หลังจากผ่านไป 10 นาที ประตูห้องเปิดออกอีกครั้ง ฉินหลางตาค้างด้วยความตกตะลึง
เถารั่วเซียงสวมชุดเดรสลายดอกตัวเล็กๆ เผยให้เห็นเรียวขาขาวสวยเรียบเนียน กับรองเท้าส้นสูงสีขาวขุ่น ผมยาวนุ่มลื่นปล่อยพลิ้วสลวยไปตามเรือนร่างอย่างเป็ธรรมชาติ แม้จะเป็การแต่งตัวที่สบายๆ แต่ก็ไม่ได้ทำให้เสน่ห์ของเธอลดน้อยลงไปเลย แสงแดดอ่อนๆ ส่องผ่านเข้ามาทางระเบียง ทำให้เถารั่วเซียงตอนนี้เสมือนดอกไม้ที่กำลังผลิบานอยู่ภายใต้แสงแดด
อันที่จริง เถารั่วเซียงตอนไม่ได้ใส่ชุดทำงาน สวยจนแลตะลึงมากขนาดนี้!
ฉินหลางชื่นชมในสายตาของตนเองด้วยความภูมิใจ ดูไปแล้วเถารั่วเซียงไม่เพียงแต่สามารถทำให้คนเห็นเพียงชั่วพริบตาเดียวแล้วใจสั่นได้เท่านั้น ยังเป็ผู้หญิงที่ยิ่งมองยิ่งมีรสชาติด้วย
“มองอะไรนักหนา ไม่เคยเห็นคนสวยรึไง?”
“ฮึ” เถารั่วเซียงเบะปาก ริมฝีปากที่เผลอได้รูปยกขึ้น เป็ความขี้เล่นที่แอบซ่อนในความเซ็กซี่
ทันทีที่พูดจบ เถารั่วเซียงก็ตระหนักได้ทันทีว่าตนเองมีฐานะเป็อาจารย์ของเขา การกระทำดังกล่าวนั้นไม่เหมาะสม แต่นั่นก็เพราะว่าความรู้สึกที่รบกวนจิตใจเธออยู่นั้นได้หายไปแล้ว ตอนนี้เธอจึงอารมณ์ดีมากเป็พิเศษ
“คนสวยก็เคยเห็นมาไม่น้อย แต่คนสวยแบบน้าเถานี่ ในโลกนี้มันหาเจอได้ยาก” ฉินหลางตอบพลางหัวเราะ
“ปากดีให้น้อยๆ หน่อย!” เถารั่วเซียงถอนหายใจก่อนพูดขึ้น “ไม่ต้องเรียกฉันว่าน้าเถาหรอก ก่อนหน้านี้ฉันแค่ล้อเล่น เธอเรียกฉันว่าอาจารย์เถาเหมือนเดิมจะดีกว่า”
“ได้ไงครับ!” ฉินหลางพูดขึ้นด้วยท่าทีจริงจัง “นักเรียนทั้งห้องต่างก็รู้ว่าครูเป็น้าสาวของผมแล้ว ในเมื่อคำพูดโกหกมันได้กลายเป็เื่จริง ผมว่าเราก็อย่าไปอธิบายหรือเปลี่ยนแปลงมันหรอกครับ”
“แล้วแต่เธอละกัน” เถารั่วเซียงกล่าว “ยังไงก็ถือว่าเธอได้ช่วยแก้ไขไปหนึ่งปัญหาใหญ่ คืนนี้อยากกินอะไร?”
