สองพี่น้องคู่นี้อย่างไรก็ไม่ยอมเชื่อว่าพลังของเนี่ยหลีจะก้าวถึงระดับที่น่าอัศจรรย์ใจปานนี้ได้แล้ว
“ท่านผู้าุโเนี่ยเอินจะไม่เป็อันตรายหรือ?” เนี่ยเสี่ยวยื่อขมวดคิ้วเล็กน้อยและถาม ผู้าุโเนี่ยเอินออกตามล่าไปเป็เวลานานแล้ว ยังไม่กลับมาเสียที
“วางใจได้ ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร!” เนี่ยเสี่ยวเฟิงส่ายศีรษะ “ที่นี่เป็เขตหมู่บ้านของตระกูลเทียนเหิน ผู้คนจากสมาคมมืดที่สามารถปลอมตัวเข้ามาในเมืองกวงฮุยได้อย่างมากก็เป็แค่ระดับเงินห้าดาว และผู้าุโเนี่ยเอินนั้นเป็นักสู้ระดับทองสามดาวแล้ว ไม่น่าจะมีปัญหาอันใด”
ไกลออกไปในผืนป่าเกิดเสียงดังตูม ตูม ตูม ขึ้น ทว่าประเดี๋ยวเดียวก็เงียบหายไป
ผ่านไปครู่ใหญ่ก็ไม่มีความเคลื่อนไหวใดๆ แล้ว
ไกลออกไป เงาร่างหนึ่งรุดเข้ามาอย่างรวดเร็ว
“เป็ท่านผู้าุโเนี่ยเอิน ท่านผู้าุโเนี่ยเอินกลับมาแล้ว!”
เนี่ยเอินทะยานลงมาตรงหน้าของพวกเขา ใบหน้าคร่ำเคร่งยิ่ง
“ท่านผู้าุโเนี่ยเอิน เป็อย่างไรบ้าง? ตามตัวมันได้ทันหรือไม่?” เนี่ยเสี่ยวเฟิงเอ่ยถาม
ผู้าุโเนี่ยเอินส่ายหน้าตอบ “อีกฝ่ายเป็ผู้ควบคุมจิตอสูรระดับเงินห้าดาว หลังจากหลอมรวมกับจิตอสูรพยัคฆ์ดำเทียนซิง พลังของมันแข็งแกร่งยิ่ง ทั้งยังมีเล่ห์เหลี่ยมอีกด้วย ข้าตามไม่ทัน มันจึงหนีไปแล้ว!”
ได้ยินคำพูดของเนี่ยเอิน เนี่ยเสี่ยวเฟิงและเนี่ยเสี่ยวยื่อต่างมองหน้ากันไปมา ‘สามารถหนีรอดไปจากเงื้อมมือของท่านผู้าุโเนี่ยเอินได้ ผู้ควบคุมจิตอสูรคนนั้นย่อมไม่ธรรมดาเลย!’
เนี่ยเอินมองศพของหลิ่วชิงและหลิ่วเหยียนบนพื้น สองคิ้วก็ขมวดมุ่น เื่นี้ค่อนข้างประหลาด คนจากสมาคมมืดเหตุใดจึงมาอยู่ที่นี่? ผู้ใดเป็คนฆ่าเ้าสองคนนี้? หรือว่าในสมาคมมืดเกิดเหตุขัดแย้งกันเอง วิ่งไล่ล่ากันมาถึงหมู่บ้านของพวกเขาแล้วก็ฆ่ากันตาย? คิดไปคิดมาก็ไม่น่าเป็ไปได้ หรือจะมียอดฝีมือลึกลับผู้หนึ่งช่วยตระกูลเทียนเหินฆ่าเ้าสองคนจากสมาคมมืดนี้?
