“พี่หรูเยี่ยน วันนี้พี่สวยจริงๆ”
วินาทีที่หรูเยี่ยนก้าวเข้าไปในตำหนักซูฉางอันก็สังเกตเห็นนางแล้ว
เขาเดินเข้าไปหา แล้วเอ่ยขึ้นเช่นนั้น
ทันทีที่ได้ยินเสียงอันแสนคุ้นเคย หรูเยี่ยนที่เคยรู้สึกตื่นตระหนกหันขวับกลับไปตามเสียงและเมื่อได้เห็นใบหน้าที่เปล่งประกายไปด้วยรอยยิ้มอันแสนจริงใจของคนตรงหน้า นางก็รู้สึกจิตใจสงบลงอย่างประหลาด
ในที่สุดนางก็วาดประกายรอยยิ้มแรกั้แ่ก้าวเข้ามาในพระราชวังออกมา“คุณชายซู ท่านก็อยู่ด้วยรึ”
“อืม” ซูฉางอันพยักหน้า “พี่หรูเยี่ยนสวยขนาดนี้หากพี่เป่ยเสวียนได้เห็นท่าน เขาต้องดีใจมากแน่ๆ”
อาจเป็เพราะเริ่มคุ้นกับบรรยากาศภายในตำหนักหรืออาจเป็เพราะคำพูดของซูฉางอันทำให้นางรู้สึกจิตใจสงบลงตอนนี้หรูเยี่ยนพูดได้อย่างลื่นไหลและคล่องขึ้นมากแล้ว “ขอบคุณคุณชายซูมากหนังสือที่ท่านให้ข้ามา ข้าชอบมันมาก”
“อย่างนั้นรึ? ข้าเองก็ชอบมันเช่นกันท่านกับพี่เป่ยเสวียนต้องได้อยู่ด้วยกันเหมือนซุ่ยอวี้กับหนานเยวียนแน่ๆ”ซูฉางอันบอกแบบนั้น แล้วรอยยิ้มบนใบหน้าของเขาก็สดใสมากขึ้นกว่าเดิม
เขาชอบคนที่ชอบหนังสือเหมือนๆ กับเขา
ยกตัวอย่างเช่นมั่วทิงอวี่ และพี่หรูเยี่ยนในตอนนี้
“เอ๋?” หลงเซี่ยงจวินที่ฟังบทสนทนาของทั้งสองอยู่นานเลิกคิ้วขึ้น“คุณชายซูชอบอ่านหนังสือรึ หากมีเวลาว่างเมื่อไร ช่วยแนะนำหนังสือที่ท่านชอบให้ข้าหน่อยได้หรือไม่?”
เพราะอีกไม่นาน หรูเยี่ยนก็จะได้พบชายคนรักที่รอมานานแล้วทำให้ซูฉางอันอารมณ์ดีเป็อย่างมาก อคติที่มีต่อหลงเซี่ยงจวินก็ลดลงไปกว่าครึ่งด้วยเช่นกันเขาพยักหน้า แล้วรับปากแทบจะทันที
“หึๆ นี่มันสหายหลงนี่? คิดไม่ถึงเลยว่าท่านจะมาร่วมงานด้วย”เสียงหัวเราะอันแสนสดใสดังขึ้น ชายหนุ่มและคนชราที่เดินขนาบกันเข้ามาหาซูฉางอันหันไปมองตามเสียง จึงพบว่าเป็องค์รัชทายาทนั่นเอง
หลงเซี่ยงจวินหันกลับไปตามเสียงเรียกแต่ั์ตาของเขากลับไม่มีความประหลาดใจปรากฏให้เห็นเลยแม้แต่น้อยดูเหมือนเขาจะคาดเดาได้ั้แ่แรกแล้วว่าต้องเป็เช่นนี้ เขาประสานมือเข้าด้วยกันจากนั้นโค้งตัวลง ทำความเคารพต่อองค์รัชทายาทตามระเบียบอย่างเคร่งครัด ทว่าน้ำเสียงของเขากลับไม่ได้มีความเคารพแฝงอยู่เลย
“น้อมเคารพองค์รัชทายาท ท่านอัครเสนาบดี”
เขาพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบ
“สองท่านนี้คือ?”แต่องค์รัชทายาทกลับทำราวไม่รับรู้ถึงความไม่เคารพในน้ำเสียงนั้นยังคงแสดงสีหน้าเป็มิตรราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้นแล้วชี้มาที่ซูฉางอันกับหรูเยี่ยนพลางกล่าวถาม
