ความจริงแล้วตอนที่เหยียนจิ่งจื้อให้คนขับรถ “ที่มีเทคนิค” ขับไปชนรถของจ้าวหยวนฟาง จินเป้ยน่าก็อยู่ในนั้นด้วย แถมเธอยังเป็แบบที่เนี่ยเซิงเสี่ยวคิดไว้ไม่มีผิด หัวเราะจนฟันจะแทบหลุด
วันนี้คุณลุงคนขับรถเพิ่งจะซื้อหมวกแก๊ปสุดเท่สีดำมาใหม่ก็ดันถูกท่านประธานหยิบจากหัวเอาไปใส่เอง แถมยังไปลักพาตัวเนี่ยเซิงเสี่ยวหนีไปแล้ว
ลุงคนขับรถแสดงออกมาชัดเจนมากว่าหงุดหงิด แต่ในความหงุดหงิดก็มีความรู้สึกผิดหวัง ท่านประธานที่ใครๆ พูดถึงเป็คนที่รักความสะอาดมาก ของของคนอื่น ถ้านับว่ามีคนอื่นเคยจับมาก่อนแต่ก็จะไม่ค่อยชอบใช้เท่าไร แต่ถ้าหากใช้ไปแล้วจริงๆ เช่นนั้นก็จะชอบจนใช้อยู่ตลอดไม่เคยห่างมือ ไม่ก็คือหลงรักเ้าของชิ้นนั้นไปแล้ว
ลุงคนขับรถรู้สึกผิดหวังจริงๆ ของชิ้นนั้นท่านประธานไม่ได้รักจนใช้อยู่ตลอดสักหน่อย หรือว่าจะเป็เหตุผลที่สอง?
เหตุผลที่สอง!
ในตอนที่จินเป้ยน่ามองหน้าที่เหมือนคนท้องผูกของคุณลุงคนขับ แล้วหัวเราะจนท้องแข็งอยู่นั้น ตรงข้ามรถก็มีคนเดินเข้ามาหา บนใบหน้ายังปรากฏรอยแผลถูกกระจกบาดอยู่เล็กน้อย รวมถึงเืที่ไหลซิบๆ ออกมา
จินเป้ยน่าเห็นแล้วยังใ โชคดีที่เป็ผู้ชาย ถ้าหากเป็ผู้หญิงแล้วหน้าถูกบาดแบบนั้นคงเข้ามาหาเื่กันจนถึงที่สุดแน่
เธอเห็นคนคนนั้นเดินมาทางรถพวกเขาแล้ว ก่อนจะเคาะกระจกถาม “ขอถามหน่อยครับ นี่คือรถของ
เหยียนจิ่งจื้อหรือเปล่า”
จินเป้ยน่าที่นั่งอยู่ที่นั่งข้างคนขับไม่ได้พูดอะไรออกมา ในใจคิดว่าไม่เสียแรงที่เป็ศัตรูหัวใจของท่านประธาน ฉลาดใช้ได้ และท่านประธานเองก็ไม่ได้คิดที่จะปิดบังอีกฝ่าย ในตอนนั้นจินเป้ยน่าก็กลับมาอยู่ในท่าทางสงบนิ่งอย่างที่ควรจะเป็ “คุณจ้าวคะ นี่คือรถของประธานเหยียน คุณมีธุระอะไรกับท่านประธานหรือเปล่าคะ?”
ภายใต้ประโยคนั้นคือ คุณอยากได้ผู้หญิงของคนอื่น ยังกล้ามีปากเสียงอีกหรือ?
