“ลมบูรพา!”
หวังเค่อฟาดไพ่นกกระจอกจากนั้นค่อยๆ อ่านสีหน้าของเทพพนันอุดรและปราชญ์พนันทักษิณอย่างระมัดระวัง อึก จับพิรุธอะไรไม่ได้เลย ไม่มีเลยแม้แต่นิดเดียว! พวกมันสองคนก้มหน้าก้มตาเล่น ไม่สนแพ้ชนะสักนิด!
ที่พวกเ้ายอมแพ้เสียเงินให้ข้าตลอดหลายวันมานี้ทั้งหมดก็เพื่อให้ข้าเล่นไพ่เป็เพื่อนเ้าหนูนี่? ประสาทแดกแท้ๆ!
“รวยเละ!”
เซิ่งจื่อฟาดไพ่เหมือนกัน เซิ่งจื่อเล่นอย่างจริงจังสุดเปรียบ โกรธสุขฉายชัดบนใบหน้า ชัดเจนว่าจั่วได้ไพ่ดี
“ตาเ้าแล้ว!” เซิ่งจื่อบอกกับหวังเค่อ
หวังเค่อที่เคลือบแคลงพลันรู้สึกใจตุ้มๆ ต่อมๆ เดาถึงความเป็ไปได้บางอย่าง
“ข้ารู้แล้ว ข้ารู้แล้ว แม้ข้าจะมองเกมนี้ไม่ขาด แต่ข้าเข้าใจแล้วว่าพวกมันอยากให้ข้าทำอะไร พนัน? พวกมันไม่สนว่าระหว่างข้ากับเซิ่งจื่อใครจะได้เงินไป ที่พวกมันสนใจคือการที่ข้าจะสามารถเล่นพนันกับเซิ่งจื่อได้หรือไม่ต่างหาก เมื่อข้าเล่นพนันกับมัน ก็เท่ากับว่าได้ร่วมเกมไปแล้ว! บัดซบ พวกมารบัดซบเวรตะไล นี่ข้าติดกับหรือนี่?” หวังเค่อหน้าเปลี่ยนสี
แต่ฉากเมื่อกี้ตนไม่อาจปฏิเสธได้เลย ต่อให้เริ่มใหม่หมดตนเป็แค่เซียนเทียนตัวน้อยๆ คนหนึ่งจะไปสู้รบปรบมือเอาชนะมารร้ายทั้งฝูงได้หรือ?
พี่หวังเค่อผายลมสุนัขอันใด พวกเ้ามัดมือชกกันเห็นๆ! คิดชักใยข้า? จูงจมูกให้ข้าเดินตามพวกเ้า?
ดังนั้นต่อให้เริ่มใหม่ก็ไม่มีประโยชน์ ก่อนที่เนี่ยเมี่ยเจวี๋ยจะได้สติ ที่ตนทำได้ก็มีแต่รอความปรานีจากมารฝูงนี้เท่านั้น
ติดกับ? ไม่ว่าแพ้หรือชนะ ตนก็ตกหลุมดักไปทั้งตัวแล้ว ช่างเถอะ ต่อให้ต้องลงหลุมก็ขอกอดเงินลงไปด้วยแล้วกัน
“พี่หวัง รีบจั่วไพ่สักที!” เทพพนันอุดรเร่ง
“เร็ว เร็ว อีกนิดข้าก็จะชนะอยู่แล้ว เร็วซี!” เซิ่งจื่อเอ่ยอย่างตื่นเต้น
หวังเค่อหน้าหม่นแต่ก็ยอมจั่วไพ่แล้ววางลงบนโต๊ะ “ชนะแล้ว!”
ชนะแล้ว?
เซิ่งจื่อหน้าแข็งค้าง ทำไมถึงชนะแล้วเล่า? ข้ากำลังจะชนะอยู่แล้วแท้ๆ ขาดอีกแค่ใบเดียว ใบเดียวเท่านั้น!
