ูเาบริเวณตอนใต้เป็พื้นที่ราบ นอกเหนือจากต้นหญ้าหิมะที่ทนต่อความหนาวเย็นได้แล้ว ไม่มีพืชชนิดอื่นอีก สถานที่แห่งนี้มีระยะห่างจากทะเลน้ำแข็งเพียงแค่สามลี้เท่านั้น ลมหนาวจึงพัดพาความเย็นที่ถูกขุนเขาบดบังมากว่าพันปีมากันที่เชิงเขาทั้งหมด ซึ่งทำให้กล่าวได้ว่าหนาวเข้ากระดูก!
กูเฟยเยี่ยนสวมใส่อาภรณ์ฤดูร้อนบางๆ ถ้าไม่หนาวจนสั่นเทาถึงจะแปลก
เมื่อเห็นว่าหญิงสาวตัวสั่นเทา อีกทั้งเห็นว่าร่างกายของนางมีาแหลายจุด รอยยิ้มของไป๋หลี่ิชวนก็ค่อยๆ แข็งทื่อ เขาตั้งใจกวาดสายตามอง ภายในดวงตาทอประกายถึงความกระสับกระส่าย ไม่ช้าเขาก็รีบถอดเสื้อคลุมขนสัตว์สีม่วงอันหรูหราของตนเองมาห่อตัวกูเฟยเยี่ยนแน่น จากนั้นจึงโอบอุ้มไว้ในอ้อมอก
ไป๋หลี่ิชวนลุกขึ้นยืนและกำลังเตรียมพากูเฟยเยี่ยนไปที่ราบอีกฟากหนึ่ง ทว่าทันใดนั้นก็มีน้ำเสียงเ็าและน่าสะพรึงกลัวดังมาจากด้านหลัง "ปล่อยนางซะ! "
ไป๋หลี่ิชวนรีบหันกลับมามองอย่างฉับพลัน ผู้ที่มาสวมใส่อาภรณ์สีดำทมิฬ บนใบหน้าสวมใส่หน้ากากสีเงิน ั์ตาเ็า ไอสังหารอันน่าสะพรึงกลัวกระจายทั่วร่างกายของเขา
"เป็เ้า! "
ไป๋หลี่ิชวนรู้สึกประหลาดใจมาก ต้องทราบเอาไว้ว่านับั้แ่คราวก่อนที่เขาจี้ชิงตัวกูเฟยเยี่ยนมาและต่อสู้จนได้ผลเสมอกับหมอนี่ เขาไปสืบหาหมอนี่ที่เหมือนดั่งเงาและรวดเร็วปานสายฟ้าแลบ แต่น่าเสียดายที่ไม่พบเบาะแสใดๆ เลย ถ้าให้คิดคำนวณดีๆ แผนการที่เขาวางไว้ในเมืองจิ้นหยางไม่ได้ถูกทำลายโดยกูเฟยเยี่ยน แต่เป็หมอนี่! เพื่อให้คำอธิบายแก่หุบเขาเสินหนงและแว้งกัดอาณาจักรเทียนเหยียน ฟู่หวงโยนความผิดทั้งหมดมาไว้ที่เขา ลดขั้นเขาให้เป็สามัญชน ขับไล่ออกจากราชวงศ์ บัดนี้สามารถกล่าวได้ว่าชื่อเสียงของเขาดังกระฉ่อนไปในทางเสื่อมเสีย ไร้บ้านให้กลับ ทั้งหมดทั้งมวลนี้เมื่อคิดดูดีๆแล้ว ล้วนมาจากหมอนี่!
ไป๋หลี่ิชวนไม่เพียงจะไม่ปล่อยกูเฟยเยี่ยนแล้ว แต่ยังถามย้อนกลับด้วยความยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ "ฮ่าๆ พวกเ้าเดินทางมาด้วยกันหรือเป็เื่บังเอิญ? เ้าเป็ใครกันแน่? มีความสัมพันธ์อันใดกับเสี่ยวเยี่ยนเอ๋อร์? ”
จวินจิ่วเฉินถือดาบบีบบังคับเขาโดยไม่ตอบ
จวินจิ่วเฉินเห็นม้าวิ่งเตลิดเปิดเปิงด้วยความใจากอีกด้านหนึ่งจึงรีบเร่งเข้าไปหาทันที เขาคิดไม่ถึงว่าจะได้พบกูเฟยเยี่ยนกับไป๋หลี่ิชวน
เมื่อดาบเล่มคมใกล้เข้ามา นอกจากไป๋หลี่ิชวนจะไม่หลบแล้ว แต่ยังอุ้มกูเฟยเยี่ยนต้อนรับเขา คราวก่อนที่เผชิญหน้ากับลูกธนูหน้าไม้ของเฉิงอี้เฟย เขาก็ทำเช่นนี้!
