เจียงหงป๋อเคยคิดเื่ตายมามากกว่าหนึ่งครั้ง
แต่ทุกครั้งเขาตัดสินใจทำไม่ลง
เมื่อคืนเขาแอบฟัง รู้ว่าผู้หญิงคนนี้ไม่มีใจจะอยู่กับพี่ใหญ่ ความหวังที่เพิ่งก่อตัวในใจจึงพังทลายอีกครั้ง
ตอนนี้เจียงหงป๋อกำลังตำหนิตัวเองอย่างรุนแรง ความคิดอยากตายมีอยู่เต็มสมอง
เจียงหงป๋อที่คิดแต่อยากตาย ไม่รู้ตัวว่าเจียงหงหนิงออกไปั้แ่เมื่อไร เขากวาดตามองรอบๆ สายตาหยุดอยู่ที่ตะกร้าเข็มกับด้ายที่เจียงหงหนิงวางบนตู้ข้างหัวเตียง
เหล็กหมาดด้ามหนึ่งวางไว้ในตะกร้า เขามองเหล็กหมาดแล้วเหมือนเห็นความหวัง
ความหวังที่จะตาย
เขาได้แต่นอนติดเตียงทั้งวัน…ไม่สู้ตายเสียยังดีกว่า รีบตายรีบเกิดใหม่ บาปที่ต้องรับจะได้น้อยลง พี่ใหญ่กับน้องเล็กเองก็ไม่ต้องลำบาก
“น้องเล็ก…”
“น้องเล็ก…”
เจียงหงป๋อร้องเรียกอย่างอ่อนแรง โชคดีที่เจียงหงหนิงอยู่แค่นอกประตู เรียกแค่สองครั้งก็ได้ยินแล้ว “มาแล้ว มีอะไรหรือพี่รอง?”
เจียงหงป๋อหยิบกระเป๋าเงินใบหนึ่งออกมาจากใต้หมอน “ไปซื้อไข่ไก่ในหมู่บ้านมาสองฟอง”
เจียงหงหนิงมีกระเป๋าเงินแบบเดียวกันนี้เช่นกัน นี่เป็ของที่พี่ใหญ่มอบให้พวกเขาตอนปีใหม่ ด้านในมีเงินสิบเหรียญทองแดง
เจียงหงหนิงใช้หมดไปนานแล้ว แต่เพราะเจียงหงป๋อนอนติดเตียงทั้งวัน ไม่ได้ใช้เงินที่ไหนจึงเก็บไว้ตลอด
“รีบรับไป ข้าอยากกินไข่ตุ๋น” เจียงหงป๋อเห็นเจียงหงหนิงลังเลก็รบเร้า
เจียงหงหนิงถึงจะยอมรับกระเป๋าเงิน “ก็ได้ ข้าจะไปซื้อเดี๋ยวนี้”
เจียงหงหนิงไม่ลืมลงกลอนประตูตอนออกไป จากนั้นจึงสาวเท้าวิ่งไปทางหมู่บ้าน
ไล่เจียงหงหนิงออกไปแล้ว เจียงหงป๋อไม่กลัวมีใครเข้ามาในห้องอีก
เขากัดฟัน ใช้สองแขนยันตัวขึ้นอย่างยากลำบาก
“ตุบ…” เขากลิ้งตกเตียง ยังดีที่มีผ้าห่มห่อไว้ เสียงไม่ได้ดังมาก
เจียงหงป๋อพักหายใจบนพื้นชั่วครู่ก่อนที่จะออกแรงคลานไปทางตู้
ขาเขาไม่มีแรง ได้แต่ใช้แขนมาดันตัวไป
เขาหยุดพักอีกชั่วครู่เมื่อคลานมาถึงหน้าตู้ ผลักตะกร้าเก็บเข็มกับด้ายบนนั้นให้ร่วงลงมา ตะกร้าพลิกคว่ำลงพื้น ของด้านในร่วงกระจัดกระจาย
แต่ไม่เป็ไร ตราบใดที่เขาได้เหล็กหมาดมาก็พอแล้ว
เจียงหงป๋อคลานไปถึงจุดที่เหล็กหมาดหล่น เขาหยิบมันขึ้นมา เสียบเข้าหน้าอกตัวเองโดยไม่ต้องคิด
“ฉึก!!”