“ชนะแล้ว? พี่หวังชนะ เซิ่งจื่อ เ้าแพ้ เอาเงินมา!” เทพพนันอุดรเร่งอย่างตื่นเต้น
“ผายลม ทำไมมันถึงชนะ? ไพ่ข้าเป็ชุดเดียวกัน ขาดอีกแค่ใบเดียวก็จะชนะ แล้วมันไพ่อะไร? มั่วซั่วลมผายสิไม่ว่า? มันจะไปชนะได้ยังไง?” เซิ่งจื่อลุกพรวดพร้อมบันดาลโทสะ
หวังเค่อ “…!”
“เซิ่งจื่อ เ้าตกลงกับหวังเค่อว่าจะตัดสินผลแพ้ชนะในตาเดียว ไม่เกี่ยวว่าเ้าจะมีไพ่อะไร ใครขานก่อน คนนั้นชนะ ส่งเงินมา!” เทพพนันอุดรกล่าวรอมชอม
“ผายลม ข้าไม่ยอมรับ มันจะมาขานไพ่ชนะไม่ได้! ไม่ได้!” เซิ่งจื่อชี้หน้าหวังเค่ออย่างดาลเดือด
หวังเค่อมองเซิ่งจื่อตรงหน้าไม่วางตา จากนั้นก็พลันเข้าใจอะไรบางอย่าง สาเหตุที่พวกมันพาเ้าเซิ่งจื่อนี่มาเล่นพนันกับตนก็เพราะเ้าเด็กนี่มีปัญหา มีแต่ตัวเองชนะ ไม่มีตัวเองแพ้?
“งั้นตานี้ช่างมัน ข้าเองก็จะขอพักสักหน่อย!” หวังเค่อรีบกล่าว
ช่างมัน?
เทพพนันอุดร ปราชญ์พนันทักษิณใช้เงินไปตั้งขนาดนั้น แถมยังยักยอกโลหิตพลังปฐมมาจากคลังเก็บเืมากมายปานนั้น แต่เ้ากลับบอกว่าช่างมัน? จะปล่อยให้เป็แบบนั้นได้ยังไง?
“พี่หวัง ท่านชนะก็คือท่านชนะ!”
“ถูกต้อง เซิ่งจื่อแพ้ เพราะงั้นก็ต้องจ่ายเงิน!”
“พี่หวัง ท่านไม่ต้องห่วง พวกเราจะเกลี้ยกล่อมเซิ่งจื่อให้เอง!”
.........
......
...
พลพรรคมารต่างกรูกันเข้ามาปลอบประโลมหวังเค่อ
“เซิ่งจื่อ ยอมรับความพ่ายแพ้แต่โดยดีเถอะ เ้าแพ้หวังเค่อ เพราะงั้นก็ควรจ่ายเงิน!” เทพพนันอุดรโน้มน้าว
“ข้าไม่ได้แพ้ ข้าไม่เคยแพ้ ไพ่นกกระจอกเส็งเคร็งอะไรของพวกเ้า ข้าไม่แพ้!” เซิ่งจื่อคำราม
ท่ามกลางเสียงคำราม โต๊ะไพ่นกกระจอกก็ถูกล้ม
“โครม!”
โต๊ะเล่นไพ่ถูกเทกระจาดไปในลักษณะนี้เอง
หวังเค่อหน้าแข็งค้าง “เซิ่งจื่อ ข้าบอกว่าช่างมันอย่างไรล่ะ! เกมกระดานนี้ไม่นับ!”
“เซิ่งจื่อ หวังเค่อบอกว่าเ้าแพ้ไม่เป็! คิดว่าเ้าจ่ายเงินมันไม่ได้!” ปราชญ์พนันทักษิณทางด้านข้างสุมไฟ
“บัดซบ ข้าแพ้ไม่เป็? เห็นอยู่ว่าเกมไพ่นกกระจอกนี่มีปัญหา! บัดซบ สิ่งที่ข้าเซิ่งจื่อมีไม่ขาดมือก็คือเงิน เงิน!” เซิ่งจื่อแผดเสียงพร้อมกับเขวี้ยงกำไลมิติวงหนึ่งใส่หวังเค่อ
“หมับ!”