ยอดฝีมือลึกลับผู้นั้นฆ่านักสู้ระดับเงินสองคน เวลาเดียวกันก็ทำร้ายผู้ควบคุมจิตอสูรระดับเงินห้าดาวจนาเ็ เกรงว่าอย่างน้อยต้องเป็ยอดฝีมือระดับทองกระมัง! ที่แท้เป็ผู้ใดที่ช่วยเหลือตระกูลเทียนเหินกันแน่? เหตุใดยอดฝีมือผู้นั้นช่วยเหลือตระกูลเทียนเหินแล้วจึงไม่ยอมปรากฏตัว?
แม้เขายังมีความสงสัยในตัวเนี่ยหลีอยู่บ้าง ทว่าอย่างไรผู้าุโเนี่ยเอินก็คิดไม่ถึง เป็เนี่ยหลีฆ่าเ้าสองคนนี้และยังทำร้ายผู้ช่วยอวิ๋นฮว๋าจนาเ็ เพราะเนี่ยหลียังก้าวไม่ถึงระดับทองแดงด้วยซ้ำก่อนจากบ้านไปเข้าโรงเรียนเซิ่งหลัน แค่ภาคการศึกษาเดียว จะทะลวงขึ้นถึงระดับเงินได้อย่างไร?
เนี่ยเอินนั่งยองๆ ลงตรวจสอบศพของหลิ่วชิงและหลิ่วเหยียนทั้งสอง ไม่ว่าจะเป็หลิ่วชิงหรือหลิ่วเหยียน ไม่มีร่องรอยการต่อสู้ที่รุนแรง ทว่าพวกมันถูกคนใช้อาวุธมีคมทำร้ายที่จุดตาย อีกทั้งรอยแผลยังมีลักษณะประหลาดคล้ายถูกเลื่อยฟันจนตัดขาด
“เป็วิธีฆ่าที่ร้ายกาจนัก!” เนี่ยเอินอดใมิได้ ต่อให้เป็เขา เกรงว่าคงเป็ไปไม่ได้ที่จะฆ่านักสู้ระดับเงินสามดาวสองคนได้อย่างง่ายดายปานนี้ และอาวุธที่คนผู้นี้ใช้ก็ดูเหมือนจะประหลาดยิ่ง เขาไม่เคยเห็นร่องรอยแบบนี้มาก่อน
“เนี่ยหลี เ้าไปกับข้า รายงานทุกอย่างให้ท่านประมุขทราบ เ้ามาพบคนจากสมาคมมืดทั้งสามนี้ได้อย่างไร เื้ัเกิดเื่อะไรขึ้นบ้าง ล้วนรายงานให้ท่านประมุขทราบให้หมด!” เนี่ยเอินครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งและหันไปมองเนี่ยเสี่ยวเฟิงกับเนี่ยเสี่ยวยื่อ “เ้าสองคนนำศพทั้งสองนี้กลับไปให้ท่านประมุขดู!”
