อวี้ฉู่จาวออกมาพบคนกับม้ากำลังเผชิญหน้ากัน โดยหั่วเนี่ยแสดงท่าทีข่มขู่ ส่วนหลินหร่านมองซ้ายชำเลืองขวา ไม่กล้าขยับมากนัก ไม่รู้เป็เพราะอากาศหนาวหรือกำลังใกันแน่
อวี้ฉู่จาวยืนอยู่ด้านหลังหลินหร่าน มองหลินหร่านที่สวมเสื้อผ้าลินินมีรู ร่างกายบอบบาง หลังมือบวมแดง รองเท้าพังจนนิ้วเท้าโผล่ และยังมีอาการบวมแดงเพราะอากาศหนาวเฉกเช่นเดียวกับมือ
สิ่งที่ยังคงน่ามองคงเป็ใบหน้าและผมยาวตรงสลวย ถึงแม้บนใบหน้าจะแดงเพราะถูกความเย็นกัดแต่ก็ยังงดงาม
เวลานี้ หัวใจของอวี้ฉู่จาวได้หลงใหลในความงามที่ผู้คนทั้งเมืองมิอาจต้านทานเสียแล้ว
ท่าทางของหลินหร่านที่อยู่ในใจของอวี้ฉู่จาวแทบไม่ต่างจากโศกนาฏกรรมในชาติก่อน ทำให้เขาทุกข์ใจเหลือเกิน
คนที่คะนึงหาอยู่เบื้องหน้า อวี้ฉู่จาวจึงไม่ลังเล รีบเดินหน้าไปโอบกอด เสื้อคลุมหนาราคาแพงจึงปกคลุมร่างของหลินหร่าน
“อ่า...หือ” หลินหร่านรีบตีตัวออกกะทันหันด้วยความใ
เขาเงยหน้าขึ้นมองทันทีว่าเป็ใคร
ไม่อยากจะเชื่อ
สิ่งที่พบเห็นราวกับความฝัน ชายที่สูงส่งหล่อเหลาคนนั้นกับใบหน้าอันแสนเ็า
“...จ้าน...จ้านหวัง” หลินหร่านแทบไม่เชื่อสายตาตนเอง
อวี้ฉู่จาวไม่ได้เอ่ยอะไร เขาอุ้มอีกคนขึ้นบนหลังม้า ออกไปจากกระท่อมฟางของหลินหร่าน มุ่งหน้าไปยังชานเมืองของเมืองหลวง
เขากลัวว่าหลินหร่านจะไม่ชินกับการขี่ม้าครั้งแรก จึงนำเสื้อคลุมของตนเองคลุมไปบนร่างของหลินหร่าน โดยใต้บั้นท้ายยังมีเนื้อผ้าหนาๆ รองอยู่
หลินหร่านถูกอวี้ฉู่จาวพาตัวไปอย่างลึกลับ แล้วยิ่งเป็คนที่ตนเองเฝ้าคะนึงหา หลินหร่านยิ่งตื่นเต้น เขาซุกตัวอยู่ในอ้อมกอดของอวี้ฉู่จาว แต่ก็ยังมีอาการสั่นอยู่เล็กน้อย
“ท่าน...ท่านอ๋อง...ท่าน...กระหม่อมผู้ต่ำต้อย…” หลินหร่านไม่รู้ควรถามอะไร เื่ทั้งหมดเกิดขึ้นกะทันหันเหลือเกิน
อวี้ฉู่จาวก้มลงมองดวงตากลมโตที่เต็มไปด้วยความสงสัย นั่นทำให้รู้ว่าตนเองอาจทำอะไรฉุกละหุกไปหน่อย เขาควรอธิบายอย่างไรดี
“อย่าเพิ่งพูดเลย” สุดท้ายคิดว่าเงียบไปก่อนดีกว่า ดูที่การกระทำเอาแล้วกัน ต่อให้พูดดีแค่ไหนก็ควรพิสูจน์ด้วยการกระทำ
“อื้อ” หลินหร่านไม่กล้าเอ่ยอะไรอีก
ตำหนักของเทพเ้าแห่งาในเมืองอวี้อันคงกำลังวุ่นวาย ทางที่ดีอวี้ฉู่จาวควรพาหลินหร่านออกไปให้ห่างจากเมืองหลวง ไปที่ตำหนักตะวันตกของตน พาไปยังสถานที่ที่อาศัยอยู่บ่อยที่สุดจะเป็การดีกว่า