ฉินหลางกล่าวในใจว่าผมอยากกินน้า แต่คำพูดนี้ไม่ว่ายังไงเขาก็ไม่กล้าพูดมันออกไป จึงพูดไปเพียงคำเดียว “แล้วแต่”
ความจริงแล้วเถารั่วเซียงอยากรีบไล่ฉินหลางกลับไป ทว่านั่นไม่ใช่เพราะเธอเกลียดเขา แต่ด้วยความที่เธอเป็คนสวยที่มีผู้คนมาตามจีบอยู่เป็ประจำ ทำให้เธอรู้สึกได้ว่าการที่เธอยังอยู่กับฉินหลางต่อ มันค่อนข้างจะอันตราย ยิ่งไปกว่านั้น วันนี้เป็วันแรกที่เธอได้พบกับฉินหลาง แต่ทั้งคู่กลับมีความสนิทสนมกันได้เร็วมากขนาดนี้ มันสนิทกันมากจนเกินไป ฉะนั้นเถารั่วเซียงจึงต้องรีบดึงระยะห่างของทั้งคู่ออก จะได้ไม่เกิดปัญหา
ทว่าฉินหลางกลับไม่ได้คิดอย่างนั้น สำหรับฉินหลางแล้ว การเสี่ยงดวงของเขาวันนี้ เขาเสี่ยงถูกแล้ว เพราะไม่ว่าอาจารย์เถาจะประทับใจกับการกระทำวันนี้ของเขาหรือไม่ก็ตาม เขาก็จะถูกจารึกไว้ในความทรงจำของเธอแน่นอน ต่อจากนี้ เขาเพียงต้องใช้เวลาระหว่างทานข้าวมื้อนี้ ทำให้เธอประทับใจ
อาจเป็เพราะเหตุการณ์วันนี้เดินหน้าได้อย่างราบรื่นจนเกินไป จน์ไม่พอใจ ฉะนั้นจึงลิขิตให้โชคร้ายของฉินหลางได้เริ่มต้นขึ้น
ฉินหลางกับเถารั่วเซียงเพิ่งเดินตามกันลงมาจากตึก ก็พบกับอาจารย์ซุนปอ อาจารย์วิชาภาษาอังกฤษที่กำลังเดินตรงเข้ามา นอกจากนี้ยังมีดอกไม้ช่อเล็กๆ ในมือ
เห็นดังนั้น ฉินหลางสบถออกมาหนึ่งคำอย่างเหลืออด “มารดาเถอะ!”
ดูเหมือนว่าอาหารมื้อนี้จะมีปัญหาแล้ว!
ซุนปอที่อยู่ในชุดสูทสุดเนี้ยบ ขนาดผมยังเงางามราวกับเคลือบเงาด้วยยาขัดรองเท้า บวกกับรูปร่างที่สูงราวร้อยแปดสิบของเขา แถมปริปากพูดทียังเป็ภาษาอังกฤษที่ทันสมัยอีกด้วย สำหรับผู้หญิงแล้วจึงค่อนข้างที่จะมีเสน่ห์ ฉินหลางรู้มาจากปากของจ้าวกันว่ามีคนจำนวนไม่น้อยในโรงเรียนชีจงที่แอบชอบอาจารย์ซุน บางคนถึงขั้นเขียนจดหมายรักให้เขา แต่จากคำพูดของจ้าวกันแล้ว ผู้หญิงเหล่านี้ล้วนมาจากยุคเดียวกัน—ยุคจูราสสิค
อยู่ๆ ก็โผล่ขึ้นมากลางทาง ต่อให้ซุนปอจะเป็อาจารย์ประจำชั้นคนใหม่ของฉินหลาง เขาก็ไม่เคยคิดที่จะถอย
ดั่งคำที่ว่าคนที่มีความแค้นที่ฆ่าพ่อ หรือความเกลียดที่แย่งเมียจะอยู่ร่วมโลกกันไม่ได้ ในสายตาฉินหลางนั้น เถารั่วเซียงเป็ “เมียในอนาคต” ที่ตนได้กำหนดไว้ อย่าว่าแต่เป็อาจารย์ประจำชั้น ต่อให้ซุนปอเป็เง็กเซียนฮ่องเต้ก็ไม่ได้!
