“ว่ากันว่าคุณหนูยวี่เติบโตมาได้งดงามมาก วันนี้ได้มาเจอแล้ว ช่างงดงามเหมือนเทพธิดาอย่างแท้จริง”
“ใช่ ใช่ ดูรูปร่างที่งดงามนี่สิ คุณหนูจากตระกูลอื่นในแคว้นเป่ยฉีแห่งนี้ เกรงว่าจะไม่มีผู้ใดเทียบเคียงคุณหนูยวี่ได้เลย”
“ไม่รู้ว่าผู้ใดจะโชคดี ได้แต่งคุณหนูยวี่เป็ภรรยา…”
มิรู้ว่าผู้ใดที่เดิมทีอยากร่วมเอ่ยสรรเสริญชื่นชม ทว่าครั้นเอ่ยถึงตรงนี้พลันตระหนักได้ว่ามีบางสิ่งบางอย่างไม่ถูกต้อง ท่านอ๋องมู่้ามาสู่ขอคุณหนูยวี่ แน่นอนว่าก็ต้องเป็ท่านอ๋องมู่อยู่แล้ว
สักพักทุกคนต่างหันมองไปที่ฮูหยินที่เอ่ยพลาดคนนั้นด้วยสีหน้าแปลกๆ
ใบหน้าของฮูหยินนางนั้นเต็มไปด้วยความอับอาย นางรีบอ้าปากเอ่ยแก้ไข ทว่าเสียของฮูหยินผู้เฒ่าเหนียนกลับเอ่ยแทรกขึ้นมาก่อน
“ฮ่าๆ เื่การแต่งงานของยวี่เอ๋อร์ ตัดสินใจไว้แล้ว ฮูหยินทุกท่าน คนที่โชคดีคนนั้นมีการเลือกสรรไว้นานแล้ว” ฮูหยินผู้เฒ่าเหนียนเดินเข้าไปโดยมีสาวใช้คอยประคอง เมื่อครู่นี้ตอนที่นางเห็นเหนียนยวี่ นางเองก็ชะงักไปครู่หนึ่งเช่นกัน นางสั่งชัดเจนว่าให้เหนียนยวี่คอยอยู่ด้านหน้าศาลากลางสวน...
“เป็ท่านอ๋องมู่ที่โชคดี” ฮูหยินคนหนึ่งในกลุ่มนั้นหัวเราะ
“น้องยวี่เอ๋อร์ เหตุใดเ้าถึงมาอยู่ที่นี่ตามลำพังเล่า?” เหนียนอีหลานไม่สนใจผู้คน นางก้าวไปข้างหน้าและจับมือของเหนียนยวี่ แสดงท่าทีห่วงใยดังปกติ ประหนึ่งพี่สาวน้องสาวผู้รักใคร่กลมเกลียว
เหนียนยวี่มองเข้าไปในดวงตานาง พลางกะพริบตาให้อย่างไร้เดียงสา “ข้าไม่ควรอยู่ตามลำพังหรือ? หรือควรต้องมีผู้อื่นอยู่ด้วย?”
เหนียนอีหลานชะงักไปเล็กน้อย ตามแผนคนขายเนื้อแซ่จูนั่นควรต้องอยู่ข้างหน้า แต่...
เหนียนอีหลานแอบชำเลืองมองไปทางศาลากลางสวน เื่นี้มีอะไรผิดพลาดกันแน่?
การกระทำอันละเอียดอ่อนแยบยลของเหนียนอีหลาน เหนียนยวี่จับจ้องทุกการกระทำนั้น รอยยิ้มบนมุมปากนางยิ่งสว่างไสว
ทำไม?
มันไม่เป็ไปตามแผนของพวกนาง พี่สาวผู้นี้ของนางจึงรู้สึกผิดหวังมากอย่างนั้นหรือ?
