“ฉินหลาง—” ความรู้สึกประทับใจที่เถารั่วเซียงเพิ่งจะมีให้ฉินหลางหายไปในชั่วพริบตา “นี่นายจะมากเกินไปแล้วนะ! อย่าคิดว่านายเอาการรักษาโรคมาเป็ข้ออ้าง แล้วจะได้ลวนลามฉันนะ!”
“อาจารย์เถา น้าเถาครับ…น้า…อย่าใส่ร้ายผมสิครับ!” ฉินหลางพูดด้วยท่าทางที่น่าสงสาร “ถ้าผม้าจะลวนลามน้าจริงๆ ผมแค่อ้างว่าต้องตรวจดูอาการบริเวณที่เกิดสิวก่อน จึงจะรู้ว่าควรรักษายังไงไม่ง่ายกว่าเหรอครับ?”
“อย่าแก้ตัวเลย! ถ้าเธอเป็สุภาพบุรุษจริงๆ ก็ทิ้งยากล่องนี้ไว้ที่ฉัน ให้ฉันทาเองก็พอละ!”
“น้าเถาครับ น้าคงจะไม่รู้ว่ายากล่องนี้มันแพงมากขนาดไหน วิธีทำมันยากลำบากมากแค่ไหน! แล้วที่สำคัญ สิวเม็ดเล็กแค่นั้น ใช้ยาตัวนี้น้อยเท่าขี้ตาก็พอแล้ว ต้องใช้หมดกล่องซะที่ไหนล่ะ ผมแค่เป็ห่วงว่าน้าจะทาเยอะเกินไป หรืออาจเพราะมองไม่เห็นทำให้ทาไม่ถูกที่ ใช้สิ้นเปลืองอย่างนั้นมันน่าเสียดายนะครับ” ฉินหลางยกเอาหลักการที่ฟังดูสมเหตุสมผลขึ้นมาอ้าง เพื่อแก้ต่างให้ตัวเอง แล้วคำพูดดังกล่าวของฉินหลาง ก็ไม่ได้เป็การคุยโวโอ้อวดเกินจริงเลย เพราะยาจินชวงสารพัดพิษกล่องนี้ เขาได้ใช้ยาพิษและผงพิษเกือบร้อยชนิดมาเป็ส่วนผสม ซึ่งวัตถุดิบที่นำมาเป็ส่วนผสมเหล่านี้ ล้วนแต่ราคาแพงกว่าทองคำบริสุทธิ์ในปริมาณเท่ากันหลายเท่า
ยาจินชวงสารพัดพิษมีประสิทธิภาพในการรักษาที่น่าทึ่ง ไม่ว่าจะเป็แผลที่ถูกสัตว์และแมลงที่มีพิษกัด หรือว่าแผลที่เกิดจากการถูกฟันด้วยมีดดาบ เมื่อทายาตัวนี้ไปแล้วแผลก็จะหายได้อย่างรวดเร็ว ยาจินชวงสารพัดพิษ ใช้พิษถอนพิษ นอกจากจะสามารถถอนพิษที่าแได้แล้ว ยังสามารถกระตุ้นผิวบริเวณดังกล่าวให้เร่งสร้างเซลล์ผิวใหม่ ทำให้าแสมานได้เร็วขึ้นแล้ว ิัก็ยังได้รับการซ่อมแซมอีกด้วย
“สิ้นเปลืองเหรอ? เข้าใจอะไรผิดรึเปล่า ยาบ้าบออะไรนี่ของเธอมันจะราคาเท่าไรกันเชียว ฉันซื้อเลยแล้วกัน” เถารั่วเซียง ถามด้วยท่าทีภาคภูมิใจ
“น้าเถาอย่าถามราคาเลยจะดีกว่าครับ” ฉินหลางไม่อยากทำร้ายจิตใจเถารั่วเซียง
“บอกมา!” เถารั่วเซียงถามซ้ำพลางคิดในใจ เป็ไปได้เหรอที่คุณหนูใหญ่อย่างฉันจะไม่มีปัญญาซื้อยาแค่กล่องเดียว
“ยาหนึ่งกล่องนี้ถ้าคิดแค่ราคาต้นทุน ด้วยราคาถูกสุดที่สุด ก็ประมาณสองแสนครับ”
“สองแสน!” เถารั่วเซียงพูดอย่างไม่สบอารมณ์ “มิน่าล่ะตอนนี้ใครต่อใครต่างก็พูดว่าแพทย์ เภสัชใจดำอย่างหาใครเปรียบไม่ได้”
“น้าเถาครับ เสียเงินไปเท่าไรก็ได้สินค้ากลับมาเท่านั้น ถ้าได้ลองใช้แล้วน้าก็จะได้รู้เองว่า ยาของผมเหมาะสมกับราคานี้รึเปล่า—น้ามีสำลีที่ใช้สำหรับทางการแพทย์หรือเปล่าครับ?”
