บทที่ 7
เสียงเพลงกระหน่ำดังไปทั่วสถานบันเทิงชื่อดังใจกลางเมือง ภายในตกแต่งสไตล์ฮิปฮอปในยุคเก่า เหล่าผู้คนมากหน้าหลายต่างแต่งตัวเข้ากับธีมร้าน มีแต่เขานี่แหละที่ใส่เสื้อเชิ้ตสีขาวธรรมดากับกางเกงยีนสีซีด แต่งเหมือนเด็กมหาลัยนั่นแหละ ส่วนเพื่อนแฝดตัวดีก็ใส่องค์เต็มเครื่อง นึกว่าจะไปประกวดชิงช้า์แล้ว เพชรแวววาวมาั้แ่ภูเก็ตยันเชียงใหม่
"ถ้าร้านไฟดับกูแทบไม่ต้องหามึงอะ"
"ฮ่าๆ มึงก็ว่ากูเกินไปปะ"
"หึ ไม่เกินแน่ ดูเพชรแต่ละอัน"ทั้งแหวน ทั้งต่างหู ไหนจะกำไล ยังไม่พ้นที่คาดผมบนหัวมันอีก เควินได้แต่กุมขมับกับแฝดตัวเองตั้งตอนอยู่บ้านแล้ว เห็นแฟชั่นของนาวินแล้วเทียบกับแฝดน้องมันที่ใส่ชุดดำทั้งตัวก็นึกขำ
คราวนี้พวกเขาไม่ได้ไปนั่งกินอยู่ที่โซนวีไอพีเพราะว่าโต๊ะดันเต็มเสียก่อนตอนโทรไปจองจนเป็เหตุให้ต้องมายืนกินที่โต๊ะอยู่ด้านล่างแทน ดีเจยังคงเปิดเพลงไปเรื่อยๆ ส่วนนาวินก็เต้นอยู่แบบนั้น
"สรุปว่าพากูมาเที่ยวหรือมันมาเที่ยวเองวะ"เดือนอ้ายหันไปกระซิบกับเควินที่ยืนอยู่ด้านข้างพร้อมกับมองไปที่อีกคนที่เต้นสะบั้นเด้าด้านหน้า
"มึงก็รู้ว่ามันเป็คนไง เมื่อวานมันก็สร้างเื่"
"สร้างเื่? เื่ไรวะ"
"มีหนุ่มมาจีบมันแต่มันไม่เอาเลยโยนมาให้กู"เควินพูดจบก็กลอกตามองบนทันที
"ฮ่าๆจริงป่ะเนี่ย สงสารมึงว่ะ"เขารู้ว่าเควินไม่ได้ชอบผู้ชาย มันเป็คนที่ชอบผู้หญิงแต่นาวินเป็ไบเซ็กชวล มันก็ชอบคนไปทั่วแต่ถ้าไม่ชอบใครก็ชอบโยน
"แล้วไอหนุ่มนั่นแม่งเสือกจะปล้ำกู เจอกูสวนหมัดไปทีเดียวจอด"
"แล้วทำไมมึงไม่ทุบมันวะ"
"ทุบไอหนุ่มนั่นหรอ?"
"ทุบนาวินมันเนี่ย! แฝดพี่มึงนี่มันจริงๆเลยนะ"
"กูทุบไปละ สรุปร้องไห้ฟ้องแม่ กูโดนอีก"ร่างเล็กหัวเราะออกมาอย่างเสียงดัง ใบหน้าสวยภายใต้แสงสีนั้นดูสะดุดตากว่าใครพอหัวเราะออกมาจนดวงตาชิดเข้าหากันทำให้คนที่อยู่รอบโต๊ะถูกสะกดเอาไว้ทันที เควินได้แต่คิดว่าั้แ่เพื่อนแต่งงานก็ดูมีออร่าพิเศษมากขึ้นกว่าปกติ
"พวกมึงอย่ามัวนิ่ง! เต้นเร็ว!"นาวินที่เต้นอยู่ก็รีบเอาตัวเข้ามาชักดิ้นชักงอข้างเขา เขาพยายามส่ายมือว่าไม่เต้นอีกคนก็ไม่ยอม
"ไม่เอาโว้ย"
"เต้นเดี๋ยวนี้เลยนะ!"
