จากตอน อุระสิปาง...
ตองอินทร์ เ้าช่างจำนรรจากล่าวพจน์สุนทรีถึงพระนางทิพปภา...นาคินีเ้า จนองค์อรินทร์ พญานาคินแห่งรัตนนาคาบุรีใคร่อยากเห็นหน้านางจนหทัยกระวนกระวายเป็กำลัง เพราะคำเล่าลือเกี่ยวกับความงดงามของปทุมถันของนาง
เสียงเล่าลือกล่าวอ้างนางนั้นไซร้ ใคร่อยากเห็นดวงพักตร์เป็นักหนา
อันอุระกลางทรวงดวงสุดา เผยเห็นหน้าปทุมมางามบาดตา
หว่างยอดเต้าเต่งตึงรำพึงหา ทิพปภายอดธิดาจ้าวพญา
เฉกเช่นเนื้อทองกรองมาลา ยอดถันเลิศหล้าขจรไกล
ครั้นสหายแห่งข้ามาบอกสาร ถึงแม่บทมาลย์ให้ขานไข
ตองอินทร์จงเล่าให้หมดนัย ข้าใคร่อยากรู้ถึงเนื้อนวล
เธอคือธิดานาคินีเ้า แห่งท้าวพญาเ้าไกรศวร
พระญาติฝ่ายชนกจงทบทวน จึ่งสมควรระลึกถึงพระนาง
ณ บัดนี้เจริญองค์ทรงสะคราญ กานดาเนื้อนวลผ่องสล้าง
ยอดเต้าปทุมถันหน่อเ้านาง ไผบ่พ่างเทียบนาคินีเธอ
... ... ... ...
ตองอินทร์พรรณนาเกล็ดวรกายชมพูแพรทองเมื่อนางจำแลงร่างเป็นาคินี ครั้นคราที่จำแลงแปลงร่างมายากลายเป็สาวสะคราญ ปทุมถันชมพูทองอำพันอันเป็ที่กล่าวขวัญถึงพระนางที่มีพระอุระงดงามดั่งเทพอัปสร ทำให้หทัยขององค์อรินทร์เพ้อรำพึงถึงไม่เว้นวาย
¤ อุระสิปาง
เนื้อนวลพระนาง เต้าปทุมถัน
ชมพูดั่งทอง เลิศหล้าเทียบทัน
แพรเนื้ออำพัน ใคร่แลยอดเนิน
¤แม่เทพธิดา
สวยจรดฟ้า ขอส่งเทียบเชิญ
สู่รัตนะ นาคาบุรี
สมสู่สะหรี เคียงข้างเ้าเอย
องค์อรินทร์พรรณนาถึงความแตกต่างในสิริโฉม หากเทียบเคียงกับจิติญญาอันบริสุทธิ์ของนางแล้วประดุจดังมายาหาแก่นสารมิได้ เพียงหลงละเมอเพียงชั่วเพลาหนึ่งนั้น
¤ข้าพึงใจเ้า
ใช่เถือแต่งเต้า ยั่วเย้ากามา
รูปโฉมโนมพรรณ เลิศล้ำมายา
ห่อนฤาชั่วครา บ่แท้แก่ใจ
¤อุราวิสุทธิ์
ผุดผ่องเนื้อใน ลุแจ้งพิสัย
เ้างามกว่าโฉม ที่เลื่องลือไกล
สิปางพิไล ต้องฤทัยแด
ความงดงามของเต้าปทุมถันที่เล่าขานนั้นประดุจดังสีที่แต่งแต้มให้องค์อรินทร์ใหลหลง ทว่าพระองค์เพียงเพ้อกระวนกระวายใคร่พบพระนาง คราที่ตองอินทร์พร่ำรำพันดุจเดียวกัน
แต่แรกนึกเพ้อละเมอหา เต้าปทุมมาเต่งแต้มฤาไฉน
คราโลมเล้าคงได้ถึงฤทัย จนกระสันเร้ารึงข้าถึงทรวง
ถึงหมื่นแสนทั่วแดนนาคกัป ได้สดับเนื้อนางแม้แดนสรวง
เทียบบ่ได้กับเ้าสุดาดวง เนินบัวหลวงบ่พ่างอุระสิปาง
นางดุจดังยอดมณีแก้ว เพริศแพร้วพิลาสสู่สมข้าง
จงรักษาเอวองค์ทรงศุภางค์ ปทุมถันต่างตั้งรอเชยชม
จงรอข้าเถิดนะดวงยี่หวา เพลาข้ากับเ้าได้สู่สม
คราหมู่ภมรยังเย้ยดม เนินชมพูแพรทองสวรรยา
วิเศษเยี่ยงเพียงนี้ไผบ่เหมือน สกาวเดือนแสงทองส่องหล้า
ข้าจะอยู่เคียงเ้าทุกเพลา ผูกพันหาพากระสันถึงเนื้อนวล
จะจำแลงถ้อยวจีเห่กล่อมเ้า มาเกี้ยวเ้าให้ถึงที่สงวน
แล้วสำเร็จสู่สมใจรัญจวน ให้เย้ายวนหทัยเ้าทุกทิวา
... ... ... ...