ทว่าสิ่งที่แตกต่างจากเฉิงอี้เฟยคือจวินจิ่วเฉินไม่ได้รู้สึกถึงความคุกคามเลยแม้แต่น้อย ดาบคมยังคงประชิดเข้าหากูเฟยเยี่ยน ทว่าวินาทีสุดท้ายจู่ๆ ปลายดาบก็เฉียงเอียงเข้าจู่โจมไป๋หลี่ิชวน โดยที่แทบจะแนบชิดแก้มของกูเฟยเยี่ยน
ทุกอย่างรวดเร็วจนยากที่จะป้องกัน
ไป๋หลี่ิชวนหลบไปด้านข้างโดยที่เกือบจะปล่อยกูเฟยเยี่ยนแล้ว จวินจิ่วเฉินจึงฉวยโอกาสนี้ในการชิงตัวนางมา ไม่ใช่ว่าเขาไม่กังวลถึงความปลอดภัยของกูเฟยเยี่ยน แต่เขามีความมั่นใจมากพอว่าดาบของตนเองจะไม่ทำร้ายนาง
ไป๋หลี่ิชวนหาใช่ตะเกียงประหยัดน้ำมัน ทันทีที่จวินจิ่วเฉินประชิดกาย ไป๋หลี่ิชวนก็ยิงเข็มทองสามเข็มออกไป เนื่องด้วยระยะห่างค่อนข้างใกล้ เขาจึงจำเป็ต้องเคลื่อนกายหลบหลีก ไป๋หลี่ิชวนใช้โอกาสนี้คว้าตัวกูเฟยเยี่ยนไว้แน่นพลางหลบออกมาไกลๆ
การประลองของทั้งสองในครานี้ให้ผลเสมอกัน
ไป๋หลี่ิชวนยังคงยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ ทว่าภายในใจกลับถอนหายใจออกมา ถ้าไม่ใช่เป็เพราะตนเองมีฝีมือทางด้านพิษและมีตัวประกันอยู่ในมือ เกรงว่าตัวเขานั้นคงจะพ่ายแพ้ภายในสิบกระบวนท่า หมอนี่เป็ใครกันแน่? เสี่ยวเยี่ยนเอ๋อร์ทราบหรือไม่?
จวินจิ่วเฉินจ้องมองด้วยความเ็า และไม่ช้าก็ชักดาบยาวออกไป
เขาจะทำอะไร?
ไป๋หลี่ิชวนใเล็กน้อย เขาคาดการณ์ไม่ได้ ทว่าเขาจะไม่ยอมให้หมอนี่ชิงลงมือก่อนอย่างแน่นอน ในโลกของศิลปะการต่อสู้ มีเพียงแค่ความเร็วเท่านั้นที่ทำลายไม่ได้ เขาเคยได้เรียนรู้ในเื่ความเร็วของหมอนี่แล้ว
ก่อนที่จวินจิ่วเฉินจะเริ่มลงมือ จู่ๆ ไป่หลี่ิชวนก็ปล่อยมือ กูเฟยเยี่ยนล้มลงสลบไสลบนพื้น
ดวงตาของจวินจิ่วเฉินฉายถึงไอสังหารทันทีราวกับว่าจะแล่เนื้อของไป๋หลี่ิชวนเป็ชิ้นๆ ไป๋หลี่ิชวนหัวเราะเสียงดังลั่น “มองทำไม เ้าให้ข้าปล่อยไม่ใช่หรือ? ทำไม ข้าปล่อยแล้วเ้ายังไม่พอใจอีก?”
