เว่ยซูหานยังคงกอดคนใต้ผ้าห่มไว้ รู้สึกพึงพอใจดั่งหวัง เหยียนชิงหลับตาลง ขนตาสั่นระริก อาจเป็เพราะความเขินจึงทำได้แต่กัดริมฝีปากซ้ำไปซ้ำมา โชคดียิ่งนักที่ได้ใกล้ชิดกับใบหน้าอ่อนเยาว์ของเหยียนชิง ช่างดีเหลือเกิน
ชาติก่อน การพบกันระหว่างเขากับเหยียนชิงที่ตระกูลเหยียนในบางครั้ง คนผู้นี้ล้วนมีท่าทางห่างเหินอยู่บ้าง เพียงพูดคุยกันธรรมดาแค่ไม่กี่คำ แต่กลับให้เฉินเซียงคอยช่วยเขาอยู่อย่างลับๆ …
“ซูหาน”
ผ่านไปสักพัก คนที่อยู่ในอ้อมแขนก็เอ่ยด้วยน้ำเสียงทุ้มแหบพร่าด้วยความเขินอายและลังเลอยู่บ้าง
เว่ยซูหานดึงสติกลับมาและก้มหน้าลงถาม “หืม?”
เหยียนชิงเงยหน้าขึ้น “ทำไมถึงชอบข้า? ”
เว่ยซูหานจ้องเขาอยู่สักพักก่อนจะตอบ “ความรัก… ไม่รู้ว่ามันเกิดขึ้นเมื่อใด แต่กลับรักใคร่อย่างสุดซึ้ง”
คิดไปคิดมาก็เอ่ยเสริมด้วยน้ำเสียงสับสน
“บางทีอาจจะชอบั้แ่ชาติก่อน… เหยียนชิง เื่ของตระกูลเว่ย ข้าจะไม่ปล่อยให้เ้าต้องลำบากใจ”
ชอบเหยียนชิงั้แ่เมื่อใด เขาก็พูดได้ไม่แน่ชัดเหมือนกัน บางทีอาจเป็เพราะได้รับความช่วยเหลือเล็กน้อยนานัปการ ความรักจึงค่อยแทรกซึมเข้ามา จากความใจดีและอ่อนโยนของคุณชายรองแห่งตระกูลเหยียนไปจนถึงความเฉลียวฉลาดกับความแข็งแกร่งของราชครูองค์ชาย อาจกล่าวได้ว่าเหยียนชิงเป็แสงสว่างที่สาดส่องในชีวิตอันดำมืดของเขามาก่อน
คำว่าในชาติก่อนสามคำนี้ ทำให้เหยียนชิงรู้สึกมึนงงไปชั่วขณะ ริมฝีปากขยับเล็กน้อยแต่ท้ายที่สุดก็ไม่ได้กล่าวอะไรออกมา เขาหาวออกมาด้วยความง่วงนอน ผลักคนออกไป หลับตาลงแล้วหันไปด้านข้าง
“ดึกมากแล้ว นอนกันเถอะ”
“ได้”
ครั้งนี้เว่ยซูหานไม่ได้เข้ามาแนบชิด เขาอยู่อย่างสงบเสงี่ยม วันที่สองของการแต่งงานจึงยังไม่อยากจะรีบร้อนเท่าไรนัก
นับเป็คืนที่ไม่ค่อยสงบสุขเท่าไร เช้าวันถัดมา เว่ยซูหานตื่นแต่เช้าเพื่อฝึกวิชา พอก้าวเท้าออกจากห้องไปแล้ว เหยียนชิงก็รีบร้อนลุกขึ้นตาม เขารีบจัดการตัวเองด้วยความมือไม้อ่อนไปหมด ก่อนจะหนีกลับหอชิงเฟิงอย่างทุลักทุเล เขาสั่งให้เฉินเซียงเตรียมอ่างอาบน้ำในห้องอาบน้ำด้วยสีหน้าที่แสนเหนื่อยล้า แม้จะห่มผ้าห่มไว้ทั้งคืน และแม้ว่าตอนกลางคืนจะค่อนข้างหนาวแต่เมื่อถูกเว่ยซูหานกอดไว้เขาจึงเหงื่อออกท่วมทั้งตัว
