หมัดเรืองแสงสีแดงที่อัดแน่นไปด้วยพลังแห่งการทำลายล้างถูกปลดปล่อย ทุกที่ที่มันผ่าน ห้วงอากาศต้องสั่นไหว และพลังก็แกร่งขึ้นกว่าก่อนหน้านี้หลายเท่า
เย่เฟิงเผยสีหน้าเย็นเยียบ จากนั้นปล่อยพลังแห่งคัมภีร์หล่อกายาเทพาและทักษะหล่อิญญา พร้อมกับเกราะเทพาหุ้มร่าง ตามมาด้วยเสียงเืเดือดพล่าน แล้วเหวี่ยงหมัดออกไปเช่นกัน
“ตูม!” เสียงะเิดังสนั่น เมื่อหมัดทั้งสองเข้าปะทะกัน คลื่นพลังทำลายล้างก็ได้แพร่กระจาย ทำให้เย่เฟิงถอยหลังไปหลายก้าว อวัยวะภายในสั่นคลอน
หลังจากอี้ชิงแผดเผาแก่นโลหิตก็น่ากลัวขึ้นมาก ด้วยช่องว่างระหว่างขั้นพลังที่ห่างชั้นและพลังที่เปลี่ยนไป ทำให้พลังของอี้ชิงทรงอานุภาพขึ้นหลายเท่า เย่เฟิงจึงเสียเปรียบ
“อี้ชิงเปลี่ยนไปน่ากลัวขึ้นมาก เกรงว่าเย่เฟิงคงต้านได้อีกไม่นาน!” ผู้คนเห็นฉากนี้ต่างต้องใและคิดว่าเย่เฟิงคงจะเป็ฝ่ายแพ้
“สวะ ครั้งนี้ข้าจะทำให้เ้าได้รู้ว่าการทำตัวอวดดีต้องจ่ายด้วยอะไร?” อี้ชิงกล่าว จากนั้นรัวหมัดโจมตีอย่างต่อเนื่อง
เย่เฟิงไม่เข้าปะทะกับอี้ชิง แต่ใช้ย่างก้าวดาวตกผีเสื้อหลบหลีกการโจมตีของอี้ชิงอย่างต่อเนื่อง
“ตาย!”
หลังจากหลบหลีกการโจมตีของอี้ชิง เย่เฟิงก็แทงหอกออกไป ก่อนรังสีหอกจะทะลวงทุกสิ่ง ส่วนอี้ชิงตวัดดาบ จากนั้นรังสีดาบกลายเป็สีแดง แล้วเข้าปะทะกับรังสีหอก ตามมาด้วยเสียงะเิดังสนั่น
“หอกตัดิญญา!”
เย่เฟิงไม่ถอยแต่เดินหน้าเพื่อแทงหอกตัดิญญาซึ่งเป็กระบวนที่สองของทักษะปลิดชีวีออกไป หอกนี้เคลื่อนที่ด้วยความเร็วที่น่าเหลือเชื่อ ส่วนอี้ชิงตวัดดาบเข้าต่อต้าน แต่กลับช้าไปก้าวหนึ่ง เขาถูกแทงที่ท้องจนเืพุ่งกระฉูดออกมาราวกับน้ำพุ
“หอกนี้ลึกลับซับซ้อน เรียบง่ายและตรงไปตรงมา แต่กลับมีประสิทธิผลที่น่าทึ่ง ทักษะหอกของเย่เฟิงผู้นี้ถึงระดับไหนแล้วกันแน่?”
ผู้คนต่างใจเต้นโครมคราม การที่สู้กับอี้ชิงมาถึงจุดนี้ได้ พวกเขาไม่กล้ากังขาพลังของเย่เฟิงอีกต่อไป
“เ้าต้องตาย!”
หลังจากถูกเย่เฟิงโจมตีจนได้รับาเ็ อี้ชิงก็ะเิโทสะออกมาอีกครั้ง จากนั้นตวัดดาบโจมตี รังสีดาบสีแดงพาดผ่านท้องฟ้า ทั้งยังมีปราณดาบมหาศาล หมายทำลายทุกสิ่ง
การโจมตีนี้ทรงพลังกว่าก่อนหน้านี้มาก ดูเหมือนอี้ชิง้าจบศึกโดยเร็ว
ดวงตาของเย่เฟิงส่องประกายคมกริบ พลังหอกแผ่ออกจากร่าง พุ่งสูงเสียดฟ้า จากนั้นเข้าปะทะกับปราณดาบของอี้ชิงอย่างต่อเนื่อง ตามมาด้วยเสียงปะทะดังไม่หยุด
ในขณะเดียวกันรังสีดาบของอี้ชิงก็มาถึงแล้ว และดาบนี้ก็เพียงพอจะฟันร่างเย่เฟิงให้ขาดเป็สองท่อน
“ทำลาย!”
