ขามาใช้ระยะเวลาค่อนข้างนานบวกปัจจัยหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็การปิดข่าวสาร กำจัดศัตรูหรือวางแผนการรบสิ่งเหล่านี้ล้วนต้องใช้ความละเอียดรอบคอบ แตกต่างจากการเดินทางกลับเมื่อการรบสิ้นสุดลงแล้ว เส้นทางปรอดโปร่งเร่งเดินทางสักหน่อยระยะเวลาสิบวันกองทัพิญญาพยัคฆ์ก็สามารถเดินทางกลับถึงบ้านได้
เหตุใดซ่างกวนจือหลินถึงไม่แยกกองทัพออกเป็สองส่วนให้ส่วนหนึ่งมุ่งหน้ากลับหุบเขา ส่วนนางและฮ่องเต้น้อยมุ่งหน้าไปเมืองหลวงเลยจะไม่เป็การประหยัดเวลามากกว่าหรือ ที่นางไม่ทำเช่นนั้นก็เป็เพราะการส่งวีรบุรุษกลับบ้านนั้นเป็หน้าที่ของคนเป็แม่ทัพ ไม่มีการศึกใดที่ไร้การสูญเสียตัวนางไม่ใช่เทพเซียน แม้จะพยายามอย่างสุดความสามารถแต่ก็ยังมีทหารที่ต้องจบชีวิตลง
ในการบุกหัวเมืองต่างๆ ไปจนถึงเมืองหลวงของแคว้นเหลียวมีผู้สวามิภักดิ์เป็ส่วนมากก็จริง ทว่านั่นไม่ใช่ทั้งหมด ยังมีผู้ที่เลือกสู้จนตัวตายยิ่งตอนบุกเมืองหลวงนั้นเป็สถานการณ์ที่ค่อนข้างตึงมือ สุนัขเมื่อจนตรอกก็เลือกที่จะสู้จนตัวตาย แม้ฝ่ายกองทัพิญญาพยัคฆ์จะได้รับชัยชนะ แต่ก็สูญเสียทหารกล้าไปถึงหนึ่งหมื่นนายหากเทียบกับกำลังทหารหนึ่งล้านนายจำนวนหนึ่งหมื่นนี้ถือว่าน้อย แต่สำหรับซ่างกวนจือหลินหนึ่งชีวิตล้วนมีความสำคัญ หนึ่งชีวิตที่สูญเสียคือความพยายามหลายสิบปีของคนเป็พ่อแม่ที่เฝ้าฟูมฟักเลี้ยงดูมาจนเติบใหญ่
ตึง! ตึง! ตึง!
เสียงลั่นกลองรบดังสะท้อนไปทั่วทั้งหุบเขาอันกว้างใหญ่ไพศาล นั่นเป็สัญญาณการต้อนรับเหล่าวีรบุรุษที่กลับมาจากสนามรบทุกคนต่างออกมาต้อนรับกันอย่างพร้อมเพรียง ดอกไม้กระดาษหลากสีสันถูกโปรยลงมาจากอาคารบ้านเรือนอย่างท่วมท้น นั่นเป็การแสดงความยินดีกับชัยชนะในการศึก ซ่างกวนจือหลินมองภาพเ่าั้ด้วยความสงบนิ่ง ขณะที่กองทัพกำลังเคลื่อนพลไปยังค่ายทหารที่อยู่อีกฝั่งหนึ่งในเวลาเดียวกันรถม้าจำนวนหนึ่งก็ค่อยๆ แยกออกไปหยุดที่หน้าจวนหลังน้อยใหญ่อย่างพร้อมเพรียง
เสียงร่ำไห้คล้ายว่าจะดังแว่วมาตามสายลม ทุกคนล้วนมายินดีกับชัยชนะในขณะเดียวกันก็ต้องร่วมส่งความไว้อาลัยแต่ผู้กล้าที่เสียสละเืเนื้อและชีวิต
