อะไรคือ 'เ้านั่น' เหลียนเซวียนฟังแล้วก็งุนงง
เซวียเสี่ยวหรั่นเสยหน้าม้าที่แนบติดหน้าผาก เลียริมฝีปากที่แห้งแตกระแหงพลางเอ่ยว่า "อืม... ก็เ้าตัวนั้นที่ท่านฆ่าตายอย่างไรเล่า"
เธอไม่กล้าบอกตรงๆ ว่าเป็งู แต่เท่าที่รู้มา มีคนอีกมากที่รับไม่ได้หากจะมีเนื้องูอยู่ในอาหารบนโต๊ะ
งู? เหลียนเซวียนเข้าใจความหมายที่เธอพยายามสื่อทางอ้อมทันที จึงผงกศีรษะเบาๆ
อยู่บนเขาราชันโอสถมาหลายปี เนื้องูที่เคยกินไม่หนึ่งร้อยก็มีเก้าสิบตัวได้
เมื่อ่บ่ายตอนที่ออกมาจากริมแม่น้ำ เขาก็ว่าจะเตือนนางอยู่ ว่าจะเอางูตัวนั้นมาด้วยดีหรือไม่ เพียงแต่พอนึกว่านางกลัวงูตัวนั้นจนิญญาแทบออกจากร่าง พอตระหนักได้เช่นนั้นจึงสงวนวาจาไว้
สตรีกลัวงูเป็เื่ธรรมชาติ
แต่ไม่นึกว่านางจะแล่นกลับไปจับมันกลับมาด้วยตนเอง ดูท่าสัญชาตญาณความหิวจะชนะธรรมชาติที่กลัวงูของนาง มุมปากของเหลียนเซวียนประดับรอยยิ้มน้อยๆ
เห็นเขาพยักหน้า เซวียเสี่ยวหรั่นค่อยโล่งใจ "เฮ่อ... ท่านกินได้ก็ดีเลย สถานที่แบบนี้สัตว์ที่กินได้มีไม่น้อย แต่ข้าล่าสัตว์ไม่ได้ สร้างกับดักก็ไม่เป็ คิดจะล่าเหยื่อคงเป็แค่ความฝันของคนปัญญาอ่อน ท่านยังาเ็ ไม่เหมาะจะเคลื่อนไหว ดังนั้นเนื้องูนี้ก็นับว่าเป็ของล้ำค่าแล้ว"
พูดไป สายตาก็เลื่อนไปที่เนื้องูเ่าั้ ในหัวนึกอยู่ว่าจะทำอย่างไรถึงจะเก็บรักษาเนื้อไว้ได้สักสองสามวัน เพื่อเป็เสบียงสำหรับพวกเขาสองคน
ดองเค็ม ผึ่งลม รมควัน ตากแห้ง
ในสมองผุดวิธีสามสี่อย่างที่พบเห็นบ่อยครั้ง ดองเค็มขาดปัจจัย ตากแห้งปัจจัยไม่พอเพียง เห็นได้ชัดว่าแสงไม่เพียงพอ ผึ่งลมกับรมควันสองอย่างนี้พอลองดูได้ แต่การรมควันกับผึ่งลมก็ต้องผ่านการหมักด้วยเกลือ ถ้าไม่ใส่เกลือก็ไม่รู้ว่าจะสำเร็จหรือเปล่า
เซวียเสี่ยวหรั่นจดจ้องเนื้องูพลางใช้ความคิดอย่างหนัก จนกระทั่งขาทั้งสองที่คุกเข่าอยู่เริ่มชา ถึงรู้สึกตัวได้สติกลับมา
"อูย..." ก้นก็เจ็บ ขายังมาชาอีก เธอใช้มือยันพื้นแล้วตะแคงก้นนั่งด้วยสีหน้าบิดเบี้ยว
