คุณย่าเคยบอกว่า ต้นเฮ่อชอบขึ้นบนเนินเขาชื้นแฉะ ไม่ก็ตามคูน้ำ หากหามันพบ ไม่เพียงแต่สามารถแก้ปัญหาเื่วัตถุดิบอาหาร ยังเอามาทำเสื้อผ้าได้อีกด้วย
ยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว เป็เื่ที่ดีมาก เซวียเสี่ยวหรั่นคิดแล้วก็เบิกบานใจ
เรือมาถึงสะพานย่อมจะตรงไปเอง [1] หาต้นหมากับเฮ่อให้พบก่อนอย่างอื่นค่อยว่ากัน
เกิดเป็คนควรเปิดใจให้กว้าง มองโลกในแง่ดี เมื่อพบเจอปัญหาจึงจะมีสติรับมือได้ เซวียเสี่ยวหรั่นจึงยึดมั่นในคติคิดบวกและมุ่งไปข้างหน้าอยู่เสมอ
ส่วนถ้าหาต้นหมาหรือเฮ่อพบแล้วจะเอามาทำเสื้อผ้าอย่างไร อย่างแรกคือต้องแยกเส้นใยออกมาก่อน วิธีการไม่มีอะไรมากนอกจากการแช่ ต้ม ตากแดด ล้างน้ำ การขยี้ เป็ต้น เธอเคยดูจากรายการสารคดี แต่ก็จำไม่ได้ชัดเจนนัก
วิธีการนั้นเป็เื่รอง แต่ที่ทำให้เธอปวดหัวก็คือพลังงานที่ต้องใช้ระหว่างดำเนินการต่างหาก สองวันมานี้เธอใช้กำลังกายไปมาก ประกอบกับมีรอยฟกช้ำตามตัว ใช้แรงหน่อยก็เจ็บแล้ว
โอ้์ เชื่อว่าในไม่ช้าคำกล่าวที่ว่า 'ตัวเบาดุจนกนางแอ่น' ให้ความรู้สึกอย่างไรตนเองคงได้ััอย่างแน่นอน
เซวียเสี่ยวหรั่นทอผ้าไม่เป็ แต่เธอถักเสื้อไหมพรม รองเท้าไหมพรม หมวกไหมพรม ถุงเท้าไหมพรม รวมถึงปักครอสติชเป็ของใช้จุกจิกได้
เธอเป็เด็กที่คุณย่าเลี้ยงดูจนเติบใหญ่ย่อมได้รับอิทธิพลมาเต็มๆ
ั้แ่เล็กเธอเห็นคุณย่าทำสิ่งเหล่านี้ ย่อมจะเรียนรู้โดยธรรมชาติ ยามว่างไม่มีอะไรทำ ก็หยิบชิ้นงานกึ่งสำเร็จรูปของคุณย่ามาปักเย็บอยู่บ้าง
่ปีแรกๆ บ้านของพวกเขายังไม่ติดสายเคเบิลอินเทอร์เน็ต ใช้ชีวิตอย่างเรียบง่าย กิจกรรมส่วนใหญ่ของเซวียเสี่ยวหรั่นคือการทำการบ้าน กินข้าวและดูทีวี คุณย่าก็จะนั่งอยู่ข้างเธอ ไม่ถักเสื้อไหมพรมสำหรับเด็กผู้หญิงก็ถักถุงมือถุงเท้า หรือไม่ก็ปักครอสติช
เพิ่งจะมาติดอินเทอร์เน็ตเมื่อไม่กี่ปีมานี้เอง เพราะน้องชายกับเหล่าญาติผู้น้องของเธอชอบบ่นว่ากลับมาทีไรไม่มีอินเทอร์เน็ตให้เล่น ทุกครั้งมาเพียงไม่นานก็ร่ำร้องจะกลับกันแล้ว
คุณปู่ถึงต้องไปเดินเื่ติดตั้งบริการบรอดแบรนด์เพื่อรั้งให้พวกเขาอยู่ต่อนานขึ้นอีกหน่อย
เซวียเสี่ยวหรั่นเลยพลอยได้รับอานิสงส์จากพวกเขาไปด้วย ในบ้านมีคอมพิวเตอร์และโทรศัพท์สมาร์ทโฟน เธอก็เลยเริ่มหันมาใช้มือถือกับคอมพิวเตอร์เป็งานอดิเรก ส่วนทีวีก็ไม่ค่อยได้ดูแล้ว
ดังนั้นความทรงจำเกี่ยวกับสารคดีที่เคยดูเมื่อหลายปีก่อนจึงรางเลือนมาก
แต่สิ่งเหล่านี้มิได้สำคัญนัก ค่อยเป็ค่อยไปดีกว่า อารมณ์ของเซวียเสี่ยวหรั่นเปลี่ยนเป็สดใส
อย่างไรเสียสถานการณ์ก็เป็เช่นนี้ไปแล้ว ร้องไห้ไปก็เปล่าประโยชน์ ไม่สู้คิดหาหนทางเพื่อวันข้างหน้าย่อมดีกว่าเป็ไหนๆ