“คุณชาย… ้าสิ่งใดอีกหรือไม่เ้าค่ะ? ”
ในที่สุดเฉินเซียงก็พิจารณาคำพูดและสังเกตสีหน้าของเขาออก เมื่อเห็นปฏิกิริยาที่ผิดปกติของเหยียนชิง นางนึกถึงคำสั่งที่ฮูหยินเรียกนางไปเมื่อคืนวานนี้ หากคุณชายไม่สบายหลังจากอยู่ห้องเดียวกับฮูหยิน นางต้องคอยปรนนิบัติอย่างระมัดระวัง หายาขี้ผึ้งพิเศษมอบให้ฮูหยินน้อยให้เขาดูแลคุณชายเป็พิเศษ
ตอนนี้เมื่อได้เห็นท่าทางของเหยียนชิง แววตานางจึงเต็มไปด้วยความคลุมเครือ เหยียนชิงไม่รู้ว่านางหมายถึงอะไร เขานวดขมับและส่ายหัว
“ไม่มีแล้ว เ้าไปบอกหลินชวนที่เรือนเซียวเหยา แจ้งให้เว่ยซูหานไปทานอาหารเช้ากับท่านแม่ จากนั้นรบกวนให้ท่านแม่บอกลุงฝูให้จัดการพาเขาไปทำความคุ้นเคยกับงานภายในจวน แค่บอกว่าข้าสั่ง…ไปเถอะ”
ด้วยวิธีนี้เว่ยซูหานจะได้ไม่มีเวลาว่างมาหาเขา แม้ไม่ได้รังเกียจความรู้สึกตรงๆ ของเว่ยซูหานที่มีต่อเขาและมีความรู้สึกดีใจเล็กๆ แต่ว่าเขา้าเวลาเล็กน้อยเพื่อจะจัดการกับความรู้สึกของตัวเอง โศกนาฏกรรมของชาติก่อนยังคงอยู่ในความทรงจำ เขายังจัดการตัวเองไม่ได้จึงรีบปลีกตัวออกมาก่อน
“เ้าค่ะ บ่าวขอตัวแล้วเ้าค่ะ”
เฉินเซียงถอยออกไป ตอนที่ปิดประตูนางก็ใช้มือปิดปากหัวเราะเบาๆ การหลบหน้าแบบนี้มันช่างชัดเจนเกินไปแล้ว ฮูหยินคนใหม่เข้าจวนได้ไม่ถึงสามวัน ไหนเลยจะเดินไปทั่วทั้งจวนได้ ยิ่งไปกว่านั้นยังไม่มีสามีมาคอยดูแล ช่างมันเถอะ ไปคุยกับฮูหยินดีกว่า ถือโอกาสเอายากอเอี๊ยะไปให้ฮูหยินน้อยแล้วสนับสนุนให้เขาดูแลคุณชายให้ดีๆ
เมื่อเหยียนชิงออกมาจากห้องอาบน้ำ ไม่เห็นเฉินเซียง และอิ้งหลีที่รออยู่ด้านนอก แต่กลับพบเว่ยซูหานยืนยิ้มอยู่หน้าประตู และดูเหมือนว่าเขาจะมารออยู่นานแล้ว สวมชุดคลุมสีเขียว เรือนร่างดูหล่อเหลาสง่างาม
“เ้าเข้ามาทำไม?”
