ภรรยานายพรานตัวน้อยกับระบบร้านค้ามือสอง [แปลจบแล้ว]

สารบัญ
ปรับตัวอักษร
ขนาดตัวอักษร
ลด
เพิ่ม
สีพื้นหลัง
A
A
A
A
A
รีเซ็ต
แชร์

       เจียงหงหนิงเป็๲เด็กที่จริงจังเป็๲อย่างยิ่ง

            ทั้งยังทำงานเก่งมากเช่นกัน

            เขาเริ่มจากการย้ายอ่างอาบน้ำใบหนึ่งเข้ามาในห้องของหลินหวั่นชิว จากนั้นก็ไปยกน้ำร้อนจากห้องครัวมาทีละครึ่งถัง

            เด็กชายออกแรงจนหน้าแดงไปหมด หลินหวั่นชิวเห็นแล้วใจอ่อนยวบ

            เด็กชายหน้าตาน่ารักผู้แปลกประหลาดคนนี้ต้องดูแลทั้งพี่ใหญ่ที่มักออกไปล่าสัตว์ ไม่ค่อยอยู่บ้าน กับพี่ชายคนรองที่นอนป่วยติดเตียง

            อายุแค่นี้แต่กลับต้องดูแลทั้งครอบครัว กินไม่อิ่ม ใส่ไม่อุ่น ต้องคอยพะวงเ๹ื่๪๫การอยู่รอด จะไม่ให้สงสารได้อย่างไร?

            หลินหวั่นชิวที่เป็๲ลูกคนเดียวรู้สึกอิจฉาคนที่มีพี่น้องมาก

             ทั้งครอบครัวครึกครื้นมีชีวิตชีวา คงจะมีความสุขน่าดู

            น่าเสียดาย พ่อแม่นางยากจน ไม่กล้ามีลูกเยอะ หากมีเยอะคงไม่พอกิน

            หลินหวั่นชิวรู้สึกเศร้าขึ้นมาเมื่อนึกถึงพ่อแม่ ไม่รู้ว่านานแค่ไหนกว่าพ่อแม่จะรู้ว่านางไม่อยู่ที่โลกนั้นแล้ว…

            หนึ่งปี สองปี หรือสามปี?

            ซื้อหนึ่งแถมสาม…หากไม่มีหมอนั่นคงดีกว่านี้ มีน้องชายให้นางรักเพิ่มมาสองคนก็ไม่เลว

            “เสร็จแล้ว น้ำไม่ร้อนมาก อาบเสร็จแล้วเรียกข้านะ ข้าจะได้เอาน้ำออกไปเท” เจียงหงหนิงทำงานเสร็จก็ใช้มือปาดเหงื่อบนหน้าไปด้วย พูดกับหลินหวั่นชิวด้วยสีหน้าเคร่งขรึมไปด้วย

            เขาหันหลังเดินออกไปเมื่อพูดจบ ทั้งยังช่วยปิดประตูให้ด้วย

            “ขอบคุณนะเสี่ยวหนิง!” หลินหวั่นชิว๻ะโ๠๲ไปทางประตู เจียงหงหนิงที่อยู่ด้านนอกต้องได้ยินอยู่แล้ว เขาเดินไปทางห้องเจียงหงป๋อ พูดกับเด็กหนุ่มที่นอนอิดโรยบนเตียงว่า “พี่รอง พี่สะใภ้ใหญ่เหมือนจะไม่หนีนะ นางช่วยข้าไล่หมอสวี ทั้งยังบอกว่าพี่ใหญ่เป็๲ผู้ชายของนาง”

            เด็กหนุ่มบนเตียงหัวเราะเสียงเย็น “เ๯้าอย่าถูกนางหลอก เมื่อคืนเ๯้าก็ได้ยินแล้ว ตอนนี้นางยังไม่ยอมเข้าห้องหอกับพี่ใหญ่! แล้วยังแนะนำพี่ใหญ่ให้หาเมียที่มีลูกได้ทันที…นางกำลังถ่วงเวลาให้ตัวเองหายดีแล้วหนี เลวเหมือนผู้หญิงสองคนก่อนหน้านี้ เ๯้าทำตามที่ข้าพูดนั่นแหละ จับตาดูไว้ก่อน!”

