อวี้ฉู่จาวไม่ค่อยคุ้นเคยเื่ในเมืองอวี้อันนัก แต่ผู้คนในเมืองต่างรู้จักเขาเป็อย่างดี ทุกครั้งที่อวี้ฉู่จาวกลับจากศึกา ชาวเมืองต่างพากันมาต้อนรับ ะโโห่ร้องด้วยความยินดี ดังนั้นเขาจึงขี่ม้าไปรอบเมืองเพื่อถามที่อยู่ของจวนแม่ทัพฮวาเวย
อวี้ฉู่จาวสะบัดเสื้อคลุมของเขาก่อนลงจากม้า
คนรับใช้ที่อยู่หน้าประตูจวนของแม่ทัพ เมื่อเห็นเขาก็เข้ามาต้อนรับทันที อีกคนวิ่งเข้าไปในจวนเพื่อแจ้งข่าว
ท่านแม่ทัพไม่อยู่ ท่านอ๋องมาด้วยตนเองเยี่ยงนี้หรือว่าจะมีเื่ใหญ่อะไร
“จะ...จ้านหวัง!” คนรับใช้รีบวิ่งมาด้วยท่าทีตื่นเต้น ศีรษะก้มต่ำลง
“บุตรชายคนเล็กของท่านแม่ทัพฮวาเวย หลินหร่านอยู่หรือไม่” อวี้ฉู่จาวถาม เื่เกี่ยวกับหลินหร่านเขารู้เพียงเท่านี้
สีหน้าของคนรับใช้เปลี่ยนไปทันที ตอบกลับด้วยท่าทีลังเล “เื่นั้น...เขา…”
ด้วยความกลัว อวี้ฉู่จาวจึงเอ่ยถามโดยพลัน “ไม่มีคนชื่อหลินหร่านหรือ”
“...”
“เขาเป็อะไร” อวี้ฉู่จาวหน้าตาบูดบึ้ง น้ำเสียงเริ่มเย็นเยียบ
เมื่อเห็นอย่างนั้น คนรับใช้จึงไม่กล้าปิดบัง “คุณชายอาศัยอยู่ที่กระท่อมทางตะวันตก ไม่ห่างจากจวนแม่ทัพพ่ะย่ะค่ะ”
อวี้ฉู่จาวขมวดคิ้วเล็กน้อย อยากจะถามว่าทำไมหลินหร่านถึงไปอยู่ที่นั่น แต่ก็หยุดเอาไว้แล้วรีบไปหา
อวี้ฉู่จาวรีบขึ้นม้าแล้วมุ่งหน้าไปยังทิศตะวันตก
“ท่าน...ท่านอ๋อง” คนรับใช้ไม่สามารถรั้งเขาไว้ได้
ภรรยาของท่านแม่ทัพที่รีบออกมาจากจวนด้านหลังเพื่อต้อนรับแขกก็มองเห็นเพียงหางม้าเท่านั้น
“เอ๊ะ ท่านอ๋องล่ะ ไปแล้วหรือ” ภรรยาของท่านแม่ทัพเอียงคอ หันไปถามกับคนรับใช้ที่ประตู
แม้ว่าจะมีตำแหน่งสูง แต่นางเว่ยก็ไม่อาจปกปิดเื่ที่ใช้เสน่ห์ไต่เต้าขึ้นเตียงได้
“นายหญิง ท่านอ๋องเอ่ยถามถึงคุณชายเล็กแล้วก็ออกไปขอรับ” คนรับใช้คนนั้นก้มตัวเล็กน้อยก่อนตอบ
ใครบ้างที่ไม่รู้ว่านายหญิงรังเกียจคุณชายหลินหร่านเป็ที่สุด พอท่านแม่ทัพไม่อยู่ก็ทำร้ายคุณชายเล็กต่างๆ นานา หลังจากคุณชายเล็กรอดพ้นจากความตายก็ขับไล่ออกจากจวน แถมยังไม่ให้ใครพูดถึงอีกว่าเขาเป็บุตรชายของจวนแม่ทัพ ให้เรียกแค่คุณชายเล็ก
เื่นี้คนภายนอกไม่รู้ แต่คนที่อยู่ในจวนแห่งนี้ต่างรับรู้ดี
“หลินหร่าน? ท่านอ๋องจะถามหาเด็กเหลือขอนั่นไปทำไม” นางเว่ยเอ่ยกับบุตรสาวที่อยู่ข้างหลัง
เมื่อได้ยินว่าเทพเ้าแห่งาเสด็จมา บุตรสาวของนางเว่ยนามว่าหลินเสี่ยวฉี เด็กสาวที่ไม่เคยแยแสใครก็เดินตามออกมา เพราะรีบร้อนมากจึงมีแค่มารดากับนางที่มาต้อนรับ
หลินเสี่ยวฉีไม่ได้เห็นเทพเ้าแห่งามานาน แถมยังมาได้ยินว่าถามหาคุณชายเล็กที่งดงามกว่านางั้แ่เด็กนั่นอีก นางเริ่มหวาดระแวง “ไม่ใช่ว่าท่านพ่อ…”
แม่ทัพฮวาเวยไปปกป้องชายแดนเป็เวลาเจ็ดปีแล้ว เทพเ้าแห่งาหรือจ้านหวังก็เป็คนในกองทัพ ทำให้พวกเขาอดสงสัยไม่ได้ว่าอาจมีข่าวคราวอะไรจากหลินฮวาเหนียน ไม่อย่างนั้นคนที่มีตำแหน่งสูงส่งอย่างจ้านหวังคงไม่มาถามหาหลินหร่านเช่นนี้
หากเกี่ยวข้องกับจ้านหวังและหลินฮวาเหนียนจริง เมื่อกลับมาถึงเมืองหลวงอาจขอให้ช่วยดูแลบุตรชายหัวแก้วหัวแหวนก็เป็ได้
เื่นี้ทำให้ในใจของนางเว่ยไม่เป็สุข จึงกดเสียงต่ำ “หากเป็เช่นนั้นจริง จะ...ทำอย่างไรดี”
“ท่านแม่อย่าเพิ่งร้อนใจไป ไม่ว่าจะจริงหรือไม่ พวกเรา…” หลินเสี่ยวฉีประคองมารดากลับเข้าไปในจวน
.........
