คำโบราณว่าไว้ เมื่อทำความผิดเอาไว้ ก็มักจะกลัวคนรู้ หลายวันมานี้เนี่ยเซิงเสี่ยวกลัวว่าเหยียนจิ่งจื้อจะมาหาถึงบ้านจริงๆ
บางครั้งที่รับสายเขาก็มักจะใจนิญญาหลุดทุกที
เหยียนจิ่งจื้อ : “เสียงเธอแปลกๆ นะ”
เนี่ยเซิงเสี่ยว : “คิดถึงนายนั่นแหละ”
เหยียนจิ่งจื้อ : “เด็กดี”
…
แต่เนี่ยเซิงเสี่ยวก็ยังรู้สึกผิดอยู่ดีนี่นา มีสามีมีลูกแล้วก็ยังจะไปร่วมงานที่แม้แต่เธอเองก็ยังไม่กล้าเรียกว่าเป็งานเลี้ยงกลางคืนกับชายโสด แบบนี้มันไม่ค่อยดีเท่าไร
ดังนั้นตอนที่นั่งรถของจ้าวหยวนฟางไปรับเหนี่ยวเหนี่ยวออกจากโรงพยาบาล เนี่ยเซิงเสี่ยวก็มองจ้าวหยวนฟางแล้วถามออกมา “งานเลี้ยงพรุ่งนี้จะมีใครไปบ้างเหรอ?” วันนี้เหนี่ยวเหนี่ยวจะออกจากโรงพยาบาลแล้ว เดิมทีไม่ควรที่จะมากวนจ้าวหยวนฟางให้มารับแบบนี้ แต่ว่าจะห้ามยังไงก็ห้ามไม่อยู่ เธอเองก็จนปัญญา แล้วพ่อที่ควรจะมารับลูกออกจากโรงพยาบาลก็ยังมาเล่นบทเป็กิ๊กแอบๆ สมควรตายนั่นอีก
จ้าวหยวนฟางหัวเราะ คิดว่าเธอตื่นเต้น “ไม่มีอะไรหรอก ก็แค่รุ่นพี่ในวงการธุรกิจ เพราะว่าฉันไปรับทำ
อีเว้นต์เสื้อผ้าเลยถูกเชิญไปด้วยน่ะ”
เนี่ยเซิงเสี่ยวพูด อ่อ เป็รุ่นพี่ทั้งนั้นสินะ ถ้าอย่างนั้นเหยียนจิ่งจื้อก็คงไม่ได้ไปด้วย จะไปมีรุ่นพี่ที่ไหนเด็กขนาดนี้กัน ทันใดนั้นเธอก็รู้สึกวางใจขึ้นมา
แต่เพิ่งวางใจไปได้ไม่ถึงสองวิ เมื่อเธอหันออกไปมองนอกหน้าต่างก็เกือบจะหัวใจวายตาย
บนรถไมบัคที่ขับอยู่ข้างรถของจ้าวหยวนฟาง ผู้ชายที่นั่งข้างคนขับเปิดกระจกลงมาครึ่งหนึ่ง เขาสวมแว่นดำ ผมเส้นสีดำขลับสั้นๆ ชี้ไป้า จากนั้นเนี่ยเซิงเสี่ยวยังเห็นว่าในวินาทีที่อีกฝ่ายเห็นเธอมองมา เขาก็หยิบหมวกแก็ปสีดำขึ้นมาใส่อีก
ทั้งตัวเขาเต็มไปด้วยสีดำเหมือนจะกลืนไปกับรถ แต่ผิวกลับขาวผิดปกติ บางทีถ้าเป็คนอื่นมองอาจจะมองไม่ออก แต่ว่าเธอกลับมั่นใจมาก
เหยียนจิ่งจื้อที่ปลอมตัวมา ไม่รู้ว่าขับรถมาใกล้รถของจ้าวหยวนฟางแบบนี้ทำไม แต่เธอกล้ายืนยันได้เลยว่าเ้าหมอนี่จะต้องทำอะไรสักอย่างแน่ ดูจากท่าทางก็รู้แล้ว
“หยวน…หยวนฟาง ขันรถระวังหน่อยนะ” เนี่ยเซิงเสี่ยวอดที่จะพูดเตือนเขาไม่ได้ แต่ก่อนเหยียนจิ่งจื้อ