แต่ที่คาดไม่ถึงคือจู่ๆ จ้าวหยวนฟางก็หัวเราะออกมา ยกมือขึ้นเช็ดาแบนหน้าก่อนจะพูดกับจินเป้ยน่า “ทักทายประธานเหยียนแทนผมด้วยนะครับ”
จินเป้ยน่ามองไปยังแผ่นหลังของจ้าวหยวนฟางแล้วก็รู้ว่าคนประเภทนี้เป็คนที่ไม่ควรมีเื่ด้วย
ในตอนที่กำลังคิดว่าจะรายงานเหยียนจิ่งจื้อดีหรือไม่ คนที่เธอกำลังคิดถึงอยู่ก็โทรศัพท์เข้ามาเพื่อออกคำสั่งเพียงว่า : ซื้อบ้านแถวเขตเมืองเก่า
และยัง้าเป็ห้องชุด มีลิฟต์ และมีเขตชุมชน ประเภทราวๆนั้น
จินเป้ยน่าไม่เข้าใจว่าท่านประธานกำลังคิดอะไรอยู่
ตอนที่เนี่ยเซิงเสี่ยวมาถึงโรงพยาบาล จ้าวหยวนฟางก็ได้มาถึงก่อนนานแล้ว าแบนใบหน้าถูกแปะด้วยพลาสเตอร์จึงทำให้ไม่ได้น่าใเหมือนก่อนหน้านี้แล้ว แต่ก็ยังทำให้เนี่ยเซิงเสี่ยวรู้สึกผิดมากอยู่ดี เป็เพราะว่าผู้ชายขี้งกคนนั้นที่ก่อเื่
“เสี่ยวเสี่ยวมาแล้ว” เหนี่ยวเหนี่ยวโบกมือให้เนี่ยเซิงเสี่ยวที่อยู่ไกลๆ จากนั้นก็ชี้ไปที่จ้าวหยวนฟาง “ลุงจ้าวถูกทำร้าย พวกเราไปแก้แค้นให้ลุงกัน”
จ้าวหยวนฟางไม่ได้ต่อต้านคำพูดของเหนี่ยวเหนี่ยวแล้วมองมายังเนี่ยเซิงเสี่ยวเหมือนกำลังบอกว่า “ใช่ ช่วยฉันแก้แค้นด้วย”
เนี่ยเซิงเสี่ยวกระแอมออกมาสองที ก่อนจะพูดขอโทษจ้าวหยวนฟางเบาๆ แต่เื่อื่นๆ รวมถึงว่าทำไมจู่ๆ ถึงถูกชนหรือทำไมถึงหายตัวไปกระทันหัน เธอไม่คิดจะพูด
“เสี่ยวเสี่ยวขอโทษทำไมเหรอ” เหนี่ยวเหนี่ยวอ้าปากเป็รูปตัวโอก่อนจะพูดออกมา “หรือว่าเสี่ยวเสี่ยวเป็คนทำร้าย!”
เสียงดังเกินไปแล้ว! เนี่ยเซิงเสี่ยวปรายตามองลูกชาย ในใจก็คิดว่า พ่อของลูกไงที่ทำ แน่จริงก็ไปหาเขาสิ
เหมือนเหนี่ยวเหนี่ยวจะเข้าใจอะไรบางอย่างจากสายตาเธอ เมื่อเห็นว่าลุงจ้าวไม่มีปฏิกิริยาอะไร เขาก็คิดว่าโลกของผู้ใหญ่นี่ช่างยุ่งยากจริงๆ
แต่จ้าวหยวนฟางไม่ควรจะไม่มีปฏิกิริยาอะไรสิ หรือว่าเขาเห็นเธอจับมือ “วิ่งหนีไปด้วยกัน” หรือ? เนี่ยเซิงเสี่ยวรู้สึกว่าถ้าหากเธอยังคงเล่นแบบนี้กับเหยียนจิ่งจื้อ ต่อไปคงจะกลายเป็บ้าไปก่อนแน่ โดยเฉพาะที่เขาพูดกับเธอเมื่อครู่....
เลี้ยงดู
สองคำนี้ทำให้เธอโกรธจนแทบบ้า
“ไม่เป็ไร ฉันแค่สะดุดล้มแบบไม่ทันระวังเท่านั้น” หลังจากจ้าวหยวนฟางอธิบายให้เหนี่ยวเหนี่ยวฟังจบแล้วก็ช่วยเขาเก็บของ แต่ดวงตากลับมองไปทางเนี่ยเซิงเสี่ยว
พอกลับมาถึงบ้าน เนี่ยเซิงเสี่ยวก็ทำอาหารมื้อใหญ่มาให้เหนี่ยวเหนี่ยวที่อยู่โรงพยาบาลมานาน บวกรวมกับจ้าวหยวนฟางที่ยังไม่ยอมกลับไปเสียที แถมวันนี้เขาไม่เพียงจะถูกเหยียนจิ่งจื้อ “รังแก” ยังต้องมาเป็คนขับรถฟรีๆ อีก
ดังนั้นการที่เขาจะอยู่กินข้าวที่นี่จึงเป็เื่ที่สมควร