หวังเค่อคว้ากำไลมิติวงนั้น มองเซิ่งจื่อด้วยสีหน้าตกตะลึง ต้องทำถึงขนาดนี้เชียวรึ? ก็แค่แพ้เกมเดียวเองไม่ใช่รึ? แล้วทำไมถึงต้องะเิอารมณ์รุนแรงปุบปับเสียขนาดนี้?
“เซิ่งจื่อ...!” หวังเค่อยังคิดจะเปิดปากกล่าวคำ
แต่ก็สายเกินไป เทพพนันอุดร ปราชญ์พนันทักษิณลากตัวเซิ่งจื่อเผ่นแน่บไปแล้ว
“อย่าให้ข้าเห็นเ้าอีกเชียว เกมไพ่นกกระจอกบ้าบออันใด แหกตากันชัดๆ ลูกตัวบัดซบ ข้าไม่เคยแพ้มาก่อน! ปล่อยข้า ปล่อยข้า!” เซิ่งจื่อะโอย่างดาลเดือด
จากนั้นมันก็หายไปจากกรอบสายตาของทุกคน
หวังเค่อถือกำไลมิติวงนั้นหน้านิ่วคิ้วขมวด เทพพนันอุดร ปราชญ์พนันทักษิณ พวกมันวางอุบายข้า ทั้งหมดก็เพื่อให้เซิ่งจื่อแพ้เอาเงินมาให้ข้า? แม่งเอ๊ย นี่มันหมายความว่าอะไรกันแน่?
“พี่หวัง ท่านอย่าเก็บมาใส่ใจเลย เมื่อกี้พวกเทพพนันอุดรห้ามเราไว้ พวกเราก็เลยไม่สะดวกใจจะเอ่ย แต่ครั้งหน้าที่ท่านเจอเซิ่งจื่อ ท่านก็พยายามเลี่ยงมันดีกว่า มันจะแพ้ไม่ได้!” มารที่อยู่ด้านข้างกล่าวปลอบ
“อ้อ? เซิ่งจื่อจะแพ้ไม่ได้?” หวังเค่อถามอย่างสงสัยใคร่รู้
“มิผิด เฮ้อ! เราไม่รู้ที่มาที่ไปของเซิ่งจื่อ เมื่อร้อยปีก่อนท่านมารอริยะเป็ผู้แบ่งอำนาจปกครองให้ แต่ตลอดร้อยปีมานี้เซิ่งจื่อก็ยังคงรูปลักษณ์ของเด็กเจ็ดแปดขวบ อีกทั้งระดับฝึกปรือก็อยู่ที่ขอบเขตเซียนเทียน ราวกับว่าถูกคำสาปบางอย่างจนไม่อาจเติบใหญ่ แต่ที่สำคัญกว่านั้นคือสติปัญญาของมันอยู่ในระดับเดียวกับเด็กเจ็ดแปดขวบ! ไม่อาจฝึกปรือ ไม่อาจเติบใหญ่ สติปัญญาไม่เพิ่มพูน แถมยังนอนกินบ้านกินเมือง ในสายตาคนอื่นมันช่างนอกค...เอ้ย แปลกเกินไป! สิ่งเดียวที่มันโปรดปรานคือการละเล่นทุกรูปแบบ ตลอดหลายปีบนเกาะเทพัแห่งนี้ ท่านผู้ดูแลให้คนมาเล่นพนันเป็เพื่อนมันไม่ว่างเว้น เซิ่งจื่อแม้จะถูกตามใจ อารมณ์ร้อน แต่ทุกครั้งที่ชนะก็จะดีอกดีใจจนเนื้อเต้น แต่ลองได้แพ้ขึ้นมา มันก็จะไม่ยินยอมและะเิอารมณ์ออกมา ตามระรานให้ฝ่ายตรงข้ามมาเล่นกับมันใหม่ เล่นจนอีกฝ่ายหมดเนื้อหมดตัวมันจึงหัวเราะฮาฮาอย่างสาแก่ใจแล้วยอมรามือ! ดังนั้นโดยปกติแล้วไม่มีใครยอมเล่นพนันทุกรูปแบบกับเซิ่งจื่อ นี่ก็ไม่รู้ว่า...!” มารผู้นั้นยิ้มขื่น
หวังเค่อเผยสีหน้าพิกล เซิ่งจื่อผู้นี้คือเด็กปีศาจที่ไม่รู้จักโต? ทนแพ้ไม่ได้แม้แต่นิดเดียว พอแพ้ขึ้นมาก็ชักดิ้นชักงอจะเป็จะตายเอาให้ได้?