ชอบแข่งรถมาก ขนาดเลือกคนขับรถ ยังเลือกคนที่มีเทคนิคการขับรถดี ยิ่งไม่ต้องพูดถึงถ้าเขาเป็คนขับรถเอง บางทีสุดท้ายอาจจะขับมาชนจ้าวหยวนฟาง โดยที่เขาอาจจะยังไม่ทันรู้ตัวเลยว่าคนที่ขับมาชนคือใคร
จ้าวหยวนฟางได้ยินเธอพูดเตือนอย่างอ่อนโยนก็รู้สึกมีความสุข “ไม่เป็ไรหรอก วางใจเถอะ ฉันขับรถมาหลายปีเคยเห็นแต่คนอื่นเจออุบัติเหตุ ตัวฉันเองยังไม่เคยเจอเลย…”
เอาความจริงมายืนยันว่าตัวเองไม่เคยทำหรือไม่เคยเป็…. คำพูดแบบนี้ไม่สามารถพูดออกมามั่วซั่วได้ จ้าวหยวนฟางยังไม่ทันพูดจบก็รู้สึกว่ารถคันสีดำขับมาประกบเขาจากด้านข้างโดยตรง และในตอนนั้นยังมีรถแวนขนาดเล็กพุ่งออกมาจากซอยเล็กๆ เหมือนได้ตกลงกันเอาไว้แล้ว รถถูกหนีบจากทั้งสองข้างจนจ้าวหยวนฟางได้ยินแค่เสียงแสบหูของรถ ก่อนจะหยุดลง
จากนั้นเพราะว่ารถของเขาเปลี่ยนเส้นทางได้ทันเวลาทำให้รถแวนขนาดเล็กคันนั้นพุ่งไปยังเสาที่อยู่ด้านข้างแทน โชคดีที่เบรกรถได้ทัน ไม่อย่างนั้นไม่อยากจะคิดถึงผลที่จะตามมาเลย!
จ้าวหยวนฟางมองไปยังรถสีดำที่อยู่ด้านข้างด้วยสายตาไม่เป็มิตร ก่อนจะหันไปปกป้องเนี่ยเซิงเสี่ยว แต่แล้วใครจะรู้ว่าข้างตัวของเขากลับว่างเปล่า!
เพียงแค่เวลาสั้นๆ เนี่ยเซิงเสี่ยวกลับหายไปแล้ว!
ในตอนที่จ้าวหยวนฟางจะหันไปมองรอบๆ กระจกรถด้านข้างก็ถูกโจมตีอย่างแรง แม้แต่ตัวรถก็ถูกชน จ้าวหยวนฟางรีบยกมือขึ้นมาปิดตาตัวเองเพื่อป้องกันไม่ให้ตาได้รับาเ็จากเศษกระจก
ความจริงแล้วก่อนเขาจะปิดตาเหมือนเขาจะเห็นร่างสีดำลากร่างสีแดงวิ่งเข้าไปในซอยเล็กๆ
วันนี้เนี่ยเซิงเสี่ยวใส่เสื้อนอกสีแดง สวยมากและสะดุดตามากเป็พิเศษ
จ้าวหยวนฟางรู้สึกว่ามีเืไหลออกมาจากง่ามนิ้วของเขา คิดว่าบริเวณผิวหน้าคงจะถูกบาดเข้าแล้ว เขารู้ว่ามันคงจะเป็แค่แผลเล็กๆ
แต่ถึงแม้มันจะเป็แผลเล็กน้อยเท่าไร แต่เขาก็อยากจะแก้แค้นอยู่ดี
เนี่ยเซิงเสี่ยวยังไม่ทันรู้ตัวก็รู้สึกว่าตรงหน้าถูกชนจนเสียงดังโครมครามจากนั้นก็มีลมพัดเข้ามาก่อนที่แขนของเธอจะถูกแรงมหาศาลดึงลงจากรถ และพาวิ่งเข้ามาในซอยเล็กๆ
ในตอนที่ถูกดึงเข้ามาในอ้อมกอด เนี่ยเซิงเสี่ยวอดไม่ได้ที่จะถีบเขาแรงๆ ไปหนึ่งที ถึงแม้จะตื่นเต้นแต่ว่า “นี่มันเกินไปหน่อยแล้ว!”