“ท่านนี้คือศิษย์หลานของท่านอวี้เหิงแห่งสำนักเทียนหลานคุณชายซู ซูฉางอัน” หลงเซี่ยงจวินผายมือมาที่ซูฉางอันพลางกล่าวแนะนำไม่รู้ว่าเขากำลังคิดอะไรกันแน่ เพราะขณะพูดประโยคนี้ น้ำเสียงที่ควรจะอ่อนหวานราวกับสตรีของเขากลับดังมากกว่าปกติทำให้คนทั้งตำหนักหันมามองซูฉางอันเป็ตาเดียว
รอยยิ้มบนใบหน้าขององค์รัชทายาทชะงักไปเล็กน้อยทางด้านชายชราที่หลงเซี่ยงจวินเรียกว่าอัครเสนาบดีเองก็เบิกตาที่เคยหรี่เล็กให้กว้างมากขึ้นด้วยเช่นกัน
พลังจิตมากมายถาโถมเข้ามาหาอย่างไม่คิดจะปิดบัง
หลังสอดส่องไปทั่วร่างของซูฉางอันแล้วพลังจิตเ่าั้ถึงถูกเก็บกลับไปในที่สุด
ทั้งหมดเกิดขึ้นในเสี้ยวพริบตามันใช้เวลาเพียงชั่วพริบตาเดียวเท่านั้น ทันใดนั้น เหงื่อมากมายก็ซึมออกมาจากหน้าผากของซูฉางอันอย่างไม่อาจควบคุม
การตรวจร่างกายนักพรตด้วยพลังจิตถือเป็สิ่งที่ไม่เหมาะสมอย่างยิ่งเหตุนี้ ผู้คนจึงมักจะทำเื่ที่ไม่พึงควรนี้อย่างลับๆทว่าที่พวกเขากล้าตรวจร่างกายของนักพรตอย่างโจ่งแจ้งเช่นนั้น มีเหตุผลเพียงสองประการเท่านั้น
หากไม่ใช่เพราะเ้าของพลังจิตมั่นใจในตัวเองมากก็คงเป็เพราะนักพรตคนนั้นเป็เพียงคนตายในสายตาของพวกเขา เมื่อเป็คนตายพวกเขาก็ไม่จำเป็ต้องรักษามารยาทใดๆ อีก
แต่หลงเซี่ยงจวินกลับไม่ได้สังเกตเห็นอาการที่เกิดขึ้นกับซูฉางอันเลยหรือจะพูดอีกแบบก็คือ เขาแกล้งทำเป็มองไม่เห็นนั่นเอง
สายตาของเขามาหยุดลงบนร่างของหรูเยี่ยน
ทันใดนั้น จู่ๆ เขาก็หรี่ตาลงอย่างกะทันหัน
หรูเยี่ยนหัวใจกระตุกวูบ นางอยู่ในหอหมู่ตันมานานนับสิบปีจึงคุ้นเคยกับสายตาเช่นนี้ดี
นางรู้ดีว่าเมื่อใดที่ท่านประมุขมีสายตาเช่นนี้เมื่อนั้นก็แสดงว่ากำลังจะมีคนเดือดร้อนแล้ว
“ส่วนคนนี้ นางเคยเป็ยอดบุปผาของหอหมู่ตันมาก่อน”หลงเซี่ยงจวินบอกแบบนั้น
เมื่อสิ้นเสียง คนทั้งโถงก็สะดุ้งใไปตามๆ กัน
ชายวัยกลางคนที่แต่งกายด้วยชุดของขุนนางฝ่ายบู๊ซึ่งยืนอยู่เื้ัองค์รัชทายาทก้าวออกมาข้างหน้าแล้วชี้หน้าด่าหลงเซี่ยงจวินเสียงดังลั่น “หลงเซี่ยงจวินอย่าถือว่าตระกูลหลงมีอำนาจสูงส่งแล้วจะทำตัวสามหาวได้ในทุกที่นะ!ที่นี่คือพระราชวังแห่งแผ่นดินต้าเว่ย!แค่มหาจักรพรรดิยอมให้ไพร่อย่างเ้ามาร่วมงานเลี้ยงในครั้งนี้ก็ถือเป็พระกรุณาเป็ล้นพ้นแล้วเ้ายังกล้าพาหญิงสกปรกแบบนี้เข้ามาด้วยอย่างนั้นรึ!”