เถารั่วเซียงหยิบสำลีที่ใช้ทางการแพทย์ให้ฉินหลางหนึ่งก้าน แล้วมองดูฉินหลางใช้สำลีแตะตัวยาเผินๆ ข้างขอบกล่อง ทำให้ได้ยาขนาดเท่าขี้ตาติดสำลีออกมา หลังจากนั้นเขาก็ยื่นสำลีให้กับเถารั่วเซียงพร้อมกับพูดว่า “ระวังหน่อยนะครับ อย่าไปทาโดยที่อื่นล่ะมันจะสิ้นเปลืองซะเปล่าๆ”
เถารั่วเซียงโมโหจนแทบจะกระอักเื ด่าฉินหลางในใจ อีตานี่จะขี้เหนียวอะไรมากขนาดนี้ กะอีแค่ยาบ้าบอนี่ยังต้องเสียดายอีก ให้เธอทาเยอะหน่อยมันจะเป็อะไรไป ความเค็มนี่หาใครมาเทียบไม่ได้เลยจริงๆ
แต่ฉินหลางกลับคิดอีกอย่าง ถ้าเถารั่วเซียงไม่ใช่สุดยอดสาวสวยล่ะก็ เขาไม่มีทางให้เธอใช้ยาที่ล้ำค่ามากขนาดนี้ เพื่อรักษาสิวเม็ดเล็กๆ แค่นั้นแน่นอน นี่ขนาดเป็เถารั่วเซียง ฉินหลางก็ยังแนะนำให้ใช้วิธี “การบำบัดทางนิเวศวิทยา” ก่อนเลย
ถ้าตาเฒ่าพิษมารู้เข้าว่าเขาใช้ยาจินชวงสารพัดพิษ รักษาสิวให้คนอื่นล่ะก็ มีหวังโดนด่าว่าเขาเป็พวกผลาญบ้านผลาญเมือง ด่าจนเขาเือาบ หรือด่าจนเขาไม่เหลือชิ้นดีแน่เลย
เถารั่วเซียงี้เีจะต่อล้อต่อเถียงกับฉินหลางอีกต่อไป จึงถือสำลีเดินหนีเข้าไปห้องน้ำ
เนื่องจากยาที่มีจำนวนจำกัด เถารั่วเซียงจึงต้องหากระจกใบเล็กๆ ไปตั้งไว้ให้มองเห็นได้พอดีก่อน แล้วค่อยเอาตัวยาก้อนเล็กๆ ที่ติดอยู่บนสำลี มาค่อยๆ แตะแต้มไว้บนสิวเบาๆ ด้วยความระมัดระวัง
ความรู้สึกแสบร้อนบริเวณดังกล่าวหายไปอย่างรวดเร็ว แล้วถูกแทนที่ด้วยความรู้สึกที่เย็นสบาย
สิวเม็ดนั้นยุบลงไปอย่างรวดเร็ว เพียงเวลาไม่ถึงสิบนาที ก็หายดี ไม่ทิ้งร่องรอยใดๆ ไว้เลย ประสิทธิภาพของยานี้ดีเหลือเชื่อราวกับเวทมนตร์ของพระเ้า!
เถารั่วเซียงต้องตะลึงมากขึ้นอีก เพราะนอกจากสิวบนบั้นท้ายของเธอจะหายไปราวกับไม่เคยมีมาก่อนแล้ว บั้นท้ายที่กลมกลึงของเธอนอกจากจะกลับขาว เนียนเหมือนเดิมแล้ว ยังกระจ่างใสราวกับเปล่งแสงได้อีกด้วย ไร้ตำหนิมากยิ่งกว่าเดิมเสียอีก ดั่งคำที่ว่า “ทาปุ๊บหายปั๊บ เห็นผลดีจนเกินบรรยาย”
“คิดไม่ถึงเลยว่า ยานี่จะวิเศษมากมากขนาดนี้!”