เหยียนจิ่งจื้อใช้ขากดเท้าเล็กๆ ของเธอที่เตะออกมามั่วๆ กลิ่นอายความแข็งแกร่งเข้ามากลบบนตัวเธอ
เขาคิดว่า ผู้ชายที่ไม่เคยกอดผู้หญิงจริงๆ มาก่อนไม่มีทางเข้าใจว่า “การกอดแบบแแ่” มันมีความรู้สึกอย่างไร มันเหมือนกับจะกอดจนเอวเธอหักไปเลยอย่างไรอย่างนั้น ตัวเล็กนิดเดียวเกินไปแล้วนะ
แต่ตัวเล็กแค่นี้กลับไม่เชื่อฟังสักเท่าไร เมื่อวานตอนที่เขาโทรศัพท์ไปหาก็เคยกำชับเธอไปแล้วว่าห้ามเข้าใกล้ศัตรูหัวใจของเขามากเกินไป แต่วันนี้ดันมาเห็นพวกเธอนั่งพูดคุยยิ้มแย้มอยู่ในรถคันเดียวกัน
จากเดิมทีที่คิดมากอยู่แล้วก็ถูกความหึงหวงกลบจนมิด เขาจะให้จ้าวหยวนฟางรู้ว่า อย่าแม้แต่คิดจะอยากได้ผู้หญิงของคนอื่น
เขาจูบลงไปที่คอของเธอ เนี่ยเซิงเสี่ยวจั๊กจี้จนหัวเราะออกมาอย่างห้ามไม่อยู่ ทำให้อารมณ์ของเขาดีขึ้นมามาก แต่กลับถูกเหล่าป้าๆ ที่มาจ่ายตลาดสดทำให้ตกตะลึงไป
เนี่ยเซิงเสี่ยวจับหน้าของเขาไว้ไม่ให้ขยับ ตอนนี้เธอถึงจะพบว่าตนถูกลากเข้ามาในเขตชุมชนที่ไม่รู้จัก ในเวลาเช้าๆ แบบนี้ทุกคนที่มาจ่ายตลาดล้วนแต่เป็บรรดาแม่ๆ และเหล่าภรรยา
นอกจากนี้ยังมีเด็กประถมที่เดินผ่านถนนสายนี้เพื่อจะไปโรงเรียน ดูจากรูปร่างแล้วน่าจะเป็เด็กระดับชั้นเรียนสูงแล้ว ยืนจ้องพวกเขาด้วยความแปลกใจ
เหยียนจิ่งจื้อตะคอกออกมาด้วยความรำคาญ “มองอะไรล่ะ ไม่เคยเห็นคนจู๋จี๋กันหรือไง!”