"ไม่มีทาง"เขาส่ายหน้ารัวๆไม่ยอมเต้น จนมันจับเข้าที่มือสองข้างพาเขาหมุนตัวกับเพลง
"ไม่เอานะ หยุดหมุนกู! เควินช่วยด้วย!"ร่างเล็กโดนจับหมุนตัวไม่มีพักส่วนเควินก็ยืนดื่มอย่างเงียบๆพร้อมกับยิ้มอย่างเดียว เขารู้สึกคับแค้นใจนักก่อนจะยกมือขอพัก "ไม่ไหวจริงนาวิน กูจะอ้วก...แฮ่กๆ"
"โห่ไรว้า ไม่ทนหน่อยเลย"
"มึงไปเต้นคนเดียวเลยไป"เขาดันตัวอีกคนไปเต้นด้านหน้าที่คนออกไปเต้นเยอะๆแทน โชคดีที่มันว่าง่ายเดินไปตามที่พูด คงเป็เพราะดื่มไปเยอะพอสมควร
"เควินกูไปห้องน้ำก่อนนะ"
"ให้กูไปเป็เพื่อนไหม?"
"แล้วใครจะเฝ้าโต๊ะ เดี๋ยวกูไปเอง"
"เคๆ"
เดือนอ้ายเดินออกจากโต๊ะผ่านสายตาที่จ้องมาที่ตนเองอย่างไม่รู้ตัว ด้วยความเคยชินที่หลายคนชอบคิดว่าเขาคืออิงดาว ก็ไม่แปลกที่จะโดนจ้องมาั้แ่เด็ก เมื่อกำลังจะเดินไปถึงห้องน้ำ เสียงแจ้งเตือนโทรศัพท์ก็ดังขึ้นมาเสียก่อน เมื่อกดดูก็พบว่าคนที่ทักมาคือโจนั่นเอง
Joshua
คุณเดือนอ้ายกลับรึยังครับ?
เดือนอ้าย
ยังเลย เพิ่งจะสามทุ่มเองนะ
มีอะไรเปล่า
ไม่มีข้อความตอบกลับเขามาแม้ว่าจะขึ้นว่าอ่านแล้ว จนสักพักก็มีสายเรียกเข้าโทรมา ร่างเล็กกดรับทันทีก่อนจะยกโทรศัพท์ขึ้นแนบหูตัวเองทันที
"มีอะไรรึเปล่า"
(คะ..คือเ้าสัวจะเลิกประชุมสามทุ่มครึ่งครับ!)
"ว่าไงนะ! ทำไงดียังไงก็ไม่ทันแน่ๆ"
(คุณเดือนอ้ายต้องกลับเดี๋ยวนี้ครับ!)
"ไม่ได้หรอก จะให้เราทิ้งเพื่อนได้ไง!"
(แต่คุณเดือนอ้ายจะทิ้งผมไม่ได้นะครับ!!! คอผมขาดแน่ๆๆๆ)
"โจหาทางถ่วงเวลาให้ได้มากที่สุด เราจะรีบกลับให้ไวที่สุด ถ้าเกิดสามทุ่มครึ่งยังไม่ทันให้บอกว่าเราจะนอนบ้านแม่ โอเคมั้ย?"
(ได้ครับ คุณเดือนอ้ายรีบเลยนะครับ!)
เขารีบเข้าไปในห้องน้ำทำธุระตัวเองให้เสร็จก่อนจะเดินกลับโต๊ะตัวเองแต่ไม่ทันที่จะเดินถึงโต๊ะตัวเองก็ถูกข้อมือรั้งเอาไว้ เขาหันหลังไปตามแรงดึงก่อนจะเห็นหน้าอีกคน "มีอะไรครับ?"