“ขอบคุณที่ให้ความกระจ่าง!” หวังเค่อว่า
“ไม่มีปัญหา พี่หวังเค่อเองก็ระวังตัวด้วย เซิ่งจื่อน่าจะไม่ยอมรามือแต่เพียงเท่านี้!” มารผู้นั้นส่ายหน้าแล้วกลับไปเล่นไพ่ต่อ
แต่หวังเค่อกลับเดินหลบฉากไปอีกฟากพลางครุ่นคิด
เทพพนันอุดร...? ไม่สิ! ฐานะ ‘พี่หวัง’ ของตนเป็ผู้ดูแลถงอันอันนั่นที่เรียกออกมาเป็คนแรก งั้นก็กล่าวได้ว่าผู้ที่อยู่เื้ัก็คือถงอันอันนั่น มันยอมควักเงินมากมายปานนี้เพื่อให้ตนกับเซิ่งจื่อผูกจิตพยาบาทต่อกัน?
แล้วจากนั้นล่ะ?
หวังเค่อตกลงสู่ห้วงวิกฤตใหญ่
แต่ในสายตาของมารตนอื่น พวกมันกลับมีแต่ความอิจฉาตาร้อน โดยเฉพาะจูเยี่ยน มันมองโลหิตพลังปฐมที่กองเป็ูเาอยู่ข้างๆ หวังเค่อ ไหนจะกำไลมิติที่ได้มาจากเซิ่งจื่อ นี่ ทั้งหมดนี่ล้วนทิ่มแทงบาดตาจูเยี่ยน
“ทำไมกัน!? ไม่ใช่ว่าพวกเ้ากำลังวางอุบายต่อหวังเค่อหรอกรึ? แล้วนี่มันเรียกว่าวางอุบายตรงไหนไม่ทราบ? เซิ่งจื่อยังไม่ทันจะชักดิ้นชักงอพวกเ้าก็ลากตัวมันเผ่นแน่บไปแล้ว? สรุปแล้วพวกเ้ามาส่งมอบความอบอุ่นให้หวังเค่อกันใช่ไหม?” จูเยี่ยนคำรามอยู่ในใจ
ทำไม!? ทำไม!? ตนอดอยากกระหายโลหิตพลังปฐมพวกนั้นมาหลายวัน แม้แต่นิดเดียวก็ไม่มีตกถึงท้อง แต่ทำไมข้างกายหวังเค่อกลับมีมากมายเป็ูเาเลากาได้?
ตนไม่มีเงิน ไม่อาจร่วมโต๊ะพนัน สุดท้ายต้องไปลงเอยด้วยการต้มไข่ใบชา เมื่อขายแลกเงินจนได้มาพอหอมปากหอมคอและกำลังจะฟาดเรียบตายรอบโต๊ะก็ดันแพ้หน้าหงายเสียั้แ่ตาแรก ทำไปทำมาก็ต้องกลับไปตายรังต้มไข่ใบชาขายต่อตามเดิม?
“บัดซบ พวกเ้ามันประสาทแดกกันไปหมดแล้ว!” จูเยี่ยนสบถด่าน้ำลายแตกฟองไปรอบทิศก่อนตะบึงตะบอนจากไป
แม้แต่ตัวหวังเค่อเองก็ยังเดาเป้าหมายการวางอุบายในครั้งนี้ของถงอันอันไม่ออก จูเยี่ยนยิ่งแล้วใหญ่ แบบนี้มันโกงกันเห็นๆ หรือไม่ใช่? อาศัยอะไร! ทั้งที่ตนก็เข้าคุกมาพร้อมกับหวังเค่อ แต่ทำไมมีแต่หวังเค่อที่ทำเงินเป็ล่ำเป็สัน แต่ข้ากลับต้องไปต้มไข่ใบชาอย่างเจียมเนื้อเจียมตัวเฝ้ามองพวกมันนั่งเล่นไพ่กันอย่างเป็สุขด้วย? อาศัยอะไร!?