“แม่ทัพจางพูดถูก ความเมตตาขององค์จักรพรรดิตระกูลหลงจะจดจำเอาไว้อย่างดี มีรึจะกล้าลืม? แล้วมีหรือที่ข้าจะกล้าทำสามหาวในงานฉลองของฝ่าาที่ข้าพาหญิงผู้นี้มาด้วย เป็เพราะความหวังดีล้วนๆ”หลงเซี่ยงจวินพูดด้วยท่าทางไม่แยแส ไม่ได้สนใจในคำด่าของชายคนนั้นเลยสักนิด
“เ้ายังกล้าตลบตะแลงอีกรึ!สิ่งที่เ้าทำถือเป็การหยามเกียรติขององค์จักรพรรดิ!”เห็นได้ชัดว่าแม่ทัพจางคนนั้นถูกท่าทางไม่แยแสของหลงเซี่ยงจวินยั่วจนโกรธเกรี้ยวขึ้นแล้วเขาก้าวยาวๆ มาข้างหน้า แล้วะโเสียงดังลั่น “ทหาร จับผู้หญิงคนนี้เอาไว้แล้วเอาตัวไปขังคุกหลวงเดี๋ยวนี้!”
เห็นได้ชัดว่าแม่ทัพจางผู้นี้มีตำแหน่งสูงส่งไม่เบาเลยเพราะทันทีที่สิ้นเสียง องครักษ์ที่ยืนประจำการอยู่รอบๆ ก็ล้อมเข้ามาหาแล้วทำท่าราวกำลังจะจับตัวหรูเยี่ยนเอาไว้ตามคำสั่ง
หรูเยี่ยนเป็เพียงหญิงคนหนึ่งเท่านั้นนางไม่รู้ว่าเื่ราวดำเนินมาจนถึงขั้นนี้ได้อย่างไรแต่สัญชาตญาณสั่งให้นางเดินไปหลบอยู่หลังหลงเซี่ยงจวินเป็การขอความช่วยเหลือทันทีแต่หลงเซี่ยงจวินกลับเอาแต่ยืนนิ่ง ไม่ยอมขยับเขยื้อนไปไหนและไม่มีท่าทีว่าจะให้ความช่วยเหลือนางแม้แต่น้อย
ในที่สุด ซูฉางอันก็ได้สติจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเสียทีเขาไม่เข้าใจว่าฐานะของหรูเยี่ยนไปทำให้ใครโกรธได้อย่างไร และไม่เข้าใจด้วยว่าเหตุใดผู้ชายกลุ่มใหญ่ต้องข่มเหงหญิงที่ไม่มีทางสู้เช่นนี้ทว่าวินาทีนั้น มือของเขาถูกวางลงบนด้ามดาบเป็ที่เรียบร้อยแล้ว
“ช้าก่อน! ”
ทว่าในตอนนั้นเอง พลันมีเสียงหนึ่งดังขึ้น
ซูฉางอันหันไปมองตามเสียงพบว่าเป็องค์ชายห้ากับศิษย์พี่นั่นเอง พวกเขาเดินเข้ามาหาพร้อมกับคนกลุ่มหนึ่งทันใดนั้น ซูฉางอันก็ปล่อยมือออกจากด้ามดาบ ราวได้ที่พึ่งทางใจแล้วเช่นนั้นซูฉางอันเชื่อว่าศิษย์พี่กับองค์ชายห้าต้องช่วยตนกับหรูเยี่ยนอย่างแน่นอน
องครักษ์ที่ล้อมเข้ามาย่อมไม่กล้าขัดคำสั่งขององค์ชายห้าอยู่แล้วพวกเขาชะงักไปเล็กน้อย ก่อนจะถอยกลับออกไปในที่สุด
“น้องห้า มีสิ่งใดชี้แนะรึ?” องค์รัชทายาทหันกลับไปพูดกับเซี่ยโหวเซวียนใบหน้าของเขาแลดูจริงใจเป็อย่างมาก จริงใจจนหาจุดบกพร่องใดๆ ไม่ได้เลย
“เสด็จพี่” เซี่ยโหวเซวียนโค้งให้องค์รัชทายาทอย่างเคารพเช่นกันรอยยิ้มบนใบหน้าของเขายังคงเป็มิตรและอบอุ่นไม่เปลี่ยนไปเขามองไปยังหลงเซี่ยงจวินที่มีท่าที่ผ่อนคลาย ก่อนจะพูดขึ้นในที่สุด“แม้สหายหลงจะมีนิสัยทะเล้นขี้เล่น ไม่สนใจกฎระเบียบ แต่หาใช่คนวู่วามไม่ที่เขาพาหญิงนางนี้มาด้วย คงเพราะมีเหตุผลของตัวเอง เราฟังเขาอธิบายให้จบก่อนแล้วค่อยมาตัดสินกันดีกว่า เสด็จพี่คิดเห็นว่าอย่างไรบ้าง?”