เมื่อเห็นพวกเด็กนักเรียนใจนวิ่งหนีไป เนี่ยเซิงเสี่ยวก็บิดหูเขา ถึงแม้การยื่นมือไปบิดหูคนที่ตัวสูงแบบนั้นจะลำบาก แต่เธอก็ยังจะทำ “เด็กตัวแค่นั้นจะไปเคยเห็นคนจู๋จี๋กันได้ไง”
เหยียนจิ่งจื้อวางมือไปที่เอวเธอแล้วลูบไปมา “นี่ฉันใส่ใจพวกเขามากแล้วนะ ตอนแรกจะพูดว่า ไม่เคยเห็นคนกินเต้าหู้[1]กันหรือไงด้วยซ้ำ”
เนี่ยเซิงเสี่ยวผลักเขาออกไปท่ามกลางสายตาใของทุกคน นี่มันผิดผีมากจริงๆ…
เหยียนจิ่งจื้อกลับดึงเอวเธอเข้าไปหาอีกครั้ง แล้วเริ่มที่จะสอบสวนเธอ “เธอขึ้นรถของเขา”
“คนเขามีน้ำใจมาช่วยฉันรับเหนี่ยวเหนี่ยวออกจากโรงพยาบาล ไม่ได้มีความหมายอื่นอะไร” เนี่ยเซิงเสี่ยวก้มหัวอธิบาย
“เธอขึ้นรถของเขา” เหยียนจิ่งจื้อยังคงพูดคำเดิม
“ฉันไม่มีทางเลือกนี่ ฉันปฏิเสธไปแล้ว แต่ก็ยังห้ามไม่ได้ จะมายืนเถียงกันไปมากับเขาที่หน้าบ้านก็ไม่ได้อีก” น้ำเสียงของเธอเริ่มอ่อนลง
“เธอยังจะไปขึ้นรถของหมอนั้นอีกไหม?”
ครั้งนี้เนี่ยเซิงเสี่ยวเปลี่ยนกลับมาเป็ภรรยาตัวน้อยแล้ว “ไม่กล้าแล้ว”
เหยียนจิ่งจื้อลูบผมยาวๆ ของเธอเหมือนลูบหัวหมา “ตอบได้ดีมาก”
เนี่ยเซิงเสี่ยวก้มหัวลงจึงเห็นแค่เอวแคบๆ ของเขา ในวินาทีนี้เธอก็เข้าไปกอดเขาอย่างอดใจไม่อยู่ อีกทั้งจมูกก็เริ่มปวด ไม่ได้เห็นเขาหึงมานานมากแล้ว ความรู้สึกนี้ช่างดีจริงๆ
เหล่าบรรดาป้าๆ ที่เพิ่งจะกลับมาจากการออกกำลังกายต่างก็มองเห็นคู่รักคู่หนึ่งจากที่ไกลๆ ในเวลาเช้าแบบนี้มีภาพที่ช่วยจุดประกายชีวิตให้ดู พวกเธอก็รีบวิ่งเขามาล้อมดู
พวกเขาเหมือนกับอยู่ในความฝันที่ยาวมากๆ ความฝันนั้นยาวนานถึงเจ็ดปี แต่หลังจากตื่นขึ้นมาข้างกายของคุณก็ยังคงมีฉัน
“พวกหนุ่ม พวกเธอกลับไปกอดกันที่บ้านเถอะ ที่นี่…คนเยอะเกินไปหน่อย” ในที่สุดคนคุณป้าที่เหมือนจะเป็คนคอยดูแลของซอยนี้ก็ออกมาเตือนพวกเขา ผิดผีจริงๆ
เนี่ยเซิงเสี่ยวรีบพูดขอโทษกับทุกคน คิดว่าเหยียนจิ่งจื้อจะไม่พอใจกับคำพูดของพวกป้าๆ ใครจะไปรู้ว่าเขาจะมองมาที่เธอเหมือนคิดอะไรขึ้นมาได้และยังไม่ได้สติกลับมาทั้งหมด
เธอจึงเดินเข้าไปลากเขาออกไป เนี่ยเซิงเสี่ยวเดินบ่นอยู่ข้างหน้า “ถ้าหากพนักงานของเฉินตงรู้ว่าท่านประธานของพวกเขาก่อเื่แบบนี้ คิดว่าคงจะหัวเราะกันจนฟันร่วง”
“เสี่ยวเสี่ยวเธอยื่นหูมานี่หน่อย ฉันมีเื่จะปรึกษา” เหยียนจิ่งจื้อดึงเธอกลับไป รอยยิ้มบนใบหน้า…ดูชั่วร้ายไปสักหน่อย
ไม่เพียงแค่ชั่วร้าย เนี่ยเซิงเสี่ยวรู้สึกว่าเหมือนมันจะ…หื่นอยู่หน่อยๆ ด้วย
กินเต้าหู้ [1] ภาษาจีนคือ 吃豆腐 หมายถึงการลวนลามหรือแตะอั๋ง