ดวงดาวมากมายประดับบนฟ้าล้อมดวงจันทร์ดูเลือนราง บริเวณที่ราบระหว่างเชิงเขาเต็มไปด้วยผู้ฝึกวรยุทธ์ซึ่งไม่ได้มีเพียงคนตระกูลหลงเท่านั้น แต่ยังมีผู้าุโจากสำนักหมัดเทวา คู่ชายหญิงจากวิหารดาบ์ และตาเฒ่าหวงที่มาถึงในภายหลัง ใบหน้าของพวกเขาเต็มไปด้วยความวิตกกังวล
หญิงสาวหน้ากลมคนหนึ่งในชุดสีดำเปรอะเปื้อนรอยเืแห้งกรัง สีหน้าเศร้าสลดบ่งบอกว่ามีเื่ร้ายเกิดขึ้น
“คนสวมหน้ากากกับกระบี่สีแดงนั่น! หลี่จวิ้นหลงและจูไป่เหนี่ยวล้วนถูกมันฆ่าตายแล้ว หญ้าหลิงซีก็ถูกมันชิงไปด้วย!”
“คนสวมหน้ากาก?”
ทุกคนในที่นั้นนึกถึงเหตุการณ์เมื่อพลบค่ำ ชายหนุ่มคนหนึ่งพาตัวหลงหว่านเอ๋อร์ผ่านที่ราบเชิงเขานี้ไป ทุกสายตาต่างจับจ้องคนตระกูลหลง
หลงโม่หรานตัวสั่นเทิ้มด้วยความโกรธ วันนี้เขาเพียง้ามาซื้อหญ้าหลิงซีเป็ของขวัญวันเกิดให้ลูกสาว นึกไม่ถึงเลยว่าจะถูกชายสวมหน้ากากชิงของตัดหน้า นี่ไม่เท่ากับว่าเขาเอาตระกร้าไม้ไผ่มาใส่น้ำหรอกเหรอ สุดท้ายก็คว้าน้ำเหลว!
ไม่เพียงเท่านี้ ตอนที่เขาไล่ตามชายสวมหน้ากากและหลงหว่านเอ๋อร์ไปนั้น ไม่นานก็ตามไปถึงหน้าผาสูงชันที่เห็นเพียงเมฆหมอกด้านล่าง เ้าหมอนั่นคงไม่ได้จับหลงหว่านเอ๋อร์ะโลงไปด้วยกันแล้วหรอกนะ? เมื่อหลงโม่หรานนึกถึงลูกสาวซึ่งตกอยู่ในอันตรายก็กระวนกระวายใจยากจะระงับ ทว่ากลับทำอะไรไม่ได้เลย
“ลัวลี่กับลัวเหลยเองก็ยังไม่กลับมาเหมือนกัน หลงโม่หราน เ้าหนุ่มหน้าหล่อตระกูลนายก็ยังไม่กลับมาเหรอ?” ผู้าุโสำนักหมัดเทวากล่าวเสียงขรึม แม้ก่อนหน้านี้เขาจะพูดจาถากถางอีกฝ่าย แต่ตอนนี้ตนไม่มีอารมณ์นั้นอีกต่อไปแล้ว
ไม่เพียงมาที่นี่อย่างสูญเปล่า นอกจากหญ้าหลิงซีจะถูกคน่ชิงไปแล้ว ลูกศิษย์ทั้งสองคนที่พามาด้วยก็หายตัวไปอีกกระทั่งเวลานี้ยังไม่เจอแม้แต่ร่องรอย เป็ไปได้มากว่าพวกเขาโชคไม่ดีเจอนักล่ากลุ่มอื่น เขาพาสองคนนั้นมาด้วยเพราะหวังจะใช้ประโยชน์ทว่กลับต้องสูญเสียพวกเขาไป
แน่นอนว่าเมื่อเทียบกับสถานการณ์ของตระกูลหลงแล้ว สำนักหมัดเทวายังนับว่าดีกว่ามาก ไม่เพียงแต่เ้าเด็กหลงเสียนที่ยังไม่รู้ว่าเป็ตายร้ายดีอย่างไร แม้แต่เด็กสาวมากพร์อย่างหลงหว่านเอ๋อร์ก็พลอยถูกจับตัวไป ยิ่งกว่านั้นดูเหมือนเธอจะได้รับพิษอีก เวลาผ่านไปนานขนาดนี้แล้วยังหาตัวไม่เจอ หลังจากนี้จะเกิดอะไรขึ้นก็คาดเดาได้ไม่ยาก
ผู้ฝึกวรยุทธ์ในขณะนี้แบ่งได้เป็สองแบบมีทั้งคนที่ยินดีในความโชคร้ายของผู้อื่นและคนที่จากไปเงียบๆ
หลงโม่หรานหน้าเขียวจากความโกรธ หากชายสวมหน้ากากปรากฏตรงหน้าอีกครั้ง เขาต้องใช้กระบี่ที่ยอดเยี่ยมที่สุดของตระกูลหลงสังหารอีกฝ่ายแน่นอน เช่นเดียวกับที่เขาตัดหัวผู้นำตระกูลเย่เมื่อเกือบยี่สิบปีก่อน!