เหยียนชิงรู้สึกกระอักกระอ่วนเล็กน้อย เหมือนกำลังหนี ก่อนจะถูกจับได้
เว่ยซูหานนึกถึงคำพูดที่เฉินเซียงพูดเมื่อสักครู่ รวมถึงสิ่งของที่มอบให้แก่เขา รอยยิ้มที่มุมปากของเขาค่อนข้างลึกซึ้ง และคาดเดาไม่ได้
“ชิงเอ๋อร์ เฉินเซียงบอกว่าเ้าท่าทางดูเหมือนไม่ค่อยสบายจึงให้ข้าเข้ามา ชิงเอ๋อร์ เ้าเป็เช่นไรบ้าง?”
“ข้าไม่เป็ไร…” เหยียนชิงรู้สึกสับสนเล็กน้อย “แค่นอนไม่หลับ ง่วงนอน ได้อาบน้ำเสียหน่อยก็สบายขึ้นแล้ว”
เฉินเซียงคนนี้ ช่างละเอียดอ่อนเหลือเกิน เฮ้อ สาวใช้ผู้นี้ชาติก่อนก็เป็เช่นนี้
“อ้อ…” เว่ยซูหานพยักหน้า “ข้านึกว่าเ้าจงใจหลบหน้าข้าเสียอีก”
ย่อมต้องเป็แบบนั้นไม่ใช่หรือ? เหยียนชิงคิดอย่างหดหู่เล็กน้อย แต่จะโมโหก็ไม่ได้ จึงทำได้เพียงส่ายหัว
“ไม่ใช่ เ้าไม่ใช่ภูตผีปีศาจเสียหน่อย เหตุใดต้องหลบหน้าเ้าด้วย ข้าแค่ง่วงนิดหน่อย อีกทั้งยังมีธุระที่ต้องจัดการเลยรีบกลับมาที่นี่ ดังนั้นเ้าไปทานอาหารเช้ากับท่านแม่เสียเถอะ ข้าไม่ได้ไปด้วยหรอก”
เว่ยซูหานยิ้ม “ท่านแม่ให้ข้าอยู่เป็เพื่อนเ้า”
เขาไม่จำเป็ต้องขอให้คนอื่นช่วย ในเมื่อเฉินเซียงเข้าใจบางเื่ผิดไปเรียบร้อย ฮูหยินเหยียนเองก็ยังให้ป้าจูมาบอกให้เขามาดูแลเหยียนชิงให้ดี ไม่ว่าร่างกายหรืออะไรก็แล้วแต่ ที่ควรบำรุงก็ต้องบำรุงสินะ
เหยียนชิงหมดอารมณ์แล้ว เขาหันหลัง จากนั้นเดินเข้าไปในห้องโถงด้านข้างเพื่อรับประทานอาหารเช้า
หลังจากทานอาหารเสร็จเรียบร้อย เหยียนชิงก็พูดอย่างอ้อมค้อมว่ามีธุระสองเื่ที่ต้องจัดการ เว่ยซูหานย่อมรู้ว่าเขาอยากจะอยู่คนเดียว คิดถึงปฏิกิริยาของเขาเมื่อคืนแล้ว รู้ว่าเหยียนชิง้าเวลาคิดอย่างจริงจังเกี่ยวกับเื่ระหว่างพวกเขา เลยไม่แกล้งเขาอีก เขาลุกขึ้นกำลังจะกลับไปที่เรือนเซียวเหยา ตอนนี้ถือโอกาสไปคุยกับพวกหลินชวนที่เรือนหลังใหม่ของเขาด้วย
แต่เมื่อเขาลุกขึ้นและเดินไปที่ประตู อิ้งหลีที่สวมชุดเรียบร้อยสง่างามก็เดินเข้ามา หลังจากทำความเคารพแล้วก็รายงานเื่กับเหยียนชิง
“คุณชายิฮ่วนพาสหายมาเยี่ยมเยือนขอรับ แจ้งว่าอยากที่จะทำความรู้จักกับฮูหยินคนใหม่สักหน่อย ตอนนี้ก็รออยู่หน้าห้องโถงแล้ว”