ภายในห้องเงียบสงัด ได้ยินเพียงเสียงลมหายใจที่ไม่มั่นคงของกันและกัน หลังจากนั้นไม่นาน เหยียนชิงก็ได้แต่พูดอย่างจนใจ
“เ้าเป็เช่นนี้ ข้าจะหลับได้อย่างไร?”
“…” คนที่กอดเขาผ่านผ้าห่มจากด้านหลังไม่พูดไม่จา
“ซูหาน? ”
เขาไม่เชื่อว่าเว่ยซูหานจะหลับไปแล้วจึงแอบหันกลับมามอง ท่ามกลางแสงสลัวๆ เขาสบตากับชายหนุ่ม ราวกับมีประกายไฟ รู้สึกหายใจติดขัด สุดท้ายก็ถามออกไปด้วยน้ำเสียงแ่เบา
“เ้า… ปล่อยมือข้าได้หรือไม่? ”
บรรยากาศระหว่างพวกเขาดูแปลกพิกล
“ทำไมรึ? ” เว่ยซูหานถามกลับ พร้อมส่งมือมาแนบชิดกับแก้มร้อนผ่าวของเขา
“พวกเราแต่งงานกันแล้ว ข้าเป็ภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมายของเ้า การััใกล้ชิดระหว่างพวกเรามันเป็เื่ธรรมชาติมิใช่หรือ?”
“พวกเราแค่…”
“ข้าไม่อยากได้ยินคำพูดหลอกลวง หรือได้ยินเ้าพูดว่าแค่แต่งงานแทนด้วย”
น้ำเสียงเว่ยซูหานพลันแข็งกระด้างขึ้นมา มีเพียงผ้าห่มบางๆ คั่นไว้ทำให้ขยับตัวไม่ได้ หน้าผากเขาก้มลงแนบกับหน้าผากของเหยียนชิง พูดอย่างจริงจังทีละคำ
“พวกเราแค่คนที่เข้ามาเกี่ยวข้องกัน สิ่งที่เ้าควรคิดคือชีวิตและความรู้สึกของพวกเราในอนาคต เื่อื่นๆที่ไม่สำคัญก็ไม่ต้องไปคิด เ้าแต่งงานกับข้า ไม่ใช่ต้องรับผิดชอบข้าหรอกหรือ”
“…” เหยียนชิงไม่สามารถโต้แย้งได้ แต่เหตุใดคำพูดนี้ถึงฟังดูรู้สึกไม่สมเหตุสมผลเอาเสียเลย
เว่ยซูหานบีบมือของเขาเบาๆ “เหงื่อออกเต็มฝ่ามือหมดแล้ว เ้ากลัวข้าหรือ? ”
“ไม่ใช่”
เขาแค่ประหม่าเฉยๆ พูดไม่ได้ว่ากลัว เกิดมาสองชาติแล้ว ผ่านความเป็ความตายมาก็มาก มีอะไรให้ต้องกลัวอีก เพียงแต่ความรู้สึกตอนนี้ของเขาไม่สามารถรับมือได้ง่ายๆ บางทีชาติก่อนของเขา ตอนที่อยู่ในตระกูลเหยียน เว่ยซูหานรู้สึกว่าตนต้องอดทนต่อความอัปยศอดสูและซื่อสัตย์ อิสระตอนนี้จึงทำให้เขาไม่อาจต้านทานไหว
“เ้ายอมรับผู้ชายไม่ได้รึ”
เว่ยซูหานถามอีกครั้ง เขาไม่แน่ใจเกี่ยวกับเื่นี้ ในชาติก่อนมีตระกูลใหญ่โตมากมายที่อยากจะแต่งงานกับเหยียนชิง แม้ภายหลังจะเกิดความขัดแย้งกับตระกูลเหยียน แต่คนที่เหยียนชิงได้ััล้วนเป็คุณหนูตระกูลใหญ่ จึงไม่รู้ว่าเขามีทัศนคติอย่างไรกับผู้ชาย
“ไม่ใช่”
เหยียนชิงปฏิเสธอีกครั้ง รู้สึกว่าใบหน้าร้อนรุ่ม ในแคว้นเทียนซู ผู้ชายได้รับความนิยมมาแต่ไหนแต่ไร หากยอมรับสตรีได้ ย่อมยอมรับบุรุษได้เช่นกัน แต่ไม่ว่าจะเป็ก่อนหน้านี้หรือปัจจุบัน เขาไม่เคยได้คิดถึงเื่ความชอบส่วนตัวนี้อย่างจริงจัง
“แล้วทำไมรึ?”
