รังสีที่แผ่กระจายออกมาจากโลงศิลานี้ ไม่ไม่รู้ว่าเพราะเหตุใดเนี่ยหลีจึงรู้สึกคุ้นเคยนัก
ระลอกพลังงานกลุ่มหนึ่งกระจายออกไปทั้งสี่ทิศทาง นี่คงต้องเป็พลังิญญาของยอดคนที่เหลือทิ้งไว้เป็แน่
พลังิญญาเป็พลังงานะอย่างหนึ่ง ต่อให้ผ่านไปพันๆ ปีก็ยังสามารถสถิตอยู่ในวัตถุเฉพาะนั้นๆ และไม่มีวันสลายหายไป
โลงศิลานี้สร้างขึ้นจากหินแผ่นเดียว ไม่มีร่องรอยว่าเคยถูกเปิดมาก่อน เกรงว่าแม้แต่เหล่ายอดฝีมือจากเมืองโบราณกู่หลันก็คงเปิดไม่ได้
เนี่ยหลีรู้สึกว่าอาณาเขติญญาภายในร่างกายกำลังสั่นะเืขึ้นมา เสียงัคำรามที่อยู่ลึกลงไปในอาณาเขติญญาของเขาเริ่มชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ เขาสาวเท้าก้าวหนึ่งเข้าไปที่โลงศิลา มองดูเส้นลายคาถาลึกลับมากมายบนนั้น ในสมองก็ผุดความคิดหนึ่งขึ้นมา เนี่ยหลีวางมือขวาของตนทาบลงไปบนฝาโลงศิลาทันที
ทันใดนั้นแสงสว่างลำหนึ่งพุ่งสูงขึ้นฟ้า มองเห็นแต่แสงสีขาวกำลังไหลท่วมอยู่บนโลงศิลานั้น
ฉับพลันก็บังเกิดเสียงตูมดังขึ้นคราหนึ่ง!
ลำแสงทรงอานุภาพนั้นถาโถมเข้าใส่ร่างของเนี่ยหลี
“อา!” เนี่ยหลีรู้สึกว่าราวกับว่ากระดูกทั่วร่างของตนกำลังจะแตกออกเป็เสี่ยงๆ ความเ็ปน่าสะพรึงกลัวนี้แม้กระทั่งเนี่ยหลีผู้มีกำลังใจกล้าแกร่งก็ยังแทบจะทนไม่ไหว
ลำแสงนี้ราวกับเป็เข็มเล็กๆ นับพันนับหมื่นเล่ม ทิ่มแทงเข้าไปในร่างกายของเนี่ยหลี
อาณาเขติญญาของเขาราวกับถูกโจมตีจนแทบะเิ
ห่างออกไป เยี่ยจื่ออวิ๋นที่กำลังสนใจคอยชำเลืองมองเนี่ยหลีเป็ระยะเห็นเนี่ยหลีะโร้องขึ้นด้วยความเ็ป สักพักหนึ่งจึงตื่นตระหนกขึ้นมา
เกิดอะไรขึ้น?
เนี่ยหลีเป็อะไรไป
เยี่ยจื่ออวิ๋นรีบวิ่งเข้าไปหาเนี่ยหลี ทว่าขณะที่วิ่งใกล้เข้าไปได้ราวห้าถึงหกหมี่ห่างจากเนี่ยหลี เสียงตูมทรงพลังดังขึ้นคราหนึ่ง พลังสะท้อนกลับแข็งแกร่งชุดหนึ่งกระแทกใส่นางจนกระเด็นออกไป
นางไม่อาจเข้าใกล้โลงศิลานั้นได้!
แต่เนี่ยหลีเข้าไปได้อย่างไร?