ผัสสะมันตราขององค์อรินทร์ต้องใจพระนางทิพปภานาคินี แต่ในชาติปางก่อน...
ข้าขอร่ายมันตรา ณนาคายุกาล
ขึ้นสู่บทมาลย์ ธเรียกขานปู่เ้า
หนึ่งดั่งดวงใจป้อง ฤทัยผองลุเผ่า
สอนสั่งแลบ่มเฝ้า ผิไผเท่าจะแด
บารมีสั่งสม ลุพนมสู่แม้
ทั้งแดนสรวงเลิศแท้ บ่ห่อนแพ้สูใด
มนตราก่อกำเนิด มณีเพริศพิไล
หกผัสสะซ่อนไว้ จะป้องผู้ทุศีล
องค์อรินทร์มาด้วยเสียงที่ส่งออกจากมณีพชรที่ห้อยอยู่กับสังวาลที่มอบให้พระนางทิพปภา พระองค์เกี้ยวพระนางทิพปภานาคินีทุกค่ำ
ข้ามาหาเ้าให้ถึงที่สงวน คงมิกวนหทัยเ้าหรอกหนา
บอกรักเ้าพร่ำเพ้อทุกเพลา ให้โหยหาอยู่ทิวาแลราตรี
ขอโอบรัดพรอดพร่ำสำเนียงจูบ ขอไล้ลูบทั่วร่างสะอางศรี
ปทุมถันอำพันแพรทองศจี ใคร่ซิกซี้ไล้เลียเนื้อกลอยใจ
องค์อรินทร์กล่าวว่า...ถึงพระองค์จะสังวาสกับนางใด แต่พระนางยังอยู่ในหทัย ด้วยผัสสะมันตราที่ร่ายกับพระนาง... ทรงเสน่หากับพระองค์มิรู้วาย
แม้นาคินีเสนอให้ทั่วดาษดื่น ข้ายังชื่นฤดีมีเพียงเ้า
ด้วยผัสสะ ‘หทัย’ ข้ารุมเร้า ใคร่อยากเข้าไป...ถึงในทรวง
ฝากเก็บไว้ในมณีที่เสนอ แด่นางเธอข้าขอให้ลุล่วง
แล้วร่ายมันตราสุดาดวง ขอเป็ห่วงคล้องเข้า...ตรงอุรา
เพียงสำเนียงข้านี้จงอย่าตื่น มันตราอื่นฤาจะสู้มนตราข้า
คือพระเวทรักษาใจทุกเพลา จะนำพาเ้านั้นนิมิตไป
ให้ฤาดีไปพร้อมร่วมกับข้า สังวาสพาเ้าเหิน...เนิน์
สมความใคร่เห็นเ้าทุกวี่วัน ผิเสือกไสกั้นฤทัยให้วางวาย
ไสยเวทกำหนัดร่ายเสกเป่า พึงใจเข้าหว่างหทัยมิจางหาย
แม้มิใคร่กับข้าใช่เดียวดาย เ้ามีข่ายเกลียวรัด...ร้อยติดตัว
ข้าพึงฤทัยจนใคร่ได้สมสู่ แม้มิได้อยู่ใกล้...ขอเย้ายั่ว
ผจงจูบตรงหทัยเข้าพันพัว ยังมิได้ถึงตัว...แม่จอมใจ
มันตรานี้บรรจงขึ้นแต่งแต้ม ข้างแรม 11 ค่ำ...มืดแขไข
รัดรึงร่างเ้าไว้กลางดวงใจ ให้ถวิลครางครวญทุกเพลา
น่าสงสารองค์อรินทร์ที่ต้องนับเวลาถอยหลัง...พระองค์จะอยู่บนโลกมนุษย์เพื่อที่จะนำพาเธอกลับไปยังวังนาคาของพระองค์ ทรงพร่ำรำพันถวิลหา...