ไม่ใช่แค่นาง...สายตาของเหนียนยวี่กวาดมองฮูหยินผู้เฒ่าเหนียนและหนานกงเยวี่ย พวกนางสองคนแม้นกำลังยิ้มอยู่ ทว่าความผิดปกติในสายตานั้น มิอาจหนีพ้นสายตาของเหนียนยวี่
เหนียนยวี่แย้มยิ้มบางเบา ย่อกายคารวะให้ผู้คนกลุ่มนั้น “เมื่อครู่นี้สาวใช้มาแจ้งเหนียนยวี่ว่า ฮูหยินผู้เฒ่าให้เหนียนยวี่มาที่นี่เพื่อมาทำความรู้จักกับบรรดาฮูหยินแต่ละท่าน ดังนั้นเหนียนยวี่จึงมาที่นี่ เหนียนยวี่คารวะฮูหยินทุกท่านเ้าค่ะ”
ฮูหยินผู้เฒ่าเหนียนขมวดคิ้ว ทว่าเพียงครู่เดียว ก็โบกไล่ความคิดในหัวออกไป และเอ่ยยิ้มแย้มอย่างสรวลขำขัน “ใช่แล้ว วันนี้เป็วันเกิดเ้า เหล่าฮูหยินต่างอยากมาร่วมยินดีกับเ้า เ้าควรจะรู้จักพวกนางไว้”
เหนียนยวี่ยิ้มรับ ทว่าไม่ได้เอ่ยอะไร ด้วยท่าทีอันอ่อนหวานสงบนิ่ง ทำให้เหล่าฮูหยินทั้งหลายเอ่ยชื่นชมเยินยออีกครั้ง
บางทีคงต้องทำความเข้าใจกับแผนการเมื่อครู่นี้ บางทีอาจจะมองอะไรพลาดไป ฮูหยินผู้เฒ่าเหนียนกับหนานกงเยวี่ยจึงส่งสายตากันไปมา สถานการณ์ในยามนี้ ทำได้เพียงเสแสร้งและรอเวลาคิดแผนการใหม่เท่านั้น
ทว่าพวกนางมิได้คาดคิดเลยว่า ตัวละครหลักในแผนการของพวกนาง กำลัง ‘พนัน’ กับเหนียนยวี่อยู่ในขณะนี้ และแนวโน้มของการพนันในครั้งนี้...
เหนียนยวี่รู้สึกได้ถึงอุณหภูมิของฝ่ามือที่จับมือนาง แสงั์ตาหรี่ลงเล็กน้อย นางรู้สึกตั้งตารอคอยพนันวันนี้มากขึ้นเรื่อยๆ
……
ณ โถงรับรองหลักจวนเหนียน บรรดาแขกมากมายต่างมาถึงแล้ว
ระหว่างที่เหนียนเย่าเดินผ่านบรรดาแขกที่มาร่วมงาน เขาเอ่ยทักทายไปด้วยอย่างอบอุ่น
หนานกงฉี่เดินตามฮูหยินผู้เฒ่าหนานกง วันนี้เขาสวมชุดสีน้ำเงินคราม มือโบกพัดคลี่ ท่วงท่าสง่างาม
ั้แ่เข้ามาในจวนเหนียน ดวงตาของหนานกงฉี่มองหาเงาร่างนั้นตลอด ยังไม่ทันได้เห็นเหนียนยวี่ กลับกัน หลังจากเหลือบไปเห็นบุรุษชุดขาวในสายตา เขาก็ไม่ละสายตาไปไหนอีก
หลีอ๋องจ้าวเยี่ยน!
วันนี้เขามาที่นี่อย่างที่คิดไว้จริงๆ!
หนานกงฉี่ยังคงไม่ลืมเื่ที่ตัวเองเห็นในวันนั้น เพียงแต่การมาของท่านอ๋องหลีในวันนี้ ในใจเขามีความคิดเช่นไรกันแน่?