แต่ฉินหลางไม่รู้ตัวเลย ในสายตาของซุนปอ ฉินหลางเองต่างหากที่เป็ก้างขวางคอ
“อาจารย์ซุน ดอกกุหลาบช่อนี้ของครูไม่เลวเลย”
ฉินหลางพูดไปยิ้มไป “ไม่ได้เก็บมาจากสวนเล็กที่อยู่ในตึกเรียนใช่ไหมครับ เมื่อกี้นี้ตอนที่พวกผมเดินผ่านตรงนั้น ได้ยินตาแก่คนนึงด่าไม่หยุด แถมยังบอกว่าใครที่มาตัดดอกกุหลาบที่เขาปลูกไว้ไป ขอให้มันเป็สิวขึ้นกลางหัว เท้าเป็หนอง แล้วยังบอกว่าขอให้มันไม่มีลูกไม่มีหลาน ไม่ได้ตายดี…อาจารย์ซุนครับ คุณไม่ได้เป็คนทำใช่ไหมครับ?”
ตอนแรกฉินหลางไม่ได้อยู่ในสายตาซุนปอ แต่เมื่อได้ยินคำพูดที่ชั่วร้ายของฉินหลางแล้ว รู้สึกได้เลยว่าเขาตั้งใจจะหาเื่ตน แต่ด้วยความที่อยู่ต่อหน้าเถารั่วเซียง ซุนปอจึงต้องแสดงออกแต่เพียงความใจกว้างของตนเอง ยิ้มพลางกล่าวขี้น “เธอคือฉินหลาง นักเรียนใหม่ที่เพิ่งย้ายเข้ามาสินะ อย่าพูดเล่นไปหน่อยเลย ครูจะไปขโมยดอกไม้ได้ยังไง ถ้าเอาดอกไม้ที่ขโมยมาให้อาจารย์เถา ก็เท่ากับดูถูกความสวยเธอนะสิ”
“อาจารย์เถาครับ คุณช่างงดงามไม่ต่างจากดอกไม้สดนี้เลย! โปรดรับดอกไม้ช่อนี้ไว้ด้วยนะครับ” ซุนปอพูดประโยคนี้ด้วยภาษาอังกฤษ
“อาจารย์ซุนคะ…คุณพูดว่าอะไรนะคะ? ภาษาอังกฤษฉันแย่มาก ไม่รู้ว่าคุณพูดอะไร” จู่ๆ เถารั่วเซียงก็ถามขึ้น ทำให้ซุนปอหน้าเจื่อนมาก
ฉินหลางแอบชื่นชมในความฉลาดของเถารั่วเซียง ทำร้ายคนได้อย่างไร้ร่องรอย ซุนปอนายเก่งอังกฤษมากไม่ใช่เหรอ อาจารย์เถาเค้าฟังภาษาต่างชาติไม่รู้เื่ อยากรู้นักว่านายจะยังหน้าด้านอยู่ต่อไปได้ยังไง
ทว่าดูเหมือนฉินหลางจะคาดคะเนทักษะการจีบสาวของซุนปอไว้น้อยเกินไป เพราะเขาหน้าเจื่อนเพียงครู่เดียว ก็รีบยิ้มพลางกล่าวว่า “อาจารย์เถาล้อเล่นเก่งจังเลยนะครับ ดอกไม้สดมอบให้คนสวย อาจารย์เถาคงไม่ถึงกับไม่ไว้หน้าผมหรอกใช่ไหมครับ”
“ดอกไม้สดนี้สวยมากเลยครับ!” ฉินหลางชื่นชมอยู่ข้างๆ “น่าเสียดาย ห้องนอนอาจารย์เถาเล็กเกินไป แล้วอีกอย่างก็ไม่มีแจกันดอกไม้ด้วย แต่ถึงอย่างนั้นอาจารย์เถาครับ ในเมื่ออาจารย์ซุนมีความจริงใจขนาดนี้ อาจารย์ก็รับไว้เถอะครับ ถ้าอาจารย์ไม่มีที่เก็บ เก็บไว้ในห้องเรียนผมได้ครับ มีแจกันดอกไม้อยู่พอดี เดี๋ยวขากลับผมช่วยอาจารย์เอาไปใส่ไว้ในนั้นก็ได้ ตอนที่อาจารย์มาสอนจะได้มองเห็นด้วย”
ซุนปอแอบเคือง พูดในใจ นี่นายคิดว่าตัวเองเป็ใคร บิดามอบดอกไม้ให้ใครแกจะต้องมาจุ้นจ้านด้วยรึไง แต่อยู่ต่อหน้าเถารั่วเซียง เขาจึงะเิโทสะใส่ฉินหลางไม่ได้ ทำได้เพียงคิดในใจต่อไปค่อยๆ จัดการละกัน!