เยี่ยจื่ออวิ๋นถูกแสงขาวนั้นสะท้อนกลับออกไป สุดท้ายได้รับาเ็ตามร่างกายหลายแห่ง ชุ่มโชกไปด้วยเื ทว่านางกลับไม่สนใจความเ็ปบนร่างตน ล้วงหยิบกระบี่ยาวระดับเงินเล่มหนึ่งออกมาจากแหวนมิติ สะบัดกระบี่เข้าใส่อาคมเขตแดนรอบโลงศิลานั้น
ตูม!
เยี่ยจื่ออวิ๋นถูกสะท้อนกลับออกมาอีกครั้งหนึ่ง พลังนี้มิใช่สิ่งที่นางจะสามารถจัดการได้ ลำพังแค่ลำแสงสีขาวที่สาดส่องออกมานี้ก็ทำให้นางาเ็ไปทั่วร่างแล้ว แล้วเนี่ยหลีที่อยู่กลางลำแสงนั้นเล่า จะร้ายแรงถึงเพียงใด? หลังจากถูกอาคมเขตแดนสะท้อนกลับออกมาถึงสองครั้ง อาณาเขติญญาของเยี่ยจื่ออวิ๋นถูกะเือย่างแรง อวัยวะตันทั้งห้า อวัยวะกลวงทั้งหก*ของนางก็ได้รับาเ็แสนสาหัสแล้ว เปลือกตาของนางก็ยิ่งหนักขึ้น
(*อวัยวะภายในตันทั้ง ๕ ได้แก่ ตับ หัวใจ ม้าม ปอด ไต อวัยวะกลวงทั้ง ๖ ได้แก่ ถุงน้ำดี ลำไส้เล็ก กระเพาะอาหาร ลำไส้ใหญ่ กระเพาะปัสสาวะ ซานเจียว** ระบบท่อหรือหลอดทั้ง 3 (triple heater) ได้แก่ ระบบหายใจ ส่งผลต่อร่างกาย่บน(หัวใจ-ปอด) ระบบย่อยอาหารมีผลต่อ่กลางลำตัว(กระเพาะ อาหาร ม้าม ตับ) และระบบขับถ่ายมีผลต่อร่างกาย่ล่าง (ไต กระเพาะปัสสาวะ ลำไส้เล็ก))
“เนี่ยหลี เ้าห้ามเป็อะไรเด็ดขาด!” ในสมองของเยี่ยจื่ออวิ๋นปรากฏความคิดสุดท้ายขึ้นวูบหนึ่งก่อนจะสิ้นสติไป
ในเวลานี้ใจกลางแสงสีขาว ร่างของเนี่ยหลีกำลังกระจายไอหมอกออกมา ความเ็ปทรมานทำให้ทั้งร่างเปียกชุ่มไปด้วยเหงื่อ เมื่อเหงื่อเ่าั้ััถูกแสงขาวก็ค่อยๆ ระเหยกลายเป็ไอจนแห้งผาก ไอน้ำก็พวยพุ่งขึ้นหุ้มรอบตัว
“กระหายน้ำ!” เนี่ยหลีรู้สึกว่าน้ำในร่างกายของตนระเหยจนแทบเหือดแห้งหมดตัวแล้ว
เขาพยายามดิ้นรนเต็มที่ เข้าใจดีว่าหากเขาหมดสติไป ตนคงถูกแสงขาวนี้ทำลายจนกลายเป็ชิ้นเล็กชิ้นน้อยอย่างแน่นอน
ตูม ตูม ตูม!
อาณาเขติญญาของเนี่ยหลีถูกกระแทกและฉีกขาดไม่หยุด ทว่าก็ถูกรักษาซ่อมแซมทันทีไม่หยุดไปในเวลาเดียวกัน
จู่ๆ พลังิญญาก็ค่อยๆ ก่อรูปกลายเป็ลมหมุนขนาดใหญ่ราวกับปลาวาฬั์ตัวหนึ่ง กลืนกินแสงขาวนั้นอย่างต่อเนื่อง
เนี่ยหลีเหลือสติสัมปชัญญะเพียงน้อยนิด ทุ่มปกป้องอาณาเขติญญาไว้อย่างเหนียวแน่น เวลานี้แม้แต่เขาก็ยังสงสัยใจยิ่ง เ้าสิ่งที่อยู่ในอาณาเขติญญาของตนคืออะไรกัน?