"เธอมาคนเดียวรึเปล่า?"สายตาที่มองมานั่นไม่ต่างกับเสือที่กำลังจะล่าเหยื่อเลยสักนิด เขาเห็นมันแล้วรู้สึกอยากจะอ้วก
"มากับเพื่อนครับ ผมต้องไปแล้ว"เขาพยายามดึงข้อมือออกจากมืออีกคนแต่ว่าทำยังไงก็ไม่ออก
"เราแค่อยากทำความรู้จัก"
"ผมมีธุระครับ ขอตัว"
"แปปเดียวเองเธอ"เขานิ่วหน้าเล็กน้อยรู้สึกถึงแรงบีบของอีกคนที่ข้อมือ
"ผมบอกว่ามีธุระไง"
"หยิ่งนักหรอ?"
"ปล่อยผม"ร่างเล็กสะบัดมือออกอย่างแรงพร้อมกับเดินกลับไปที่โต๊ะ ไม่ทันได้มองสีหน้าของอีกคน ร่างเล็กมองหาเควินก่อนจะเดินเข้าไป อาการปวดที่ข้อมือเริ่มกำเริบ เหมือนว่าข้อมือที่โดนบีบจะแรงเกินไป
"เควินกูต้องรีบกลับแล้ว ไปหานาวินให้หน่อยดิ"
"โอเคๆ แต่มึงช่วยกินให้หมดได้ไหม เสียดายเหล้า"เขามองไปที่เหล้าที่เหลือมีเพียงแค่สามคืบนิ้ว ก่อนจะพยักหน้าตกลงไป
"เดี๋ยวกูเคลียร์เอง มึงไปหานาวินเดี๋ยวนี้"
"อ่า"ทันทีที่เควินออกไปหานาวิน เขาก็รีบจัดการกระดกเหล้าทีเดียวจนหมดขวด ถ้าหากว่าคนในครอบครัวรู้ว่าจริงๆแล้วเดือนอ้ายกินเหล้าเก่งแค่ไหนคงจะต้องด่าไปเจ็ดวันแปดวันแน่
สมัยเรียนเขาดื่มมันจนชิน จน่หลายเดือนก่อนก็เลิกเรียนเพราะเป็่ปีสุดท้ายเลยไม่ค่อยกินบ่อยนัก แต่ไม่คิดว่าการกลับมากรุงเทพครั้งนี้ต้องมากินของแรงแบบนี้ ร่างเล็กจัดการของทั้งหมดก่อนจะหยิบกระเป๋าเตรียมตัวเดินออกเมื่อมองเห็นว่าเควินหิ้วนาวินออกมาแล้ว เดือนอ้ายชี้นิ้วให้ไปทางออกทันที เท้าเล็กเดินออกมาจนถึงข้างนอกก่อนยื่นกระเป๋าให้กับเควิน
"กลับไหวไหม?"เควินถามออกมาด้วยสีหน้าเป็ห่วง
"ไหว"แม้ว่าสติจะเลือนแต่ก็พอไหวอยู่
"เดี๋ยวกูเรียกรถให้"
"อื้อ มึงแบกนาวินไหวป่ะเนี่ย"
"ไหวดิ"เขาเดินตามอีกคนไปจนมองเห็นว่าเพื่อนเรียกรถให้แล้ว
"กลับดีๆนะมึงอ่ะ"
"เออน่า มึงกลับดีๆนะ"ร่างเล็กพยักหน้าให้เพื่อนก่อนจะเข้าไปในรถทันที จนรถวิ่งออกไปลับสายตา เควินถึงจะไปเรียกรถให้ตัวเอง ส่วนแฝดที่พยุงอยู่ก็หลับไปแล้ว ไม่รู้ทำไมในใจถึงนึกห่วงเพื่อนตัวเล็กเพราะใบหน้าเดือนอ้ายดูแดงกว่าปกติ
จุดหมายปลายทางของเดือนอ้ายคือคฤหาสน์หลังใหญ่ตั้งอยู่ห่างจากใจกลางเมืองเล็กน้อย นั่งรถไม่นานก็ถึง จนรถแท็กซี่วนเข้าตรวจถึงตัวบ้าน เขารีบลงจากลงรถทันที เดือนอ้ายคว้าโทรศัพท์ตัวเองขึ้นมาดูเวลา ก่อนจะถอนหายใจด้วยความโล่ง
