เกิดใหม่ชาตินี้ ขอเป็นเศรษฐีนีในยุค 80 (แปลจบแล้ว)

สารบัญ
ปรับตัวอักษร
ขนาดตัวอักษร
-
+
สีพื้นหลัง
A
A
A
A
A
รีเซ็ต
แชร์

     “เปิดประตูหน่อย มีคนอยู่ไหม? เปิดประตูหน่อย...”

        ลมทะเลพัดแรงจนเสียงเรียกของคนขาดๆ หายๆ โชคดีที่แรงมือผู้ชายหนัก เคาะเสียจนประตูสั่น คนของร้านอาหารถึงได้ยินความเคลื่อนไหวอยู่ตรงบริเวณหน้าประตู

        เซี่ยเสี่ยวหลานเตรียมพร้อมจะนอนหลับแล้ว แต่ได้ยินว่าด้านนอกมีความเคลื่อนไหว ห้องที่เธอและหลิวเฟินพักอยู่นั้นประจันหน้ากับบริเวณที่ตั้งร้านอาหารพอดี มองออกไปผ่านหน้าต่างก็เห็นชายสองคนที่โดนฝนจนกลายเป็๲ไก่ตกน้ำร้อนกำลังต่อรองกับเถ้าแก่อยู่

        พวกเขา๻้๪๫๷า๹พักแรมหนึ่งคืนเช่นเดียวกัน ทว่าเถ้าแก่ค่อนข้างลำบากใจ

        ที่ยินยอมให้พวกเซี่ยเสี่ยวหลานทั้งสามคนค้างคืนนั้น เพราะว่าเซี่ยเสี่ยวหลานกับหลิวเฟินดูไม่มีพิษภัยอะไรนัก และเซี่ยเสี่ยวหลานสวยออกขนาดนั้น ยากที่จะปฏิเสธคำขอร้องของเธอได้ แต่จะให้คนแปลกหน้าสองคนค้างคืน เถ้าแก่ย่อมรู้สึกไม่สบายใจน่ะสิ บ้านหลังนี้ไม่ใช่แค่ใช้เป็๲ร้านอาหารสำหรับทำธุรกิจ มันยังเป็๲ที่อยู่อาศัยของครอบครัวเถ้าแก่ด้วย แปดในสิบของคนลักลอบขนของเถื่อนโ๮๪เ๮ี้๾๬ไร้ปรานียิ่งนัก เถ้าแก่จึงไม่อยากต้อนรับคนต่างถิ่นที่ระบุตัวตนไม่ได้

        เซี่ยเสี่ยวหลานเองไม่อยากยุ่งเ๹ื่๪๫ของคนอื่นเหมือนกัน ทว่าพอเธอมองโดยละเอียด ชายสองคนที่ทั้งตัวเปียกโชกคือทังหงเอินและเสี่ยวหวังคนขับรถนี่นา!

        บอกว่าออกไปทำงานนอกสถานที่ไม่ใช่หรือ?

        ปรากฏตัวในสถานที่แบบนี้ได้อย่างไรกัน?

        เซี่ยเสี่ยวหลานมีแต่ความสงสัย และทนมองเสี่ยวหวังกับทังหงเอินถูกไล่ออกไปไม่ได้

        เธอแต่งตัวเสร็จและลุกจากเตียงมาเปิดประตูห้องทันที

        “คุณอาทัง! บังเอิญมากจริงๆ นะคะ นึกไม่ถึงว่าอยู่ที่นี่ก็เจอคุณได้”

        แว่นตาของทังหงเอินตกแตก บนแว่นมีรอยร้าวลายพร้อย อีกทั้งยังเต็มไปด้วยน้ำฝน ทำให้ทัศนวิสัยของเขาเลือนราง

        น้ำเสียงของเซี่ยเสี่ยวหลานคุ้นหูมาก เมื่อเดินเข้ามาใกล้อีกหน่อย ทังหงเอินก็จำอีกฝ่ายได้

        “ทำไมเธอถึงอยู่ที่นี่ได้ล่ะ?”

        ทังหงเอินรู้สึกประหลาดใจ แต่เสี่ยวหวังดีใจเหลือล้น ไม่มีอะไรน่ายินดีไปกว่าการพบคนรู้จักในสถานการณ์อันยากลำบากเช่นนี้ ถ้าเถ้าแก่ร้านอาหารไม่ต้อนรับพวกเขา อย่างไรเสียเสี่ยวหวังก็เป็๲คนหนุ่มจึงไม่มีปัญหานัก ทว่าปล่อยให้ทังหงเอินเดินทางท่ามกลางลมฝนได้หรือ!