“ช่างมันแล้ว ในเมื่อมันสามารถดูดซับแสงขาวเหล่านี้ได้ เช่นนั้นก็ดูดซับเลย!”
เนี่ยหลีใช้พลังงานเฮือกสุดท้ายเข้ากระตุ้นอาณาเขติญญาอย่างบ้าคลั่ง ดูดซับเอาแสงขาวทั้งหมดเข้าไปภายใน
ตูม ตูม ตูม!
แสงขาวนั้นหลั่งไหลเข้าไปในอาณาเขติญญาของเนี่ยหลีอย่างต่อเนื่อง ทว่าแสงขาวเ่าั้กลับไม่สร้างความปั่นป่วนอันใดให้แก่อาณาเขติญญา เพียงหายลับไปเสียเช่นนั้น
เนี่ยหลีรู้สึกว่าแม้แสงขาวนั้นจะหายไปอย่างไร้ร่องรอย แต่ยังคงช่วยขยายอาณาเขติญญาของเนี่ยหลีออกไปได้หลายส่วน ภายในอัดเต็มไปด้วยพลังิญญาที่สาดซัด
พลังิญญาที่บ้าคลั่งส่งผลให้กล้ามเนื้อทั่วร่างแข็งแกร่งขึ้น สิ่งเจือปนภายในิัถูกขับออกมาพร้อมเหงื่อ ร่างกายของเนี่ยหลีรู้สึกราวกับถูกสร้างขึ้นมาใหม่
“อ๊าก!”
เนี่ยหลีคำรามลั่น แม้ความก้าวหน้าของเขาในขณะนี้ยังห่างชั้นกว่าชีวิตหนก่อนอีกมากนัก แต่ความรู้สึกที่พลังแข็งแกร่งขึ้นเช่นนี้ยังคงนับว่าไม่เลว
เมื่อลืมตาขึ้นภาพตรงหน้าก็ค่อยๆ ชัดเจนขึ้น
เนี่ยหลีรีบหยิบน้ำหลายขวดออกมาจากแหวนมิติ เริ่มดื่มอึกๆ ลงไปอย่างกระหาย ผิวที่แห้งผากเพราะขาดน้ำกลับชุ่มชื่นขึ้นมาได้อย่างรวดเร็วราวกับมีเวทมนตร์ เวลานี้เนี่ยหลีดูหล่อเหลายิ่งขึ้นกว่าเมื่อครู่นัก
หันไปข้างหน้า โลงศิลาตรงหน้ากำลังขยับแยกออกจากกันไม่หยุดและฝาโลงศิลาก็ค่อยๆ เปิดออก
เนี่ยหลีคิดว่าเขาคงจะได้เห็นซากศพเน่าเปื่อยสักร่างหนึ่ง เพราะโลงศิลานี้ดูเหมือนจะไม่เคยถูกเปิดมาก่อน แต่ทว่าสิ่งที่ทำให้เนี่ยหลีต้องประหลาดใจที่สุดก็คือภายในโลงศิลานั้นกลับว่างเปล่า
เป็ไปได้อย่างไรกัน?