แววตาจิ้งจอกของหนานกงฉี่มีแสงวาววับพาดผ่าน เขาที่กำลังคิดจะสำรวจ พลันเหลือบไปเห็นกลุ่มสตรีเดินมาจากอีกด้านหนึ่ง ท่ามกลางกลุ่มผู้คน สิ่งแรกที่สายตาของหนานกงฉี่เหลือบไปเห็นคือ เหนียนยวี่
ไม่ได้ดูเรียบง่ายเช่นวันวาน ทั่วทั้งร่างกายของนาง ประทินโฉมอย่างหรูหราสง่างาม ทว่ากลับดูธรรมชาติอย่างคาดไม่ถึง ทุกการเคลื่อนไหว ทุกการเยื้องย่าง รังสีน่าเกรงขามและความเป็เอกลักษณ์ของนาง ไม่เหมือนบุตรีอนุภรรยาแม้แต่น้อย แม้แต่เหนียนอีหลานที่เดินเคียงขนาบข้างกายนาง ผู้ซึ่งรู้จักกันในเื่ความงดงามมาโดยตลอดยังถูกรัศมีความงามของนางบดบังไว้เื้ั
เหนียนยวี่...
สตรีผู้นี้ เมื่อเทียบกับครั้งแรกที่ตนเจอนาง นางช่างเปลี่ยนไปมากจริงๆ!
เพียงแต่เขายังคงรู้สึกทึ่งกับท่วงท่าในการขี่ม้าของนางในวันนั้น และเขาไม่รู้ว่าเมื่อไร เขาจะมีโอกาสได้เห็นท่วงท่าที่งดงามเช่นนั้นอีก...
ขณะที่หนานกงฉี่กำลังครุ่นคิด ไม่เพียงแค่เขาเท่านั้นที่เห็นนางเป็คนแรก ผู้คนอีกมากมายล้วนเห็นนางเป็คนแรกในกลุ่มสตรีเช่นกัน
แม้นหญิงสาวผู้นั้นจะนิ่งเงียบ ไม่เอ่ยเอื้อนสิ่งใด ทว่านางนั้นดูคล่องแคล่วอย่างเห็นได้ชัด นางแตกต่างจากคนอื่นๆ ในกลุ่มนั้น
จ้าวเยี่ยนหันไปจ้องมองเหนียนยวี่ เมื่อนึกถึงสิ่งที่เกิดขึ้นในห้องของนางเมื่อครู่นี้ แววตามืดมนพลันวาววับในดวงตา
และยามที่สตรีผู้ซึ่งดึงดูดความสนใจจากผู้คนนับไม่ถ้วนคนนั้นเดินมาถึงลานสวนหน้าจวน นางก็เห็นบุคคลผู้นั้นเป็คนแรก ท่ามกลางแขกที่พลุกพล่าน
เสื้อสีเขียวครามตัวนั้นที่ให้อารมณ์เรียบง่ายบริสุทธิ์เช่นเคย คนผู้นั้นก็คือ ศิษย์พี่เซียวหราน!
เขาไม่ได้กลับไปที่เขาเย่าชานแล้วหรอกหรือ?
เหตุใดถึงได้กลับมาอีก?
ยามที่เหนียนยวี่จ้องมองไปที่เซียวหราน เซียวหรานเองก็จ้องมองมาที่เหนียนยวี่พอดี ทั้งสองสบตากัน รอยยิ้มบนมุมปากของเหนียนยวี่พลันแย้มบาน
มิรู้เพราะเหตุใด การที่เขาปรากฏตัวมาในวันเช่นนี้ ทำให้หัวใจของเหนียนยวี่รู้สึกอบอุ่นอย่างประหลาด
เขากลับมาจากเขาเย่าชาน เช่นนั้นเขาคงรู้สถานการณ์ในตอนนี้ของท่านอาจารย์แล้วหรือ?
