“พี่โจวเป็อะไรไป ถ้าถูกใจเข้าแล้ว พวกน้องๆก็จะไปลากตัวสาวสวยคนนั้นมาให้ พี่ว่าไงล่ะ...”
คนที่พูดออกมาในครั้งนี้ คือลูกชายของรองนายกรัฐมนตรีพ่อของเขาถือได้ว่ามีอิทธิพลมาก แต่ก็มีความสัมพันธ์อยู่กับตระกูลโจวจึงได้เคารพลูกชายเพียงคนเดียวของตระกูลโจวมาก
โจวเหย้าเวย รินไวน์ลงใส่แก้ว พร้อมกับยิ้มออกมา “ต้องรู้จักมีวิธีการ รับมือกับคนสวยแบบนั้น จะไปรีบร้อนแบบนั้นได้ยังไง? พี่เหวินสาวสวยคนนี้เป็ไง เข้าตาบ้างไหม?”
เมื่อได้รับคำยกย่อจากเหล่าลูกน้อง โจวเหย้าเวยก็ถูกใจอยู่แต่กลับไม่ได้รีบร้อนอะไร และหันไปถามคนที่มีความสามารถข้างกาย
คนที่ถูกเรียกว่าพี่เหวิน เขานั่งนิ่งเงียบไม่ส่งเสียงอะไร อยู่ที่มุมของโซฟามาตลอดทั้งคืน แต่กลับไม่ออกห่างจากโจวเหย้าเวยเลยแม้แต่น้อย เหล่าบรรดาลูกน้องของโจวเหย้าเวย ต่างพากันคิดว่าเขาคือบอดี้การ์ดที่ตระกูลโจวส่งมาคอยดูแลโจวเหย้าเวยหลังจากที่เขาไปสร้างเื่กับตระกูลฉินเอาไว้ แต่ใครจะรู้ว่าน้ำเสียงและการพูดจากของโจวเหย้าเวย จะดูเข้าเคารพเขามากขนาดนี้
ในระหว่างที่ผู้คนต่างพากันประหลาดใจไม่ว่าจะคิดเท่าไรก็นึกถึงตระกูลเหวิน ที่มีชื่อเสียงในแวดวงสังคมเมืองหลวงไม่ออกจึงเดากันไปว่า “เหวิน” น่าจะเป็ส่วนหนึ่งในชื่อของเขา
พี่เหวินไม่ได้รับรู้ถึงความคิดของคนเ่าั้ เมื่อได้ยินว่าพูดถึง“สาวสวย” อะไรทำนองนั้น ก็ไม่ได้สนใจอะไร เขาไม่แม้แต่จะเงยหน้าขึ้นมาเพียงแต่พูดออกมาด้วยน้ำเสียงราบเรียบ “ก่อนจะถึงกลางเดือนอย่าไปหาเื่อะไรอีกมันจะทำให้ฉันจัดการลำบาก”
เดิมทีโจวเหย้าเวย ก็เป็คุณชายปลิ้นปล้อนอยู่แล้วได้ยินดังนั้นก็หัวเราะออกมาก่อนจะหันไปส่งสายตาให้กับลูกน้องคนที่บ้านเปิดบริษัทคนนั้นชายคนที่แต่งตัวจัดคนนั้นก็รินเหล้า แล้วเดินไปยังโต๊ะของหลินลั่วหรานจริงๆ
คนทั้งโต๊ะของโจวเหย้าเวย กำลังพากันมองดูอย่างคึกคักคู่ควงสาวของโจวเหย้าเวย ไม่พอใจนัก แต่ใครจะรู้ว่าเมื่อผู้ชายคนนั้นเดินเข้าไปก็เห็นหญิงสาวคนนั้นส่งยิ้มกลับมา ดูเหมือนว่าจะสามารถตกมาได้ง่ายๆในใจของทุกคนก็พากันเสียใจและผิดหวัง
แต่ใครจะรู้ว่าหลังจากที่เธอเผยรอยยิ้มออกมาเหล้าที่รินไปแก้วนั้นก็ถูกสาดลงบนใบหน้าของเขา รอยยิ้มยังถูกประดับเอาไว้บนใบหน้าของคุณชายโยวราวกับโดนแช่แข็งหากไม่ใช่ว่าเขาทำลงไปเพื่อสืบหาข้อมูลไปให้โจวเหย้าเวย แล้วก็คงจะจัดการกับผู้หญิงคนนี้ไปแล้ว
คนทางฝั่งโจวเหย้าเวย ต่างพากันหัวเราะออกมาพร้อมกับบอกว่าเป็ม้าที่ดุดันตัวหนึ่ง คุณชายโยวเดินกลับมาด้วยใบหน้าบึ้งตึงโจวเหย้าเวย ตบลงที่บ่าของเขา โดยที่ไม่ได้ถามเื่การโดนเหล้าสาดหน้าของเขา
“เป็คนสวยที่รับมือยากจริงๆ ถือเป็โชคดีของเสี่ยวโยวนะ!”