เย่เฟิงแผดเสียงะโ จากนั้นแทงหอกที่ผสานด้วยอำนาจหอกขั้นผันแปรออกไป ก่อนจะเข้าปะทะกับรังสีดาบของอี้ชิง
ทว่าดาบนี้ของอี้ชิงคล้ายจริงคล้ายไม่จริง มันโปร่งแสงทันทีที่ปะทะกันและทะลุตัวหอกของเย่เฟิง หากเป็เช่นนี้ต่อไป เย่เฟิงคงถูกตัดคอแน่นอน
“จบแล้ว ครั้งนี้จบแล้วจริง ๆ ดาบของอี้ชิงเร็วเกินไป เย่เฟิงคงต้องตายเพราะดาบนี้เป็แน่!”
ผู้คนเห็นฉากนี้ต่างก็ใ เหล่าผู้ฝึกยุทธ์สำนักศึกษาเสินเจียงก็เหยียดยิ้มอย่างชั่วร้าย
“เย่เฟิง!” จ้าวซินอี๋ะโเรียก พร้อมเผยสีหน้าเป็กังวล
“ตาย!”
แววตาของอี้ชิงเต็มไปด้วยความคลุ้มคลั่งขณะมองดาบของตนที่กำลังพุ่งไปตัดคอเย่เฟิง อี้ชิงอดไม่ได้ที่จะถ่ายพลังหยวนสู่ตัวดาบอีกครั้ง จึงทำให้พลังของรังสีดาบนั้นแกร่งขึ้นหลายส่วน
แต่เมื่อดาบของอี้ชิงใกล้จะตัดคอเย่เฟิง จู่ ๆ อำนาจฟ้าดินพวยพุ่งออกจากร่างเย่เฟิง พร้อมเชื่อมโยงกับฟ้าดินในพริบตา มันเปลี่ยนกฎของพื้นที่นี้ ทำให้ดาบของอี้ชิงเปลี่ยนทิศทาง
ใน่วิกฤต ร่างเย่เฟิงถูกปกคลุมด้วยแสงดาว จากนั้นใช้ย่างก้าวดาวตกผีเสื้อหลบหลีกดาบของอี้ชิงอีกครั้ง
“หอกปลิดชีวี!”
ขณะเดียวกันเย่เฟิงแทงหอกออกไป เป็กระบวนท่าสุดท้ายในทักษะหอกปลิดชีวี
นาทีต่อมาผู้คนเห็นแสงส่องวาบระหว่างกลางของเย่เฟิงกับอี้ชิง ก่อนที่ทุกอย่างจะนิ่งเงียบไป
ผู้คนต่างมองเย่เฟิงและอี้ชิงไม่วางตา จนแทบหยุดหายใจ ได้ยินเพียงเสียงเต้นของหัวใจที่กำลังตึงเครียด
“ฟับ!”
ครู่ต่อมาพวกเขาเห็นเืพุ่งกระฉูดออกจากลำคอของอี้ชิง กลายเป็สายฝนเืที่แฝงด้วยความหนาวเหน็บ จากนั้นร่างอี้ชิงล้มลงไปกองกับพื้น พร้อมดวงตาไม่เต็มใจ
“ได้ยังไง คนที่ตายจะเป็อี้ชิงไปได้อย่างไร? เย่เฟิงผู้นี้ทำได้ยังไง?”