“ขอรับ ท่านผู้าุโเนี่ยเอิน!” เนี่ยหลีพยักหน้า
“ขอรับ!” เนี่ยเสี่ยวเฟิงและเนี่ยเสี่ยวยื่อสองคนแบกศพคนละร่างและติดตามเนี่ยเอินไป
พวกเขาเพิ่งออกเดินไปได้ไม่กี่ก้าว พลันมองเห็นเนี่ยอวี่กำลังวิ่งเร็วจี๋เข้ามา ความเร็วของเนี่ยอวี่ย่อมช้ากว่าผู้าุโเนี่ยเอินและพวก ดังนั้นจึงเพิ่งมาถึง
“พี่เนี่ยหลี ท่านเป็อย่างไรบ้าง? ท่านไม่เป็อะไรนะ?” ใบหน้าอ่อนเยาว์ของเนี่ยอวี่เต็มไปด้วยคราบน้ำตา ดวงตาก็เต็มไปด้วยความกังวล
“วางใจได้ พี่เนี่ยหลีไม่เป็อะไร!” เนี่ยหลียิ้มๆ ลูบศีรษะของเนี่ยอวี่
“อืม” ได้ยินคำพูดของเนี่ยหลี เนี่ยอวี่ค่อยโล่งอกขึ้น เดินตามหลังเนี่ยหลีไปอย่างว่าง่าย
ห้องบรรพชนตระกูลตรา์เทียนเหิน ที่นี่จุดตะเกียงไฟสว่างไสว ผู้คนในตระกูลเทียนเหินแต่ละคนถืออาวุธครบมือ มืออีกข้างก็ถือคบเพลิงเอาไว้ พวกที่รู้ว่ามีคนของสมาคมมืดมาถึงหมู่บ้านของตระกูลเทียนเหิน แต่ละคนต่างล้วนลุกขึ้นจากเตียง เตรียมพร้อมเผชิญหน้ากันทุกขณะ
เมื่อเห็นพวกเนี่ยเอินกลับมาถึง ผู้คนก็ค่อยๆ เปิดทางให้พวกเขา
ประมุขของตระกูลเทียนเหิน เนี่ยไห่ นั่งอยู่บนเก้าอี้ประมุข เขาสวมชุดสีเทา หนวดยาวผมขาว มีท่วงท่าสง่าผ่าเผยน่าเกรงขาม
“เนี่ยเอิน เกิดอะไรขึ้น?” เนี่ยไห่จ้องมองเนี่ยเอินและเอ่ยถาม
“ท่านประมุข เป็โจรสามคนจากสมาคมมืด เดาว่าพวกมันอาจจะพยายามเข้ามาขโมยอะไรบางอย่างจากตระกูลเทียนเหินของพวกเรา ถูกกำจัดไปสองคน อีกคนหลบหนีไปได้!” เนี่ยเอินยกสองมือขึ้นคำนับและพูด
เนี่ยไห่ชำเลืองมองศพทั้งสองบนพื้น รู้สึกโล่งอกขึ้นเล็กน้อยและกล่าวว่า “ดีที่มีแค่สามคน แม้พวกเราไม่รู้ว่าพวกมันมาที่นี่มีวัตถุประสงค์อะไร ทางที่ดีควรระวังตัวไว้ ตระกูลเทียนเหินของพวกเราก็ไม่น่าจะมีของมีค่าอะไรให้พวกสมาคมมืดสนใจ สามคนนี้อาจจะเข้ามาสำรวจความเป็ไปในตระกูลเทียนเหินของพวกเรา หลายวันจากนี้ไปควรเพิ่มกำลังตรวจตราเป็สองเท่า!”
“ขอรับ!” พวกยามของตระกูลเทียนเหินที่อยู่ด้านข้างขานรับขึ้นโดยพร้อมเพรียง
“สองคนนี้เป็เ้าสังหารมันหรือไม่?” เนี่ยไห่ชำเลืองมองคราวเดียวก็บอกได้แล้วว่าสองคนที่ถูกฆ่าตายนี้อย่างน้อยต้องมีพลังระดับเงิน
“มิใช่!” เนี่ยเอินส่ายศีรษะและตอบ
“เช่นนั้นเป็เสี่ยวเฟิงกับเสี่ยวยื่อหรือ?” เนี่ยไห่ชื่นชม “เสี่ยวเฟิง เสี่ยวยื่อ วรยุทธ์ของพวกเ้าก้าวหน้ารวดเร็วยิ่ง!”