อวี้ฉู่จาวดึงบังเหียน หั่วเนี่ยจึงหยุด จากนั้นเขาถึงอุ้มหลินหร่านลงจากหลังอาชา
คนรับใช้ที่หน้าประตูรีบวิ่งเข้ามาจับหั่วเนี่ยไว้ และชายผู้หนึ่งที่มีลักษณะเหมือนพ่อบ้านก็เดินออกมาต้อนรับพร้อมเอ่ย “ท่านอ๋อง เมืองหลวงส่งข่าวมาว่าพระชายาสิ้นพระชนม์ ให้พระองค์รีบกลับเมืองหลวงทันทีพ่ะย่ะค่ะ”
“ไม่ต้องสนใจ” ใบหน้าของอวี้ฉู่จาวไม่แยแส พ่อบ้านก็เข้าใจเป็อย่างดี
“ไปตามหมอซูมา” อวี้ฉู่จาวออกคำสั่ง
พ่อบ้านมองคนในอ้อมกอดของอวี้ฉู่จาว แม้ในใจจะงุนงงแต่ก็ทำตามคำสั่งโดยไม่เอ่ยถามอะไร
อวี้ฉู่จาวพาหลินหร่านเข้าไปในห้องนอนของตนเอง ก่อนปล่อยอีกคนลงบนเตียง
พอหลินหร่านถูกปล่อยให้เป็อิสระ เขาพลันรู้สึกใกับการถูกดูแลเป็อย่างดีจึงรีบลุกขึ้นจากเตียง ก้มหน้าลงอย่างรู้สึกผิด “ท่านอ๋อง กระหม่อมผู้ต้อยต่ำเนื้อตัวสกปรก เกรงว่าจะทำให้เตียงของท่านเปื้อน”
ในตำหนักหลังเต็มไปด้วยผ้าล้ำค่า เมื่อก้มมองตัวเองที่สวมผ้าลินินเนื้อหยาบเปื้อนดิน หลินหร่านจึงรู้สึกว่าตนเองกำลังอยู่ในที่ไม่ควรและไม่เหมาะสม
ท่าทีระมัดระวังและถ่อมตนของหลินหร่านช่างทำร้ายจิตใจอวี้ฉู่จาวเสียจริง
“บนโลกใบนี้ไม่มีใครสะอาดไปกว่าเ้าแล้ว” อวี้ฉู่จาวจับไหล่ของหลินหร่านให้นั่งลง
ร่างกายของหลินหร่านแข็งทื่อ นั่งตัวตรงโดยพลัน
“เข้ามา” อวี้ฉู่จาวะโไปทางประตู
“เพคะ” นางกำนัลรูปร่างบอบบางสองคนเดินเข้ามาด้วยความรวดเร็ว
“เตรียมน้ำร้อนกับเสื้อผ้าสะอาด…” อวี้ฉู่จาวประเมินหลินหร่าน “หาเสื้อผ้าสำหรับเด็กอายุสิบหกสิบเจ็ดปีมาด้วย”
“เพคะ”
หลังจากนางกำนัลออกไป อวี้ฉู่จาวก็หันมามองหลินหร่านอีกครั้ง
ความสงสัยในใจของหลินหร่านมีมากขึ้น แต่ก็ไม่กล้าปริปากถาม
“เ้าอยากรู้ใช่หรือไม่ว่าเหตุใดข้าถึงปฏิบัติต่อเ้าเช่นนี้” อวี้ฉู่จาวช่วยอีกคนถามสิ่งที่สงสัยออกมา
หลินหร่านทำหน้าประหลาดใจ ทุกอย่างแสดงออกบนใบหน้าหมด
เขาพยักหน้ารับ อีกฝ่ายคงมองออกว่าเขากังวลใจไม่น้อย
“ตอนนี้ข้าไม่รู้จะบอกเ้าอย่างไร แต่เชื่อเถอะ ความในใจที่ข้ามีต่อเ้าและความในใจที่เ้ามีต่อข้าไม่ต่างกัน”
“ถ้า...อย่างนั้น ท่านอ๋องทรงทราบหรือ...ว่าความในใจที่กระหม่อมผู้ต่ำต้อยมีเป็เช่นไร?”
