พูดไม่ออก
ห้าวันห้าคืนที่ข้ากินนอนอยู่ในห้องวางยุทธวิธีและจำลองการรบ
แม้ยามตื่นจะมากกว่ายามหลับ แต่ก็เป็ห้าวันที่สมองข้าสดชื่นแจ่มใสอย่างยิ่ง เหล่าผู้าุโ แม่ทัพ นายกองต่างวนเวียนกันมารับคำสั่งและร่วมฟังแผนการรบ ทุกคนต่างมีหน้าที่ของตนอย่างชัดเจนแม้จะห่างหายจากการทำศึกใหญ่บนสนามจริงนับร้อยปี
โบราณว่าผู้ฝึกฝนไม่เกียจคร้านคือผู้ที่เตรียมพร้อมอยู่เสมอ การรวบรวมรายชื่อทหารที่จะไปรบครานี้เป็หน้าที่ของผู้าุโเจิ้ง ท่านปู่รองรับหน้าที่ร่างสัญญาออกศึกของทหาร เพราะทุกคนคือครอบครัวหากาเ็ล้มตายจะไม่มีผู้ใดทิ้งพวกเขาไว้ข้างหลังนี่เป็คำสั่งที่ปฏิบัติมาั้แ่ยุคบุกเบิกตระกูล ส่วนเื่ที่สำคัญที่สุดของกองทัพยกให้ท่านปู่น้อย เสบียงอาหาร ยุทโธปกรณ์ ยารักษาโรค
หน้าที่เดียวของข้าคือชนะศึก ชัยชนะที่ทหารของข้าจะสูญเสียน้อยที่สุด ข้ามองแผนการรบในกระบะทรายเป็ครั้งสุดท้ายแล้วใช้แท่งไม้กวาดทำลายจนไม่เหลือเค้าเดิม เสร็จแล้วก็หันไปรวบเอากระดาษที่ใช้จดแผนการต่างๆ ทิ้งลงกระถางไฟ ข้ามองจนทุกอย่างไหม้จนเหลือแต่เปลวไฟที่ลุกโชนแสงสะท้อนวูบวาบในแววตาที่ดำมืดไปมา
บรรยากาศตึงเครียดแผ่ซ่านไปทั่วหุบเขาิญญาพยัคฆ์ สองสามีภรรยาประคองกันเดินเล่นอยู่ในสวน เื่ราวหลายวันที่ผ่านมาพวกเขาต่างรับรู้ทุกอย่าง บุตรสาวมีเส้นทางชีวิตเป็ของตนเอง คนเป็พ่อแม่ก็ได้แต่สนับสนุน แม้ในใจจะเป็ห่วงสักเพียงใดก็ตาม
“น้องหญิงเ้าอย่าเอาแต่คิดมากเลยนะ หลินเอ๋อนางเป็เด็กที่เฉลียวฉลาด วรยุทธ์ก็ไม่ด้อย นางต้องปลอดภัย”ซ่างกวนชีซางประคองภรรยาของตนอย่างแสนรัก
“ข้าเป็ห่วงเื่นั้นที่ไหนเล่า ที่ข้าคิดหนักก็เื่บุตรชายสกุลเฉินผู้นั้น ท่านพี่ดูบุตรสาวที่ท่านเลี้ยงมาสิ เอ่ยออกมาคำหนึ่งก็จะแต่งงานกับคนนั้น เอ่ยออกมาสองคำก็ของดีปล่อยให้ผู้อื่นไปไม่ได้ นั่น...นั่นเป็คำพูดของกุลสตรีตรงไหน เป็คุณหนูในห้องหอแท้ๆ ข้าได้ฟังแล้วอยากจะเป็ลม หากทางเราถือคำพูดของบรรพบุรุษไปทวงถาม หากทางนั้นไม่ยอมตกลงเล่า”ซ่างกวนฮูหยินรำพันออกมาอย่างอัดอั้น ตระกูลบุตรสาวมิได้ด้อยก็จริงแต่ผู้ชายที่ไหนจะชอบผู้หญิงที่ดิบเถื่อน ดุดัน ถือดาบ วิ่งเข้าสนามรบเช่นนี้
“น้องอิงเอ๋อเ้าก็คิดมากเกินไป ดูสิหากคิดมากจนกระทบกระเทือนถึงเ้าตัวน้อยมันจะเป็อันตรายนะ”
“เื่นี้ก็เหมือนกัน...ท่านพี่ ข้าก็พูดไปชัดเจนแล้วว่าจะไม่เก็บไว้ ตัวข้าอายุตั้งเท่าไหร่จะให้มาคลอดบุตรเอาป่านนี้”หากบุตรที่คลอดออกมาเจ็บป่วยเพราะนางตั้งครรภ์ตอนแก่ตัวนางคงเ็ปยิ่งกว่าผู้ใด