เธอคีบเนื้องูเหลืองเกรียมชิ้นหนึ่งขึ้นมา แน่ใจว่าสุกจนไม่อาจจะสุกไปได้มากกว่านี้อีกแล้ว "ฟู่... ฟู่..." หลังเป่าสองสามครั้ง ก็กัดเข้าไปคำหนึ่ง
เนื้อทั้งสดนุ่มละมุนลิ้น เนื้อแน่นไร้ไขมัน มีรสหวานเล็กน้อย ทั้งที่ไม่ได้เติมเครื่องปรุงแต่กลับไม่แย่
เซวียเสี่ยวหรั่นกินอย่างมีความสุข "ไม่นึกเลยว่าเนื้องูจะอร่อยขนาดนี้"
หลังกัดเข้าไปอีกคำ ก็วางเนื้องูในมือลงด้านข้าง จากนั้นก็ใช้มีดตัดใบเผือกป่าออกมาใบหนึ่ง คีบเนื้องูที่ย่างสุกทิ้งไว้จนเย็นแล้วห่อด้วยใบมันก่อนส่งให้เหลียนเซวียน
"ท่านลองชิมดู รสชาติไม่เลว ไม่มีกลิ่นคาวสักนิด ทั้งยังสดมากอีกด้วย"
เหลียนเซวียนรับเนื้องูที่ห่อมาอย่างดี ก้มศีรษะให้นางแทนคำขอบคุณ
เซวียเสี่ยวหรั่นกลับไม่ใส่ใจจะมองเขา หันกลับไปคีบเนื้องูอีกครึ่งหนึ่งขึ้นมากัดกินอย่างเอร็ดอร่อย
เหลียนเซวียนเอาเนื้อเข้ามาใกล้ริมฝีปาก คุ้นเคยกับกลิ่นหอมของเนื้องูเป็อย่างดี เหลยลี่ชอบเอาเนื้องูมาย่างกินเป็ที่สุด งูเกือบทั้งหุบเขาราชันโอสถล้วนถูกเขาจับมาทั้งสิ้น
ไม่รู้ว่าเหลยลี่จะพบความไม่ชอบมาพากลของสตรีผู้นั้นหรือยัง
"เหลียนเซวียน รีบกินเข้าสิ เย็นแล้วกินไม่ดีนะ"
เซวียเสี่ยวหรั่นเคี้ยวเนื้องูตุ้ยๆ พลางเร่งเขาที่กำลังเหม่อลอย คนผอมเหลือแต่หนังหุ้มกระดูก เนื้อย่างหอมฉุยอยู่ในมือแต่กลับยังเหม่อลอย เธอล่ะนับถือเลย
เหลียนเซวียนมุมปากกระตุก เริ่มกินอาหารอย่างช้าๆ หลังกัดเข้าไปคำหนึ่ง ก็หุบปากเคี้ยวอยู่เงียบๆ
จิ๊ๆ เซวียเสี่ยวหรั่นเดาะลิ้นในใจ เวลาแบบนี้ยังมีเวลามาพิถีพิถันกับของกิน ไม่รู้ว่าเ้าหนุ่มนี่เป็นายท่านหรือคุณชายตระกูลใหญ่โตที่ไหนหรือเปล่า
เธอเหลือบมองใบหน้าแดงเขียวม่วงแลดูน่ากลัวนั้น ก่อนเบ้ปากแล้วหันกลับมาสนใจกินเนื้อของตนเองต่อไป
เนื้อหนึ่งชิ้นใหญ่หั่นเป็หกชิ้นเล็ก แล้วแบ่งออกเป็สามส่วน ที่ห่ออยู่ในใบเผือกป่ายังมีอีกสี่ชิ้นใหญ่
เซวียเสี่ยวหรั่นลูบท้องอันอบอุ่น ใบหน้าเผยรอยยิ้มสบายใจ
"ที่เหลือก็แขวนตากลมให้แห้ง อากาศแบบนี้คงไม่เสียง่ายๆ"
เธอลุกขึ้นอย่างยากเย็น ข้างกำแพงมีโพรงหิน อยู่ตรงตำแหน่งไหล่ของเธอพอดี หลังทำความสะอาดเรียบร้อยแล้ว ก็เอาเนื้องูที่ห่อด้วยใบเผือกป่าวางขึ้นไป
"วางตรงนี้ก่อน พรุ่งนี้ค่อยหาหญ้าที่เหนียวหน่อยมาแขวนพวกมันขึ้นไป
เธอหยิบกิ่งไม้แห้งท่อนยาวมากิ่งหนึ่ง ใช้เท้าเหยียบด้านที่หนาไว้ แล้วออกแรงหัก "เปรี๊ยะ" กิ่งไม้หักเป็สองท่อน แต่แรงดีดที่ตามมาทำให้เซวียเสี่ยวหรั่นต้องหน้าเบ้ปากสูดไอเย็นเข้าโพรงอก