ได้ยินคำพูดของเนี่ยไห่ เนี่ยเสี่ยวเฟิงและเนี่ยเสี่ยวยื่อรู้สึกว่าหน้าของตนร้อนผะผ่าวขึ้นมากระทันหัน
“เรียนท่านประมุข มิใช่ฝีมือของพวกเราเช่นกัน!” เนี่ยเสี่ยวเฟิงและเนี่ยเสี่ยวยื่อรีบพูด พวกเขาจะกล้ารับความชอบได้อย่างไร
เนี่ยไห่ขมวดคิ้วมุ่นเล็กน้อยและเอ่ยถามอย่างสับสน “เช่นนั้นเป็ผู้ใดฆ่า?” นอกจากเนี่ยเอิน เนี่ยเสี่ยวเฟิง และเนี่ยเสี่ยวยื่อที่ไล่ตามพวกสมาคมมืดไปแล้ว ยังจะมีผู้ใดอีก?
“เมื่อพวกเราไปถึง สองคนนี้ก็กลายเป็ศพแล้ว มีเพียงเนี่ยหลีอยู่ที่นั่น!” เนี่ยเอินพูดตามความเป็จริง
เวลานี้ทุกสายตาตกอยู่ที่เนี่ยหลี ในใจก็รู้สึกว่าเื่นี้มันเหลวไหลยิ่งนัก เนี่ยหลีมีวรยุทธ์ระดับใดกัน เขาจะกำจัดนักสู้ระดับเงินถึงสองคนได้อย่างไร?
“ข้าก็ไม่รู้ ข้าเพียงเห็นเงาดำสายหนึ่งวูบผ่าน จากนั้นสองคนนี้ก็ร่วงลงพื้น แค่นั้นเอง” เนี่ยหลียักไหล่ แสร้งทำไร้เดียงสา เขายังไม่้าเปิดเผยพลังที่แท้จริงของตน
“เงาดำสายหนึ่งอย่างนั้นหรือ?” ทุกคนแปลกใจเล็กน้อย
ผู้าุโเนี่ยเอินนิ่งเงียบอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่จะคุกเข่าลง ชี้ไปที่ศพของนักสู้ระดับเงินทั้งสองบนพื้น เขาพูดว่า “ท่านประมุขโปรดดู าแนี้ถูกอาวุธบางอย่าง อาวุธชนิดนี้ประหลาดนัก ข้าคิดไม่ออกจริงๆ ว่าจะเป็ผู้ใดในเมืองกวงฮุยที่ใช้อาวุธชนิดนี้!”
สายตาของทุกคนจรดอยู่ที่าแของศพทั้งสอง
“สองคนนี้ถูกจัดการที่จุดตาย สังหารในกระบวนท่าเดียว!” ผู้าุโเนี่ยเอินสูดลมหายใจลึกคำหนึ่ง
ทุกคนเริ่มมองหน้ากันไปมา ในบรรดาพวกเขา ไม่มีผู้ใดใช้อาวุธชนิดนี้อย่างแน่นอน เช่นนั้นจะเป็ฝีมือของผู้ใดกัน? เป็ไปได้หรือไม่ว่าจะมียอดฝีมือซ่อนตัวอยู่ที่หลังเขาอีก? ไม่มีผู้ใดรู้ว่าคนผู้นั้นจะเป็มิตรหรือศัตรู แต่ไม่ว่าจะเป็มิตรหรือศัตรู หากมีคนเช่นนี้หลบซ่อนอยู่ที่หลังเขาจริง พวกเขาคงกินนอนไม่สงบแล้ว
“ในเมื่อคนผู้นั้นช่วยพวกเรากำจัดพวกสมาคมมืด ก็น่าจะยืนอยู่ฝ่ายเดียวกับเมืองกวงฮุย คงไม่มีปัญหาอันใด” เนี่ยไห่พูดเบาๆ “เื่นี้ไม่จำเป็ต้องกังวลอีกต่อไป ประเด็นสำคัญคือเหตุใดพวกสมาคมมืดจึงมาที่นี่ เพื่อความปลอดภัย ตระกูลเทียนเหินต้องเตรียมตัวพร้อมรบอยู่ตลอดเวลา แนวการป้องกันภายในตระกูลก็ต้องมีการปรับเปลี่ยนแก้ไข”
เวลานี้ ข้างๆ เนี่ยไห่ ผู้าุโเนี่ยเหว่ยชำเลืองมองเนี่ยหลีและเอ่ยถาม “เนี่ยหลี เ้ากลับมาั้แ่เมื่อไหร่?”