เหนียนยวี่เดิมทีอยากจะเดินออกไปลอบถามเขา ทว่านางรู้สึกได้ถึงสายตาของผู้คนมากมายที่จ้องมองมา นางจึงล้มเลิกความคิดนี้ไปอย่างรวดเร็ว มีสายตามากมายกำลังมองมา นางไม่สามารถดึงเซียวหรานเข้ามาเกี่ยวข้องกับเื่ราวพวกนี้ได้
หลังจากนั้นไม่นาน มีเสียงของขันทีะโดังมาจากด้านนอกประตู “ฮองเฮาเสด็จแล้ว องค์หญิงใหญ่ชิงเหอเสด็จแล้ว” ด้วยราศีที่แผ่ขยายออกมา เพียงชั่วขณะ แเื่ทุกคนที่ยืนอยู่ในลานพลันหยุดการสนทนา พวกเขาต่างก้าวไปยืนเรียงกันข้างหน้า คุกเข่าลงบนพื้น ก่อนที่แขกผู้สูงศักดิ์ทั้งสองจะก้าวเข้ามา
องค์หญิงใหญ่ชิงเหอเป็มารดาบุญธรรมของเหนียนยวี่ ว่ากันว่าวันนี้เป็วันเกิดของเหนียนยวี่และนางทุ่มเทให้กับงานครั้งนี้ไปไม่น้อย การปรากฏตัวของนางไม่ใช่เื่ปกติ วันเกิดของบุตรีอนุภรรยาคนหนึ่ง ทว่าแม้แต่ฮองเฮาอวี่เหวินยังเสด็จมาด้วยตัวเอง เหตุการณ์เช่นนี้ มันหมายความว่าอย่างไร?
เป็ดังที่เล่าลือกันจริงหรือว่า คุณหนูรองยวี่ผู้นี้จะได้กลายเป็สะใภ้ของราชวงศ์?
ระหว่างที่ทุกคนกำลังคาดเดากัน ฮองเฮาอวี่เหวินและองค์หญิงใหญ่ชิงเหอกำลังก้าวเดินเข้ามา โดยมีเหล่านางกำนัลและขันทีรายล้อม มีบุรุษและสตรีวัยสะพรั่งคู่หนึ่งเดินตามทั้งสองเข้ามาด้วย บางคนเคยเห็นพวกเขามาก่อน ทั้งคู่มิใช่ราชทูตทั้งสองจากตงหลีหรอกหรือ?
ใบหน้าของเหนียนยวี่ ช่างกว้างขวางเสียจริง วันเกิดของนาง แม้แต่ราชทูตแคว้นตงหลียังมาด้วย!
ฮองเฮาอวี่เหวินจ้องมองไปยังผู้คนที่กำลังคุกเข่าอยู่บนพื้น ทว่าสายตาของกลับตกลงไปยังเหนียนยวี่ผู้เดียว
“วันนี้เป็วันเกิดของยวี่เอ๋อร์ ครอบครัวเดียวกัน เหตุใดต้องมากพิธีเช่นนี้?” ฮองเฮาอวี่เหวินตรัสอย่างอ่อนโยน ในน้ำเสียงนั้นแฝงอารมณ์ขำขันอย่างเห็นได้ชัด ทั้งในรัศมีอันน่าเกรงขามยังเจือความรักใคร่เอ็นดู
ขณะที่ตรัส นางเดินไปหาเหนียนยวี่และพยุงเหนียนยวี่ให้ลุกขึ้นด้วยตัวเอง “ยวี่เอ๋อร์ เ้ารีบลุกขึ้นยืนเถิด พวกเ้าทั้งหมดก็ลุกขึ้นด้วยเถิด”
คำว่า ‘ครอบครัว’ ราวกับเป็การแสดงถึงฐานะของเหนียนยวี่ ทุกคนก็ยิ่งแน่ใจกับข่าวลือที่ได้ยิน ่เวลานั้น สีหน้าของทุกคนพลันแปรเปลี่ยน ทั้งอิจฉาและริษยา...
ด้านหลังของเหนียนยวี่ เหนียนอีหลานจับจ้องท่าทีของฮองเฮาอวี่เหวินที่มีต่อเหนียนยวี่ ภายใต้ชายแขนเสื้อ นางกำมือแน่น แทบจะจิกทั้งเล็บเข้าไปในเนื้อของตนเอง
มู่หวังเฟยหรือ?
เหนียนยวี่ นางจะคู่ควรได้อย่างไร!
แม้นฮองเฮาอวี่เหวินจะปฏิบัติกับเหนียนยวี่อย่างสนิทสนม แล้วอย่างไรเล่า?