นาทีนี้ผู้คนต่างตาแข็งทื่อและเต็มไปด้วยความเหลือเชื่อ
อี้ชิงคือผู้ฝึกยุทธ์อันดับที่ 3 ในรายนามเสินเจียงแห่งสำนักศึกษาเสินเจียง เดิมทีอยู่ขั้นรวมชี่ที่ 8 แต่ในสถานการณ์กดดันตอนสู้กับเย่เฟิง เขาถูกบีบให้ใช้วิชาลับแผดเผาแก่นโลหิต จนขั้นพลังของตนยกระดับเป็ขั้นรวมชี่ที่ 9 ทุกความสามารถล้วนเปลี่ยนไปแกร่งขึ้น พลังต่อสู้ก็เช่นกัน
แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังคงถูกเย่เฟิงที่อยู่ขั้นรวมชี่ที่ 5 ฆ่าตาย หนึ่งหอกบั่นคอ สิ่งที่เกิดขึ้นทำให้ผู้คนใเป็อย่างมากจนมิอาจอธิบายออกมาเป็คำพูดได้
“เย่เฟิง เยี่ยมมาก!” อวิ๋นเจี๋ยกล่าวชมเย่เฟิง
เยว่กู่และผู้าุโอู๋ต่างเผยสีหน้าปลื้มปีติ เย่เฟิงแข็งแกร่งมาก นี่เท่ากับเป็การตีแสกหน้าสามกองกำลังที่มีสำนักศึกษาเสินเจียงเป็ผู้นำ
“หมอนี่ฆ่าอี้ชิงจริง ๆ”
จ้าวซินอี๋ใจเต้นระรัว เมื่อครู่นี้หอกของเย่เฟิงทรงพลังเป็อย่างมาก อีกอย่างนางยังมองไม่เห็นว่าเย่เฟิงลงมืออย่างไร แต่อี้ชิงก็ตายเสียแล้ว
หากที่ค่ายกลมายาเย่เฟิงใช้หอกนี้ จ้าวซินอี๋คงไม่มีทางรับมือกับมันได้ และเกรงว่านางคงพ่ายแพ้ั้แ่วันแรกที่เจอกัน
เหล่าผู้ฝึกยุทธ์สำนักศึกษาเสินเจียงเผยสีหน้าดูไม่ได้ แต่มองเย่เฟิงด้วยสายตาอาฆาต จากนั้นเห็นผู้าุโคนหนึ่งลุกขึ้นจากที่นั่งช้า ๆ แล้วกล่าวกับเย่เฟิงว่า “เ้ากล้าดียังไงถึงฆ่าเขา?”
“ศึกเป็ตาย การที่เขาถูกข้าฆ่า นั่นเพราะเขาไร้ความสามารถ แล้วเกี่ยวอะไรกับข้า?” เย่เฟิงเก็บหอกัเงินประกาย ก่อนจะกล่าวเช่นนั้นพลางแสยะยิ้ม
“เ้า...” ผู้าุโสำนักศึกษาเสินเจียงคนนั้นถึงกับเสียงแหบ และไม่รู้ควรจะพูดอะไรออกไปดี
อันที่จริงก่อนหน้านี้เย่เฟิงเสนอศึกเป็ตายแล้วอี้ชิงก็เห็นด้วย พอตอนนี้ถูกฆ่าตาย จะไปโทษคนอื่นได้อย่างไร
“สวะ เ้ากล้าฆ่าคนต่อหน้าประชาชีในตระกูลมู่ข้า ไม่เห็นตระกูลมู่อยู่ในสายตา เห็นทีวันนี้ข้าต้องสั่งสอนเ้าเสียแล้ว!”
ขณะนั้นมีเสียงเย็นเยือกดังขึ้น นาทีต่อมาผู้คนเห็นมู่เยี่ยนลุกขึ้นจากที่นั่ง ก่อนจะกะพริบร่างแล้วมาปรากฏตัวที่เบื้องหน้าเย่เฟิงในพริบตา จากนั้นวาดฝ่ามือโจมตีเย่เฟิงในทันทีทันใด
เย่เฟิงอยู่ใกล้จ้าวซินอี๋มากเกินไป เขามู่เยี่ยน้าให้เย่เฟิงตาย
“คุณชายมู่เ้าทำเกินไปแล้ว!”
ทว่าพลังฝ่ามือของมู่เยี่ยนยังไม่ทันถึงตัวเย่เฟิง จู่ ๆ มีเงาร่างหนึ่งมาขวางที่ด้านหน้าเย่เฟิง พร้อมร่างเปล่งแสงจ้า ฝ่ามือของมู่เยี่ยนจึงทำอะไรอีกฝ่ายไม่ได้
ผู้ที่ปรากฏตัวอย่างฉับพลันก็คือเยว่กู่