ได้ยินคำถามของเนี่ยเหว่ย เนี่ยหลีอดรู้สึกหนังหัวชาขึ้นมามิได้ ภายในตระกูลเทียนเหินนี้ คนที่คุยด้วยยากที่สุดก็คือผู้าุโเนี่ยเหว่ย เนี่ยเหว่ยเป็ผู้าุโรักษากฎของตระกูลเทียนเหิน สมาชิกในตระกูลเทียนเหินผู้ใดทำผิดก็จะถูกผู้าุโเนี่ยเหว่ยทำโทษ ดังนั้นฐานะของเนี่ยเหว่ยภายในตระกูลเทียนเหินจึงต่ำกว่าเพียงเนี่ยไห่ขั้นหนึ่งเท่านั้น
ภายในตระกูลเทียนเหิน คนที่เนี่ยหลีเกลียดชังที่สุด นอกจากเนี่ยเสี่ยวเฟิงและเนี่ยเสี่ยวยื่อแล้ว ก็ย่อมเป็เนี่ยเหว่ย ในชีวิตชาติที่แล้ว เขาถูกเนี่ยเหว่ยลงโทษอยู่หลายครั้ง เนี่ยเหว่ยยังมีอีกฐานะหนึ่ง นั่นก็คือปู่ของเนี่ยเสี่ยวเฟิงกับเนี่ยเสี่ยวยื่อ
เนี่ยหลีไม่ได้คิดเพียงแค่ครั้งเดียว เป็เพราะครอบครัวของเขาไม่ลงรอยกับครอบครัวของพวกเขาใช่หรือไม่ ดังนั้นเนี่ยเหว่ยจึงทำโทษเนี่ยหลีด้วยความแค้นส่วนตัว
“เรียนผู้าุโ ข้าเพิ่งกลับมาถึงวันนี้!” เนี่ยหลียกสองมือขึ้นคำนับตอบ
เนี่ยเหว่ยร้องฮึตำหนิ “เนี่ยหลี เ้ายอมรับความผิดหรือไม่?”
เนี่ยหลีงุนงงเล็กน้อย เอ่ยถามลังเลว่า “เนี่ยหลีไม่เข้าใจ ผู้าุโเนี่ยเหว่ยโปรดให้ความกระจ่าง!”
“เนี่ยหลี เ้าไม่ตั้งใจศึกษาเล่าเรียนอยู่ที่โรงเรียนอย่างที่ควร และยังก่อเื่มากมาย ข้าได้ยินมาว่าเ้าไปล่วงเกินลูกหลานสายตรงคนหนึ่งของตระกูลเสินเซิ่งเข้า ทำให้พวกเขามากดดันพวกเราตระกูลเทียนเหิน เ้าแน่ใจหรือว่าไม่มีเื่เช่นนี้เกิดขึ้น?” เนี่ยเหว่ยเอ่ยถามเข้มงวด
เมื่อได้ยินคำพูดของเนี่ยเหว่ย สายตาของทุกคนก็กลับมาตกอยู่ที่เนี่ยหลีอีกครั้งหนึ่ง เวลานั้นเป็่เวลาที่ยากลำบากที่สุดของตระกูลเทียนเหิน ถูกตระกูลเสินเซิ่งกดดันทุกด้าน การค้าทุกอย่างขาดทุนอย่างหนัก ทั้งหมดนี้ล้วนเกี่ยวข้องกับเนี่ยหลีหรือ?
เมื่อเนี่ยไห่ได้ยินคำพูดของผู้าุโเนี่ยเหว่ย เขาขมวดคิ้วมุ่นจ้องมองเนี่ยหลี เอ่ยถามเสียงเข้ม “เนี่ยหลี เป็ความจริงหรือ?”