เหลียนเซวียนได้ยินนางร้องซี้ดด้วยความเ็ป นึกถึงสิ่งที่นางต้องเผชิญมาทั้งวัน ดวงตาที่มักไม่แยแสต่อสิ่งใดก็อ่อนโยนลงมาโดยไม่รู้ตัว
แม้จะอยู่ร่วมกัน่ระยะเวลาสั้นๆ เพียงสองวัน แต่เหลียนเซวียนก็เข้าใจนิสัยใจคอของเซวียเสี่ยวหรั่นพอประมาณ แม้จะโผงผาง ขี้บ่นและชอบตื่นตูมอยู่สักหน่อย แต่ก็เป็แม่นางที่จิตใจดี ร่าเริงเป็มิตร ใจกว้าง เข้ากับผู้อื่นได้ง่าย
หากตนเองคาดเดาไม่ผิด สถานที่ที่พวกเขาอยู่ตอนนี้น่าจะอยู่ในอาณาจักรแคว้นหลี แม่น้ำไหลเชี่ยวพัดพาเขาจากต้นน้ำลอยตามกระแสมาจนเข้าสู่ด้านในสุดของหุบเขาเยว่หลิงซัน
ถ้าอยากจะออกจากด้านในสุดของหุบเขาโดยสวัสดิภาพ ต่อให้เป็ก่อนหน้าที่เขาจะต้องพิษและได้รับาเ็ก็ยังต้องเสียเวลาไม่น้อย แต่ด้วยสภาพที่จะตายแหล่มิตายแหล่ของตนเองตอนนี้ เดินเท้าครึ่งปีก็ยังไม่แน่ว่าจะออกไปได้ แผนการสำหรับตอนนี้คงได้แต่ต้องพักรักษาอาการาเ็ในถ้ำแห่งนี้ไปก่อนชั่วคราว
เพียงแต่าแภายนอกยังไม่ลำบากเท่าไรส่วนใหญ่ล้วนเป็รอยเฆี่ยน ดูเหมือนจะรุนแรง แต่ที่จริงกลับรักษาง่าย อุปสรรคคือพิษหลายชนิดในร่างกายของเขาต่างหาก ยาถอนพิษที่สอดคล้องกับพิษแต่ละชนิดไม่ง่ายที่จะเก็บรวบรวมมาได้ ถ้าอาจารย์ของเขายังมีชีวิตอยู่ หรือมีศิษย์พี่อยู่ข้างกาย การจะถอนพิษกลับไม่ยาก แต่น่าเสียดายอาจารย์กลายเป็เซียนไปแล้ว ศิษย์พี่ก็ไม่มีที่อยู่เป็หลักแหล่ง ยากจะค้นหาเบาะแส
ตอนนั้นเขาลุ่มหลงกับการศึกษาวรยุทธ์ ความสนใจที่มีต่อวิชาแพทย์ไม่มากนัก อาจารย์ก็ไม่เคยเรียกร้องเกี่ยวกับเื่นี้แต่อย่างใด
หากตอนนั้นเขาสนใจศึกษาวิชาแพทย์ให้มากหน่อย ไหนเลยจะต้องตกมาอยู่ในสถานการณ์เช่นตอนนี้ เหลียนเซวียนถากถางตนเอง ประหนึ่งเห็นรอยยิ้มเยาะหยันของศิษย์พี่อยู่ตรงหน้า
มุมปากของเหลียนเซวียนกระตุกไปโดนาแบนใบหน้า ความเ็ปทิ่มแทงทำให้นึกถึงความโเี้ของสตรีคนนั้นยามตวัดแส้และถ้อยคำด่าทอที่ออกมาจากปากของนาง
ดวงตาที่หลุบลงกึ่งหนึ่งเยียบเย็นดุจน้ำค้างเหมันต์
ทางด้านเซวียเสี่ยวหรั่นหยิบขวดน้ำออกมาเท ทำความสะอาดก้อนหินที่ใช้ต่างเตาไฟ หินก้อนนั้นค่อนข้างเล็ก ทั้งยังแบนและเตี้ย เป็แอ่งเว้าลงไปเล็กน้อย