“เรียนนายท่าน ยังหาตัวคุณหนูใหญ่ไม่พบครับ!” ไม่นานนักยอดฝีมือคนหนึ่งของตระกูลหลงก็กลับมารายงานด้วยอาการหวาดหวั่น
“ค้นหาต่อไป!” หลงโม่หรานโบกมือสั่งเสียงขุ่น ชุดคลุมสีขาวโบกสะบัดใต้แสงจันทร์ หากวันนี้ยังหาร่องรอยของชายสวมหน้ากากกับลูกสาวของเขาไม่พบ เขาจะไม่ออกจากูเาลูกนี้เด็ดขาด
“รับทราบครับ” อีกฝั่งของความมืด ชายหญิงจากวิหาร์ยืนอยู่พลางสบสายตาแล้วลอบยิ้มอย่างชั่วร้าย
นึกไม่ถึงเลยว่ามาช้าเพียงก้าวเดียว หลงหว่านเอ๋อร์กลับถูกใครบางคนลักพาตัวไป คนตระกูลหลงช่างไร้ความสามารถจริงๆ เพียงแต่สาวสวยคนหนึ่งถูกชายสวมหน้ากากจับตัวไปถือเป็เื่น่าเสียดายอยู่นิดหน่อย...
แน่นอนว่าชายหนุ่มจากวิหารดาบ์ไม่สนใจอยู่แล้วว่าตนจะเป็คนแรกที่ได้ตัวหลงหว่านเอ๋อร์หรือไม่ ตราบใดที่ยังมีเื่สนุกให้ชม การมาครั้งนี้ก็นับว่าคุ้มค่า
ทั้งสองคนไม่ได้พูดอะไรมาก เพียงเหลือบมองตาเฒ่าหวงที่ยืนอยู่ไม่ไกล จากนั้นใช้วิชาตัวเบาะโจากไป ต่อให้หาหลงหว่านเอ๋อร์ไม่พบ ทั้งคู่ก็ตั้งปฏิญาณไว้แน่วแน่ อย่าว่าแต่หญ้าหลิงซีเลย แม้แต่หญ้าจินเย่เมื่อคราวก่อนพวกเขาก็ยัง้ามันคืนมา!
ตาเฒ่าหวงก็เหลือบมองคนทั้งคู่ก่อนแค่นเสียงแ่เบา จากนั้นหมุนตัวจากไปเช่นเดียวกัน. เขาไม่้าตามหาหลงหว่านเอ๋อร์อีกต่อไปแล้ว แต่เปลี่ยนเป็ค้นหาร่องรอยของชายสวมหน้ากากแทน
“ถ้าเดาไม่ผิด ระหว่างทางคนคนนี้คงสังหารทานหลางเจี้ยน ศิษย์พี่น้องสำนักหมัดเทวา หลี่จวิ้นหลงสำนักอิ่นเซียน แล้วยังจับตัวคุณหนูใหญ่ตระกูลหลงไปอีก ช่างใจกล้าไม่น้อย! หากไม่รับเป็ลูกศิษย์คงน่าเสียดายมาก...”
ตรงเชิงเขาค่อยๆ ปรากฏเงาร่างบางท่ามกลางแสงจันทร์ เป็ตู้เจวียนที่ใบหน้าซีดเผือด
หลี่จวิ้นหลงตายไปแล้ว เธอจะกลับไปอธิบายกับสำนักอิ่นเซียนได้อย่างไร? เขาเป็ถึงลูกศิษย์ที่ได้รับการฝึกฝนโดยตรงจากปรมาจารย์ผู้เชี่ยวชาญอาวุธลับอันดับหนึ่งของสำนักอิ่นเซียน! จนถึงตอนนี้ในหัวของเธอยังปรากฏภาพของหลี่จวิ้นหลงไม่หยุด รวมทั้งฉากชายสวมหน้ากากขณะเยาะเย้ยเธอ...
............
