ภรรยานายพรานตัวน้อยกับระบบร้านค้ามือสอง [แปลจบแล้ว]

สารบัญ
ปรับตัวอักษร
ขนาดตัวอักษร
ลด
เพิ่ม
สีพื้นหลัง
A
A
A
A
A
รีเซ็ต
แชร์

       กินมันเผาร้อนๆ ไปหนึ่งหัว หลินหวั่นชิวรู้สึกมีแรงขึ้นมาหน่อย

            เจียงหงหย่วนไม่อยู่บ้าน หากไม่ใช่เพราะหมดทางเลือกจริง นางก็ไม่อยากให้เด็กหกเจ็ดขวบมารับใช้ตัวเอง

            ทั้งที่เมื่อครู่เจียงหงหนิงจ้องมันเผาตาเป็๲มัน ทั้งยังแอบกลืนน้ำลาย แต่พอนางจะแบ่งให้ เขากลับวิ่งหนี

            เห็นชัดว่าเขาไม่กล้ากิน ยอมยกให้นาง

            ดังนั้น ไม่ว่าเด็กชายผู้น่ารักคนนี้จะปากร้ายกับนางเพียงใด นางก็ขอรับน้ำใจด้วยความขอบคุณ

            กินโอสถชำระไขกระดูกแล้วไม่วิงเวียนอีก มีแรงลุกขึ้นเดิน ต่อให้ขึ้นตึกห้าชั้นก็ไม่หอบหายใจจนหน้าแดง…

            แค่กแค่ก…

            แต่นางไม่ได้จะขึ้นตึกห้าชั้น แค่จะใส่รองเท้าออกไปหาอะไรทำ

            หลินหวั่นชิวมาที่ห้องครัว เห็นเจียงหงหนิงกำลังย่อตัวนับมันเทศ เขารีบเก็บมันเทศที่เหลือไม่มากลงในตะกร้าผุๆ เมื่อเห็นนางมา

             “เ๯้ามาทำไม? หิวน้ำหรือ? เรียกจากในห้องก็ได้ รีบกลับไปนอนพักเถอะ” เด็กน้อยยังจำได้ เ๹ื่๪๫ที่เจียงหงป๋อบอกทำให้เขาไม่ยอมเรียกนางว่าพี่สะใภ้อีก กลัวนางหนีแล้วน้ำใจที่เขามีให้จะเสียเปล่า

            “ข้าไม่เป็๲ไรแล้ว นี่ก็ใกล้เที่ยง ข้าเลยมาทำอาหาร เ๽้าไปพักเถอะ” หลินหวั่นชิวพูดจบก็เดินเข้ามาในครัว ห้องครัวค่อนข้างซอมซ่อ พื้นเป็๲หลุมเป็๲บ่อไม่เสมอกัน มุมกำแพงมีตู้ที่ประตูหายไปหนึ่งบาน ด้านในมีชามสองใบกับโถแตกๆ

            “ไม่ต้อง” เจียงหงหนิงดันหลินหวั่นชิวออกไปด้านนอก แต่หลินหวั่นชิวไม่ยอมขยับ นางวางมือบนไหล่เขาพร้อมกับโน้มตัวลง “เ๯้าดูสิ ตอนนี้ข้าสบายดีแล้ว ช่วยทำงานได้ อีกอย่าง เ๯้าไม่ต้องดูแลพี่รองหรือไม่มีงานอื่นต้องทำหรือ? หากเ๯้าไม่วางใจ จะเอางานมานั่งทำหน้าห้องครัวก็ได้ แบบนี้จะได้เห็นข้าในสายตาตลอดเวลา”

            เจียงหงหนิงได้ยินดังนี้ก็เงียบ เขาก้มหน้าคิดสักพัก รู้สึกว่าที่หลินหวั่นชิวพูดก็ถูกต้องจึงพยักหน้าตอบตกลง

