ส่วนเื่เงินเธอจะหาโอกาสชี้แจงเป็การส่วนตัว และทิ้งผลงานการกุศลครั้งนี้ให้หลิงจื้อเฉิง ซึ่งถือได้ว่าเป็การตอบแทนความมีน้ำใจของเขา
ทว่าคำพูดเมื่อครู่ของหลิงจื้อเฉิงทำให้เธอได้สติ หรืออาจเป็เพราะหลิงจื้อเฉิงมีความรู้สึกต่อเธอในแบบของบิดาและบุตรสาว ั้แ่ไหนแต่ไรเขาให้ความสำคัญเื่ผลประโยชน์มาตลอด
เมื่อทบทวนเื่ราวทั้งหมด ั้แ่กลับชาติมาเกิด การต้องติดต่อสื่อสารกับตระกูลหลิงคือสิ่งที่รบกวนการใช้ชีวิตของเธอเหลือเกิน
เหนื่อยใจจริงๆ
เธอเป็แค่เด็กนักเรียนธรรมดาที่ตั้งใจเรียน อยากซื้อบ้านเพื่อหารายได้เล็กๆ น้อยๆ หากมีเวลาก็จะทำความดีเพื่ออัปเกรดพื้นที่ล้างสิ่งไม่ดีออกจากร่างกาย ทำให้มันออกมาดี อีกทั้งเธอยังเป็นักเรียนที่มีเงิน และสามารถใช้ชีวิตแบบคนรวยที่มีความสุข
หลังจากงานเลี้ยงในวันนี้ผ่านไป สองสามีภรรยาตระกูลซูก็จะมารับเธอกลับไปอยู่ชนบท ซึ่งจะเป็่เวลาที่ได้ตัดขาดจากตระกูลหลิง
เมื่อคิดดีแล้ว ซูอินมองหลิงจื้อเฉิง ดวงตาสีดำและสีขาวที่แยกจากกันอย่างชัดเจนคู่นั้นเต็มไปด้วยความสงบ “วันนี้ทุกคนอยู่กันพร้อมหน้า พวกเรามาคุยให้ชัดเจนเถอะ”
น้ำเสียงของเธอช่างเ็า ภายใต้ความเ็าแฝงความเด็ดเดี่ยวทำให้หลิงจื้อเฉิงชะงักและรู้สึกกังวล
ในที่สุด่เวลานี้ เขาก็เข้าใจลึกซึ้งถึงความรู้สึกของสองแม่ลูกอู๋อู๋และหลิงเมิ่ง
เขาเข้าใจชัดเจนแล้วว่าซูอิน้าทำอะไร แต่ในขณะที่ผู้คนมากมายกำลังจ้องอยู่ ทำให้เขาไม่สามารถยื่นมือเข้าไปหยุดยั้ง
เขารู้สึกกังวลมาก แต่ก็ทำได้เพียงมองซูอินที่เดินขึ้นไปบนเวที
“ขอโทษนะคะที่ทำให้ทุกคนมาเห็นเื่น่าอายแบบนี้”
เธอก้าวขึ้นมาอยู่หลังโพเดียมอีกครั้ง คำพูดเพียงประโยคเดียวของซูอินเรียกความสนใจจากแขกที่มาร่วมงานทั้งหมด ทันใดนั้นเสียงที่ดังอยู่ในห้องจัดเลี้ยงชิงหลงก็เงียบลง
อวี๋ฉิงที่นั่งอยู่โต๊ะแถวหน้าสุด เมื่อครู่ที่ได้ยินเสียงดังออกมาจากห้องพักหลังเวที ทำให้เธอเริ่มรู้สึกกระตือรือร้น
หลิงเมิ่งเป็อะไร ทำไมกลั่นแกล้งเพื่อนของเธออย่างไร้เหตุผล คุณหนูตระกูลอวี๋เป็คนมีวิสัยทัศน์สูง ไม่สนใจใครง่ายๆ แต่หากอยู่ในสายตาของเธอแล้ว ยากที่จะปิดบังเื่ต่างๆ กับเธอ
ในเวลานั้นเธออยากบุกเข้าไปหลังเวทีเพื่อช่วยอินอิน
แต่การถูกเลี้ยงดูมาอย่างดีั้แ่เด็กทำให้เธอควบคุมตนเองไม่ให้โผล่เข้าไปได้ ที่นี่คืองานเลี้ยงในห้องจัดเลี้ยงของตระกูลหลิง เธอเป็เพียงแขกที่ได้รับเชิญ หากผลีผลามบุกเข้าไปหลังเวที และก่อเื่ต่อหน้าเ้าของงานเกรงว่าคงไม่ดีเท่าไร