เกาะเทพั ภายในห้องโถงใหญ่
ถงอันอันนั่งอยู่บนเก้าอี้พร้อมจอกสุราในมือ
“ท่านผู้ดูแล ถึงแม้กระบวนการจะไม่ค่อยถูกตาต้องใจนัก แต่ผลลัพธ์ก็เป็ไปตามที่ท่านคาดหวังขอรับ!” เทพพนันอุดรกล่าวรายงานอย่างสุภาพนอบน้อม
ถงอันอันจิบเืพลังปฐมในจอก พยักหน้าอย่างพึงพอใจ
“ภายใต้สายตาพร้อมมูลของทุกคน หวังเค่อผูกใจเจ็บบ่มเพาะความบาดหมางกับเซิ่งจื่อแล้วขอรับ!” เทพพนันอุดรว่าต่อ
“คิดไว้ไม่ผิด ในลัทธิมารของเรา เซิ่งจื่อมีสถานะเป็ถึงคนโปรดของท่านมารอริยะ ใครเล่าจะกล้าตอแย? ต่อให้ศิษย์มารดาดๆ พวกนั้นไม่ให้ราคาเซิ่งจื่อแต่ก็ต้องหลีกทางให้แก่มันอยู่ดี ต่อให้เซิ่งจื่อจะอารมณ์ร้ายกว่านี้มารทั้งหมดก็ต้องคล้อยตาม นั่นรวมถึงตัวข้าเองด้วย! ขนาดข้ายังจำต้องคล้อยตามเซิ่งจื่อ! มีแต่หวังเค่อที่เพิ่งร่วมลัทธิมารเท่านั้นที่ไม่ทราบชัดถึงสถานการณ์!” ถงอันอันยิ้มเย็น
“ตอนนั้นหวังเค่อเองก็ไม่คิดตั้งตัวเป็ศัตรูกับเซิ่งจื่อ เป็พวกเราที่ลากเซิ่งจื่อออกมาทันเวลา!” เทพพนันอุดรเอ่ยอย่างเคารพ
“หวังเค่อเป็คนฉลาด แต่น่าเสียดาย มันมาอยู่ที่เกาะเทพัของเราแล้ว เ้าจูเยี่ยนนั่นเป็หลานเ้าตำหนักจูจึงไม่สะดวกที่จะวางอุบายใส่ จึงได้แต่ต้องเริ่มจากเ้าหวังเค่อนี้ ประจวบเหมาะกับที่แม้มันมีคุณความดีช่วยเหลือหมู่มารแต่ก็ไม่เป็ที่โปรดปรานของเ้าตำหนัก สถานะของมันนับว่าเหมาะสมที่สุด!” ถงอันอันกล่าวอย่างพึงพอใจ
“ครั้งนี้เกือบไปแล้วแท้ๆ! นี่แค่ทำให้กระเป๋าของหวังเค่อตุงขึ้นมานิดหน่อยเท่านั้น!”