“ก็ดีนะ ฉินหลางข้อเสนอแนะนี้ของเธอดีมาก” เถารั่วเซียงพูดขึ้น “ดอกไม้ที่สวยขนาดนี้ ทิ้งไปน่าเสียดายแย่เลย ของสวยๆ ก็ควรจะแบ่งปันให้ทุกคนได้ชื่นชม วางไว้ในห้องเรียนยังช่วยให้บรรยากาศสดชื่นขึ้นได้ด้วย ดีมากเลย”
ซุนปอยังไม่ทันได้พูดอะไร ฉินหลางก็แย่งดอกไม้ในมือของเขาไปถือไว้แทน เขายกดอกไม้ขึ้นมาดมพลางกล่าว “ดอกไม้นี่หอมจริงๆ ด้วย”
“งั้นก็รีบเอาไปใส่ไว้ในแจกันบนห้องสิ จะได้ไม่เหี่ยวเฉาไปซะก่อน” ซุนปอเคืองหนัก อยากรีบไล่ก้างขวางคออย่างเขาไปเร็วๆ
ซุนปอคิดว่าเขาจะไล่ฉินหลางไปได้สำเร็จ จึงหันไปพูดกับเถารั่วเซียง “รั่วเซียง ผมรู้ว่าคุณยังไม่ได้ทานมื้อเย็น ไม่รู้ว่าคุณจะให้เกียรติไปทานข้าวร่วมกับผมรึเปล่า? หลายครั้งก่อนหน้านี้คุณบอกว่าไม่ว่างตลอด วันนี้คุณคงจะไม่ปฏิเสธผมอีกนะ?”
ดูไปแล้วซุนปอนี่ก็หน้าด้านใช่ย่อย แม้กระทั่ง “รั่วเซียง” ยังกล้าเรียกเลย
ความจริงแล้ว เถารั่วเซียงก็ยังจะปฏิเสธเขาเหมือนเดิมนั่นแหละ เพียงแต่ ฉินหลางตอบสนองได้เร็วกว่า “อาจารย์ซุนครับ ถึงแม้คุณจะเป็อาจารย์ประจำชั้น แต่ไม่ว่าเื่อะไรล้วนต้องดูว่าใครมาก่อนมาหลังนะครับ”
เถารั่วเซียงเห็นฉินหลางพูดขึ้น นึกสนุก จึงไม่ได้แสดงท่าทีใดๆ เธออยากรู้ว่าฉินหลางจะ “รับมือ” กับซุนปออย่างไร
“อะไรมาก่อนมาหลัง?” ซุนปอมองเขาด้วยความประหลาดใจ “อย่าบอกนะว่าเธอยังคิดจะไปทานข้าวกับอาจารย์เถาอีก?”
“ไม่อย่างงั้นอาจารย์คิดว่าผมจะยืนอยู่ตรงนี้เพื่ออะไร คงไม่คิดว่าที่ผมยืนตรงนี้เพียงเพื่อเป็ก้างขวางคออาจารย์หรอกนะครับ?” ฉินหลางพูดเสียงดัง
เถารั่วเซียงยิ้มอย่างความอดไม่ได้ ฉินหลางสังเกตเห็นว่าเวลาที่เธอยิ้ม มุมปากที่โค้งขึ้นทำมุมได้สวยมาก และมีเสน่ห์มาก