ถึงแม้ว่าจวินจิ่วเฉินจะโกรธแค้น ทว่ายังคงระมัดระวัง ตัวเขาเองก็คาดการณ์ไม่ได้ว่าไป๋หลี่ิชวน้าทำสิ่งใด? เขาเคยได้เรียนรู้ในความเ้าเล่ห์ของไป๋หลี่ิชวนแล้ว
ไป๋หลี่ิชวนเหมือนจะมองทะลุความคิดของจวินจิ่วเฉิน เขาก้าวถอยหลังพลางเอ่ยถามด้วยรอยยิ้ม “ยังไม่เข้ามาชิงนางอีกหรือ? เ้าไม่กลัวว่าข้าจะเสียใจในภายหลัง? ”
ไป๋หลี่ิชวน้าหลบหนีจริงๆ หรือนี่คือกับดัก?
เดิมทีจวินจิ่วเฉิน้าใช้วิชาเคลื่อนไหวดั่งเงาเพื่อเคลื่อนตัวไป ทว่าในยามนี้เขาก้าวเดินทีละก้าวอย่างเชื่องช้าเฉกเช่นไป๋หลี่ิชวน
ไป๋หลี่ิชวนย่างถอยหนึ่งก้าว เขาขึ้นหน้าหนึ่งก้าว ด้วยเหตุนี้ระยะห่างของทั้งสองคนจึงยังคงเท่าเดิม ทว่าระยะห่างระหว่างเขากับกูเฟยเยี่ยนมีความเข้าใกล้มากขึ้นเรื่อยๆ ยิ่งเข้าใกล้กูเฟยเยี่ยนมากเพียงใด เขาก็จะมีโอกาสชนะมากขึ้นถึงเพียงนั้น
ไป๋หลี่ิชวนถอยหลังไปแล้วสิบก้าวจึงหยุดชะงักกะทันหัน ั์ตาของเขาทอประกายถึงความชั่วร้ายและเตรียมจะลงมือ ทว่ายามนี้บริเวณรอบข้างกลับปรากฏสุนัขปิงไห่เอ๋าฉ่วน [1] ทีละตัวๆ โดยที่โผล่ออกมาจากต้นหญ้าหิมะและลัดเลาะมาตามต้นหญ้าไหล่เขา
ในไม่ช้าพวกมันก็ล้อมรอบจวินจิ่วเฉินกับไป๋หลี่ิชวน
สุนัขปิงไห่เอ๋าฉ่วน หรือที่เรียกกันทั่วไปว่าจินเหยี่ยนเสวี่ยเอ๋า [2] สุนัขชนิดนี้มีรูปร่างขนาดใหญ่ที่เหนือกว่าหู่ซือ [3] เส้นขนขาวบริสุทธิ์ยิ่งกว่าหิมะ ั์ตาสีทองคำ อาศัยอยู่บริเวณชายฝั่งทางใต้กับชายฝั่งทางเหนือของทะเลน้ำแข็งมาั้แ่า สุนัขขนาดใหญ่สายพันธุ์นี้ดุร้ายและก้าวร้าวเป็พิเศษ อีกทั้งยังชื่นชอบการต่อสู้กับมนุษย์อีกด้วย
ถ้ามนุษย์เอาชนะพวกมันไม่ได้ มนุษย์ก็จะกลายเป็อาหารของพวกมันอย่างแน่นอน ถ้ามนุษย์สามารถเอาชนะพวกมันได้ พวกมันจะยอมจำนนอยู่ใต้อำนาจและยอมรับเป็นายอย่างสมบูรณ์
สำหรับผู้ที่เก่งกาจนั้นสามารถปราบจินเหยี่ยนเสวี่ยเอ๋าหนึ่งหรือสองตัวให้ศิโรราบได้ ทว่าบัดนี้บริเวณโดยรอบมีอยู่เป็ฝูงใหญ่!