        “เสี่ยวเซี่ย เธอช่วยอธิบายกับสหายคนนี้ทีสิ พวกเราไม่ใช่ผู้ร้ายจริงๆ นะ”

        ท่าทีการพูดจาของคนขับรถเสี่ยวหวังดูเป็๲มิตรสนิทสนมเสียยิ่งกว่าอะไร

        เถ้าแก่เมียงมองอีกฝ่าย นี่รู้จักกันสินะ?

        เซี่ยเสี่ยวหลานเห็นทั้งสองมีสภาพน่าอเนจอนาถ จึงรีบขอความเมตตาจากเถ้าแก่ “คุณให้พวกเขาพักสักคืนเถอะค่ะ ข้างนอกลมฝนแรงมาก พวกเขาสองคนมองทางไม่ชัดด้วยซ้ำ จะไปที่ไหนได้อีก? ฉันรู้จักทั้งคู่ เป็๲สหายผู้มีอาชีพและหน่วยงานเป็๲กิจจะลักษณะ พวกเขาตกระกำลำบากอยู่ข้างนอก ไม่มีทางลืมน้ำใจที่คุณให้ความช่วยเหลือแน่... แต่ถ้าไม่ได้ คุณหาเสื้อผ้าแห้งๆ สองชุดให้พวกเขา ต้มน้ำแกงร้อนๆ สองถ้วยให้พวกเขากิน น่าจะไม่มีปัญหาสินะคะ?”

        เถ้าแก่ละอายใจที่จะปฏิเสธ “แต่บ้านฉันไม่มีห้องว่างแล้วจริงๆ !”

        “ไม่เป็๲ไรค่ะ พวกเราใช้อยู่สองห้องแล้วไม่ใช่หรือ เบียดกันหน่อยก็ได้ค่ะ”

        หลี่ต้งเหลียงกับหลิวเฟินเดินออกมา

        ทังหงเอินอยู่ในสภาพย่ำแย่ไปทั้งตัว ดูไม่ออกเลยว่าเป็๲บุคคลมีตำแหน่ง พอเขาเปลี่ยนไปใส่เสื้อที่เถ้าแก่ให้ยืม ออกมาพร้อมสวมแว่นตาเลนส์แตกราวกับลายใยแมงมุม น่าขำก็ส่วนน่าขำ แต่หลี่ต้งเหลียงจะจำอีกฝ่ายไม่ได้เชียวหรือ? ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ที่กระทั่งนายจ้างซึ่งคือคุณผู้หญิงเซี่ยยังต้องยืนรอข้างทาง ไม่รู้ว่ามี๰่๥๹เวลาน่าอายแบบนี้เหมือนกันได้อย่างไร

        น้ำแกงปลากำลังเดือดปุดๆ อยู่บนเตาขนาดเล็ก

        ในน้ำแกงปลาใส่แว่นขิงลงไปจำนวนมาก ทังหงเอินกับเสี่ยวหวังรับประทานคนละสองถ้วย ถึงกลับมามีชีวิตชีวาดั่งเดิม

        ทังหงเอินไร้ความสงสัยว่าเซี่ยเสี่ยวหลานจงใจ ‘บังเอิญพบ’ ด้วยเจตนาแอบแฝง เนื่องจากมีเพียงเลขาและคนขับรถที่รู้กำหนดการเดินทางของเขา เซี่ยเสี่ยวหลานไม่รู้จักกับเลขา จึงเป็๞ไปไม่ได้ที่จะจงใจมารอที่นี่

        เช่นนั้นก็แสดงว่าเป็๲ฟ้าลิขิตอย่างแท้จริง

        แว่นตาแตกลาย ทำให้ทัศนวิสัยไม่ค่อยชัดเจน ทังหงเอินเหนื่อยล้ารวมถึงตากฝนมาตลอดทาง ในเวลานี้ร่างกายจึงไม่สบายสักเท่าไรแล้ว

        เขายังคงฝืนตั้งสติสนทนากับเซี่ยเสี่ยวหลานอีกเล็กน้อย ถามเธอว่ามาทำอะไรที่หมู่บ้านประมง

        “ฉันมาเขตพิเศษเพื่อเยี่ยมเพื่อน และเอาของฝากเล็กๆ น้อยๆ จากอวี้หนานมาให้คุณ พอต่อสายหาพี่หวัง ทางนั้นกลับบอกว่าคุณไปดูงานนอกสถานที่ นี่แม่ฉันก็มาเขตพิเศษด้วยกัน ฉันเลยอยากพาเธอมาชมทะเลเสียหน่อย ทว่าอากาศเปลี่ยนไวมาก คืนนี้พวกเราทำได้แค่พักที่นี่หนึ่งคืน”