ทุกคนต่างพากันหัวเราะออกมา คุณชายโยวลูบหยาดน้ำออกจากใบหน้าเมื่อถูกโจวเหย้าเวย พูดขึ้นแบบนี้ แต่เพียงแค่นึกถึงรอยยิ้มนั้นขึ้นมาบรรยากาศก็เหมือนจะสวยงามขึ้นทันตา
“พี่โจว ดูเหมือนว่าพี่จะต้องลงสนามแล้วล่ะ”
“ก็ใช่ ก็ใช่ ผู้หญิงที่ดุดันแบบนี้แหละ ถึงจะน่าสนใจ”
เหล่าคุณชายต่างแย่งกันพูดขึ้น ล้วนแต่ก็เป็คำพูดประจบสอพอทั้งนั้น คู่ควงของโจวเหย้าเวยจึงพูดออกมาด้วยความไม่พอใจนัก “โจวผู้หญิงคนนั้นไม่มีความสุภาพเลยนะ ไม่น่าจะรับมือได้ง่ายๆ หรอก”
โจวเหย้าเวย หยิกใบหน้าของเธอเบาๆ “หึงเหรอ? ก็เพราะว่าชอบท่าทางหึงแบบนี้ของเธอนั่นแหละ!” ปากก็พร่ำพูดออกไปเขาจะไปใส่ใจอะไรกับความรู้สึกของผู้หญิงที่ติดมาด้วย เขารินเหล้าลงใส่แก้วก่อนจะเดินไปยังโต๊ะของหลินลั่วหราน
ใบหน้าด้านข้างของหลินลั่วหรานภายใต้แสงไฟ งดงามเสียจนทำเอาผู้คนตกตะลึงดวงตาที่นุ่มลึกคู่นั้น ราวกับจะดูดิญญาของผู้คนไปทีละน้อย
รูปร่าง ท่าทาง หน้าตา...ทุกอย่างล้วนแต่ไร้ที่ติ โจวเหย้าเวยให้คะแนนเต็มกับผู้หญิงตรงหน้าในใจ แต่ก็รู้สึกแปลกใจขึ้นมาคนที่หน้าตาสวยงดงามขนาดนี้ จะไม่เคยได้ยินชื่อในแวดวงสังคมของเมืองหลวงได้อย่างไร?
“คุณคนสวย เมื่อกี้เพื่อนของผมอาจจะทำอะไรหยาบคายไปหน่อยต้องขอโทษแทนด้วยนะครับ”
หลินลั่วหรานยกมุมปากขึ้น “คุณนี่น่าตลกดีนะจะต้องมาขอโทษ เพราะความผิดของคนอื่นด้วยเหรอ?”
โจวเหย้าเวย ก็ไม่ได้คาดคิดว่าจะได้รับประโยคตอบกลับแบบนี้เขาจึงแกล้งทำเป็ไม่ได้อะไร ก่อนจะยักไหล่ขึ้น
“ความจริงมันก็เป็แค่ข้ออ้างเท่านั้นแหละ คนที่สวยอย่างคุณผมก็ต้องอยากจะหาข้ออ้างมาเข้าใกล้ ถูกไหม?”