แน่นอนว่าสิ่งสำคัญที่สุดคืออินอินไม่ได้แบกความทุกข์ไว้ หลังจากที่อินอินกล่าว ถึงแม้น้ำเสียงจะยังคงนุ่มนวล แต่จัดการได้อยู่หมัด เพียงไม่กี่ประโยคก็สามารถทำให้หลิงเมิ่งโมโหอย่างไร้เหตุผล
เธอได้ยินเสียงวิจารณ์รอบๆ อย่างชัดเจน เมื่อเอ่ยถึงบุตรสาวแท้ๆ ของตระกูลหลิง บรรยากาศก็จะเปลี่ยนไปทันที
คมในฝักจริงๆ ไม่แปลกเลยที่คุณหนูตระกูลอวี๋จะให้ความสนใจ
อวี๋ฉิงใจเย็นลง เธอจัดชุดราตรีของตนเองให้เรียบร้อย จากนั้นนั่งลงที่เดิม มองซูอินที่กำลังพูดอยู่บนเวที
“วันที่สนุกครึกครื้นเช่นนี้ เป็โอกาสที่หาได้ยากที่ทุกท่านจะมารวมตัวกันอยู่ ณ ที่นี้ ดิฉันไม่ควรรบกวนทุกท่าน แต่ในเมื่อเื่มาถึงขั้นนี้แล้ว ก็ควรพูดให้ชัดเจนน่าจะดีที่สุด”
อวี๋ฉิงอดไม่ได้ที่จะพยักหน้าเห็นด้วย เธอรับรู้ได้ถึงความรู้สึกหดหู่ใจจางๆ ของซูอินที่ถูกกระตุ้นอีกครั้ง
คุณหนูอวี๋อดไม่ได้ที่จะลุกขึ้นยืน “อินอิน มีเื่อะไร แค่เงินของขวัญวันเกิดเองนี่ พวกเขารังแกเธอเพราะเธอไม่ใช่ลูกสาวแท้ๆ รังเกียจที่เธอเป็คนชนบท แต่ฉันไม่รังเกียจ พวกเราเป็เพื่อนกัน เงินก้อนนั้นมีจำนวนเท่าไร เดี๋ยวฉันจ่ายเอง!”
สองสามีภรรยาตระกูลอวี๋ที่นั่งอยู่ข้างๆ บุตรสาวได้แต่หันมาสบตากันและส่ายหัว
บุตรสาวของพวกเขาะเิลงอีกแล้วสินะ…
แต่ก็พูดได้ดี! ไม่ต้องพูดถึงว่าเด็กสาวคนนี้มีความสำคัญต่อชายหนุ่มที่พวกเขาเจอในวันนั้นมากน้อยเพียงใด แต่มันคงคุ้มค่าสำหรับความสัมพันธ์ ต่อให้เธอไม่มีความสำคัญ จะอย่างไรตระกูลอวี๋ของพวกเขาก็เป็คู่แข่งของตระกูลหลิง เงินแค่แสนสองแสน สามารถช่วยเหลือเด็กในชนบท ทำให้พวกเขาได้หน้า แถมยังเป็วิธีปราบคู่แข่ง นับว่าคุ้มค่า!
สองสามีภรรยาอวี๋จึงทำได้เพียงขมวดคิ้ว ท่าทีที่แสดงออกไม่เห็นด้วยนักกับความประมาทนี้ของบุตรสาว แต่ก็ไม่ทำอะไรเพื่อหยุดเธอ
ซูอินตกตะลึงกับคำพูดของคุณหนูตระกูลอวี๋ จนรู้สึกอบอุ่นในหัวใจ
อวี๋ฉิงคงกลัวว่าเธอจะตกอยู่ในสถานการณ์ที่น่าอับอายสินะ
เื่เงินวันเกิดเป็จุดสนใจในข้อพิพาทครั้งนี้ เมื่อตัดสินใจเื่เงินได้แล้ว คำพูดที่หลิงเมิ่งกล่าวออกมาก่อนหน้านี้ทำให้ไม่ว่าหลังจากนี้จะเกิดอะไรขึ้น ก็ทำให้เธออยู่ในจุดที่ไม่มีทางแพ้อย่างแน่นอน
ถึงแม้ในเวลานี้ซูอินจะไม่ได้ขัดสนเื่เงิน แต่ในงานมีคนเข้าใจในสิ่งที่เธอ้าสื่อและยังให้การสนับสนุน ความมั่นใจเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม ความรู้สึกประหม่าในตอนแรกหายเป็ปลิดทิ้ง
“ขอบคุณมากฉิงฉิง ไม่แปลกใจเลยที่เธอเป็เพื่อนที่ดีเช่นนี้ ยืนอยู่ข้างฉัน ความรู้สึกแย่ๆ เมื่อครู่หายไปจนทำให้ฉันรู้สึกดีขึ้นแล้ว”
ซูอินส่งยิ้มให้อวี๋ฉิง เมื่อคุณหนูอวี๋แสดงแววตาพึงพอใจ ซูอินจึงเอ่ยเข้าประเด็นหลัก
