หานรุ่ยและจุนเช่อเดินไปถึงทางแยกในหมู่บ้านกันสองคน และพบเฉินเสาอวี่อีกครั้ง เห็นเฉินเสาอวี่มองไปทิศทางของป่า หานรุ่ยพลันเกิดความเบื่อหน่ายในจิตใจ เขาอยากจะเดินอ้อมและจากไปเสียจริง เสียดายที่เฉินเสาอวี่ยืนอยู่ก็คือ...ทางเข้าหมู่บ้านเพียงทางเดียว
“น้องสะใภ้ ที่ยืนอยู่ตรงนั้นคือดอกท้อเน่าๆ มิใช่หรือ?” จุนเช่อพูดกับหานรุ่ย เขาคิดไม่ถึงว่าดอกท้อเน่าๆ จะเซ้าซี้ถึงเพียงนี้
“ใช่ ไม่รู้ว่ารออยู่ที่นี่นานเท่าไหร่แล้ว ดูท่าแล้ว คงรอจับคนทรยศอย่างพวกเรา” หานรุ่ยกล่าว ดูเหมือนเฉินเสาอวี่ไม่ได้เอาคำพูดตนเองมาใส่ใจเลย
“ดังคำที่ว่ากินอิ่มแล้วก็ไปซะ ไม่มีเวลาว่างทำเื่ไร้สาระหรอกนะ ดูเหมือนที่ข้าบอกว่าข้าเป็ลูกผู้พี่ของเ้า เขาจะไม่เชื่อนะ” จุนเช่อเอ่ยขึ้น เขาไม่เคยเจอซวงเอ๋อร์ที่ไร้เหตุผลและเซ้าซี้เช่นนี้
“เชื่อน่ะสิแปลก หากเขาเชื่อ คงไม่ยืนอยู่ตรงนั้นหรอก” หานรุ่ยเอ่ยขึ้น ทั้งสองคนพูดพลางเดินไปหยุดเบื้องหน้าของเฉินเสาอวี่ และรีบหุบยิ้มบนใบหน้าทันที
“เฉินเสาอวี่ เ้ามายืนอยู่ตรงนี้ทำไม ไม่ใช่ว่ารอข้าหรอกนะ หากรอข้าอยู่ ยามนี้ข้ากลับมาอย่างปลอดภัยแล้ว เ้าไปได้แล้ว ข้าไม่มีอะไรจะพูดกับเ้า ข้าไม่ได้พูดไปแล้วหรือ? สุนัขที่ดี ย่อมไม่ขวางทาง ให้ทางด้วย” หานรุ่ยกล่าวอย่างไร้ความรู้สึก เขาใกล้จะถูกเฉินเสาอวี่ทำให้กระอักตายแล้ว
“ใช่ ข้ามารอเ้าที่นี่ ข้าแค่อยากจะเห็นว่าชู้รักอย่างพวกเ้า จะอยู่ด้วยกันนานแค่ไหน คาดไม่ถึงว่าเ้าจะไปถึงสามวันสามคืน คงมี่เวลาที่ดีกับชายโง่เง่าล่ะสิ” เฉินเสาอวี่พูดอย่างเกรี้ยวกราด เขารอหานรุ่ยอยู่ที่นี่มาสามวันสามคืนแล้ว และตอนนี้การรอคอยของเขาก็สิ้นสุด
“ดูแลปากเ้าให้สะอาดหน่อย ข้าไม่อยากจะต่อยเ้าที่นี่หรอกนะ” หานรุ่ยพูดอย่างไม่เกรงใจ ตอนนี้เขาไม่อาจควบคุมอารมณ์ของเขาได้ สองปีกว่ามานี้ เฉินเสาอวี่จะยั่วยุเขาเป็ครั้งคราว ต้องพอได้แล้ว
“เ้ามันลับลอบคบชู้ กล้าทำแต่ไม่กล้ารับ” เฉินเสาอวี่กล่าวอย่างยโสโอหัง ชื่อเสียงของซวงเอ๋อร์นั้นสำคัญมาก ยิ่งเฉินเสาอวี่เห็นผู้คนรวมตัวกันมากขึ้นเรื่อยๆ ยิ่งพูดเสียงดังว่า “หานรุ่ย จุนห่าวดีต่อเ้าถึงเพียงนี้ เ้ากล้าทำเื่แบบนี้ ไม่ละอายใจต่อจุนห่าวบ้างหรือ? จุนห่าวรู้เข้าจะต้องเศร้ามากเป็แน่”
หลังจากได้ยินคำพูดของจุนห่าว ผู้คนรอบๆ เริ่มซุบซิบนินทา คนหนุ่มคนแรกกล่าว “ภรรยาชายของตระกูลจุนผู้นี้ไร้ยางอายจริงๆ ถึงกล้าทำเื่ลับหลังจุนห่าวเช่นนี้ จุนห่าวรูปงามกว่าชายชู้คนนี้นัก”
ชายวัยกลางคน คนที่สองกล่าว : อย่าพูดไร้สาระ ข้าคิดว่าต้องเป็เื่เข้าใจผิดแน่ ความสัมพันธ์ของจุนห่าวและภรรยาชายของเขาดียิ่งนัก อีกทั้งภรรยาชายคนนี้ก็ดูมิใช่คนเช่นนั้น
คนหนุ่มคนแรกกล่าว : ข้ากลับเห็นว่าเขาเป็คนเช่นนั้น ตัวเองหน้าตาขี้เหร่ ยังออกมาทำให้คนอื่นใ บัดนี้ยังกล้าทำเื่เช่นนี้ ไร้ยางอายเสียจริง ถ้าให้ข้าพูดก็คือ ขี้เหร่แล้วยังทำตัวน่ารังเกียจ
ชายหนุ่มอีกคนหนึ่งกล่าว : จุนห่าวรูปงามหล่อเหลาถึงเพียงนั้น มีเพียงเฉินเสาอวี่ ซวงเอ๋อร์ที่งดงามที่สุดในหมู่บ้านของเราถึงจะคู่ควร หากหานรุ่ยรู้จักประมาณตน ก็ควรเป็ฝ่ายลาจากจุนห่าวไปเสีย”
คนหนุ่มคนแรกกล่าว : ข้าก็คิดแบบนี้เช่นกัน หานรุ่ยก็งั้นๆ อ่ะ จะเทียบอะไรกับเฉินเสาอวี่ได้ พ่อของเขาเป็ถึงผู้ใหญ่บ้านของเรา เป็คนที่มีพลังปราณสูงที่สุดในหมู่บ้านแล้ว
ชายวันกลางคน คนที่สองได้ฟัง พอจะเข้าใจแล้ว ทว่าเขาไม่อยากมีส่วนร่วมกับเื่ของคนหนุ่มสาว ส่ายหน้าเดินไป พลางคิดใจใน คนในหมู่บ้านอ่านความคิดของเฉินเสาอวี่ออก เขาพูดได้เพียงว่าเฉินเสาอวี่ไม่เจียมเนื้อเจียมตัว แค่เห็นจุนห่าวก็รู้ว่าผ่านโลกกว้างมามาก จะพอใจเฉินเสาอวี่ ซวงเอ๋อร์ในหมู่บ้านแห่งนี้ได้อย่างไร