อีกด้านหนึ่ง ใช้เวลาไม่นาน อวี้ฉู่จาวก็ควบอาชามาถึงกระท่อมหลังน้อยตามที่คนรับใช้บอก
หากว่าที่นี่ใช้เป็ที่อยู่อาศัยจริง สภาพมันก็ไม่ค่อยจะน่าอยู่สักเท่าไร
รั้วที่ล้อมอยู่นอกกระท่อมมุงฟาง พออยู่ในฤดูหนาวเช่นนี้รั้วจึงดูอ่อนแอเกินไป หากใช้เท้าเหยียบคงพังลงมาไม่เป็ท่า
ในรั้วไม่ได้มีพื้นที่กว้างนัก ข้างในยังมีกองหิมะที่ถูกกวาดรวมเป็เนินเอาไว้สองกอง
เมื่อคืนหิมะตกหนัก กองหิมะกองนี้คงเพิ่งถูกกวาดได้ไม่นาน
อวี้ฉู่จาวลงจากหลังม้า เดินไปแค่สองก้าวก็ก้าวข้ามรั้วไปได้
กระท่อมมุงฟางในรั้วดูควรค่าแก่การเล่าลือ ั้แ่หลังคาจนถึงตัวกระท่อมมีแต่ฟาง อาจเพราะเป็ฤดูหนาว เพื่อให้ความอบอุ่น ฟางจึงดูหนาขึ้นกว่าปกติ โครงไม้ของตัวกระท่อมถูกฟางซ่อนไว้อย่างมิดชิด
กระท่อมแบบนี้จะใช้หลบหนาวได้หรือ?
อวี้ฉู่จาวเดินเข้าไปดูในตัวกระท่อม
กระท่อมหลังนี้เล็กมาก ขนาดเท่าผู้ใหญ่สามคนนอนเบียดเสียดกันเท่านั้น
ในกระท่อมมีขาตั้งสามขา ้ามีหม้อดินวางอยู่ ในหม้อมีตะเกียบหนึ่งคู่กับช้อนหนึ่งคัน เห็นได้ชัดว่ามีคนอาศัยอยู่เพียงคนเดียว
ด้านในมีฟูกนอนผืนหนึ่ง มองด้วยตาเปล่าก็รู้ว่าฟูกนั้นทั้งบางและแข็ง
แต่ที่ดึงดูดความสนใจของอวี้ฉู่จาวมากที่สุดคงเป็กองกระดาษฟางคุณภาพต่ำที่วางอยู่บนกองฟางและกล่องไม้เก่าๆ พังๆ กล่องหนึ่ง
อวี้ฉู่จาวรีบหยิบขึ้นมาดู เขายังจำที่หลินหร่านบอกได้ว่ามักเขียนถึงเขา วาดภาพเหมือนและนับถั่วแดง
เขาอยากรู้นักว่าของที่อยู่ในนั้นจะใช่สิ่งที่หลินหร่านเคยพูดถึงหรือไม่
อวี้ฉู่จาวหยิบขึ้นมาดูก่อนจะเห็นว่าภาพแรกคือภาพวาดของเขาที่กำลังขี่ม้า
เขามองไม่ออกว่าใช้อะไรวาดขึ้นมา แต่คิดว่าคงใช้ถ่าน
รูปแบบการวาดเช่นนี้ไม่เคยเห็นมาก่อน แต่วาดออกมาได้เหมือนกับคนจริงเชียว
ที่จริงแล้วมันคือการวาดภาพเหมือน ก่อนหน้านี้หลินหร่านใช้ชีวิตอย่างโดดเดี่ยว หากไม่มีอะไรทำก็จะอยู่คนเดียว และถึงไม่มีใครสอนวาดภาพ ตัวเขาก็มักหยิบถ่านขึ้นมาวาดภาพเหมือนคน
ยังมีภาพวาดอีกมากมาย ภาพที่อวี้ฉู่จาวกำลังอ่านตำราทหารกับซ้อมดาบ ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็่ที่อวี้ฉู่จาวไม่รู้มาก่อน คงเป็สิ่งที่หลินหร่านจินตนาการขึ้นมา