ข้ามีเพลาเหลือนับถอยก้าว จะรวดร้าวเพียงใดให้ใจหาย
ด้วยคิดถึงเ้ามิเว้นวาย ใจมลายด้วยกลิ่นแม่เนื้อนวล
ถึงแม้นหนทางแสนลำบาก ขอฝากใจเ้าอย่าผันผวน
ข้าต้องเข้าญาณเพื่อทบทวน ให้ครบถ้วนกระบวนวิถีทาง
แล้วนำพาจิตเ้ากลับสู่สม ได้ภิรมย์ขีดทางที่กั้นขวาง
จะแต่งตั้งเ้าขึ้นเป็พระนาง มาเคียงข้างชื่นชู้เป็คู่ใจ
ยังกริ่งเกรงเพียงใดหารู้ไม่ หทัยข้าแสนเปลี่ยวขอชิดใกล้
สุดหยั่งรู้จะด้วยวิธีใด ข้าจะไปให้สุดช่วยนำทาง
แล้ววันที่ข้าหาจะมาถึง ให้ติดตรึงดวงจิตแม่สล้าง
ขอชื่นชมเรือนเ้าทั่วสะอาง มิเหินห่างให้เ้าต้องเหงากาย
จุมพิตข้าจะเย้าเร้ารึงเ้า ชิวหาเข้ากระวัดมิห่างหาย
อย่าขวยเขินดังเช่นเป็นางอาย ใจอาจสลายเพราะเ้ามิร่วมกัน
รอข้าให้ได้นะดวงยี่หวา จงอย่ามีมารยาแลสาไถย
ข้าจะมารับเ้าแม่ดวงใจ เราจะได้ไปสู่สมชั่วนิรันดร์
อสูรนราติ ญาติผู้น้องขององค์อรินทร์เป็คู่แข่งแย่งชิงพระนางทิพปภา... ได้มา
ข้าเฝ้ารอคอย ไม่ปล่อยเ้าไป
ให้อรินทร์วายใจ สาแก่ฤทัยมัน
อยากเป็คู่แข่ง แย่งชิงพระนาง
ขอสู่สมบ้าง อย่ามล้างไปเลย
ใจข้าคงมลาย วางวายเมินเฉย
โธ่แม่รำเพย เผยแผ่แก่ใจ
ขอใจข้าหน่อย คำถ้อยซุกไซ้
รุกไล้เข้าใน หว่างใจในทรวง
คำพร่ำรำพันของอสูรนราติต่อพระนางทิพปภาในพิธีโยนมาลัย...
ใช่เลย....คือเ้านี้ที่ข้าฝัน นับคืนวันอยากเห็นดวงหน้าเ้า
หทัยร้อนรุ่มดังไฟเผา มาขอเข้าร่วม...พิธีโยนมาลัย
ประหนึ่งใจข้านั้นเต้นเร่า รักรุมเร้า...แทงทรวงมากไฉน
หากพบหน้าคงซาบซึ้งตรึงฤทัย แม่ยาใจ ‘ทิพปภา’ นาคินี
นามนี้แสนหวานน่าจุมพิต ขอพิศวาสไซ้เรือนร่างในทุกที่
คิดคำนึงก่อนมาทุกราตรี แม่มาลีปทุมถันช่างเย้ายวน
ใช่เลย...คือเ้าที่ข้ารัก ขอสมัครมาร่วมถึงไกรศวร
ข้าขอเพียงเ้าแม่เนื้อนวล ใจเจียนจวนแทบขาด...ถึงเนื้อนาง
นราติตัดพ้อถึงทิพปภาต่อหน้าพระพักตร์ของพระชนกและพระชนนีของนาง
แม้มิได้พบดวงหน้าขอเสียงเ้า เพียงยั่วเย้าให้ใจข้าถึงสั่นไหว
ขอยินถ้อยคงลุ่มหลงถึงฤทัย อย่าทิ้งให้เศร้าตรมขมในทรวง
ฝากบทกลอนนี้ไปกับสายลม ขอชมชื่นดวงใจนี้ใหญ่หลวง
อย่าลี้หนีห่างเลยหนาสุดาดวง ปวงนาคะใดไหนอื่น...จงเมินแล