หลินลั่วหรานกลอกตา โจวเหย้าเวยคนนี้ เห็นได้ชัดว่าเป็พวกคาสโนว่าขนานแท้แล้ววันนั้นคุณนายโจวยังจะมีหน้ามาพูดว่าเขารักเป่าเจียสุดหัวใจอีก ดูเหมือนว่าไม่ว่าจะตามตื๊อเท่าไรก็ไม่ได้ผล รู้สึกว่าเสียหน้ามากก็เลยทำอะไรน่ารังเกียจแบบนั้นสินะ!
ไม่รู้ว่าทำไม แต่หลินลั่วหรานมักจะรู้สึกว่าร่างกายของโจวเหย้าเวยมีกลิ่นอายของเืถูกส่งออกมาจางๆ ทำให้สัญชาตญาณของเธอรู้สึกไม่ดีนัก
แต่เพียงแค่กะพริบตา ก็เหมือนกับภาพหลอนเ่าั้จะหายไปแล้ว
เมื่อนึกถึงคนที่มีความสามารถอยู่ข้างกายของโจวเหย้าเวยหลินลั่วหรานก็ตัดสินใจว่าจะยังไม่ลงมืออะไร พร้อมทั้งเผยรอยยิ้มออกมา “ฉันไม่ไว้หน้าเขาไปแล้วครั้งหนึ่ง แล้วทำไมฉันจะต้องไว้หน้าคุณด้วยล่ะคะ?”
โจวเหย้าเวย ไม่คิดว่าหลินลั่วหรานจะเปลี่ยนท่าทางไปได้ว่องไวขนาดนี้จึงได้แต่หัวเราะออกมาด้วยความเขินอาย หลินลั่วหรานก็หัวเราะคิกคักขึ้นมาอีก “เมื่อสักครู่อารมณ์ไม่ค่อยดี ก็เลยสาดเหล้าใส่เพื่อนของคุณไปยังไงก็กลับไปขอโทษเขากับคุณเสียหน่อยก็แล้วกัน”
ใบหน้าของโจวเหย้าเวย เต็มไปด้วยความสดใสเกินกว่าที่จะอธิบายออกมาได้เขาลุกยืนขึ้น
ท่าทางโมโหที่ดูดีของหลินลั่วหราน ทำให้ในใจของโจวเหย้าเวยรู้สึกราวกับมีแมวสิบกว่าตัว กำลังเกาะกุมเขาด้วยกรงเล็บ จนเขาต้องขบฟันเอาไว้แต่ก็สติหลุดลอยไปอย่างเลี่ยงไม่ได้
เมื่อเห็นว่าโจวเหย้าเวย พาสาวคนสวยเดินกลับมาทุกคนก็พากันส่งเสียงโห่ร้องและปรบมือ
ไม่ว่าจะคู่ควงของโจวเหย้าเวย จะไม่พอใจเท่าไรแต่ก็ยังต้องหลบที่นั่งให้กับหลินลั่วหราน ก่อนจะออกไปนั่งดื่มเหล้าอยู่อีกฝั่ง
“สาวสวย เมื่อกี้สาดน้ำใส่หน้าผมไปแล้วก็น่าจะบอกชื่อกับทุกคนสักหน่อยนะครับ?” เมื่อเห็นหลินลั่วหรานยกแก้วแสดงความขอโทษออกมาคุณชายโยวก็ไม่ได้อะไรเท่าไร
ดวงตาทั้งสองของหลินลั่วหรานถูกหรี่ลง “ฉันนามสกุลฉินส่วนชื่อจะขอยังไม่บอกนะคะ”
เมื่อได้ยินว่าเธอนามสกุลฉิน สีหน้าของทุกคนก็เปลี่ยนไปที่พวกเขามารวมตัวกันในวันนี้ ไม่ใช่ว่าเพื่อแสดงความยินดีให้กับโจวเหย้าเวยที่แม้ว่าจะขับรถชนฉินเป่าเจียไปแล้ว แต่ก็ยังไม่เป็ไรไม่ใช่เหรอ?