"โอ๊ย... แม้แต่กิ่งไม้ยังรังแกฉันเลย" เธอเบ้ปากวางกิ่งไม้เข้าไปในกองไฟ จากนั้นก็ใช้วิธีเดิมหักกิ่งไม้ต่อ หักไปก็เบ้ปากไป "ซี้ด... รังแกกันดีนัก ฉันก็จะเผาพวกนายให้กลายเป็เถ้าถ่าน เปลี่ยนเป็ปุ๋ยซะเลย เชิญพวกนายสำแดงความอบอุ่นที่เหลืออยู่ให้เต็มที่ต่อไปเถอะ ฮึ! ฟืนสำหรับคืนนี้คงจะพอแล้วละมั้ง"
จนกระทั่งหักกิ่งไม้ทั้งกองนั้นหมดแล้ว เธอก็แค่นเสียงหึสองครั้งก่อนตะแคงก้นนั่งลงไป
เหลียนเซวียนฟังความเคลื่อนไหวของนางอยู่เงียบๆ ใบหน้าดูเหมือนราบเรียบ แต่ในใจกลับเกิดความรู้สึกที่ไม่อาจอธิบายได้ สตรีเ้าอารมณ์แบบนี้เขาเพิ่งเคยพบเคยเห็นเป็ครั้งแรก
พิเศษมาก มหัศจรรย์ ไม่สิ ควรบอกว่าแปลก... พิสดารมากกว่า
บ่นไปก็ร้องเจ็บไป แต่ก็ยังหักท่อนฟืนไปด้วย หลังเสียงโครมครามหยุดลง ก็ปัดๆ ฝุ่น ถอนหายใจแล้วนั่งลง
ไม่รู้อย่างไร เหลียนเซวียนเกิดความรู้สึกอยากหัวเราะอยู่บ้าง เอ้อ... แน่นอนว่าเขาไม่ได้หัวเราะจริงๆ ทว่ามุมปากกลับกระตุกเล็ก ทำเอาหนวดเครารุงรังของเขาสั่นระริก
"เอ๋ ท่านเจ็บแผลรึ" เซวียเสี่ยวหรั่นนั่งลง เห็นหน้าของเขาสั่นน้อยๆ ก็รีบหยิบเป้ของตนเองเดินเข้ามา "ยาแก้ปวดเหลือแค่เม็ดเดียวยาแก้อักเสบก็เหลือแค่เม็ดเดียว ยาลดไข้ให้ท่านกินไปเมื่อคืนตอนนี้หมดแล้ว ดังนั้นจะมีไข้ไม่ได้อีกแล้ว ต่อไปก็เหลือแค่ยาแก้กระเพาะอย่างเดียวแล้ว ดีที่ยังเหลือเยอะหน่อย เฮ่อ แย่จัง รู้อย่างนี้ซื้อมาตุนเยอะหน่อยก็ดี"
ยาเหล่านี้ซื้อมาตุนได้ด้วยหรือ เหลียนเซวียนจดจ้องเงาเลือนรางตรงหน้า ความคิดหมุนไปอย่างรวดเร็ว เมื่อวานนางป้อนยาให้เขากิน เม็ดเล็กมาก แต่ได้ผลดีเยี่ยม
ไม่ว่าจะแก้ปวดหรือลดไข้ เห็นผลแทบจะทันที แล้วก็ยาแก้อักเสบอะไรนั่น หากดูจากชื่อเชื่อมโยงไปถึงความหมายของมันก็น่าจะใช้เพื่อลดอาการอักเสบ าแส่วนที่บวมแดงของเขาดูเหมือนว่าจะยุบลงหน่อยแล้ว
เขาไม่เคยได้ยินมาก่อนว่าจะมีที่ไหนหลอมยาวิเศษเช่นนี้ออกมาได้
แล้วแม่นางผู้นี้ไปซื้อมาจากไหนกันล่ะ ในหัวของเหลียนเซวียนมีแต่เครื่องหมายคำถาม แต่เขามิอาจถามออกไปได้
"แผลของท่านเจ็บมากเลยหรือ ต้องกินยาแก้ปวดหรือเปล่า" เซวียเสี่ยวหรั่นมองยาเม็ดสุดท้ายในมือด้วยความเสียดาย
ตอนปวดท้องระดูแทบตายก็อาศัยเ้านี่แหละช่วยชีวิต แม้ไม่ถึงกับปวดทุกครั้ง แต่ก็ปวดทีก็ทรมานมากจริงๆ
หากให้เหลียนเซวียนกินไป ก็ไม่มีอีกแล้ว
แล้วตอนที่คุณป้าใหญ่ [2] มาเยือนเธอจะทำอย่างไร เมื่อคืนได้รับไอเย็นทั้งคืน ทำนายล่วงหน้าได้เลยว่าเดือนนี้เธอจะได้ลิ้มรสความเ็ปทรมานจนิญญาแทบออกจากร่างเป็แน่
...
[1] หมายความว่า เมื่อเกิดปัญหาไม่ต้องร้อนใจ ปัญหาจะคลี่คลายไปเองเมื่อถึงเวลา
[2] หมายถึงรอบเดือนของสตรี