เว่ยซูหานใช้มือลูบไล้ใบหน้าเขา
“หรือว่าเป็เพราะรู้สึกอายที่แต่งงานแทน หรือคิดว่าตัวเองโดนเอาเปรียบ? ”
เหยียนชิงปัดมือเขาออกและหันหน้าไปอีกด้าน
“เ้าเกิดในตระกูลที่มีชื่อเสียง ตระกูลเหยียนกับตระกูลเว่ยคบกันมาหลายชั่วอายุคน ให้เ้าแต่งเข้าตระกูลเหยียน คือวิธีการโง่เง่าที่ท่านพ่อทำเพื่อช่วยเ้า ข้าก็ไม่ใช่คนไร้เหตุผลเช่นนั้น ข้าจะช่วยเ้าสืบเื่ของตระกูลเว่ย ให้ตระกูลเ้าหายคับข้องหมองใจ ดังนั้น เ้าไม่จำเป็ต้องก้มหัวให้ใคร”
ถ้าหากเขาจะทำอะไรเว่ยซูหานจริงๆ จะต่างอะไรกับการกระทำของเหยียนิฮ่วนในชาติก่อน ลูกหลานตระกูลขุนนางหยิ่งยโสอยู่แล้ว โดยเฉพาะเว่ยซูหานที่เกิดในตระกูลทหาร ถ้าใช้ชีวิตเป็ภรรยาชายธรรมดาคงยอมรับไม่ได้แน่นอน
เว่ยซูหานได้ยินดังนั้นก็เข้าใจ มุมปากยกยิ้มขึ้นก่อนถาม
“ผู้ที่ต้องก้มหัวให้ หมายความว่าอย่างไร หืม? ”
เป็ไปได้ไหมว่าคนนี้อยากจะข่มขู่เขา? ความคิดช่างน่ารักเหลือเกิน
“เ้า… เ้าอย่าทำเป็แกล้งโง่หน่อยเลย ก่อนแต่งงาน ต้องมีคนบอกกับเ้าแล้ว”
ภรรยาควรประพฤติตัวอย่างไร กฎเหล่านี้ เื่ก่อนแต่งงานย่อมมีคนคอยชี้แนะหรือถ่ายทอดให้ แม้ว่าสถานการณ์ของเว่ยซูหานจะพิเศษเพราะเป็ผู้ชายเหมือนกันก็ยังไม่มีข้อยกเว้น ่แรกพี่ใหญ่ก็ถูกมารดาเชิญแม่นมมาให้คำชี้แนะไม่น้อย
“ข้าไม่ได้แกล้งโง่” เว่ยซูหานหัวเราะเบาๆ “ชิงเอ๋อร์กำลังพูดถึงวิชาในห้องหออย่างนั้นหรือ? ”
แม้อายุยังน้อย แต่ช่างเขินอายได้น่ารักเสียจริง
เหยียนชิงไม่พูดไม่จาเหมือนเป็การยอมรับในสิ่งที่เขาพูด
หลังจากนั้นไม่นาน เว่ยซูหานก็ถอนหายใจเบาๆ
“ข้าย่อมรู้อยู่แล้ว มิเช่นนั้นในห้องหอคงเสียมารยาทไปแล้วมิใช่รึ”
เขาไม่เพียงแต่รู้เท่านั้น แต่ยังมีประสบการณ์มากมาย แม้ว่าเหตุผลจะทำให้เขาอยากจะฆ่าคนก็ตาม!!