บรรยากาศภายนอกกำลังตึงเครียด ทว่าภายในสุสานโบราณกลับเป็ภาพที่น่าหลงใหลอย่างไม่มีอะไรเทียบได้
ขณะหลงหว่านเอ๋อร์เตะเย่เฟิงและชิงแผนที่ในมือของเขาไป พิษในตัวก็ปะทุขึ้นมาจนเธอไม่สามารถยับยั้งมันได้อีก หญิงสาวมุ่งมั่นไปยังทะเลสาบที่เห็นเด่นชัดที่สุดในแผนที่ แต่ในที่สุดก็ไม่อาจฝืน เวลาผ่านไปสติของเธอพร่าเลือนมากขึ้นเรื่อยๆ ร่างกายร้อนผ่าวด้วยไฟปรารถนา เมื่อเห็นเย่เฟิงปรากฏตัว ไหนเลยจะทนต่อไปได้อีก? ใน่เวลาสั้นๆ เธอก็โถมตัวหาผู้มาใหม่ทันที
“เฮ้ย!” ชั่วขณะนั้นเย่เฟิงถึงกับตกตะลึงจึงไม่อาจต้านแรงไว้ได้
หลงหว่านเอ๋อร์มีพลังระดับสิบปี แม้ในเวลาอันสั้นเย่เฟิงจะดูดซับพลังจากหญ้าหลิงซีจนระดับการบ่มเพาะเพิ่มขึ้นถึงสี่ปี เมื่อรวมกับพลังที่มีอยู่เดิมก็ถือว่ามีพลังลมปราณระดับแปดปีเท่านั้น เปรียบเทียบความแข็งแกร่งแล้วยังถือว่าต่างชั้นกัน!
ภายใต้แสงสลัวสีขาวจากไข่มุกราตรี ผ้าไหมผืนนุ่มค่อยๆ เลื่อนหลุดจากเรือนร่างของเธอ เผยผิวขาวราวหิมะ เนียนละเอียดราวกระเบื้องเคลือบ เปล่งประกายนุ่มนวลน่าหลงใหล ดั่งชิ้นงานศิลปะอันสวยงามที่สุดของโลก
แม้เย่เฟิงเคยััประสบการณ์น่าทึ่งกับเธอมาก่อนด้วยความบังเอิญ ทว่ามันจะเทียบกับความประหม่าและความตื่นเต้นในตอนนี้ได้อย่างไร? ร่างกายของเธอเปล่งประกายราวแสงจันทร์ ชายหนุ่มรับรู้ได้ทันทีว่าหัวใจสูบฉีดจนเืในกายเดือดพล่าน แม้เขาอยากต่อต้าน แต่คน้ากลับไม่ยินยอม!
“อย่าขยับ... ฉัน... จะ...” หลงหว่านเอ๋อร์ใช้มือเนียนราวหยกกดหน้าอกคนใต้ร่าง ดวงตาคู่สวยพร่าเลือน ใบหน้าก้มต่ำพร้อมฉีกทึ้งเสื้อผ้าของเขาแล้วโยนทิ้งไปด้านข้าง
เมื่อสถานการณ์เป็อย่างนี้ หากเย่เฟิงอยากต่อต้านเธอจริงๆ คงต้องสังหารเธอเท่านั้น น่าเสียดายที่เขาไม่สามารถทำเช่นนั้นได้ เหมือนดังคำกล่าวที่ว่าหากดอกไม้เบ่งบานก็จงเด็ดมันเสีย หากเป็ชายแท้ทั้งแท่งแล้วยังจะมัวชักช้าอยู่ทำไม? ชายหนุ่มจึงยอมแพ้แล้วเหยียดแขนทั้งสองข้าง...
ปลาในทะเลสาบแหวกว่ายร่าเริง ผืนน้ำเกิดภาพสะท้อนคนทั้งคู่เป็ครั้งคราวราวกับภาพวาดในเทพนิยาย ผมยาวสลวยโชยกลิ่นหอมอ่อนจางไหลลงมาคลุมทั่วใบหน้าเย่เฟิง
“ฉิบ!” ในเวลานั้นเองชายหนุ่มก็เผลอสบถออกมา
แม้เสียงนี้จะทำลายบรรยากาศไปสักหน่อย ทว่าเขาก็อดสบถไม่ได้เพราะไม่สามารถควบคุมมันได้อีกแล้ว เขาเองก็ใที่ตนส่งเสียงแบบนี้ออกมา
่เวลาที่คนทั้งสองััใกล้ชิดเชื่อมกายเข้าด้วยกัน เย่เฟิงก็ค้นพบว่าร่างกายของคุณหนูใหญ่ตระกูลหลงคนนี้เป็ร่างที่หาได้ยากในโลกเทวะ ‘ร่างชีพจรเซียน!’
เหมือนกับเขาเก็บขุมทรัพย์ได้! ทั้งยังได้มาโดยสมัครใจเองด้วย! เคยเห็นของดีที่หล่นมาจากฟ้าโดยไม่ต้องร้องขอไหมล่ะ? ก็นี่ไง!
ร่างชีพจรเซียนเป็สิ่งหายากมากในโลกเทวะ นึกไม่ถึงเลยว่าเขาจะได้พบมันบนโลกนี้
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้