ตลอดสามวันสามคืนที่ผ่านมาในฐานะที่เป็แม่ทัพซ่างกวนจือเดินเข้าออกจวนของเหล่าผู้เสียสละโดยไม่ได้หยุดพัก นี่เป็ธรรมเนียมที่คนตระกูลซ่างกวนปฏิบัติสืบต่อกันมา ธูปหนึ่งดอกแม้เป็สิ่งเล็กน้อยทว่านั่นเป็การแสดงออกว่าการเสียสละของพวกเขาทรงเกียรติมากเพียงใด เป็การเคารพวีรบุรุษผู้จากไปอีกทั้งเป็การปลอบประโลมจิตใจของผู้ที่ยังอยู่ให้มีแรงใจในการใช้ชีวิตต่อไป
เช้าวันที่สี่ของการกลับมาถึงหุบเขาิญญาพยัคฆ์
ยามนี้เกาหนิงซินกำลังยืนอยู่หน้าป้ายหินขนาดใหญ่บนนั้นสลักชื่อทหารที่เสียชีวิตในการรบครั้งนี้ โต๊ะบูชาขนาดใหญ่ถูกจัดขึ้นอย่างประณีต ข้างกายของนางคือฮ่องเต้น้อยที่ทรงชุดัสีเหลืองทอง แม้จะยังเป็เด็กทว่ากลับสามมารถแผ่บารมีของผู้สูงศักดิ์ออกมาได้อย่างน่าเกรงขาม
“จุดธูป ทำความเคารพเหล่าทหารกล้าที่เสียสละชีวิตเพื่อเ้า”ที่ซ่างกวนจือหลินกล่าวมาไม่ได้เกินความจริงแม้แต่น้อย ความกระหายในาของสองพ่อลูกเย่ว์ลู่เป็ต้นกำเนิดของโศกนาฏกรรม ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นจนมาถึงจุดจบ ณ วันนี้ล้วนเกี่ยวเนื่องกันเป็วังวนแห่งหายนะ
“ขอรับ”หลี่ซื่อหมินไม่ได้ถามให้มากความก็ทำตามสิ่งที่พี่สาวแม่ทัพบอกอย่างเชื่อฟัง แม้เขาจะอายุยังน้อยแต่ก็เข้าใจเื่ราวทุกอย่าง เหล่าทหารกล้าเสียสละตนเองเพื่อปกป้องบ้านเมืองอีกทั้งยังพร้อมใจกันมาช่วยเขาและพระมารดาอย่างกล้าหาร ตัวข้าขอใช้การคำนับนี้เพื่อเป็การแสดงความเคารพ
เมื่อพิธีสิ้นสุดลงซ่างกวนจือหลินก็มีคำสั่งให้ทหารทุกนายกลับบ้านได้ ในอีกสองวันทหารที่มีรายชื่อติดตามนางเข้าเมืองหลวงต้องมารวมพลที่ค่าย เมื่อทุกคนได้ฟังคำสั่งแล้วก็ต่างแยกย้ายกันออกไปอย่างเป็ระเบียบ จากบ้านไปหลายเดือนไม่รู้ว่าจะเป็เช่นไรบ้าง
ซ่างกวนจือหลินมองเหล่าทหารที่แสดงสีหน้าตื่นเต้นยินดี หลายคนคงจะคิดถึงฟูกนอนอันอ่อนนุ่มของตนเองจนใจจะขาดกระมัง ยังมีอีกหลายคนที่คิดถึงร่างอันนุ่มนิ่มของเมียรัก เหอะ...ดูท่าทางดีใจจนเนื้อเต้นนั่นสิเชื่อว่ายามนี้ใจของพวกเขาคงลอยกลับไปถึงจวนแล้ว มันน่าเรียกกลับมาซ้อมรับสักสองสามเที่ยวเป็ดี
ทำสิ่งใดไม่เกรงใจสาวน้อยเช่นข้าบ้าง
ที่ข้าอมอดทนกับอาการหนาวเข้ากระดูกเพื่อที่จะได้มาเห็นภาพบาดตาเช่นนี้หรือ
ไหนล่ะว่าที่สามีของข้า ทำ-ไม-ไม่-มา-แสดง-ความ-ยิน-ดี-กับ-ว่า-ที่-ภรรยา-บ้าง
เห็นว่ารูปงามแล้วจะเล่นตัวเช่นนั้นหรือ ได้!!
ข้าซ่างกวนจือหลินเกิดมาล้วนเป็คนเที่ยงตรงข้าจะไปหาท่านเอง!