ชาติที่แล้วเขาเกลียดชังเื่บนเตียงมาก แต่ตอนนี้เมื่อต้องเผชิญหน้ากับเหยียนชิง ในใจกลับเต้นแรงอย่างห้ามไม่อยู่ อยากจะได้ใกล้ชิดกับเขามากยิ่งขึ้น
เหยียนชิงกัดริมฝีปาก “ในเมื่อเข้าใจก็ดีแล้ว… ข้าไม่ใช่ท่านพี่ ข้าไม่้าให้เ้าทำอย่างนั้น…”
ด้วยสภาพของเขาในตอนนี้ เขาไม่สามารถเอาชนะเว่ยซูหานได้
“ฮา…”
เว่ยซูหานพลันหลุดหัวเราะออกมา คนผู้นี้เข้าใจผิดจริงๆ มือใหญ่ของเขาจับใบหน้าเหยียนชิงอีกครั้งให้หันมาเผชิญหน้ากับเขา
“เ้าเป็เช่นนี้ ใครเอาเปรียบใครก็ใช่ว่าจะ…”
คนที่ได้เปรียบคือเขาต่างหาก ์คงชดใช้ให้ การเกิดใหม่ครั้งนี้จึงทำให้เขาได้อยู่กับคนที่เขาคิดถึง
เหยียนชิงจ้องเขม็งไปที่เขาอย่างไม่พอใจแต่คนที่กลั้นหัวเราะไว้มองเขาด้วยแววตาเป็ประกาย ความร้อนแรง และความเสน่หาในดวงตาไม่อาจเก็บซ่อนได้ แค่ถูกมองก็ทำให้หัวใจเขาเต้นแรงแล้ว แม้เว่ยซูหานจะก้มหน้าลงจูบริมฝีปากเขาเพื่อหยั่งเชิง เขาก็ลืมที่จะหลีกเลี่ยง ััที่ไม่คุ้นเคย และลมหายใจที่ร้อนระอุทำให้หัวสมองของเขาว่างเปล่า
หัวใจของเว่ยซูหานเต้นรัวเร็วราวกับกลอง หลังจากลองแล้วไม่ถูกปฏิเสธจึงมีความกล้ามากขึ้น เขามือลูบแก้มเหยียนชิงเบาๆ ก่อนถามเสียงแหบพร่า
“ชิงเอ๋อร์ไม่เข้าใจ ข้าจะสอนเ้า ดีหรือไม่?”
“ไม่ อื้ออ…” เหยียนชิงอยากจะปฏิเสธ แต่เว่ยซูหานกลับกดตัวลงมาอย่างแข็งกร้าว
“ใจเย็นๆ ไม่ต้องกลัว ข้าจะไม่ทำอะไรเกินเลย แค่อยากใกล้ชิดกับเ้าเท่านั้น…”
กอดคนผ่านผ้าห่มรู้สึกไม่ค่อยดีเท่าไร แต่เหยียนชิงเหงื่อแตกพลั่กทำให้เขาอดหวาดหวั่นในใจไม่ได้ จำต้องหยุดความปรารถนาเอาไว้ให้ได้
เหยียนชิงที่สมองสับสนคิดมาตลอดว่าเว่ยซูหานมีบางอย่างผิดปกติ แต่ก็ไม่รู้ว่าผิดปกติที่ตรงไหน จนกระทั่งโดนจูบแบบไม่ลืมหูลืมตา เขาถึงนึกขึ้นได้ว่า พวกเขาเป็แบบนี้ ราวกับสลับตำแหน่งกันอยู่ ภรรยาเขาเป็ฝ่ายรุกแบบนี้ ดูท่าจะไม่ดีเสียแล้ว