เหล็กหมาดเจาะเข้าไปในเนื้อ ความเ็ปแสนสาหัสส่งเข้ามา เจียงหงป๋อรู้สึกว่าเรี่ยวแรงที่มีไม่มากค่อยๆ หมดไป ไม่นาน เขาก็จมลงสู่ความมืด ไม่รู้สึกอะไรทั้งนั้น
อีกด้านหนึ่ง วอวอโถวนึ่งเสร็จแล้ว แต่เจียงหงหนิงยังไม่กลับมา หลินหวั่นชิวดึงฟืนในเตาออกมาดับ ปล่อยให้ด้านในเหลือแค่เปลวไฟลูกเล็กๆ
นางออกจากห้องครัวมาเดินเล่นในลาน เก็บฟืนที่มุมบ้านให้เรียบร้อยและหยิบไม้กวาดมากวาดให้สะอาด
หลังจากที่ทำทุกอย่างเสร็จก็เดินไปผลักประตูลานบ้าน ทว่าผลักไม่ออก
เฮ้อ เจียงหงหนิงลงกลอนประตูบ้านไว้จริงๆ!
นางลองแนบตัวกับประตูบ้านและมองลอดออกไป เห็นเงาร่างเล็กๆ ของเจียงหนิงกำลังวิ่งกลับมาบนถนนสายเล็กๆ ระหว่างทุ่งนา
หญิงวัยกลางคนนางหนึ่งเจอเขาระหว่างทาง เจียงหงหนิงหยุดคุยกับอีกฝ่าย
เมื่อเห็นว่าเจียงหงหนิงใกล้กลับมาถึงแล้ว หลินหวั่นชิวจึงไปตักน้ำในห้องครัวมาล้างมือและดับไฟ หยิบวอวอโถวออกมาพร้อมกับตักโจ๊กสามชาม
ตอนนางป่วยมีแต่เสี่ยวหงหนิงช่วยยกอาหารมาให้ แต่ตอนนี้นางเริ่มมีแรงแล้ว ช่วยหงหนิงดูแลอาหารการกินให้หงป๋อเพื่อ…เอาใจเ้าตัวน้อย เขาจะได้ไม่ต้องเอาแต่ระแวงนางเหมือนเป็โจรทั้งวัน
หลินหวั่นชิวเชื่อมั่นว่า ตราบใดที่นางยืนหยัดพยายาม สักวันหงหนิงต้องใจอ่อน
ถึงเวลานั้น เขาก็จะไม่เอาแต่จับตาดูนางแล้ว
หลินหวั่นชิวคิดแบบนี้จบก็ยกโจ๊กกับวอวอโถวไปทางห้องเจียงหงป๋อ
“หงป๋อ ข้าคือหลินหวั่นชิว ข้าเข้าไปได้หรือไม่?” หลินหวั่นชิวยืนถามจากหน้าประตู
ภายในห้องไม่มีเสียงใดๆ
“หงป๋อ…ข้าเข้าไปได้ไหม?”
“หงป๋อ…ข้าจะเข้าไปล่ะนะ!”
หลินหวั่นชิวถามติดต่อกันหลายประโยคแต่ก็ไม่มีคนตอบ นางคิดเอาเองว่าคนป่วยติดเตียงคงไม่มีแรงมาตอบจึงตัดสินใจใช้เท้าผลักประตูเข้าไปเบาๆ
“เอ่อ…”
“แอ๊ด…”
“หงป๋อ!”
ประตูเปิดออกแล้ว ภาพที่ปรากฏสู่สายตาคือเศษของที่หล่นกระจายเรี่ยราดกับเด็กหนุ่มผอมซูบที่นอนบนพื้น หน้าอกเขามีเหล็กหมาดปักอยู่หนึ่งด้าม โลหิตไหลนองให้เสื้อผ้าที่หน้าอกเขาเปียก แดงฉานจนตาลาย
“หงป๋อ เ้าเป็อะไรไปน่ะ?” หลินหวั่นชิวเข้าไปดูแผลเจียงหงป๋อตามสัญชาตญาณ ทว่าในตอนนี้เอง จังหวะที่นางย่อตัวลงข้าเจียงหงป๋อ เจียงหงหนิงได้กลับมาพอดี
“พี่รอง…”
“เ้าฆ่าพี่รอง!”
เจียงหงหนิงะโใส่หลินหวั่นชิวเหมือนสัตว์ป่าที่าเ็
“โอ้…เกิดอะไรขึ้นหรือ?”
“์…ฆ่าคนแล้ว…หลินหวั่นชิวฆ่าคนแล้ว…”
หญิงที่ตามเจียงหงหนิงเข้ามาใหน้าซีดเมื่อเห็นภาพเหตุการณ์ในห้อง นางกรีดร้องแล้ววิ่งออกจากบ้านตระกูลเจียงไป