ก่อนที่คนที่มีความเที่ยงตรงในชีวิตจะได้ออกไปตามล่า เอ่อ...ไม่ใช่สิออกไปเยี่ยมเยือนว่าที่สามีถึงจวนที่เมืองหลวงก็ต้องมีอันตั้งหยุดชะงักเพราะคำสั่งของท่านปู่สุดที่รัก ว่าอย่างไรนะนี่กล้าออกคำสั่งกับแม่ทัพเช่นข้าหรือ!
แอ้!
ซ่างกวนจือหลินใช้สายตาอันเ็ามองสิ่งมีชีวิตเล็กๆ ที่กำลังดิ้นแด่วๆ อย่างกับงูดินโดนน้ำร้อน ในเปลไม้ที่ตกทอดมาเป็รุ่นที่สองทว่ายังคงแข็งแรงทนทานในนั้นบรรจุสิ่งมีชีวิตที่โยเยที่สุดในใต้หล้าเอาไว้
ใช่แล้วมันคือทารกตัวขาวๆที่มีแขนขาเป็ปล้องๆ คล้ายรากบัว ลักษณะเช่นนี้ซ่างกวนจือหลินรู้ดีว่าเ้าตัวเล็กตัวน้อยนี่โตขึ้นมาต้องมีฤทธิ์เดชไม่ต่างจากรุ่นก่อนหน้าเป็แน่
ดูจากสิ่งที่กำลังเกาะขาซ้ายขวาของนางเป็ลูกลิงที่โหยหามารดา หากหญิงสาวยกมือขึ้นมาก่ายหน้าฝากดังเช่นคนที่อับจนหนทางได้ละก็...ข้าทำไปนานแล้ว ติดอยู่อย่างเดียวจะให้โดนจับจุดอ่อนไม่ได้ว่าตนเองกำลังท้อใจอย่างหนักหน่วงนั่นจะทำให้ข้าศึกตัวน้อยเหล่านนี้โจมตีเ้าหนักหน่วงยิ่งขึ้น
“ท่านพี่ขอรับบบบ”ซ่างกวนซีและซ่างกวนเยี่ยนประสานเสียงร้องเรียกพี่สาวที่ตนคิดถึงอย่างพร้อมเพรียง
อดทนไว้!
ซ่างกวนจือหลินยกมือขึ้นมากอดอกสองขาเกร็งรับแรงเขย่าของน้องชายทั้งสอง แม้พวกเขาจะออกแรงมากเท่าไหร่พี่สาวก็ยืนนิ่งเป็หินก้อนหนึ่ง เช่นนั้นต้องใช้ไม้ตายซะแล้ว...
“มารดาขอรับบบบบบบ”
“แอ้ๆแงงงงง”เมื่อได้ยินเสียงพี่ชายทั้งสองร้องโหยหวนเช่นนั้นน้องชายดีเด่นทั้งสองที่นอนแผ่หลาอยู่ในเปลก็ส่งเสียงร้องออกมาเป็การเสริมทัพไปในตัว
ยอมแล้วโว้ยยย
ซ่างกวนจือหลินะโก้องอยู่ในใจด้วยความหดหู่เป็ที่สุด หญิงสาวโน้มตัวลงไปช้อนเ้าก้อนกลมๆขาวทั้งสองขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้ คนหนึ่งอยู่ด้านซ้ายอีกคนอยู่ด้านขวา มือซ้ายขวาไม่ว่างขาทั้งซ้ายขวาก็เช่นกัน
นี่ข้ายังไม่มีบุตรเป็ของตัวเองเลยนะ
“ท่านแม่”หญิงสาวหันไปหามารดาที่กำลังนอนอยู่บนเตียงพร้อมกับทำท่าทางที่จริงจังเป็ที่สุด
“ว่าอย่างไรลูกรัก”โจวซื่อมองบุตรสาวด้วยสายตาเอื้อเอ็นดู ถึงเ้าตัวจะแสดงท่าทางขยาดบรรดาน้องๆ เช่นไรแต่คนเป็แม่เช่นนางย่อมมองออกว่าบุตรสาวเอ็นดูบรรดาน้องชายมากเพียงใด
“ให้ท่านพ่อทำหมันได้แล้วนะเ้าคะ”
เอ่อ...เห็นทีโทสะทั้งหมดของบุตรสาวคงไปลงที่บิดาของเด็กๆ แทน
ท่านพี่...ลำบากท่านแล้วนะเ้าคะ