เนี่ยหลีคิดว่าตนดูผิด แต่ภายในโลงศิลานั้นว่างเปล่าจริงๆ ไม่มีซากศพใดๆ อยู่ทั้งสิ้น ทั้งยังไม่มีร่องรอยว่าเคยมีศพถูกบรรจุอยู่ภายในนั้น ที่ก้นโลงศิลาดูราบเรียบไม่มีเศษหินเศษดินแม้สักชิ้น
หากศพในนี้ย่อยสลายไปจนหมดอย่างน้อยก็ต้องเหลือกระดูกอยู่บ้าง
ทว่าข้างใต้โลงศิลากลับมีของสองชิ้นวางนิ่งอยู่
ชิ้นหนึ่งเป็กระดาษหนึ่งหน้า อีกชิ้นเป็สร้อยอัญมณีหนึ่งเส้น
ไม่รู้ว่ากระดาษชิ้นนี้ใช้วัสดุอะไรจัดทำขึ้น มันบางราวกับปีกจักจั่น อีกทั้งยังโปร่งใสเล็กน้อย บนกระดาษเขียนตัวหนังสือมากมายด้วยภาษาที่เข้าใจยากสักอย่าง
หากเป็ผู้อื่นได้เห็นเศษกระดาษชิ้นนี้ พวกเขาคงไม่รู้ว่ามันคืออะไรอย่างแน่นอน ทว่าเมื่อเนี่ยหลีเห็นกระดาษแผ่นนี้กลับรู้สึกราวกับถูกฟ้าผ่า สายตาเต็มไปด้วยความงงงวย ในชีวิตหนก่อนเขาคุ้นเคยกับของสิ่งนี้เหลือเกิน
มันคือกระดาษหน้าหนึ่งในหนังสือบันทึกจิตอสูรแห่งกาลเวลา!
เขาลืมไปได้อย่างไร? เพราะบันทึกจิตอสูรแห่งกาลเวลาเล่มนี้เขาจึงกลายเป็คนที่แข็งแกร่งนัก และเขายังเคยอาศัยอยู่ในมิติของบันทึกจิตอสูรแห่งกาลเวลานานนับร้อยๆ ปี ได้รับความรู้มากมาย และก็เป็หนังสือเล่มนี้ที่เปียกโชกไปด้วยเืสดๆ ของเขาระหว่างการต่อสู้กับาาเทพอสูรจนได้กลับมาเกิดใหม่
สิ่งลึกลับภายในอาณาเขติญญาของเขาก็อาจจะมีความเกี่ยวข้องกับบันทึกจิตอสูรแห่งกาลเวลาเล่มนี้
ทว่าในอดีตนั้นบันทึกจิตอสูรแห่งกาลเวลาเล่มนี้ไม่สมบูรณ์
แปดหน้าด้านหลังของบันทึกจิตอสูรแห่งกาลเวลาถูกฉีกหายไป บันทึกจิตอสูรแห่งกาลเวลาที่สมบูรณ์หน้าตาเป็อย่างไรเนี่ยหลีก็ไม่เคยเห็นมาก่อน
เพราะตัวหนังสือในบันทึกจิตอสูรแห่งกาลเวลากำกวมเกินไป เนี่ยหลีจึงไม่เคยเข้าใจมัน ทุกครั้งที่พยายามจดจำคำต่างๆ ที่เขียนอยู่ในนั้น แต่พอผ่านไปไม่กี่ชั่วโมงก็พบว่าในสมองไม่สามารถจดจำข้อความใดๆ ได้เลย
ในชีวิตหนก่อนเนี่ยหลีพยายามเสาะหากระดาษอีกแปดหน้าที่เหลือ ทว่าในท้ายที่สุดก็ไม่ได้ร่องรอยอันใด คิดไม่ถึงว่าเมื่อกลับมาเกิดใหม่กลับได้พานพบหน้าหนึ่งของหนังสือบันทึกจิตอสูรแห่งกาลเวลาที่นี่
เสียดายบันทึกจิตอสูรแห่งกาลเวลาขณะนี้ไม่อยู่ในมือของเขา เขาต้องทำเหมือนในอดีต กลับไปที่วิหารทะเลทรายแห่งนั้นและเข้าไปที่แท่นบูชาเทพเ้าเพื่อเอาหนังสือบันทึกจิตอสูรแห่งกาลเวลา!