“เพ้ยๆ ห้ามพูดๆ หากลูกได้ยินจะเสียใจเอาได้นะ อิงเอ๋อเชื่อข้าเราต้องผ่านมันไปให้ได้”เขากอดปลอบภรรยาที่กำลังจะร้องไห้ ดูเถิดเมื่อครู่ยังบ่นบุตรสาวอย่างหัวเสียต่อมาก็จะร้องไห้เสียแล้ว ผู้หญิงท้องหนอ ผู้หญิงท้อง
“ท่านพ่อ ท่านแม่...ตั้งครรภ์อีกแล้วหรือ?”ไม่รู้ว่าผู้มาใหม่ยืนฟังอยู่นานเท่าใด แต่จากน้ำเสียงที่สั่นครือเล็กน้อยเห็นได้ชัดว่าได้ยินมาั้แ่ต้น
“หลินเอ๋อ...เ้าออกมาแล้วรึ ดูสิหน้าตาหมองคล้ำผอมโซเช่นนี้เหมือนสตรีที่ไหน เห็นแล้วข้าก็ไม่คิดตัวตนเองคลอดบุตรสาวออกมาแล้ว”ซ่างกวนฮูหยินชี้นิ้วอันสั่นทิ่มไปยังบุตรสาวตัวดี
สองพ่อลูกสบตากันอย่างเพลียๆ เมื่อครู่ท่านยังโศกเศร้าอยู่มิใช่หรือพริบตาเดียวองค์เทพพิโรธจึงประทับร่างอีกแล้วเล่า
“ท่านแม่อย่ามีโทสะเลยเ้าค่ะ ข้าแข็งแรงยิ่งกว่าวัวจะเป็อันใดได้ ท่านยังไม่ได้ตอบคำถามข้าเลยนะเ้าคะ ท่านตั้งครรภ์อีกแล้วรึ? ท่านพ่อแก่ปูนนี้แล้วท่านยังจะให้ท่านแม่อุ้มท้องคลอดบุตรอีกหรือ เ้าก้อนแป้งของพวกท่านพึ่งจะสามขวบก็จะมีมาอีกแล้วรึ”ข้าเปลี่ยนเื่อย่างหน้าตาย พูดถึงเื่น้องๆหากมีมาเพิ่ม ภาระส่วนมากต้องตกเป็ของใครมิใช้นางหรอกหรือ มันน่าน้อยใจนัก
“ความผิดของพ่อเอง พอน้องเ้าคลอดออกมาพ่อก็จะดื่มยาให้เป็หมันเสียเ้าวางใจได้”ซ่างกวนชีซางตบอกให้คำหมั่นอย่างหนักแน่น
“ว่าแต่ ท่านแม่ตั้งครรภ์ได้กี่เดือนแล้วเ้าคะ”ข้ามองท้องของมารดาอย่างหวาดๆ ท้องที่แล้วคลอดออกมาสองคน ท้องนี้คงไม่โชคร้ายออกมาอีกสองคนกระมัง
ทว่า์มิได้ฟังคำขอของพี่สาวคนโตอย่างนาง
“สี่เดือนจะเข้าห้าเดือนแล้ว ท่านหมอผู้เฒ่าจับชีพจรบอกว่าเป็ครรภ์แฝด หลินเอ๋อดีใจหรือไม่ครอบครัวเราจะต้องครึกครื้นมากเป็แน่”ว่าที่มารดาของบุตรห้าคนบอกข่าวดีอย่างสุขใจ
“ท่านแม่ท่านหมอผู้เฒ่าจับชีพจรผิดหรือไม่ ท่าน...อย่าล้อข้าเล่นดูครรภ์ของท่านสิมองอย่างไรข้าก็มองไม่ออกว่าท้อง...”ข้ายังพูดปลอบใจตัวเองไม่ทันจบ มารดาที่ยิ้มจนตาหยีก็ใช้มือลูบชุดที่พรางหุ่นนั่นให้เรียบตึง แล้วข้าก็ได้เห็นท้องอันใหญ่โตของมารดา
์...ช่วยเอาบิดามารดาวัยกลางคนของข้าไปเก็บที
ราวกับว่าพี่สาวคนโตของบ้านจะรู้ชะตากรรมในอนาคตของตนเอง หญิงสาวร่างแข็งเป็หินจ้องครรภ์ของมารดาตนเองอยู่พักใหญ่กว่าจะได้สติขึ้นมา