“เกือบไปแล้ว? ฮึ่ม ไม่ใช่เ้าว่าหวังเค่อในตอนนี้ถูกขุนจนได้ที่ ขอเพียงมันเห็นเซิ่งจื่อร่วมเล่นพนันขันต่อตัวมันเองก็จะต้องเข้าร่วมหรอกรึ? หากไม่ใช่ว่าได้เ้าจูเยี่ยนนั่นช่วยเสี้ยม อีกแค่นิดเดียวแผนการครั้งนี้ก็จะล้มทั้งกระดานแล้ว!” ถงอันอันถลึงตาแข็งกร้าว
“ข้า...ผู้น้อยบกพร่องในหน้าที่! แต่สุดท้ายหวังเค่อก็เข้ามาในเกมกระดานนี้แล้วนะขอรับ!” เทพพนันอุดรกล่าวขอขมา
“หากหวังเค่อไม่เข้ามาแล้วจะทำยังไง?” ถงอันอันถามเสียงเย็น
“หากหวังเค่อไม่ยินยอม ขะ ข้าก็จะแอบลอบสังหารมันเงียบๆ จากนั้นชิงเอาเืพลังปฐมและเงินทั้งหมดที่มันได้ไปกลับคืนมา! จะไม่ให้เงินเดิมพันของท่านผู้ดูแลขาดหายไปแม้แต่แดงเดียว!” เทพพนันอุดรกล่าวอย่างกริ่งเกรง
“ฮึ่ม! เงินที่เสียไปข้าจะนำกลับมาไม่ได้เชียวรึ? ข้ากำลังพูดว่าหากหวังเค่อไม่ยินยอมเข้าร่วม งั้นทุกสิ่งทุกอย่างที่เราทำมาไม่กลับกลายเป็เื่ชวนหัวพอดี?”
“ทราบ ผู้น้อยสมควรตาย!”
“เข้าร่วม? วางเดิมพันกับเซิ่งจื่อจนนำไปสู่การผูกใจเจ็บ? หากหวังเค่อแพ้เสียเงิน มันจะต้องเจ็บแค้นและแอบฆ่าเซิ่งจื่อไปเงียบๆ เพื่อชิงเงินของตัวเองกลับคืนมาสินะ?” ถงอันอันเผยสีหน้ายินดี
“ใช่ขอรับ ท่านผู้ดูแลพูดถูกแล้ว หากหวังเค่อแพ้เสียเงิน มันต้องไปฆ่าเซิ่งจื่ออยู่แล้ว! แต่ถ้าหวังเค่อชนะได้เงิน เซิ่งจื่อก็จะเป็ฝ่ายผูกใจเจ็บจนตามไปเอาเื่กับหวังเค่อ สุดท้ายก็จะยังถูกหวังเค่อสังหารอยู่ดี?” เทพพนันอุดรยิ้มร่า
“ถูกต้อง ไม่ว่าหวังเค่อจะชนะหรือแพ้ มันก็ต้องฆ่าเซิ่งจื่ออยู่วันยังค่ำ เซิ่งจื่อช่างน่าเวทนาจริงๆ!” ถงอันอันกระดกแก้วแล้วฉีกยิ้มอย่างพึงพอใจ
“ท่านผู้ดูแลวางอุบายรัดกุมไร้ช่องโหว่ หากพรุ่งนี้เซิ่งจื่อตกตาย ทุกคนก็จะโทษว่าเป็ความผิดของหวังเค่อ! ทุกคนจะต้องคิดว่าหวังเค่อคือผู้ก่อการ! ถึงตอนนั้นค่อยเชิญผู้ดูแลออกมาประกาศเอาผิด คุมตัวหวังเค่อตัดสินโทษตายเพื่อล้างแค้นให้กับเซิ่งจื่อ!” เทพพนันอุดรเอ่ยด้วยความเคารพ
“ดี ฮ่าฮ่าฮ่า ฮ่าฮ่าฮ่า พรุ่งนี้ข้าจะทวงหนี้แค้นให้เซิ่งจื่อเอง! งั้นคืนนี้พวกเ้าคงรู้สินะว่าต้องทำยังไง?” ถงอันอันยิ้มอย่างมีนัยยะบางอย่างขณะมองเทพพนันอุดร
“ขอรับ ทุกอย่างล้วนเป็ไปตามแผน พรุ่งนี้เซิ่งจื่อจะสิ้นใจตายอยู่ในคุก รอเพียงท่านผู้ดูแลมาผดุงความยุติธรรมเท่านั้น!” เทพพนันอุดรกล่าวอย่างนอบน้อม
“ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า!” ถงอันอันะเิหัวเราะร่วนอย่างถูกใจ
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้