“ข้ารู้ เหมือนดั่งถั่วแดงที่ถูกจารึกไว้ในลูกเต๋า ความคิดถึงที่จารึกในเืและกระดูกของข้า ท่านรู้หรือไม่ ถั่วแดงแทนความรัก และข้าจะไม่ทำให้เ้าผิดหวัง เ้ารอดูเถอะ”
หลินหร่านรู้สึกประหลาดใจ เหตุใดท่านอ๋องจึงรับรู้ถึงการมีอยู่ของตน อีกทั้งยังรู้ความในใจอีก
แต่เมื่อได้ฟังจากคำพูดของท่านอ๋อง บางสิ่งเขาอาจยังไม่สามารถรู้ได้ในตอนนี้
ถ้อยคำของอวี้ฉู่จาวเต็มไปด้วยความจริงใจ แม้จะไม่มีต้นสายปลายเหตุแต่หลินหร่านก็เชื่อ เพราะเขารู้ว่าบนโลกใบนี้ เทพเ้าแห่งาผู้นี้คือวีรบุรุษที่ดีที่สุด
“พ่ะย่ะค่ะ”
หลินหร่านแทบไม่เชื่อสายตา เขาเห็นท่านอ๋องยิ้มบางเบา ทว่ากลับเต็มไปด้วยความอบอุ่น
อวี้ฉู่จาวััใบหน้าหลินหร่านอย่างอ่อนโยน มองซ้ายมองขวาทีหนึ่ง
ใบหู แก้ม ริมฝีปาก ทุกอย่างแดงไปหมด ไหนจะสะเก็ดแผลที่หลงเหลือจากการถูกอากาศเย็นกัดอย่างรุนแรงอีก
“อีกเดี๋ยวให้หมอซูเทียบยาให้ ไม่นานก็หาย หากไม่เหลือรอยแผลไว้จะเป็การดีที่สุด ต่อให้เหลือรอยแผลก็ไม่เป็ไร” คำพูดของอวี้ฉู่จาวช่างอ่อนโยน หลินหร่านรู้สึกราวกับตนเองกำลังล่องลอยอยู่ในความฝัน
“พ่ะย่ะค่ะ” นอกจากถ้อยคำนี้ หลินหร่านไม่รู้จะเอ่ยอะไร
“ท่านอ๋อง น้ำร้อนกับเสื้อผ้าเตรียมเรียบร้อยแล้วเพคะ” นางกำนัลบอก
“อืม” อวี้ฉู่จาวหันมาปฏิบัติกับผู้อื่นด้วยท่าทีเ็า
แต่ไหนแต่ไร อวี้ฉู่จาวไม่เคย้าให้ใครมาอาบน้ำให้ ดังนั้น เมื่อนางกำนัลเข้ามาบอกเสร็จก็จะออกไป ตอนออกไปยังไม่ลืมที่จะปิดประตูให้
“มา อาบน้ำสักหน่อย อีกประเดี๋ยวให้หมอซูตรวจดูร่างกายเ้า”
“พ่ะย่ะค่ะ...อื้อ” หลินหร่านเตรียมจะลุกขึ้น กลับถูกอวี้ฉู่จาวโอบกอดไว้ “ท่านอ๋อง”
“เดี๋ยวข้าช่วย” คำพูดของอวี้ฉู่จาวเต็มไปด้วยความจริงใจจนหลินหร่านรู้สึกปลาบปลื้มอีกครั้ง
อวี้ฉู่จาวอุ้มเขาออกมาจากห้อง เดินผ่านฉากกั้นไปถึงห้องน้ำขนาดไม่เล็กไม่ใหญ่นัก
เหนือสระน้ำแขวนผ้าโปร่งสีเทา น้ำในสระกำลังร้อนจนขึ้นเป็ไอ
อวี้ฉู่จาววางอีกคนลงบนขอบสระ แล้วถึงช่วยอีกคนเปลื้องผ้า
“ท่านอ๋อง...ไม่ได้พ่ะย่ะค่ะ” หลินหร่านรีบปฏิเสธ ท่านอ๋องผู้นี้จะมาช่วยเขาในเื่แบบนี้ได้อย่างไร
“ทำไมล่ะ ข้าบอกแล้วไม่ใช่หรือว่าให้ดูที่การกระทำของข้า เ้าจะไม่ให้โอกาสข้าเชียว?” อวี้ฉู่จาวดึงมือของหลินหร่านที่ปฏิเสธเขาออก เริ่มการกระทำต่อ
หลินหร่านช่างว่านอนสอนง่ายเสียจริง หลังเขาเอ่ยออกมาพลันไร้ซึ่งท่าทีต่อต้าน
แต่การที่หลินหร่านต้องรู้สึกอึดอัดหรือไม่เป็ธรรมชาติอาจเป็เื่ที่ยากจะเลี่ยงอยู่แล้ว
---------------------------------
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้