"สามทุ่มยี่สิบ"เขาเดินขึ้นบ้านไปด้วยท่าทีโซเซ ทำไมรู้สึกว่าโลกมันเอียงเหลือเกิน เท้าเล็กกำลังจะก้าวเท้าไปอีกขั้นแต่ทว่ากลับสะดุดเกือบล้มแล้ว โชคดีที่มีคนมารับไว้ทัน ใบหน้าสวยเงยหน้าขึ้นไปมองร่างสูงด้วยสีหน้ามึนงง
ตอนนี้แก้มขาวนวลสองข้างแดงเป็มะเขือเทศ ลูกกระตาสองข้างก็แทบจะปิดหากันอยู่แล้ว อาทิตย์ได้แต่ข่มอารมณ์เอาไว้ในใจก่อนจะช้อนตัวอุ้มเดือนอ้ายเอาไว้ในอ้อมอก ร่างสูงไม่อยากจะดุคนเมาตอนนี้เท่าไหร่ พูดอะไรไปอีกคนก็คงไม่เข้าใจ
กว่าจะเค้นกับไอน้องชายได้ว่าทำไมถึงมีอาการล่กแปลกๆ พยายามให้ถ่วงเวลาให้เขาอยู่บริษัทจนถึงสี่ทุ่ม สุดท้ายก็ต้องสารภาพออกมาอยู่ดี อาทิตย์เองก็ไม่คิดว่าภรรยาตัวเองจะกล้าหนีไปเที่ยวโดยไม่บอกแบบนี้
"อื้อ เดี๋ยวอ้ายตก"ร่างเล็กโอบคอร่างสูงเอาไว้แน่น ใบหน้าก็ยังคงแนบชิดกับอกแกร่งของอีกคนเอาไว้ ตอนนี้สติของเดือนอ้ายประคองเอาไว้ไม่อยู่แล้ว
ร่างสูงอุ้มเดือนอ้ายผ่านสายตาพวกแม่บ้านก่อนจะมองไปที่น้องชายตัวเอง "ไปไหนก็ไป"
"ไล่กันงี้เลย"
อาทิตย์พาอีกคนมาถึงห้องนอนก่อนจะวางอีกคนลงบนเตียง พอร่างเล็กถึงเตียงก็พยายามหาบางอย่างมากอดไว้แนบกาย สุดท้ายมือของอาทิตย์ก็ถูกดึงไป ร่างสูงไม่ได้สะบัดออก เพียงแต่มองอย่างนิ่งๆก่อนจะเผลอล้มตัวลงนอนข้างอีกคน
"ดื่มไม่คิดเลยนะว่าจะเมา"
"อื้อ บ่นไรเนี่ย"เดือนอ้ายพูดพร้อมกับเอามือที่ตัวเองจับไว้ซุกที่แก้มตัวเอง
"ก็บ่นเด็กที่มันดื้อไม่ยอมบอกไงว่าจะเที่ยว"
"พูดอะไรไม่รู้เื่เลย"
"มึงต่างหากที่พูดไม่รู้เื่ กินอะไรไม่ดูตัวเองว่าไหวไหม"
"พอแล้ว เค้าปวดหู"เดือนอ้ายเอาจมูกถูไถกับอกแกร่งไม่รู้ตัว
"เฮ้อ..มึงนี่นะ"อาทิตย์ว่าจะไม่ดุแล้วจริงๆแต่พอเห็นว่าอีกคนกลับมา สภาพแบบนี้ก็เริ่มอดไม่ได้
ถ้าเป็ตอนปกติไม่มีทางที่เดือนอ้ายจะอ้อนเขาแบบนี้หรอก ขนาดแค่ลูบหัวยังวิ่งหนีขึ้นห้องเลย แต่นี่ถึงกลับจับมือเขาไม่ปล่อยสักที สายตาคมไล่มองทั้งแต่หัวจนถึงด้านล่างจนตาไปสะดุดกับรอยแดงที่ข้อมือ อาทิตย์ขมวดคิ้วเป็ปม ทำไมอีกคนถึงมีรอยแดงที่ข้อมือเป็ลายมือขนาดนี้