เถารั่วเซียงพึมพำด้วยความประหลาดใจ นึกถึงท่าทีเมื่อครู่ของตน นอกจากจะไม่เชื่อถือยาของฉินหลางแล้ว ยังดูถูกเขาว่าเป็คนตระหนี่ถี่เหนียวอีก ทำให้เธอรู้สึกละอายใจขึ้นมา ยิ่งไปกว่านั้น ยานี่ให้ผลวิเศษขนาดนี้ วิธีทำคงจะยากลำบากมาก ซึ่งราคาต้องแพงมากพอกันแน่ มันจึงไม่แปลกที่ฉินหลางจะตระหนี่ เพราะนั่นมันก็สมเหตุสมผลดี
หลังจากตรวจดูจนแน่ใจว่าหายดีแล้ว เถารั่วเซียงจึงเก็บของออกจากห้องน้ำ แต่พบว่าฉินหลางไม่ได้นั่งอยู่บนโซฟาแล้ว
“ฉินหลาง—ฉินหลาง…”
เถารั่วเซียงเรียกชื่อฉินหลางสองรอบ เมื่อไม่มีเสียงตอบรับ เธอจึงคิดว่าฉินหลางได้กลับไปแล้ว ทว่ากลับมีเสียงเคาะประตูดังขึ้น
“เธอออกไปยืนอยู่ข้างนอกทำไม?” เถารั่วเซียงเปิดประตูออก แล้วพบว่าฉินหลางยืนอยู่หน้าประตู
“ครูจะได้ไม่เข้าใจผิดคิดว่าผมแอบดูครูอีก” ฉินหลางตอบด้วยท่าทีจริงจัง แต่ทว่าความจริงแล้วที่ฉินหลางออกไปยืนอยู่ข้างนอก เป็เพราะระหว่างที่นั่งรอเถารั่วเซียงเข้าห้องน้ำอยู่นั้น เขาได้จินตนาการตอนที่เถารั่วเซียงกำลังทายาที่มีกลิ่นหอมด้วยท่วงท่าสุดแสนเย้ายวน ทำให้เขาอยากจะแอบดูเธอมาก ความรู้สึกพุ่งพล่าน มากจนเกือบห้ามเืกำเดาไว้ไม่อยู่ เขาจึงต้องขังตัวเองไว้ข้างนอกห้อง เพื่อตัดความคิดที่จะแอบดูของตัวเอง
“ฉันเคยคิดว่าเธอแอบดูด้วยเหรอ?” เถารั่วเซียงถามขึ้น ดูเหมือนว่าเธอจะลืมไปแล้ว ว่าก่อนหน้านี้เคยเธอสงสัยฉินหลาง “ฉันคิดว่าเธอกลับไปแล้วเสียอีก”
“ปิดทองหลังพระ ทำความดีโดยไม่เอ่ยนาม ทำความดีโดยไม่หวังสิ่งใดตอบแทน ล้วนไม่ใช่สไตล์ของผม” ฉินหลางช่างหน้าไม่อายจริงๆ เขาพูดออกมาแบบนี้ เห็นได้ชัดว่า้าจะบอกให้เถารั่วเซียงรู้ว่า เขา้าที่จะให้เธอตอบแทน
เถารั่วเซียงจะไม่เข้าใจความหมายแอบแฝงในคำพูดของเขาได้อย่างไร เธอกล่าวถาม “แล้วเธอ้าอะไรตอบแทน?”
“น้าเถาเป็คนบอกเองว่าแม่ผมเพิ่งโทรไปคุยกับน้า แล้วน้าจะพาผมไปกินอะไรอร่อยๆ ไม่ใช่เหรอครับ?” ฉินหลางมองหน้าเถารั่วเซียงอ้อนๆ
เถารั่วเซียงรู้สึกหดหู่ใจ ตอนแรกอยากจะขุมหลุมพรางไว้ล่อฉินหลาง นึกไม่ถึงเลยว่าเธอจะเป็คนตกหลุมพรางนั้นซะเอง ฉินหลางถือโอกาสนี้เรียกร้องให้เธอพาไปทานข้าว เธอจะปฏิเสธเขาได้อย่างไร แล้วที่สำคัญ เธอจะปล่อยให้เขามาเหนื่อยฟรีได้ยังไง ในเมื่อเขาก็เพิ่งพูดว่าทำความดีเพราะหวังสิ่งตอบแทน
ต้องพัวพันกับคนหน้าด้านขนาดนี้ เถารั่วเซียงก็จนปัญญาเหมือนกัน จึงกล่าวขึ้นอย่างไม่มีทางเลือก “งั้นเธอรอเดี๋ยวนะ ให้ฉันเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อน”
“ให้รอในห้อง หรือว่าให้รออยู่ข้างนอก---”
“ปึง”
เถารั่วเซียงกระแทกประตูปิดเสียงดัง