“ท่านพ่อ ท่านแม่ บุตรสาวต้องไปออกรบคาดว่าต้องใช้เวลาหลายปี พวกท่านไม่ต้องกังวลข้าจะดูแลตัวเองให้ดี ลูกขอตัวก่อนยังมีเื่ให้ต้องจัดการอีกมาก”กล่าวจบข้าก็เร่งฝีเท้าจากไปอย่างราวเร็ว ปล่อยให้บิดามารดาวัยกลางคนส่งเสียงหัวเราะไล่หลัง
จากที่คิดว่าจะทำศึกอย่างรวบรัดให้จบภายในเวลาไม่กี่เดือน คิดไปมาหรือจะยืดเป็หลายปีดีนะ ข้าสลัดหัวไล่ความคิดนั้นทิ้งไปทันที จะเอาเื่ส่วนตัวมาปะปนกับส่วนรวมไม่ได้ แค่เด็กเพิ่มมาอีกสองคนจะทำอะไรข้าได้
“มารดา”
“ท่านพี่”
คิดถึงสิ่งใดสิ่งนั้นก็วิ่งมาหาอย่างทันท่วงที เรือนของตนเองก็มีแท้ๆ แต่เ้าน้องชายทั้งสองกลับชอบมาเล่นที่เรือนของนาง ข้าอ้าแขนรับเ้าก้อนแป้งเข้ามาในอ้อมกอดแล้วเหวี่ยงตัวเป็วงกลม เหมือนเด็กน้อยจะชอบใจนัก ส่งเสียงกรี๊ดกร๊าดดังลั่น
“ยอมหรือไม่”
“ยอมๆ/ยอมๆ”เด็กน้อยสองคนกอดคอพี่สาวซ้ายขวา ซบหน้ากับอกนิ่มๆอย่างยอมแพ้ พี่สาวดีที่สุด~
“คุณหนูท่านกลับมาเสียที ท่านไปรบขอตงเอ๋อติดตามท่านไปได้หรือไม่”สาวใช้ตัวน้อยวิ่งออกมาต้อนรับคุณหนูของนางอย่างดีใจ
“ครั้งนี้เ้ายังไปไม่ได้ อยู่นี่ฝึกฝนตนเองให้ดียามข้าทำศึกกลับมาจะพาเ้าเข้าเมืองหลวง”
“ทราบแล้วเ้าค่ะ ตงเอ๋อจะฝึกฝนอย่างหนัก”เด็กสาวรับคำอย่างหนักแน่น นางฝีมืออ่อนด้อยหากรั้นจะตามไปคงเป็ภาระให้คุณหนู
“เอาล่ะไม่พูดถึงเื่นี้แล้ว ไปเตรียมน้ำข้าไม่ได้อาบน้ำดีๆ มาห้าวันเต็มๆ เหม็นตัวเองจะแย่”ข้าอุ้มน้องชายเข้าไปในเรือนคุยซุบซิบถึงน้องที่กำลังจะเกิดมา ทั้งสามถกประเด็นนี้กันอย่างจริงจัง ฝ่ายพี่สาวพยายามปลูกฝังให้น้องชายทั้งสองดูแลน้องสี่น้องห้าที่กำลังจะเกิดมา ฝ่ายน้องชายทั้งสองที่กำลังจะได้เลื่อนขั้นเป็พี่ในหัวก็คิดไว้แล้วว่าจะ (แกล้ง) เล่นกับน้องอย่างไร
ปล่อยให้เ้าก้อนแป้งทั้งสองวางแผนกันไป ข้าผู้เป็พี่สาวจะขอมองอยู่ห่างๆ หญิงสาวแช่ตัวในน้ำนมอุ่นๆผสมกลีบดอกไม้อย่างผ่อนคลาย อีกหน่อยก็จะไปนอนกลางดินกินกลางทรายขอเสพสุขให้มากหน่อยคงไม่เสียหาย ทั้งในชาติก่อนและในชาตินี้ ข้าจินตนาการให้ตนเองคลอดบุตรออกมาสี่ห้าคนเช่นนี้ไม่ออก กล่าวถึง เฉินอี้ ในชาติก่อนอายุจะสามสิบแล้วยังไม่แต่งภรรยาขนาดสมรสพระราชทานเขายังกล้าปฏิเสธไม่รู้ว่าชาตินี้จะเป็เช่นไร
ข้าคิดว่าตัวเองก็พอมีมารยาอยู่บ้าง วางแผนหลอกล่อนิดหน่อยเ้าเฉินอี้นั่นคงหนีไม่พ้นเงื้อมือของนางหรอก อืม...หญิงสาวที่ดีเช่นนี้หากเขายังปฏิเสธก็ไม่ยาก ตีหัวแล้วรวบรัดซะ
อย่างไรผักกาดขาวหัวนี้ ก็ต้องเป็ข้าที่ได้กิน