ใบหน้าของโจวเหย้าเวย ยังคงเต็มไปด้วยรอยยิ้มแต่ในแววตาของเขากลับแสดงความรู้สึกอันตรายออกมา
แม้แต่พี่เหวินที่เอาแต่นั่งเงียบไม่พูดจา เมื่อได้ยินว่าเธอนามสกุลฉินก็ยังต้องหันมามองเธอด้วยความระมัดระวัง เมื่อพบว่ามือทั้งสองที่ถือแก้วอยู่นั้นไร้รอยาแใดๆ อีกทั้งแขนที่โผล่ออกมาจากตัวชุด ก็เนียนขาวราวกับหยกไม่ได้เหมือนกับคนที่ได้รับการฝึกฝนด้านการต่อสู้มาเป็เวลานานจึงก้มหน้ากลับลงไปอีกครั้ง
หลินลั่วหรานยกแก้วขึ้นมา ใบหน้าของเธอประดับไปด้วยความโมโหเล็กๆ “ทำไมเหรอ นามสกุลฉินมีอะไรแปลกไปเหรอคะ?”
สีหน้าของโจวเหย้าเวย ยังคงเหมือนเดิม “จะเป็ไปได้ยังไงคุณหนูฉินอย่าคิดมากเลย...ใช่แล้ว ผู้หญิงที่สวยอย่างคุณ ทำไมถึงไม่เคยได้ยินข่าวในแวดวงเลยล่ะสงสัยว่าคนที่เคยเจอ ต่างก็พากันเก็บเอาไว้ไม่แบ่งปันสินะ!”
หลินลั่วหรานจะไม่รู้ได้อย่างไรว่าเขากำลังพยายามสืบเสาะตัวเธออยู่จึงพูดออกมากึ่งจริงกึ่งเล่น “ฉันเพิ่งมาจากเมือง R น่ะค่ะ จะไปมีข่าวได้ยังไง”
เมื่อได้ยินว่าเป็เมือง R นั่นเป็สถานที่ของผู้บังคับบัญชาฉินแต่ว่านอกจากเป่าเจียแล้ว ก็ไม่เคยได้ยินว่าจะมีหลานสาวที่โดดเด่นขนาดนี้อยู่ด้วยหรือว่าจะเป็แค่ความบังเอิญ?
ลูกชายของรองนายกรัฐมนตรีคนนั้นสกุลเจิง เมื่อเห็นว่าบรรยากาศดูน่าอึดอัดก็รีบออกมาช่วยแก้สถานการณ์ “พี่โจวนี่มันเป็พรหมลิขิตชัดๆ ไม่ได้ฉินนั้นนี่ก็ยังจะมีคุณหนูฉินที่งดงามปรากฏตัวออกมาอีกคนแล้วไม่ใช่เหรอแถมยังสวยกว่าหลานสาวของตาปืนใหญ่ตระกูลฉินนั่นเสียอีก”
ในใจของโจวเหย้าเวย ขำขันขึ้นมาต่อให้เป็คนที่ตระกูลฉินส่งมาแล้วจะอย่างไร? เขามองไปยังคนที่นั่งอยู่ที่มุมโซฟาในใจก็รู้สึกสงบขึ้น หญิงสาวที่ฉลาดหลักแหลมแบบนี้ ก็เหมือนกับยาบำรุงชั้นดีที่นานๆ จะหาได้สักคน หากเขาไปเปิดโปงอะไรเธอก็อาจจะทำให้สาวสวยคนนี้ใจนหนีไปได้นะ?
สีหน้าของโจวเหย้าเวย เปลี่ยนไปชั่วครู่ก่อนที่ร่างกายของเขาจะปลดปล่อยััแปลกๆที่ทำให้หลินลั่วหรานรู้สึกไม่สบายใจและเกลียดขึ้นมาจากส่วนลึกของหัวใจอีกครั้ง
พี่เหวินที่นั่งอยู่บริเวณมุมของโซฟาเงยหน้าขึ้นก่อนจะส่งสายตาเตือนภัยไปให้โจวเหย้าเวย
หลินลั่วหรานยกแก้วเหล้าในมือขึ้นมาแกว่งเบาๆ โจวเหย้าเวย คนนี้ ร่างกายมีอะไรแปลกๆอยู่ แล้วก็ผู้ชายที่นั่งอยู่ที่ขอบโซฟาไม่ส่งเสียงอะไรคนนั้นก็เห็นได้ชัดว่าเป็...
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้