เหนี่ยวเหนี่ยวกัดกระดูกหมูแจ๊บๆ ก่อนจะหันไปถามจ้าวหยวนฟาง “ลุงจ้าว ผมคิดว่าอาหารที่แม่ผมทำอร่อยที่สุดในโลกเลย”
เนี่ยเซิงเสี่ยวที่นั่งอยู่ข้างๆ พอได้ยินก็หน้าแดง เ้าลูกชายคนนี้เหมือนกับพ่อของเขาที่มักจะชอบชมเธอไม่ขาดปาก
จ้าวหยวนฟางหลังจากกินกระดูกหมูจนหมดปากแล้วก็พูดออกมา “ฉันเองก็คิดแบบนั้น”
ในตอนนั้นเนี่ยเซิงเสี่ยวรู้สึกนั่งต่อไปไม่ไหวแล้ว
แถมเหนี่ยวเหนี่ยวยังพูดเสริมมาอีก “ผมคิดว่าเสี่ยวเสี่ยวเป็แม่ที่สวยที่สุดในโลก”
จ้าวหยวนฟาง “ฉันเองก็คิดแบบนั้น”
เนี่ยเซิงเสี่ยวลูบโทรศัพท์ในกระเป๋า ทำไมตอนนี้ถึงได้ไม่มีคนโทรมาหาเธอนะ มันกระอักกระอ่วนเกินไปแล้วจริงๆ
พูดแล้วเหมือนฟ้าจะเป็ใจ ทันทีที่คิดจะเอาโทรศัพท์เก็บกลับไปในกระเป๋า มันก็ดังขึ้นมาจริงๆ
แต่เมื่อมองชื่อคนที่โทรมาแล้วมองไปยังจ้าวหยวนฟางที่นั่งอยู่ตรงข้าม ห้องนี้เล็กเกินไปไม่สามารถป้องกันเสียงได้ ถ้าเธอรับสายนี้จะโกหกกลบเกลื่อนเขายังไงดีล่ะ?
แต่เหนี่ยวเหนี่ยวปีนเข้ามาหาแล้วจิ้มปุ่มรับสายบนหน้าจอ ทั้งยังกดไปโดนปุ่มลำโพงโดยไม่ได้ตั้งใจ เ้าเด็กแสบ!
เสียงทุ้มต่ำของชายหนุ่มดังออกมา “ได้คิดถึงฉันบ้างหรือยัง?”
เนี่ยเซิงเสี่ยวเหมือนถือเผือกร้อนอยู่ เธอรีบสไลด์โทรศัพท์อยู่หลายครั้งถึงจะกดปิดลำโพงได้ เมื่อเห็นท่าทางใของเนี่ยเหนี่ยวเหนี่ยวและจ้าวหยวนฟางแล้ว เธอก็กลืนน้ำไหลเข้าไปอึกใหญ่
วันนี้เหยียนจิ่งจื้อจะต้องกินยาลืมเขย่าขวดแน่ เธอกล้าสาบานได้เลยว่าเขาจะต้องหึงอยู่แน่ๆ ปกติแล้วถึงจะกวนประสาทแค่ไหนก็ไม่มีทางทักเธอด้วยประโยคนี้
เหนี่ยวเหนี่ยวร้อง อา.. ออกมา “แม่ แม่จะคิดถึงใครนะ?” เนี่ยเหนี่ยวเหนี่ยวเริ่มรู้สึกหวงขึ้นมาแล้ว
แต่จ้าวหยวนฟางกลับจ้องไปที่กระดูกหมูตรงหน้าไม่ขยับ อาหารจะอร่อยมากแค่ไหนเขาก็กินไม่ลงแล้ว
“นายพูดอะไรน่ะ?” หลังจากเนี่ยเซิงเสี่ยวปิดลำโพงเสร็จก็ถามคนปลายสาย ความจริงแล้วเธออยากจะถามว่า นายกินยาผิดหรือเปล่า?
ทางด้านเหยียนจิ่งจื้อหัวเราะลั่น “พูดตกไปน่ะ ความหมายของฉันคือเธอได้คิดถึงข้อเสนอที่ฉันส่งไปดีๆ แล้วหรือยัง?”
มีแบบนี้ด้วยหรือ มันไม่ใช่เขียนหรือพิมพ์เอานะ เวลาเขาพูดยังสามารถพูดตกไปหลายคำ แถมยังพูดตกได้ความหมายเพี้ยนไปมาก
และพอนึกถึงข้อเสนอที่เขาพูดในวันนี้ หน้าของเนี่ยเซิงเสี่ยวก็แดงออกมาเล็กน้อย ก่อนจะตอบอีกฝ่ายไปสองคำ ด้วยเสียงหนักแน่น “ยังเลย”
เมื่อเห็นท่าทางใจนิญญาหลุดออกไปของจ้าวหยวนฟาง เนี่ยเซิงเสี่ยวถึงได้รู้ว่าคำว่า “ยังเลย” ของเธอนั้นสามารถทำให้คนเข้าใจผิดคิดว่าเป็การตอบคำถามเมื่อครู่ที่ถามว่า “ได้คิดถึงฉันบ้างหรือยัง?”