“คือว่า...” องค์รัชทายาทชะงักนิ่งไป แน่นอนเขารู้ดีว่าการกระทำของหลงเซี่ยงจวินย่อมมีจุดประสงค์ที่ซับซ้อนมากกว่าที่เห็นแน่และเขาก็รู้ดีว่าไม่ว่าจุดประสงค์นั้นจะเป็สิ่งใด ย่อมไม่เป็ผลดีกับตนทั้งสิ้นแต่สิ่งที่เซี่ยโหวเซวียนพูดมาก็สมเหตุสมผล ไม่ได้ผิดตรงไหน เขาจึงมองไปที่ชายชราข้างกายหลังชะงักนิ่งไปเล็กน้อยกระทั่งคนชราพยักหน้าน้อยๆ มาให้ เขาจึงรู้สึกสงบลง “ในเมื่อเป็เช่นนี้ อย่างนั้นก็ทำตามที่น้องห้าบอกเถิด”
“ขอบพระทัยองค์ชายทั้งสองท่าน”หลงเซี่ยงจวินทำความเคารพต่อองค์ชายทั้งสองด้วยท่าทางเคารพ จากนั้นก็มองไปยังชายชราข้างองค์รัชทายาทที่ยังคงหรี่ตาลงหรือก็คืออัครเสนาบดีของแผ่นดินต้าเว่ย... ซือหม่าสวี่นั่นเอง!
“ข้าได้ข่าวมาว่าฝ่าาเรียกตัวแม่ทัพเป่ยทงเสวียนที่ช่ำชองเื่การรบกลับมาจากซีเหลียงแล้วไม่ทราบว่าจริงหรือไม่?”เขาหรี่ตาลงจนเป็เส้นตรงดวงตาคู่นั้นส่งประกายแสงอันแสนพิลึกออกมาอย่างต่อเนื่อง เอาแต่จ้องไปที่ชายชราผู้นั้นไม่วางตา
นี่นับเป็เื่ที่อาจหาญเหลือเกิน
ในราชสำนักของต้าเว่ย นอกจากองค์จักรพรรดิแล้ว คงจะเหลือเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่กล้าจ้องหน้าอัครมหาเสนาบดีแห่งแผ่นดินเช่นนี้
เพราะเขาเป็คนที่ลึกลับมาก ไม่มีใครรู้ว่าเขามาจากที่ใดและไม่มีใครรู้ด้วยว่าเขามีพลังอยู่ในระดับไหนกันแน่ แต่ถึงกระนั้น องค์จักรพรรดิก็ยังแต่งตั้งให้เขาเป็อัครเสนาบดีอยู่ดีองค์จักรพรรดิทั้งหวาดระแวง และให้ความสำคัญกับเขามากซึ่งนับเป็ความรู้สึกที่ขัดแย้งต่อกันเหลือเกิน ซึ่งบัดนี้คนผู้นี้ก็ครองตำแหน่งอันแสนสูงส่งนี้มานานถึงสี่สิบหนาวแล้ว
เมื่อคนที่ต่อต้านเขาตาย หรือเงียบเสียงลงไปทีละคนๆ เมื่อองค์จักรพรรดิแก่ชราจนไม่มีแรงจะมาต่อกรกับเขาอีกเมื่อถึงตอนนั้น เขาจะกลายเป็หนึ่งในไม่กี่คนที่ทรงอำนาจมากที่สุดในแผ่นดินนี้
คนที่เ้าเล่ห์ราวกับจิ้งจอก ทว่าแข็งแกร่งปานเป็พญาราชสีห์เช่นนี้ย่อมไม่มีใครอยากมีเื่มีราวด้วยเป็ธรรมดาอย่างน้อยก็เป็เวลานานมากแล้วที่ไม่มีใครกล้าหาเื่เขา
แต่ในวันนี้ ดูเหมือนหลงเซี่ยงจวินกำลังทำสิ่งที่ไม่มีใครกล้าทำมานานแสนนานแล้ว
ตำหนักไท่เหอพลันเงียบสงัดลง