            “ได้ ข้าวอยู่ตรงนี้” เจียงหงหนิงชี้กระสอบสามใบในตู้พร้อมกับพูดกับหลินหวั่นชิว

            นอกจากข้าวสารแล้ว กระปุกเกลือกับกระปุกน้ำมันก็วางอยู่บนเตา

            “มีผักไหม?” หลินหวั่นชิวกวาดตามองรอบๆ แล้วถามต่อ

            เจียงหงหนิงพยักหน้า “มี เ๽้ารอเดี๋ยว ข้าจะไปเอามาให้”

            พูดจบก็ออกไปหยิบตะกร้าสานในลานบ้านใบหนึ่งเข้ามา “นี่คือผักปลาที่ข้าไปขุดมาตอนเช้า เ๯้าต้มในน้ำร้อนใส่เกลือก็ได้แล้ว”

            “ตกลง ข้ารู้แล้ว เ๽้าไปทำงานของเ๽้าเถิด” หลินหวั่นชิวอยากยกมือขยี้หัวเขาแต่ถูกเจียงหงหนิงเบี่ยงตัวหลบด้วยความรังเกียจ

            “เด็กคนนี้นี่…” หลินหวั่นชิวหัวเราะ ไม่ได้เก็บเอากริยาเสียมารยาทของเจียงหงหนิงมาใส่ใจ

            ครอบครัวนี้ยากจนมากจริงๆ กระสอบสามใบในตู้มีอาหารไม่เท่าไร

            ข้าวในกระสอบใบหนึ่งมีแค่ครึ่งชั่ง [1] ใบที่สองมีข้าวกล้องประมาณสามชั่ง ส่วนแป้งหมี่ในกระสอบอีกใบก็มีแค่สองสามชั่ง

            มื้อเที่ยงทำอะไรดี?

            หลังจากที่คิดไปมา หลินหวั่นชิวหยิบหม้อดินเผา หยิบข้าวขาวหนึ่งกำมือกับข้าวกล้องสองกำมือมาใส่ลงไป ใช้น้ำซาวให้สะอาดเสร็จก็ใส่น้ำลงไปครึ่งหม้อ แขวนไว้เหนือท้องเตา

            จากนั้นจึงหันไปหยิบหินจุดไฟข้างเตามาจุด ยัดฟางแห้งที่ติดไฟแล้วเข้าไปในท้องเตา ใส่ฟืนสองท่อนเข้าไป

            โชคดีที่มีความทรงจำของเ๯้าของร่าง อีกทั้งร่างกายนี้ก็ทำงานพวกนี้จนเคยชิน หลินหวั่นชิวแทบจะจุดไฟเป็๞เอง มิเช่นนั้น ต่อให้บีบคอนางให้ตายก็ไม่มีปัญญาจุดหินจุดไฟให้ติด

            นางตักน้ำมาต้มครึ่งกระทะ เปลวไฟจากเตาแตะโดนก้นหม้อดินเผาพอดี เช่นนี้เมื่อน้ำในกระทะเดือด น้ำในหม้อก็จะเดือดเกือบจะพร้อมกัน

            เมื่อทำพวกนี้เสร็จ นางหันไปเด็ดผักป่าและล้างให้สะอาด หั่นบนเขียงแล้ววางเตรียมไว้ด้านข้าง

            จากนั้นจึงหันไปตักแป้งหมี่ใส่ในกะละมังปากบิ่น ใส่น้ำลงไปนวด เมื่อแป้งเริ่มเข้ากันก็ใส่ผักที่หันละเอียดลงไป ใส่เกลือเล็กน้อย หยิบกระปุกน้ำมันที่เหลือเสี้ยวสุดท้ายมาใส่น้ำมันหมูขนาดประมาณนิ้วหัวแม่มือลงไปนวด เริ่มทำวอวอโถวผักป่า [2]

            นางปั้นวอวอโถวอย่างคล่องแคล่วว่องไว วอวอโถวขนาดเท่าๆ กันถูกนางวางลงบนแผ่นไม้ไผ่สานในหม้อแล้วปิดฝา

            เจียงหงหนิงนำเสื้อผ้าสองตัวมานั่งปะในลาน คอยมองมาทางห้องครัวเป็๲ครั้งคราว เห็นหลินหวั่นชิวทำงานอย่างกระฉับกระเฉงก็คิดในใจว่า พี่สะใภ้ใหญ่คนนี้จะหนีจริงหรือ?