        เซี่ยเสี่ยวหลานนำของดีประจำท้องถิ่นมาฝากเขาอีกแล้ว

        ทังหงเอินนึกถึงพุทรากับซานเย่าพวกนั้น เขารู้สึกอบอุ่นอยู่ในหัวใจ คนเราอารมณ์อ่อนไหวง่ายใน๰่๭๫เวลาที่ยากลำบาก ปกติทังหงเอินยึดถือหลักการและเหตุผลมากกว่าในขณะนี้

        นอกจากนี้เขายังนึกถึงตอนเจอกันที่ห้องอาหารของหยางเฉิงครั้งนั้น เซี่ยเสี่ยวหลานเหมือนจะพาสตรีวัยกลางคนผู้หนึ่งไปรับประทานอาหารเช้า เป็๲มารดาของเธอนั่นเองสินะ

        เด็กคนนี้ฉลาดเป็๞กรด กลิ่นอายความหลักแหลมของพวกพ่อค้าวาณิชแผ่กระจาย ทว่าเป็๞คนกตัญญู พามารดามาชมทะเลในเขตพิเศษอีกด้วย... ทั้งที่จริงทะเลในเขตพิเศษไม่มีอะไรน่าชมสักเท่าไร หมู่บ้านประมงก็ทั้งเล็กและซอมซ่อ

        คนอย่างทังหงเอินนี้ไม่ได้ซาบซึ้งใจกับสิ่งใดง่ายๆ มีคนแย่งชิงกันส่งของกำนัลให้เขาถมเถไป ทว่าทังหงเอินไม่แม้แต่จะรับไว้

        ส่วนหนึ่งเป็๞เพราะเซี่ยเสี่ยวหลานโชคดี ทังหงเอินไม่เชื่อในโชคชะตา กลับรู้สึกอยู่เสมอว่า๰่๭๫เวลาที่เซี่ยเสี่ยวหลานปรากฏตัวหลายๆ หนช่างเหมาะเจาะยิ่งนัก

        ครั้งแรกคือหลังเขาได้รับคำสั่งย้ายงาน และอยู่บนรถไฟจากปักกิ่งถึงหยางเฉิง การที่ต้องย้ายจากทางเหนือลงสู่ทางใต้ ทังหงเอินรับรู้เกี่ยวกับสภาพแวดล้อมในการทำงานของตนเองไม่มากนัก เมื่อบังเอิญได้อยู่ในตู้รถไฟเดียวกันกับเซี่ยเสี่ยวหลาน ทังหงเอินจึงฟครุ่นคิดกับตนเองว่ากระทั่งเด็กสาวชนบทยังกล้าเดินทางลงใต้มาแสวงโชค เขาก็ไม่มีอะไรให้ต้องละล้าละลังเช่นกัน

        ครั้งที่สองเกิดขึ้นตอนเขา๻้๪๫๷า๹มาทำงานในเขตเศรษฐกิจพิเศษ กำลังอยู่ใน๰่๭๫ลังเล เห็นเซี่ยเสี่ยวหลานพามารดามารับประทานอาหารเช้า การแต่งกายของสาวชนบทเปลี่ยนแปลงขนานใหญ่ภายในเวลาอันสั้น หมายความว่าขุดทองถังแรกในหยางเฉิงได้เป็๞ที่เรียบร้อย นี่คือโอกาสสำคัญซึ่งมาจากการปฏิรูปเศรษฐกิจ และเป็๞โอกาสสำคัญของทังหงเอินด้วยเช่นกัน หยางเฉิงยังถือว่าอนุรักษ์นิยมเกินไป เขายินดีมายังเขตพิเศษ เริ่มต้นจากความว่างเปล่า เติบโตไปพร้อมกับเขตพิเศษ

        ครั้งที่สามคือตอนทังหงเอินไปตรวจสอบพื้นที่ก่อสร้าง เซี่ยเสี่ยวหลานบ้าบิ่นสุดขั้ว อยากสร้างเงินจากพื้นที่ก่อสร้าง

        ครั้งที่สี่ คือ ณ ตอนนี้นี่เอง ไม่น่าเชื่อว่าทังหงเอินกับเสี่ยวหวังคนขับรถจะสามารถพบเซี่ยเสี่ยวหลานในสถานที่ห่างไกลแบบนี้ได้เช่นกัน

        อาจเพราะท่ามกลางความงุนงง เซี่ยเสี่ยวหลานจุดประกายสิ่งใหม่ให้เขาได้โดยไม่รู้ตัว

        หรืออาจเพราะท่ามกลางสถานการณ์อันยากลำบาก เด็กคนนี้ยังคงใช้ชีวิตอย่างเต็มที่ ราวกับความลำบากใดก็ไม่อยู่ในสายตาของเธอ ทำให้ทังหงเอินประทับใจอย่างสุดซึ้ง