ร่างสูงค่อยๆลุกขึ้นก่อนจะเดินไปหยิบยาแก้ฟกช้ำมา มือหนาป้ายยาไปที่ข้อมือเล็กช้าๆให้ทั่ว ลมหายใจของเดือนอ้ายทำให้รู้เลยว่าตอนนี้หลับไปแล้ว ไม่มีทางรู้เลยว่าอาทิตย์คือคนที่ห่วงตัวเองมาตลอด เมื่อทายาเสร็จอาทิตย์ก็ลุกขึ้นค่อยๆเดินออกจากห้องไป มือหนากดโทรหาเพื่อนสนิททันที
"I lose"
(I knew before you know, boy บอกแล้วอย่าปากเก่ง)
"มันเป็สันดาน"
(แล้วคือยังไง จีบเลยไหม?)
"จีบอะไร แต่งงานแล้ว"
(แต่งงานแล้วก็ไม่ใช่ว่าจะจีบไม่ได้ป่ะวะ มันต้องให้ความรักกันบ้าง แล้วมึงก็ต้องปากตรงกับใจด้วย)
"ก็มันน่าแกล้งไหมวะ"
(ระวังเถอะ แกล้งมากๆเขาก็ไม่คิดว่ามึงชอบหรอก)
"เฮ้อ จีบไม่เป็"
(เวรเอ้ย กูก็ลืมว่ามึงไม่จีบใคร เอางี้คือการที่มึงทำดีกับน้องก็ถือว่าจีบแล้วเว้ย)
"ทำดี? แค่นี้อ่ะหรอ"
(ไม่ใช่แค่นี้ดิ มึงก็ต้องหยอดคำหวานด้วย แต่อย่าเสี่ยวนะกูกลัวน้องใว่ามึงแปลก ฮ่าๆ)
"f**k you"
(clam down, bro! ก็มีแค่นี้นี่แหละ)
"เออ"
(ไหนคำขอบคุณ)
"กูให้มึงยืมไปห้าล้านแล้วมึงขอบคุณกูยัง?"
(อ่อครับ ขอบคุณครับ แค่นี้นะสัญญาไม่ดีว่ะ..แค่กๆๆ...)
มันคงถึงเวลาที่เขาต้องปล่อยวางสักทีเกี่ยวกับเื่ของหยก ถึงแม้ว่ายิ่งคิดถึงมันแค่ไหนก็ไม่มีทางย้อนกลับมาแก้ไขได้อยู่ดี เดือนอ้ายเองก็ไม่ได้ผิดอะไร เด็กคนนั้นก็คือหมากของครอบครัวโชตินันท์เท่านั้น และเขาจะทำให้โชตินันท์รู้ว่าการที่ทำให้เด็กคนหนึ่งไม่ได้รับความรักเท่าที่ควรได้มาั้แ่เด็กเป็ยังไง
โชตินันท์จะต้องพังด้วยน้ำมือของอาทิตย์
12 ปีก่อน
เช้าวันเสาร์คงเป็วันหยุดที่เด็กๆหลายคนก็อยากออกไปเล่นกับเพื่อนๆ เว้นแต่เดือนอ้ายที่ไปเล่นกับพี่ชายข้างบ้าน ร่างน้อยสะพายกระเป๋าเป้สีเหลืองรูปเป็ดประจำตัวไว้เสมอ ทุกครั้งที่ไปที่บ้านของอาทิตย์มักจะได้รับสิทธิพิเศษจากป้าแม่บ้าน มักจะได้ขนมนมเนยติดตัวกลับมาตลอด
"มาแล้วหรอตัวเล็ก?"อาทิตย์เดินออกมาพร้อมกับพาเดือนอ้ายเดินเข้าไปในบ้าน เด็กน้อยยื่นกระดาษสี่เหลี่ยมให้กับอีกคน อาทิตย์รับมาไว้ในมือก่อนจะอ่านออกมา
"ขอแสดงความยินดีกับเด็กชายเดือนอ้าย ได้รับรางวัลชนะเลิศงานศิลปะและหัตถกรรมครั้งที่ 30 ในระดับชั้นประถม.."