เนี่ยหลีได้แต่พยักหน้าและพูด “มิผิด เป็ข้าจริงๆ!”
“ศึกษาเล่าเรียนอยู่ที่โรงเรียนเซิ่งหลัน ทว่าไม่ทำตามกฎของตระกูล ไม่รู้ผิดถูกจนทำให้ตระกูลได้รับความเสียหายอย่างหนัก เ้าต้องถูกลงโทษโดยการเฆี่ยนหนึ่งร้อยครั้ง เ้ายอมรับหรือไม่?” สายตาของผู้าุโเนี่ยเหว่ยจดจ่ออยู่ที่เนี่ยหลีด้วยท่วงท่าสง่าน่าเกรงขาม
เมื่อได้ยินคำพูดของเนี่ยเหว่ย เนี่ยเสี่ยวเฟิงและเนี่ยเสี่ยยื่อมองหน้ากันและยิ้มๆ ดีอกดีใจกับความโชคร้ายของผู้อื่น เนี่ยหลีช่างโชคร้ายเสียจริง ตกอยู่ในน้ำมือของท่านปู่ข้าเสียแล้ว
ในตระกูลเทียนเหินมีแปดสาขา ระหว่างแต่ละสาขายังมีความขัดแย้งกันอยู่ แม้ยามเมื่อเผชิญหน้ากับศัตรู ทุกคนจะรวมกันเป็น้ำหนึ่งใจเดียว ทว่าในยามปกติแล้ว พวกเขามักต่อสู้กันเองไม่หยุดเพื่อผลประโยชน์และฐานะภายในตระกูล
ผู้าุโบางคนจากสาขาที่เนี่ยหลีสังกัดอยู่คิด้าช่วยเนี่ยหลี ทว่าพวกเขาได้แต่นิ่งเงียบ ไม่ว่าอย่างไร เนี่ยหลีทำผิดจริงๆ เนี่ยเหว่ยทำสิ่งที่สมควรกระทำแล้ว และพวกเขาไม่มีอะไรจะพูดได้
เนี่ยเอินขมวดคิ้วมุ่น เขาเองก็มาจากสังกัดเดียวกันกับเนี่ยหลี เขาครุ่นคิดครู่หนึ่งจึงยกสองมือขึ้นคำนับและพูด “ท่านประมุข เนี่ยหลียังเด็กนัก ยิ่งไปกว่านั้น วรยุทธ์ของเขาก็อ่อนด้อยยิ่ง หากลงโทษเขาด้วยการเฆี่ยนร้อยครั้ง เกรงว่าจะรุนแรงเกินไป แค่ครั้งเดียวก็เกรงว่าจะทำให้เขาลุกจากเตียงไม่ขึ้นไปถึงสองเดือนแล้ว!”
ผู้าุโเนี่ยเหว่ยพูดเสียงต่ำ “ผู้าุโเนี่ยเอินใจดีกับเด็กผู้นี้เช่นนี้ไม่ถูกต้อง ความผิดที่เนี่ยหลีกระทำไม่อาจอภัยให้ได้ หากทางสมาคมนักปรุงยาวิเศษไม่ได้ช่วยเหลือพวกเราให้พ้นจากสถานการณ์อันเลวร้ายนั้น ข้าก็คิดไม่ออกเลยว่าพวกเราจะต้องเผชิญกับสภาพเลวร้ายอย่างไรบ้าง เกรงว่ากระทั่งที่ยืนของพวกเราตระกูลเทียนเหินก็คงไม่เหลือ! ความผิดใหญ่หลวงเช่นนี้ ลงโทษเขาแค่การเฆี่ยนหนึ่งร้อยครั้ง ถือว่าเบาแล้ว!” ดวงตาของเนี่ยเหว่ยเบิกกว้าง ถลึงตามองเนี่ยหลีอย่างเ็า “เนี่ยหลี เ้ายังจะมีอะไรแก้ตัวอีกหรือไม่?”