เธอใช้มีดหั่นเนื้องูเป็ชิ้นเล็กๆ หลังจากนั้นก็วางบนแผ่นหินใช้ไฟที่สุมอยู่ค่อยๆ ย่างให้สุก อาหารเย็นในค่ำคืนนี้ถูกกำหนดไว้เรียบร้อย
เซวียเสี่ยวหรั่นกลืนน้ำลาย พลางหยิบฟืนเติมใส่กองไฟ
ไม่ช้าเนื้องูที่อยู่บนหินก็เริ่มร้อนฉ่ามีมันเยิ้มออกมา กลิ่นหอมของเนื้อฟุ้งกระจายอยู่ภายในถ้ำ
"ไม่มีเกลือ ไม่มีเครื่องปรุง รสชาติเนื้อเปล่าอาจไม่อร่อยมาก" เซวียเสี่ยวหรั่นใช้กิ่งไม้สองกิ่งพลิกเนื้องู ปากก็บ่นว่าไม่น่าจะอร่อย แต่สายตากลับจดจ้องเนื้อไม่หนีไปไหน "รอพรุ่งนี้มีเวลาว่าง ข้าจะออกไปสำรวจแถวริมน้ำ สถานที่ใกล้แหล่งน้ำมักมีพืชพรรณอุดมสมบูรณ์ หาของกินได้ไม่ยาก"
"แล้วค่อยไปดูแถวที่ฝูงลิงพวกนั้นอาศัยอยู่อีกสักหน่อย ข้าเห็นผลไม้ที่พวกมันขว้างลงมามีหลายชนิด ผลไม้เ่าั้ต้องอยู่ละแวกใกล้ๆ เป็แน่"
"าแของท่านไม่รู้ว่าต้องใช้เวลารักษานานเท่าไร อากาศที่นี่รู้สึกเหมือนว่าจะเข้าฤดูใบไม้ร่วงแล้ว หากเป็เช่นนี้ สถานการณ์ของพวกเราจะยิ่งน่าสังเวช..."
เซวียเสี่ยวหรั่นหยุดพร่ำบ่น เธอเพิ่งตระหนักได้ถึงปัญหาที่กำลังจะมาถึง
ใกล้จะเข้าฤดูหนาวแล้ว
แต่เธอกับเหลียนเซวียนมีเพียงเสื้อบางๆ ที่สวมติดตัว
หากไม่มีเสื้อผ้าสำหรับฤดูหนาว ถึงพวกเขาจะเฝ้าอยู่ข้างกองไฟทั้งวันก็ยากผ่านความหนาวตลอดฤดูกาลไปได้
ไม่ใช่ย่างฤดูใบไม้ร่วง แต่เข้าสู่ฤดูใบไม้ร่วงแล้วต่างหาก ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับแม่นางผู้นี้ หลายอย่างที่ออกมาจากปากของนางมักพิลึกพิลั่นเสมอ แค่ฤดูกาลนางก็ยังจำไม่ได้หรือไร
แม้เขาจะไม่รู้วันที่แน่ชัด แต่ฤดูหนาวก็อยู่ไม่ไกลแล้ว
พวกเขาอาจน่าสังเวชอย่างที่นางว่าจริงๆ
เหลียนเซวียนหันไปมองเซวียเสี่ยวหรั่น ั์ตาเห็นแต่ภาพเลือนราง มีความคิดชั่ววูบหนึ่งที่อยากให้นางหาทางหนีเอาตัวรอดออกจากป่า โดยไม่ต้องนำพาตนเองแล้ว
แต่พอไตร่ตรองดูอีกที นางไม่เป็วรยุทธ์ ประกอบกับไร้ทักษะในการเอาตัวรอดในป่าโดยสิ้นเชิง เป็ไปไม่ได้เลยที่จะออกจากป่าก่อนเข้าสู่ฤดูหนาว