ไม่รู้ว่าเมื่อได้หน้าหนังสือเพิ่มขึ้น หนังสือบันทึกจิตอสูรแห่งกาลเวลาเล่มนั้นจะเกิดความเปลี่ยนแปลงอะไรขึ้นมาบ้าง?
เนี่ยหลีเก็บหน้ากระดาษของบันทึกจิตอสูรแห่งกาลเวลาไว้ในอกเสื้อ อาณาเขติญญาของเขาราวกับััได้ถึงหน้ากระดาษของบันทึกจิตอสูรแห่งกาลเวลาแผ่นนี้ มันเริ่มกระเพื่อมไหวขึ้นมา ช่างเหมือนเช่นชีวิตในชาติที่แล้วของเขา หน้ากระดาษแผ่นนี้มีผลเฉกเช่นเดียวกับบันทึกจิตอสูรแห่งกาลเวลา มีผลต่อการบำรุงอาณาเขติญญาของตน
สายตาของเนี่ยหลีตกอยู่ที่สร้อยอัญมณีล้ำค่าเส้นนั้น ใบหน้าแสดงความอัศจรรย์ใจ “ที่แท้เป็สร้อยหินไพลินสีเข้มเส้นหนึ่ง นี่เป็ของหายากอย่างยิ่ง!” ต่อให้เป็ผู้ควบคุมจิตอสูรระดับตำนานเยี่ยโมก็เกรงว่าจะไม่เคยได้เห็นหินไพลินสีเข้มเช่นนี้มาก่อน ไพลินสีน้ำเงินเข้มเช่นนี้ถือเป็สมบัติโบราณล้ำค่าอย่างหนึ่ง!
อย่างไรก็ตาม แม้ไพลินสีน้ำเงินเข้มเป็อัญมณีหายากอย่างหนึ่ง แต่เมื่อเทียบกับบันทึกจิตอสูรแห่งกาลเวลาแล้วย่อมกลายเป็ของธรรมดายิ่ง
“สร้อยไพลินเส้นนี้มอบให้จื่ออวิ๋นนับว่าเหมาะสม!” เนี่ยหลีคิดไปยิ้มไป ด้วยความรู้สึกลึกซึ้งที่มีต่อเยี่ยจื่ออวิ๋น ต่อให้มอบกระดาษหนึ่งหน้านี้ให้เยี่ยจื่ออวิ๋นเขาก็จะไม่ลังเลแม้แต่น้อย อย่างไรก็ตาม บันทึกจิตอสูรแห่งกาลเวลานี้ไม่เป็ประโยชน์ต่อเยี่ยจื่ออวิ๋นแม้แต่น้อย ในทางกลับกัน สร้อยไพลินเส้นนี้จะเป็ประโยชน์ใหญ่หลวงต่อการฝึกยุทธ์ เมื่อมีสร้อยไพลินเส้นนี้ ความก้าวหน้าในการฝึกยุทธ์ของเยี่ยจื่ออวิ๋นจะรวดเร็วขึ้นอย่างน้อยสามเท่าเลยทีเดียว
เหตุใดกระดาษหนึ่งหน้าของบันทึกจิตอสูรแห่งกาลเวลาจึงมาอยู่ที่นี่? ในใจของเนี่ยหลียังเต็มไปด้วยความสงสัย ในเมื่อโลงศิลานี้ว่างเปล่า ก็หมายความว่าจักรพรรดิคงิไม่อยู่ที่นี่ แล้วเขาไปอยู่ที่ไหน?