แถมยังแฝงไปด้วยความแง่งอน!
เนี่ยเซิงเสี่ยวอยากจะตายจริงๆ
แถมเหยียนจิ่งจื้อก็ยังไม่คิดจะสนใจเธอ ถามกลับมาตรงๆ “แล้วจะไปดูบ้านเมื่อไหร่?”
“พรุ่งนี้ไม่ว่าง” เนี่ยเซิงเสี่ยวจำได้ว่าพรุ่งนี้รับปากกับจ้าวหยวนฟางไว้แล้วว่าจะเป็คู่ควงไปงานเลี้ยงกับเขา
“พรุ่งนี้จะทำอะไร?”
จู่ๆ เนี่ยเซิงเสี่ยวก็รู้สึกว่ากำมุมเสื้อตัวเองแน่นตอนพูดโกหกออกไป “พรุ่งนี้ จะ..จะไปสวนสนุกเด็กกับเหนี่ยวเหนี่ยว”
โชคดีที่พูดกันผ่านโทรศัพท์เหยียนจิ่งจื้อถึงไม่เห็นท่าทางของเธอ ไม่อย่างนั้นคงจะโกหกไม่ได้ แต่เหนี่ยวเหนี่ยวกลับได้ยินแล้ววางถ้วยข้าวกับตะเกียบลงวิ่งเข้ามากอดเธอ สวนสนุกเด็กเหรอ ช่างเป็แม่ที่ดีจริงๆ
“พอดีเลย พรุ่งนี้ฉันเองก็มีธุระนิดหน่อย” ก่อนจะวางสายเหยียนจิ่งจื้อก็กำชับเธอสองสามคำก่อนจะวางสายไป
เนี่ยเซิงเสี่ยวกดวางสายก่อนจะดึงเหนี่ยวเหนี่ยวออกจากตัว “ลูกมากอดแม่ทำไม ร้อน”
“เมื่อกี้เสี่ยวเสี่ยวบอกว่าจะพาผมไปที่สวนสนุกเด็ก ผมดีใจมากเลยนะ” เหนี่ยวเหนี่ยวพูดไปก็จูบไปที่แก้มของเธอ
แต่เขาก็เห็นเนี่ยเซิงเสี่ยวทำหน้ามึนงง จากนั้นก็หันไปถามจ้าวหยวนฟาง “ฉันพูดเหรอ?”
จ้าวหยวนฟางส่ายหน้า “ไม่ได้ยินนะ” แล้วยังพูดต่ออีก “เหนี่ยวเหนี่ยว พรุ่งนี้แม่ของนายจะไปร่วมงานกับฉัน จะพานายไปที่สวนสนุกเด็กได้อย่างไร นายฟังผิดแล้วล่ะ”
แม้แต่ลุงจ้าวคนดีก็ยังพูดแบบนี้ เหนี่ยวเหนี่ยวเกาหัวตัวเอง หรือว่าเขาหูฝาดไปนะ?
เมื่อเห็นท่าทางน่ารักของลูกชายตอนถูกหลอก เนี่ยเซงเสี่ยวก็รู้สึกผิดมาก วางแผนว่าหลังจากผ่านครั้งนี้ไป ไม่ว่าอย่างไรจะคุยกับจ้าวหยวนฟางให้ชัดเจน
เมื่อโกหกไปแล้ว ก็จะถูกเหยียนจิ่งจื้อลงโทษ
เช้าตรู่วันต่อมา เนี่ยเซิงเสี่ยวก็ได้รับกล่องพัสดุหนึ่งกล่อง พร้อมกับหนังสือพิมพ์ที่มาพร้อมกัน เธอจึงหยิบพวกมันกลับบ้านไปพร้อมกันเลย
ตอนที่แกะกล่องออกก็พบว่ามันเป็ชุดงานเลี้ยง ยังไม่ทันได้เดาว่าพี่คนส่งพัสดุส่งของผิดหรือเปล่า เหนี่ยวเหนี่ยวก็ชี้ไปที่รูปภาพบนหนังสือพิมพ์ “เสี่ยวเสี่ยวรีบมาดูนี่สิ อาเหยียนใช่หรือเปล่า!”