"อ้ายเก่งมั้ยคับ?"อาทิตย์ถือกระดาษไว้ในมือพร้อมกับมองไปที่เด็กน้อยตรงหน้า
"เก่งที่สุดเลยครับ"ฝ่ามือถูกลูบบนหัวของเดือนอ้ายช้าๆ
"แต่ที่บ้านไม่มีใครดีใจกับอ้ายเลยคับ"ถึงแม้ว่าร่างเล็กจะพูดออกมาโดยไม่มีสีหน้าอะไร แต่ในใจก็แอบน้อยใจครอบครัว
"มีพี่นี่ไง ไหนๆก็ได้ที่หนึ่งต้องมีรางวัลแล้ว"อาทิตย์อุ้มเด็กน้อยขึ้นก่อนจะพาไปเล่นที่ห้องนั่งเล่น เหล่าแม่บ้านเห็นก็รีบเอาน้ำขนมมาป้อนทันที
เด็กน้อยมองหาพี่ชายที่ตอนนี้หายไปไหนแล้วไม่รู้ รู้แต่ว่ามีเด็กน้อยผู้ชายคนหนึ่งนั่งจ้องเขาอยู่ด้วยสายตาจองล้างจองผลาญ เหมือนกับว่าเขาไปทำอะไรผิดมาเลย
"กินไหม?"มือเล็กยื่นขนมให้อีกคนแต่พออีกคนเห็นก็รีบทำตาวาวคลานเข่าเข้ามากินด้วยทันที
"นั่นน้องชายพี่เอง"
"น้องชาย?"เด็กน้อยไม่เข้าใจว่าทำไมพี่อาทิตย์ถึงมีเขาเป็น้องชายคนเดียวไม่พอ ทำไมถึงมีอีกคนเพิ่มแต่ก็ไม่ได้ถามออกไป
"น้องชายแท้ๆพี่เอง ชื่อโจ อ่ะนี่ ของรางวัลคนเก่ง"กล่องสี่เหลี่ยมขนาดใหญ่ถูกยื่นมาให้เขา เด็กน้อยรับไว้ด้วยสีหน้าดีใจ มือเล็กเปิดฝากล่องออกด้วยความตื่นเต้น
เมื่อเปิดออกมาก็เห็นว่าจริงๆแล้วด้านในมีกล่องเหล็กสีดำวางอยู่ เดือนอ้ายเห็นก็ตาลุกเป็ไฟ เมื่ออาทิตย์ช่วยเปิดออกมาก็พบว่ามันคือสีไม้ที่มีมากกว่าสิบสองสี เดือนอ้ายดีใจจนน้ำตาไหลออกมาไม่รู้ตัวจนรีบไปกอดคออาทิตย์เอาไว้
"ขอบคุณคับ..ฮึก"
"โอ๋ๆ ไม่ร้องสิ พี่ให้แล้วก็รักษามันให้ดีนะ" อาทิตย์ลูบหัวน้องด้วยความเอ็นดูก่อนที่เสียงโทรศัพท์จะดังขึ้นแล้วลุกออกไป เดือนอ้ายกลับมาสนใจสีใหม่มี่ได้มาพร้อมกับมองไปที่โจ แต่ว่าตอนนี้เด็กน้อยจำไม่ได้แล้วว่าอีกคนชื่ออะไร
"ป้าน้อยครับ ฝากดูเด็กๆด้วยนะครับ ผมไปคุยกับแฟนก่อน"
"ได้จ้ะ"
