ท้องฟ้ายามเที่ยงวันสว่างเจิดจ้าเป็พิเศษ ดังนั้นเซวียเสี่ยวหรั่นจึงมองเห็นชัดเจนมาก
ในพงหญ้ามีไข่ของห่านป่าอยู่รังหนึ่งจริงๆ
เพียงแต่... กลับมีงูเหลือมตัวใหญ่เท่าแขนขดอยู่ด้านข้างไข่เ่าั้
ไม่ผิดเป็งูเหลือมั์ตัวหนึ่ง ส่วนหัวเล็ก ลำตัวยาวเป็สีน้ำตาล มีลายสีดำคล้ายเสือดาวพาดอยู่ที่ส่วนหลัง
โอ้ยแม่จ๋า หนูเจองูมาสองวันติดกันแล้ว ไอ้ป่าสับปะรังเคนี่ ทำไมถึงมีงูเยอะขนาดนี้ เซวียเสี่ยวหรั่นเริ่มเสียวสันหลังมองซ้ายมองขวาอย่างหวาดระแวง
แต่น่าเสียดายไข่ห่านป่ารังนั้น เห็นขาวโพลนไปทั้งรัง น่าจะมีอยู่หลายฟอง เสร็จเ้างูเหลือมั์ตัวนั้นหมด
เซวียเสี่ยวหรั่นถอยไปด้านหลังช้าๆ ใบหน้าเผยแววขุ่นเคือง เม้มริมฝีปากจดจ้องพงหญ้าตรงนั้นไม่วางตา
งูเหลือมไม่มีพิษ
แต่ไม่ว่าจะมีพิษหรือไม่ มันก็เป็งู
เซวียเสี่ยวหรั่นเริ่มลังเล
ไข่ห่านป่าเยอะขนาดนั้นเลยนะ
แต่มีงู
ไม่มีพิษ จะกลัวอะไร
ไล่มันไป!
เอาตามนี้!
ในที่สุดความเย้ายวนของไข่ห่านป่าก็เอาชนะความกลัวที่มีต่องูสำเร็จ
เซวียเสี่ยวหรั่นหยิบกิ่งไม้ยาวขึ้นมา วาดเท้าไปด้านหลังในท่าเตรียม พลางมองหาทางหนีทีไล่ที่เหมาะสม หากงูเหลือมตัวนั้นไม่กลัวกิ่งไม้ เธอจะได้ทาน้ำมันใต้ฝ่าเท้า เผ่นหนีให้เร็วที่สุด
หลังจากตั้งหลักดีแล้ว เซวียเสี่ยวหรั่นก็กัดฟัน แล้วเริ่มใช้ไม้ตีพงหญ้าทั้งสองด้าน
ไม่ช้า งูเหลือมตัวนั้นก็เลื้อยออกมาจากพงหญ้าไปยังฝั่งตรงข้ามกับเธอ
เซวียเสี่ยวหรั่นนึกยินดีอยู่ในใจ จากนั้นก็ขว้างท่อนไม้ในมือไล่หลังมันไป
"ตุ้บ" งูเหลือมตัวนั้นตื่นตระหนกอย่างเห็นได้ชัด มันเลื้อยไปด้านหน้าอย่างรวดเร็ว
"ฮ่าๆๆ"
เซวียเสี่ยวหรั่นยกมือเท้าสะเอวหัวเราะอย่างลำพองใจ
"ห่าว เฮ โย่ว รู้สึกได้ว่าชีวิตมาถึงจุดสูงสุดแล้ว [1] "
คนที่กลัวงูคนหนึ่งสามารถไล่งูเหลือมให้หนีไปได้ เซวียเสี่ยวหรั่นรู้สึกเหมือนได้มายืนอยู่ในจุดสูงสุดของชีวิตแล้วจริงๆ
ฮัมบทเพลงล้างสมอง พลางเข้าไปเก็บไข่ห่านป่าใส่เป้อย่างมีความสุข
หลังจากนั้นใช้ไม้ตีรอบพงหญ้าอย่างดุเดือดต่อไป จนแน่ใจว่าไม่มีงูเงี้ยวเขี้ยวขอที่ไหนแล้ว ค่อยสำรวจอย่างละเอียดอีกรอบ
ในที่สุดก็พบไข่ห่านป่าอีกรังหนึ่งอยู่อีกมุมซึ่งที่ไม่ไกลนัก
นอกจากนี้ยังเก็บเห็ดปลวกน้ำซึ่งขึ้นอยู่บนจอมปลวกไม่ไกลจากพงหญ้ามาได้อีกมากมาย
เซวียเสี่ยวหรั่นเบิกบานใจมากจนเกือบหาทางกลับถ้ำไม่ถูกเลยทีเดียว
"เหลียนเซวียน ข้ากลับมาแล้ว"
เซวียเสี่ยวหรั่นสะพายเป้ไว้ที่ด้านหน้า อุ้มมาอย่างระมัดระวัง ในนั้นมีไข่ห่านป่าสิบกว่าฟอง เธอไม่อยากทำแตก
ไม่มีเสียงตอบกลับ แต่เธอชินแล้ว
เธอวิ่งเข้ามาในถ้ำอย่างระมัดระวัง แล้วหยิบของในกระเป๋าออกมา
มุมด้านหนึ่งของถ้ำเป็สถานที่เก็บรางวัลาของเธอใน่ครึ่งวันนี้
กล้วยน้ำว้า ไข่ห่านป่า เห็ดป่า กระเทียมป่า แล้วก็ยังมีชิงฮวาเจียว [2] อีกหนึ่งกำมือ เนื้อย่างวันนี้สามารถเติมเครื่องปรุงรสได้แล้ว เซวียเสี่ยวหรั่นยิ้มอย่างพึงพอใจ
"เหลียนเซวียน?"