สายตาของทุกคนในตำหนักพุ่งไปรวมกันที่ร่างของชายชราพวกเขาเริ่มคิดภาพออกแล้วว่าเมื่อชายชราเบิกตาขึ้นมาอีกครั้ง จะมีลมพายุแห่งความวุ่นวายโหมกระหน่ำลงมามากมายเพียงไร
แต่ในบางครั้ง เื่ราวก็มักจะอยู่เหนือความคาดหมายเสมอ
หลังนิ่งเงียบไปครู่หนึ่ง จู่ๆ ชายชราผู้กุมอำนาจอันแสนสูงส่งก็พยักหน้าขึ้นอย่างกะทันหัน
“เป็จริงดังนั้น” เสียงที่แฝงไปด้วยความแหบพร่าของชายชราดังขึ้น“เขากำลังเดินทาง อีกไม่นานคุณชายหลงจะได้เจอเขาเอง”
หลงเซี่ยงจวินหรี่ตาให้เล็กลงกว่าเดิม จากนั้นถามขึ้นอีกครั้ง“ข้ายังได้ยินมาว่าท่านอัครเสนาบดีจะให้ลูกสาวตัวเองแต่งกับแม่ทัพเป่ยทงเสวียนจึงอยากขอให้ฝ่าาช่วยประทานงานแต่งให้! ใช่หรือไม่!”
เมื่อสิ้นเสียง ทุกคนในตำหนักต่างนิ่งไปตามๆ กัน
ที่ผ่านมาสาเหตุที่ซีเหลียงพ่ายให้กับเผ่าหมานซ้ำแล้วซ้ำเล่า ล้วนเป็เพราะราชันนักรบ ฝูซานเชียนไม่ยอมลงมือด้วยตนเองนั่นเองแค่องค์จักรพรรดิเรียกตัวแม่ทัพเป่ยผู้มีประสบการณ์ด้านการทำากับเผ่าหมานมาอย่างแสนโชกโชนกลับเมืองหลวงในเวลาเช่นนี้นับเป็อะไรที่น่าเหลือเชื่อมากพออยู่แล้วแต่ในตอนนี้ ดูจากสถานการณ์แล้ว เป็ไปได้มากว่าองค์จักรพรรดิกำลังจะปั้นนักรบที่แข็งแกร่งพอจะงัดข้อกับราชันนักรบ-ฝูซานเชียนขึ้น...
วินาทีนั้น จู่ๆ หรูเยี่ยนก็มีสีหน้าซีดเผือดขึ้นกะทันหันราวกับว่าถูกค้อนั์ทุบเข้ากลางอกอย่างจังเช่นนั้น ร่างบางโอนเอนราวกำลังจะล้มลงแต่นางก็ยังกัดฟัน แล้วทนยืนนิ่งอยู่กับที่ต่อไป นางก้มหน้าลงต่ำขอบตาพากันเปลี่ยนไปเป็สีแดงก่ำ ไม่รู้เหมือนกันว่านางกำลังคิดอะไรอยู่
แน่นอนว่าซูฉางอันที่อยู่ข้างๆเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมด เขายื่นมือไปประคองร่างของหรูเยี่ยนเอาไว้ ทันใดนั้นจู่ๆ เขาก็หน้าเสียไปด้วยแต่ถึงกระนั้นซูฉางอันก็ยังพูดปลอบใจที่ข้างหูหรูเยี่ยนเบาๆ “พี่หรูเยี่ยน อย่ากังวลไปเลยท่านต้องเชื่อใจพี่เป่ยทงเสวียนนะ เขาต้องไม่ยอมรับการแต่งงานในครั้งนี้แน่ท่านอุตส่าห์รอเขามาตั้งนาน ยังจำเื่ของหนานเยวียนได้ไหม? ตอนเพิ่งได้รับตำแหน่งจอหงวนก็มีคนอยากให้ลูกสาวแต่งกับเขาเหมือนกันแต่ในที่สุดเขาก็ยังกลับไปอยู่กับซุ่ยอวี้อยู่ดี”
“ท่านก็คือซุ่ยอวี้ในหนังสือเล่มนั้นดังนั้นพี่เป่ยทงเสวียนต้องเป็หนานเยวียนที่ท่านรอคอยแน่ๆ”
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้