"นี่ แฟนคืออะไรหรอ"จู่ๆโจก็หันมาถามเดือนอ้ายด้วยความสงสัย
"พัดลมรึเปล่า fanไง"
"พี่นี่แปลกแฮะ ไปคุยกับพัดลมทำไมก็ไม่รู้"
"นั่นสิ" ป้าแม่บ้านยิ้มให้กับความน่ารักของเด็กสองคนแต่ก็ไม่อธิบายอะไรให้เด็กๆฟัง เด็กน้อยไร้เดียงสาทั้วคู่ก็ได้นั่งเล่นวาดรูปกันต่อจนถึงเย็น
อาทิตย์เพิ่งกลับมาบ้านก็ตรงดิ่งไปหาน้องชายทั้งคู่ก็เห็นว่าโจกำลังนั่งอยู่คนเดียวส่วนตอนนี้เดือนอ้ายหายไปแล้ว ร่างสูงเดินไปหาน้องชายตัวเองก่อนจะถามถึงเดือนอ้าย "เดือนอ้ายไปไหนโจ?"
"ป้าน้อยเอาไปทายาอ่า"
"ทายา? ทะเลาะอะไรกัน?"
"เปล่านะ โจไม่ได้ทำอะไรเลย"อาทิตย์ขมวดคิ้วแน่นก่อนจะเดินไปหาเด็กน้อย เมื่อเห็นว่าอีกคนกำลังถูกดึงเสื้อด้านหลังขึ้นก็โมโหขึ้นมาทันที รอยแดงเป็แถบขึ้นที่หลังเดือนอ้ายเต็มไปหมด
"เกิดอะไรขึ้น?"
"คุณอาทิตย์..คือว่าจู่ๆคุณหนูก็บอกว่าช่วยทายาที่หลังให้หน่อย"อาทิตย์กำหมัดตัวเองแน่นข่มอารมณ์โกรธเอาไว้ "ป้าเลยคิดว่ายุงกัดเลยจะทาให้ พอเปิดเสื้อมาก็เป็รอยแบบนี้เลย ป้าใก็เลยรีบพามาทำแผลนี่แหละค่ะ"
ร่างสูงเดินเข้าไปหาเด็กน้อยก่อนจะก้มตัวลงคุยกับอีกคน เด็กน้อยไมากล้าสู้สายตาอีกคน ทำได้เพียงเบี่ยงหน้าไปทางอื่น "ใครทำ"
"..."
"ตัวเล็กบอกพี่มาครับ ไม่ต้องกลัวอะไรเลย"
"พี่อาทิตย์อย่าบอกใครนะ.."
"พี่ไม่บอกใคร"อาทิตย์ส่งสายตาให้ป้าแม่บ้านออกไปก่อนจะเหลือแค่เขาทั้งคู่
"พ่อทำอ้าย.."
"...เขาทำกับเราแบบนี้เลยหรอ"
"อ้ายวิ่งหนีหลุดออกมาก็เลยมาหาพี่อาทิตย์นี่ไง"เด็กน้อยยิ้มออกมาโดยไม่คิดอะไร แต่ว่าอีกคนกลับไม่ได้เป็แบบนั้น อาทิตย์กลับรู้สึกโกรธจนอยากจะพังครอบครัวนั้นให้ย่อยยับ ถ้าถึงเวลานั้นจริงๆ ไม่มีอะไรหยุดเขาได้ ยังไงตระกูลโชตินันท์ก็ต้องพังทลายลง