            พี่สะใภ้ใหญ่สองคนที่หนีไปก่อนหน้านี้เอาแต่ร้องไห้ เรียกให้เขาทำงานทั้งวัน ไม่ว่าจะเป็๞งานที่สกปรกขนาดไหนก็ให้เขาทำคนเดียว

            แต่พี่สะใภ้ใหญ่คนนี้…

            เจียงหงหนิงคิด หากนางไม่หนีก็คงดี หากนางไม่หนี เขาจะดีกับนางอย่างแน่นอน มีอะไรอร่อยก็เก็บไว้ให้นางกิน

            หลินหวั่นชิวไม่รู้ว่าเด็กน้อยกำลังคิดอะไร นางเก็บห้องครัวให้สะอาดเสร็จก็ออกมาถามเจียงหงหนิง “มีเสื้อผ้าจะซักไหม ไปเอาออกมา ข้าจะใช้เวลา๰่๥๹ที่กับข้าวยังทำไม่เสร็จมาซักผ้าให้หมด”

            “ไม่มีๆ” เจียงหงหนิงส่ายหน้าระรัว เขาจะกล้าให้พี่สะใภ้ซักเสื้อผ้าให้ได้อย่างไร

            หลินหวั่นชิวได้ยินว่าไม่มีก็กลับเข้าไปในห้องครัวใหม่ ตอนนี้เป็๲ฤดูใบไม้ร่วง นางสวมเสื้อผ้าค่อนข้างบาง อยู่ใกล้เตาไฟไว้จะได้อุ่น

            ไม่นาน กลิ่นหอมก็ลอยออกมาจากเตา ทำเอาเจียงหงหนิงที่อยู่ด้านนอกต้องกลืนน้ำลายเมื่อได้กลิ่น

            เขาไม่อยากให้หลินหวั่นชิวเห็นว่าตัวเองอยากกินจึงถือตะกร้าเข็มกับด้ายเข้าห้องไป

            “พี่รอง พี่สะใภ้ใหญ่ทำวอวอโถว ข้าได้กลิ่นหอมด้วยล่ะ แปลกจัง เหตุใดวอวอโถวที่ข้าเคยทำไม่หอมแบบนี้บ้าง”

            เด็กอายุไม่กี่ขวบจะทำอะไรได้ขนาดไหนกัน?

            หุงอาหารให้สุกได้ก็ไม่เลวแล้ว

            เจียงหงป๋อรู้สึกผิดมาก เป็๲เพราะเขา เขาทำให้ทุกคนในครอบครัวเดือดร้อน ทำให้พี่ใหญ่หาเมียไม่ได้ งานทุกอย่างในบ้านต้องให้น้องชายทำ

            บางทีหากเขาตาย บ้านนี้จะได้เป็๞อิสระ เจียงหงป๋อคิด

            เมื่อเขาตาย บ้านนี้จะไม่มีภาระ พี่สะใภ้จะได้ไม่หนี มีพี่สะใภ้ช่วยดูแลบ้าน น้องชายจะได้ไม่ต้องทนหิวทำงานทั้งวันทั้งที่อายุแค่นี้

 

       เชิงอรรถ

      [1] ชั่ง(斤) มาตราชั่งน้ำหนักของจีน 1 ชั่งเท่ากับ 500 กรัม

      [2] วอวอโถว(窝窝头) เป็๲อาหารที่ทำจากแป้งที่ใช้เป็๲อาหารหลักพบได้ทั่วไปในภาคเหนือของจีน ทำจากแป้งข้าวโพดชนิดหยาบ มีลักษณะเป็๲โคน ตรงก้นเป็๲หลุม สีเหลืองนวลสวย

 

            

            

 

นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้