เื่นี้เป็ปริศนายิ่ง
เนี่ยหลีเก็บของทั้งสองสิ่ง ครั้นเมื่อหมุนตัวไปก็เห็นเยี่ยจื่ออวิ๋นนอนสิ้นสติอยู่บนพื้น
“เกิดอะไรขึ้นกับจื่ออวิ๋นของข้า?” เนี่ยหลีใพุ่งตัวไปหาเยี่ยจื่ออวิ๋น
เนี่ยหลีไปถึงข้างกายของเยี่ยจื่ออวิ๋น เห็นตามร่างกายของเยี่ยจื่ออวิ๋นเต็มไปด้วยแผลไหม้ บริเวณทรวงอก ตามแขนทั้งสองข้าง และต้นขาก็มีาแลึกหลายแห่ง เนี่ยหลีรีบแตะข้อมือของเยี่ยจื่ออวิ๋น ถ่ายทอดพลังิญญาเข้าไปในร่างกายของเยี่ยจื่ออวิ๋นและพบว่านางยังไม่เป็อะไรร้ายแรงมากนักจึงค่อยโล่งอก
เห็นอาการาเ็หนักสิ้นสติของเยี่ยจื่ออวิ๋น เนี่ยหลีรู้สึกปวดใจยิ่งนัก คงต้องเป็เพราะนางได้ยินเนี่ยหลีะโร้องจึงอยากเข้าไปช่วยเนี่ยหลี อย่างไรก็ตาม นางไม่อาจเข้าใกล้โลงศิลานั้นได้ และบางทีอาจจะพยายามฝืนเข้าไป จึงถูกอาคมเขตแดนนั้นทำร้ายเข้า
รอยแผลไหม้เ่าั้คงเป็เพราะแสงสีขาวนั่น
เห็นสภาพของเยี่ยจื่ออวิ๋นในเวลานี้ ในใจเนี่ยหลีเต็มไปด้วยความสงสาร เขาสวมสร้อยไพลินเส้นนั้นไว้กับคอของเยี่ยจื่ออวิ๋น แสงสีน้ำเงินเข้มกระจายออกมาจากไพลินเส้นนั้น สาดทอใส่าแของเยี่ยจื่ออวิ๋น รอยไหม้บนตัวของเยี่ยจื่ออวิ๋นก็ค่อยดีขึ้น
“เสียเืมากเกินไป! ต้องรีบรักษาแผลที่ใหญ่ที่สุดโดยเร็วที่สุด!” เนี่ยหลีนิ่งเงียบ เห็นซีกแก้มผุดผ่องของเยี่ยจื่ออวิ๋นจึงหยุดคิดครู่หนึ่ง เขาคิดมากเกินไปไม่ได้แล้ว อย่างมากก็แค่ถูกเยี่ยจื่ออวิ๋นเข้าใจผิด ยังดีกว่าปล่อยให้าเ็ต่อไป
เนี่ยหลีนั่งลงกับพื้น ค่อยๆ ปลดเสื้อผ้าของเยี่ยจื่ออวิ๋นลงมา สองไหล่กลมกลึงและต้นแขนบอบบางขาวราวหยกเผยสู่สายตาของเนี่ยหลี ทรวงอกของเยี่ยจื่ออวิ๋นพันไว้ด้วยแถบผ้าสีม่วง เสริมส่งให้แลดูงดงามยิ่ง
ทรวงอกแรกรุ่นของเยี่ยจื่ออวิ๋นคู่นี้ยังไม่อวบอิ่มเท่าชาติที่แล้ว แม้ยังไม่สมบูรณ์เท่าไหร่นัก แต่ก็มีความน่ารักน่าทะนุถนอมเป็อันมาก
หลังจากปลดเปลื้องเสื้อผ้าของเยี่ยจื่ออวิ๋นลงมาแล้ว เขาจึงถอนสายตาหันไปจดจ่ออยู่กับาแของเยี่ยจื่ออวิ๋น เขาหยิบขี้ผึ้งรักษาแผลขวดหนึ่งออกมาจากแหวนมิติและค่อยๆ ทาลงบนาแ
หลังจากาแได้ยาขี้ผึ้งชโลมทา เืก็ค่อยๆ หยุดไหล
--------------------------------------
ที่มา * 五脏六腑 (wǔzàng liùfǔ) สนใจลองอ่านดูนะคะ (ยาวมาก)
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้