เนี่ยหลีสีหน้าไร้อารมณ์ใดๆ ในชีวิตหนก่อน เนี่ยหลีหวาดกลัวเนี่ยเหว่ยที่สุด แค่เห็นเขาก็ทำให้เนี่ยหลีหวาดกลัวจนผมตั้งได้แล้ว กระทั่งพูดก็พูดไม่ออก ทว่าในชาตินี้ เขาไม่แม้แต่จะเห็นเนี่ยเหว่ยอยู่ในสายตาด้วยซ้ำ
เนี่ยไห่ขมวดคิ้วมุ่น นิ่งเงียบอยู่ครู่หนึ่งและพูด “ข้าเพิ่งได้รับแจ้งว่าเนี่ยหลีได้รับเลือกให้เข้าเรียนในชั้นเรียนสำหรับผู้มีพร์ของโรงเรียนเซิ่งหลัน เขาจะถูกอบรมดูแลอย่างดี หากเขาถูกเฆี่ยนหนึ่งร้อยครั้ง เกรงว่าจะทำให้การศึกษาของเขาต้องล่าช้าไป!”
เนี่ยไห่ยังคงช่วยพูดให้แก่เนี่ยหลี ในฐานะที่เป็ประมุขของตระกูล ผลการสอบของสมาชิกในตระกูลจากโรงเรียนเซิ่งหลัน เขาย่อมเป็บุคคลแรกที่ได้รับรู้ ครั้งแรกที่ได้ยินว่าเนี่ยหลีก้าวขึ้นเป็ผู้ควบคุมจิตอสูรระดับทองแดงหนึ่งดาวแล้ว และยังได้รับเลือกให้เข้าเรียนในชั้นเรียนสำหรับผู้มีพร์ เขารู้สึกสงสัยอย่างยิ่ง หนึ่งคือ เนี่ยหลีสามารถก้าวขึ้นเป็ผู้ควบคุมจิตอสูรระดับทองแดงหนึ่งดาวได้รวดเร็วปานนี้ได้อย่างไร สองคือ เหตุใดโรงเรียนเซิ่งหลันจึงยอมรับผู้ที่เพิ่งก้าวขึ้นเป็ผู้ควบคุมจิตอสูรระดับทองแดงหนึ่งดาวเข้าชั้นเรียนสำหรับผู้มีพร์?
เมื่อพวกเขาได้ยินคำพูดของเนี่ยไห่ ทุกคนตกตะลึงจ้องมองเนี่ยหลี พวกเขารู้ดีถึงความสามารถในการฝึกยุทธ์ของเนี่ยหลี และเขากลับได้รับเลือกให้เข้าเรียนในชั้นเรียนสำหรับผู้มีพร์ของโรงเรียนเซิ่งหลัน ข่าวนี้ช่างน่าตื่นตะลึงเสียจริง!
เนี่ยเสี่ยวเฟิงและเนี่ยเสี่ยวยื่อสองพี่น้องก็มีสีหน้าไม่เชื่อถือแขวนอยู่บนหน้า เนี่ยหลีมีดีอะไรพวกเขายังไม่เข้าใจ? กลับได้รับเลือกให้เข้าเรียนในชั้นเรียนสำหรับผู้มีพร์ของโรงเรียนเซิ่งหลันได้! นี่เป็ข่าวปลอมหรือไม่? กระทั่งพวกเขาสองคนก็ยังไม่มีคุณสมบัติพอที่จะเข้าเรียนในชั้นเรียนสำหรับผู้มีพร์ของโรงเรียนเซิ่งหลันได้ ทว่านี่เป็เื่ที่ออกจากปากของท่านประมุข พวกเขาไม่มีความกล้าพอที่จะท้วงถามหาความจริง
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้