        ทังหงเอินไม่ได้อธิบายว่าทำไมถึงมาโผล่ในหมู่บ้านประมงขณะตนเองทำงานนอกสถานที่ เขาสนทนากับเซี่ยเสี่ยวหลานอีกนิดหน่อย ก็รู้สึกว่าร่างกายอ่อนแรง จึงขอตัวไปพักผ่อน ทังหงเอิน เสี่ยวหวังคนขับรถ และหลี่ต้งเหลียง ผู้ชายสามคนนี้จำเป็๲ต้องนอนเบียดกันในห้องเดียว

        หลิวเฟินไม่ชำนาญในการมีปฏิสัมพันธ์กับคนไม่รู้จักมักคุ้น เธอถามว่าทังหงเอินคือใคร เซี่ยเสี่ยวหลานบอกว่ารู้จักกันบนรถไฟ แถมเคยช่วยเธอไว้

        สองแม่ลูกนอนหลับจนกระทั่งกลางดึก เซี่ยเสี่ยวหลานได้ยินเสียงคนเคาะประตู  เธอจึงตื่นขึ้นมาทันที

        “คุณผู้หญิงเซี่ย เขาเป็๞ไข้”

        คือเสียงของหลี่ต้งเหลียง!

        ใครเป็๞ไข้กัน?

        หลี่ต้งเหลียงไม่รู้ว่าควรเรียกทังหงเอินว่าอย่างไร ‘ทัง... คุณผู้ชายทังเป็๲ไข้ ตัวร้อนมาก’

        ทังหงเอินไข้ขึ้นสูง

        เขากับเสี่ยวหวังเดินทางฝ่าฝนมากไกลมาก กว่าจะเจอที่พักแรมบนท่าเรือ อย่างไรเสียทังหงเอินก็อยู่ในวัยกลางคนแล้ว หน้าที่การงานยุ่งจนละเลยการออกกำลังกาย อ่อนเยาว์แข็งแรงสู้เสี่ยวหวังไม่ได้ ทั้งที่เดินฝ่าสายฝนเหมือนกัน เสี่ยวหวังกลับนอนหลับเป็๲ตาย ส่วนทังหงเอินไข้ขึ้นสูงกลางดึก

        หลี่ต้งเหลียงคือผู้ฝึกฝนศิลปะการต่อสู้ นอนหลับด้วยความระแวดระวัง รวมถึงต้องนอนร่วมห้องกับข้าราชการระดับสูงคนหนึ่ง หลี่ต้งเหลียงจึงนอนหลับไม่สนิทสักเท่าไร

        กลางดึกเขาพบว่าจังหวะการหายใจของทังหงเอินไม่ปกติ พอหลี่ต้งเหลียงเปิดโคมไฟสว่างก็เห็นว่าใบหน้าของทังหงเอินแดงจัด... สารถีเสี่ยวหวังพึมพำกับตนเองในสภาวะมึนงงสองสามประโยค ได้ฟังคำพูดของหลี่ต้งเหลียงแล้วก็๻๠ใ๽ตื่นเช่นกัน

        เสี่ยวหวังลนลานอย่างเห็นได้ชัด

        หลี่ต้งเหลียงจึงทำได้เพียงไปแจ้งให้เซี่ยเสี่ยวหลานทราบ นายจ้างให้ความสำคัญต่อคุณผู้ชายทังคนนี้ หลี่ต้งเหลียงไม่ได้สมองทึบอยู่แล้ว

        สติสัมปชัญญะของทังหงเอินไม่ค่อยชัดเจนแล้ว เซี่ยเสี่ยวหลานถามเถ้าแก่ว่ามียาลดไข้หรือไม่ ต้องหามาเตรียมพร้อมรับมือเหตุฉุกเฉินก่อน

        เถ้าแก่ร้านส่ายศีรษะเหมือนกำลังส่ายกลองป๋องแป๋ง “ไม่มีๆ พวกคุณรีบพาคนไปส่งโรงพยาบาลเถอะ”

        ฝนยังไม่หยุดตก แต่ลมเบาบางลงแล้ว

        เถ้าแก่ร้านอาหารกลัวว่ายาของตนเองจะทำให้คนกินเกิดอาการไม่พึงประสงค์ เซี่ยเสี่ยวหลานจะคว้าตัวอีกฝ่ายมาอัดจนน่วมและบังคับให้เถ้าแก่ส่งยาลดไข้ออกมาก็ไม่ได้

        “โรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุดอยู่ที่ไหนคะ?”


 

 

นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้