อย่างน้อยก็ยี่สิบกว่าตัว! ถึงแม้ว่าจะเป็จวินจิ่วเฉินกับไป๋หลี่ิชวน พวกเขาก็ไม่มีความมั่นใจใดๆ วิธีที่เหมาะสมที่สุดของพวกเขาคือหลบหนี! เมื่อดูจากท่าทางของจินเหยี่ยนเสวี่ยเอ๋าแล้ว พวกมันวางแผนที่จะล้อมโจมตีพวกเขา อีกทั้งพวกเขาไม่อาจแน่ใจได้ว่าจะดึงดูดจินเหยี่ยนเสวี่ยเอ๋าอีกมากมายมาหรือไม่
จวินจิ่วเฉินกับไป๋หลี่ิชวนระมัดระวังตัวจากกันและกัน และทั้งสองต่างก็ระมัดระวังตัวจากรอบข้าง
ทันใดนั้น!
จวินจิ่วเฉินก็เคลื่อนไหวเข้าใกล้กูเฟยเยี่ยนในทันที ไป๋หลี่ิชวนเปิดพัดพับและจู่โจมเข็มพิษออกมามากมายนับไม่ถ้วน และแทบจะในเวลาเดียวกัน จินเหยี่ยนเสวี่ยเอ๋าทั้งหมดก็กระโจนเข้ามา
ความเร็วของจวินจิ่วเฉินนั้นเร็วที่สุด เขาหลบหลีกเข็มพิษโดยการโอบอุ้มกูเฟยเยี่ยนในแนวนอนพลางใช้เท้าถีบตัวจากพื้น พุ่งทะยานขึ้นสู่ฟากฟ้า ก่อนจะร่อนลงบริเวณนอกการปิดล้อมเพื่อเลี่ยงการสังหารของจินเหยี่ยนเสวี่ยเอ๋า
จินเหยี่ยนเสวี่ยเอ๋าสังหารโดนธาตุอากาศ พวกมันในยามนี้ไม่สนใจจวินจิ่วเฉินแล้ว แต่ตั้งเป้าหมายไว้ที่ไป๋หลี่ิชวนที่อยู่ในวงล้อมทันที พวกมันต่างก็จ้องไปที่ไป๋หลี่ิชวน ผู้นำหน้าก้มตัวลงเตรียมพร้อมจู่โจมได้ทุกเมื่อ
ไป๋หลี่ิชวนกำลังเตรียมจะหลบหนี และใน่เวลานี้ จู่ๆ จวินจิ่วเฉินก็คุกเข่าลงและทำให้กูเฟยเยี่ยนพลัดตกลงไปที่พื้น เขาถูกวางยาพิษ ขาและแขนทั้งสองข้างล้วนไร้เรี่ยวแรง และเ็ปประหนึ่งใบมีดเฉือน! ไม่ต้องสงสัยเลยว่าไป๋หลี่ิชวนซ่อนพิษไว้บนร่างกายของกูเฟยเยี่ยน!
น่ารังเกียจสิ้นดี!
ไป๋หลี่ิชวนมองจวินจิ่วเฉิน มุมปากยกขึ้นเผยให้เห็นถึงความยิ้มเยาะ แต่ใครจะไปทราบว่าจินเหยี่ยนเสวี่ยเอ๋าจะหันกลับมามองเช่นกัน ครั้นเห็นว่าจวินจิ่วเฉินคุกเข่าลงกับพื้น และกูเฟยเยี่ยนสลบไสลไม่ได้สติ พวกมันในยามนี้เหมือนกับมองเห็นเหยื่อที่สามารถล่าได้จึงละทิ้งไป๋หลี่ิชวนและกระโจนเข้าใส่
หมางจ้งที่ดักซุ่มอยู่ข้าง ๆ สวมหน้ากากปิดบังใบหน้าพลางพุ่งตัวออกมาจู่โจมและปกป้องจวินจิ่วเฉินกับกูเฟยเยี่ยนทันที จวินจิ่วเฉินกัดฟันอดทนต่อความเ็ป เขายืนหยัดโอบอุ้มกูเฟยเยี่ยน โดยที่มืออีกข้างหนึ่งยังคงถือดาบพร้อมที่จะต่อสู้...
—————
เชิงอรรถ
[1] เอ๋าฉ่วน หมายถึงสุนัขขนาดใหญ่สายพันธุ์มาสทิฟฟ์ (Mastiff)
[2] จินเหยี่ยนเสวี่ยเอ๋า หมายถึง สุนัขหิมะเนตรทอง
[3] หู่ซือ หมายถึง ไทกอน สัตว์ข้ามสายพันธุ์ระหว่างเสือกับสิงโต