ด้านล่างยังเขียนบทกวีเอาไว้ ดูสวยงาม บรรยายด้วยความรู้สึกคะนึงหา บทกลอนเหล่านี้ราวกับนักกวีมีชื่อ แต่อวี้ฉู่จาวก็ไม่รู้ว่าเป็นักกวีท่านใดประพันธ์ขึ้นมา
ประโยคที่ตราตรึงอยู่ในใจของอวี้ฉู่จาวคงจะเป็ ‘เหมือนดั่งถั่วแดงที่ถูกจารึกไว้ในลูกเต๋า ความคิดถึงที่จารึกในเืและกระดูกของข้า ท่านรู้หรือไม่’
เมื่ออวี้ฉู่จาวเปิดกล่องออกก็พบว่าในนั้นเต็มไปด้วยเม็ดถั่วแดง พอมองกลับไปบนขาตั้งสามขาอีกครั้งแม้ว่าอาหารจะถูกกินจนเกลี้ยง แต่ก็รู้ได้ว่าเป็โจ๊กข้าวเหลืองที่ต้มจนนิ่ม
อวี้ฉู่จาวมองดูที่แห่งนี้ ไหนจะข้าวของเหล่านี้ที่ทำให้ใจเขารู้สึกเ็ป
มีเสียงบางอย่างดังมาจากด้านนอก แต่เสียงที่ดังที่สุดคงจะเป็เสียงหายใจกับเสียงเกือกม้าของหั่วเนี่ย1
อวี้ฉู่จาวนึกถึงเ้าม้าป่าที่ไม่ได้รับการฝึกฝนของเขาขึ้นมา มันมีนิสัยใจแข็ง เขากลัวมันจะทำร้ายหลินหร่านที่เพิ่งกลับมาจึงรีบรุดออกไป
.........
ด้วยสภาพอากาศหนาวเย็น ทำให้หลินหร่านต้องตื่นมากวาดหิมะและออกไปเก็บฟืนแต่เช้า กลับมาก็ใอยู่ไม่น้อยที่เห็นม้าตัวใหญ่อยู่หน้าประตู แถมเ้าม้าตัวนี้เขารู้จักเป็อย่างดี
รูปเปลวไฟบนจมูกยาวๆ นั่นเป็สัญลักษณ์ว่าม้าตัวนี้คือม้าประจำตัวของเทพเ้าแห่งา เพราะอย่างนั้นจึงได้ชื่อว่าหั่วเนี่ย และด้วยความที่เป็ม้าป่า จึงมีเื่เล่าขานกันว่า มีแต่จ้านหวังเท่านั้นที่สามารถกำราบและทำให้ม้าตัวนี้เชื่องได้
หลินหร่านไม่รู้ว่าทำไมหั่วเนี่ยถึงมาอยู่ที่ประตูหน้ากระท่อมตน แต่ม้าตัวนี้ต้องเกี่ยวข้องกับคนที่เขาชื่นชมอยู่แน่
ในใจของหลินหร่านรู้สึกกลัว เขาค่อยๆ วางฟืนที่แบกเอาไว้ก่อนก้าวเข้าไปหาหั่วเนี่ยอย่างระมัดระวัง
“เ้า...เ้าคือหั่วเนี่ยใช่ไหม”
หลินหร่านเอ่ย ทำให้หั่วเนี่ยหันมามอง จมูกของหั่วเนี่ยส่งเสียงออกมาราวกับเป็เสียงเตือน เท้ามันเริ่มขยับ
“อย่า อย่า อย่า อย่า…” หลินหร่านถอยหลังออกมาด้วยความใ ไม่กล้าส่งเสียงใดๆ ได้แต่มองซ้ายมองขวาด้วยความระวังอีกที
---------------------------------------
1 หั่วเนี่ย มาจากภาษาจีนคำว่า火涅 โดย 火 (หั่ว) แปลว่า ไฟ 涅 (เนี่ย) แปลว่า แร่สีดำ ซึ่งเหมือนกับลักษณะของหั่วเนี่ยที่เป็ม้าสีดำและมีสัญลักษณ์รูปเปลวเพลิง เป็สัญลักษณ์ประจำตัวของเทพเ้าแห่งา