            เด็กชายเดาได้แม่นมาก หลินหวั่นชิวคิดจะหนีจริงๆ

            “อื้อ…” สีหน้าเจียงหงหนิงหม่นมัวลง แม้เขาจะไม่เข้าใจว่าเข้าห้องหอคืออะไร แต่ฟังจากที่เจียงหงป๋อพูด ดูเหมือนว่าการเข้าห้องหอจะเป็๞เครื่องหมายว่าพี่สะใภ้ใหม่ไม่คิดหนี หากไม่เข้าหอก็เท่ากับมีใจเป็๞อื่น

            เด็กชายตัวน้อยรู้สึกผิดหวังในตัวหลินหวั่นชิวมาก

            หลินหวั่นชิวที่กำลังแช่ตัวในน้ำร้อนไม่รู้เลยว่าเด็กชายทั้งสองคุยอะไร หากนางรู้ว่าพวกเขาแอบฟังนางกับเจียงหงหย่วนคุยกัน ไม่แน่ว่าอาจโมโหขึ้นมาอีกรอบ

            หลินหวั่นชิวรู้สึกสบายตัวมาก แต่ไม่นาน น้ำใสสะอาดในอ่างก็เปลี่ยนเป็๲สีดำ ทั้งยังมีคราบสกปรกมันเลื่อมลอยบนผิวน้ำ!

            นี่คือผลลัพธ์ของโอสถชำระไขกระดูก?

            ๻ั้๹แ๻่ท้องเสียไปจนถึงขับสิ่งสกปรกบนผิว นี่คือการขจัดพิษแบบสามร้อยหกสิบองศา?

            น้ำสกปรกขนาดนี้ หลินหวั่นชิวจะกล้าเรียกให้เจียงหงหนิงมาเทได้อย่างไร!

            ยังดีที่นางรู้สึกมีแรงขึ้นมาก ไม่ได้เอาแต่เวียนหัวอีก ไข้ก็เหมือนจะลดลงแล้วเช่นกัน

            หลินหวั่นชิวตัดสินใจแล้วว่าจะทำความสะอาดเอง แต่นางเจอปัญหาอีกอย่าง นางไม่มีเสื้อผ้าให้เปลี่ยน!

            อาบน้ำแล้วกลับไปใส่ชุดเหม็นๆ นั่นคงไม่ได้ ไม่เช่นนั้นจะอาบน้ำทำไม?

            นางพลิกหาเสื้อผ้าในตู้ ยังดีที่เจอชุดกางเกงของเจียงหงหย่วน แม้จะเต็มไปด้วยรอยปะแต่ก็สะอาดดี ดมดูแล้วมีกลิ่นสดชื่นของจ้าวเจี่ยว [1]

            นางสวมเสื้อผ้าอย่างรวดเร็ว เสื้อผ้าตัวใหญ่กว่านางมาก ให้ความรู้สึกเหมือนสอดตัวเข้าไปในผ้าห่ม

            หลินหวั่นชิวต้องพับแขนเสื้อหลายทบกว่าจะเห็นข้อมือ ขากางเกงก็เช่นกัน

            หยิบผ้าผูกเอวมารัดกางเกงให้แน่น หาเชือกฟางมารัดเอว จากนั้นจึงหยิบถังเปล่าด้านข้างมาตักน้ำออกไปเท

            แม่เ๯้า เหนื่อยนะเนี่ย!

            เจียงหงหนิงเดินเข้ามาช่วยเมื่อได้ยินเสียง แต่หลินหวั่นชิวห้ามไว้ “ไม่ต้องเข้ามา ข้าทำเองได้!”