ท้ายที่สุดไม่แน่ว่าทั้งเขาและนางอาจต้องฝังร่างภายไว้ใต้ต้นไม้และใบไม้ที่เน่าเปื่อยอยู่ดี
หากผลลัพธ์ต้องเป็เยี่ยงนั้น มิสู้พวกเขาทั้งสองเดินทางร่วมกันจะมีประโยชน์มากกว่า
แม้ว่าพิษในร่างกายของเขาจะยังไม่อาจขจัดได้ชั่วคราว แต่ถ้าหาสมุนไพรที่เหมาะสม ก็ยังมีผลช่วยควบคุมและบรรเทาอาการลงบ้าง ถึงแม้สมุนไพรจะหายากอยู่ก็ตาม
เหลียนเซวียนทอดถอนใจ เขาอยู่มายี่สิบเอ็ดปี แต่ไรมาไม่เคยอับจนหนทางเช่นนี้มาก่อน
ภายในถ้ำเงียบสงัดมีควันโขมง ร่างกายของพวกเขาสองคนอบอุ่นขึ้นมากเมื่ออยู่ข้างกองไฟ ทว่าหัวใจกลับยังคงเหน็บหนาว
เสียงฉ่าของเนื้อย่างรั้งความคิดจิตใจของเซวียเสี่ยวหรั่นกลับมา พอเห็นว่าเนื้อเกือบไหม้แล้ว ก็รีบพลิกกลับไปอีกด้านโดยเร็ว
"อย่าเพิ่งตีตนไปก่อนไข้ กินให้อิ่มท้องก่อนค่อยว่ากัน ถึงตายก็ควรเป็ผีอิ่มตายถึงจะถูก"
เซวียเสี่ยวหรั่นพลิกดูเนื้องูที่เหลืองสุกส่งกลิ่นหอมฉุย พลันรู้สึกว่าน้ำลายแทบจะหกออกมา
เธอกลืนน้ำลาย แต่ความคิดย้อนกลับไปที่ปัญหาเื่เสื้อผ้าฤดูหนาว
ในยุคโบราณตอนต้นใช้หมา [1] ไม่ก็เฮ่อ [2] ทำเครื่องนุ่งห่ม ทั้งสองอย่างนี้เธอรู้จัก หมู่บ้านของเธออยู่ใกล้เชิงเขามีต้นหมาสีขาวขึ้นเองตามธรรมชาติมากมาย ส่วนต้นเฮ่อ น่าจะเป็เถาเฝิ่นเฮ่อเสียมากกว่า แปลงผักที่บ้านของเธอก็มีเฝิ่นเฮ่อขึ้นอยู่
แม้ว่ารสชาติจะไม่อร่อยเท่าไร แต่มีคาร์โบไฮเดรตสูง ช่วยให้อิ่มเร็วควบคุมความหิวได้
ที่สำคัญคือเธอจำลักษณะของมันได้ พรุ่งนี้จะลองไปหาแถวริมน้ำดู
...
[1] หมา หรือกัญชงเป็พืชดั้งเดิมที่อยู่ในเขตอบอุ่นของทวีปเอเชียเป็พืชที่เติบโตง่าย ลำต้นมีความสูงมากกว่าสองเมตร แตกกิ่งน้อย ข้อเป็ปล้อง ผลเป็เมล็ดรูปไข่ ดอกออกเป็ช่อตามปลายยอด มีใบสีเขียวอ่อนหรืออมเหลือง เปลือกจากลำต้นสามารถนำไปทำเป็เชือกหรือเครื่องนุ่งห่ม
[2] เฮ่อ หรือกวาวเครือ เป็พืชตระกูลถั่วมักขึ้นในป่าเบญจพรรณ ลักษณะเป็ไม้เถาเนื้อแข็งผลัดใบเลื้อยพาดบนต้นไม้ มีหัวคล้ายมันแกวอยู่ใต้ดิน