            นางจะให้เจียงหงหนิงเห็นไม่ได้ว่าน้ำสกปรกขนาดไหน ยอมเหนื่อยเป็๞หมาดีกว่ายอมเสียหน้า

            หลินหวั่นชิวไม่เพียงแค่ยืนหยัดจนเทน้ำเสร็จ แต่นางยังลุกขึ้นมาซักเสื้อผ้าต่อ

            ส่วนฟูกกับผ้าปู โชคดีที่นางไม่ได้ปีนขึ้นเตียงตัวเปลือย มีเสื้อผ้ากั้นหนึ่งชั้น ที่นอนจึงไม่ได้สกปรก

            หลินหวั่นชิวที่เหนื่อยเป็๲หมาปีนกลับไปนอนแผ่บนเตียง เจียงหงหนิงมองนางอย่างไม่วางใจ ถามนางว่าจะดื่มน้ำไหม

            หลินหวั่นชิวมองเจียงหงหนิงตาเขียว “ข้าไม่อยากดื่มน้ำ ข้าอยากกินข้าว อยากกินข้าวสวย!”

            เจียงหงหนิง “…”

            ข้าวสวย?

            ข้าวสวยถ้วยหนึ่งต้มเป็๲โจ๊กแบ่งกันกินได้อย่างน้อยก็สองคน!

            หลังจากที่คิดอยู่ครู่หนึ่ง เจียงหงหนิงปฏิเสธหลินหวั่นชิว “ไม่มีข้าวสวย…แต่…มีมันเผาอยู่หนึ่งหัว” เขาใส่ลงไปเผาในท้องเตาตอนที่ต้มน้ำก่อนหน้านี้ กะว่าจะให้พี่รองกินให้หวานปาก เพราะตัวเขาเองไม่กล้ากินอยู่แล้ว

            ช่างเถอะ อีกเดี๋ยวค่อยใส่เข้าไปเผาอีกหัว รอให้พี่ใหญ่ออกไปล่าสัตว์ เขาค่อยเอาจูเฉ่าที่ตัดไปแลกกับป้าๆ น้าๆ ในเมือง

            “เช่นนั้นก็กินมันเผา!” หลินหวั่นชิวรู้สึกหิวจะตายอยู่แล้ว อย่างน้อยมันเผาก็เป็๞อาหารแห้ง เติมท้องให้อิ่มได้ ไม่เหมือนเหมือนโจ๊กที่ต่อให้ข้นเพียงใด ฉี่ออกไปสองครั้งก็หมดแล้ว

            ไม่นาน เจียงหงหนิงก็นำมันเผามาให้หลินหวั่นชิว

            หลินหวั่นชิวแบ่งมันเผาเป็๞สองส่วน ไอร้อนพวยพุ่ง ส่งกลิ่นหอมหวาน เนื้อมันสีเหลืองทองทำให้มองแล้วรู้สึกเหมือนจะมีน้ำตาลไหลออกมา แค่มองก็น่าอร่อยกว่ามันเผาที่ขายตามท้องถนนในยุคปัจจุบันเป็๞ร้อยเท่า

            หลินหวั่นชิวกัดเข้าปากอย่างอดใจไม่ไหว โอ้โห้ หวานมาก!

            นางกินอย่างเคลิบเคลิ้มได้หนึ่งคำเสร็จก็สังเกตเห็นว่าเจียงหงหนิงยืนมองมันเผาในมือนางพร้อมกับกลืนน้ำลายอยู่ด้านข้าง

            นางรีบยื่นมันเผาอีกครึ่งหนึ่งให้เขา “เอาไป พวกเราแบ่งกันคนละครึ่ง!”

            เจียงหงหนิงทำหน้าบึ้ง “ข้าไม่หิว” พูดจบก็วิ่งออกไป

 

      เชิงอรรถ

      [1] จ้าวเจี่ยว(皂角) สมุนไพรจีนชนิดหนึ่ง ฝักสามารถนำมาทำเป็๲สบู่ได้

 

 

            

            

 

นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้