ในถ้ำไม่มีคน เซวียเสี่ยวหรั่นเดินออกมา
มองซ้ายมองขวา แถวนี้ไม่มีใครเลย เธอรู้สึกตื่นกลัวเล็กน้อย
"เหลียนเซวียน?"
เธอเดินไปหาแถวพงไม้ด้านหน้าก่อน
"เหลียนเซวียน ท่านอยู่ไหน"
เซวียเสี่ยวหรั่นหัวใจเต้นรัว เริ่มะโเรียกชื่อเขาไม่หยุด
เขาหายไปทั้งที่ยังาเ็ แต่จะแล่นไปไหนได้ล่ะ?
เซวียเสี่ยวหรั่นเริ่มกระวนกระวายใจ เธอไม่ควรทิ้งคนที่ทั้งตาบอดและเป็ใบ้ไว้คนเดียวในสถานที่รกร้างไร้ผู้คน แล้วออกไปนานขนาดนี้
"เหลียนเซวียน?"
เสียง "ตึง" แว่วมาเบาๆ ทำให้เซวี่ยเสี่ยวหรั่นที่เกือบจะร้องไห้อยู่รอมร่อด้วยความร้อนใจตกตะลึงไปชั่วขณะ
"เหลียนเซวียน เป็ท่านหรือ?"
เสียง "ตึง" ดังขึ้นอีกครั้ง เซวียเสี่ยวหรั่นเผยสีหน้ายินดี รีบวิ่งไปค้นหาตามทิศทางของเสียงที่ได้ยินทันที
ที่นั่นมีเนินดินเตี้ยๆ แห่งหนึ่ง ต้นไม้ไม่เยอะมาก แต่พงหญ้ากลับมีเหลือเฟือ
เซวียเสี่ยวหรั่นพบเหลียนเซวียนที่ด้านหลังพงหญ้าสูงเท่าครึ่งตัวตน
เขานั่งอยู่ที่พื้น พิงกองหญ้าอย่างสิ้นเรี่ยวแรง ถือไม้ยาวท่อนหนึ่งในมือ เสียงที่ได้ยินเมื่อครู่นี้เกิดจากที่เขาใช้ไม้ท่อนนั้นเคาะพื้นดิน
"ท่านมาถึงตรงนี้ได้อย่างไร ข้ากังวลใจแทบตาย"
เซวียเสี่ยวหรั่นแหวกพงหญ้า เข้ามานั่งข้างกายเขาด้วยความดีใจ ใบหน้าอัปลักษณ์จนแทบมองตรงๆ ไม่ได้ แต่เธอกลับรู้สึกสนิทใจมากที่ได้เห็นยามนี้
เหลียนเซวียนหันศีรษะมามองอย่างช้าๆ แม้จะเห็นเพียงแค่เงารางๆ แต่น้ำเสียงวิตกกังวลจากใจจริงของนางเขาััรับรู้ได้
ไม่ว่าจะด้วยสาเหตุใด แต่ยามนี้นางเป็ห่วงเขาด้วยใจจริง
"ท่านหลงทาง หรือว่าเดินไม่ไหว" เซวียเสี่ยวหรั่นประคองไหล่ของชายหนุ่ม คิดจะพยุงเขาขึ้นมา
เหลียนเซวียนกลับสั่นศีรษะเล็กน้อย แล้วชี้นิ้วไปอีกด้านหนึ่ง
เซวียเสี่ยวหรั่นมองตามไป ตรงนั้นมีแต่หญ้ารกสูงๆ ต่ำๆ ไม่เห็นจะมีอะไรพิเศษ
แต่เมื่อเขาชี้ไป ย่อมไม่ใช่การกระทำที่ไร้จุดหมายแน่ๆ
เซวียเสี่ยวหรั่นลุกขึ้นมาอย่างรวดเร็ว
"ขอข้ายืมท่อนไม้หน่อยนะ"
เธอหยิบไม้มาจากมือของเขา แล้วเริ่มตีหญ้าให้งูตื่น
การกระทำเช่นนี้กลายเป็ความเคยชินติดตัวเธอไปแล้ว
ผ่านไปครู่หนึ่งจนแน่ใจว่าไม่มีงู เธอค่อยแหวกพงหญ้าเข้าไปดูอย่างละเอียดถี่ถ้วน
"ไม่เห็นมีอะไรเลย"
เดินไปตามทิศทางที่เหลียนเซวียนชี้บอกได้สิบกว่าเมตร ก็ไม่พบอะไรเลย
เซวียเสี่ยวหรั่นหันมามองเหลียนเซวียนปราดหนึ่ง เขายังคงนั่งหน้านิ่งไร้อารมณ์ความรู้สึก
เอาเถอะ เธอแหวกหญ้าเข้าไปอีกหน่อยก็ได้
"เอ๋? โอ้... ์"
ในพงหญ้าที่แห้งเฉาไปครึ่งหนึ่ง มีไก่ป่าสีสันสดใสนอนนิ่งไม่ขยับอยู่ตัวหนึ่ง ที่หัวของมันมีมีดสีเงินเล่มเล็กของเธอปักอยู่
"ว้าวๆๆๆๆ"
เซวียเสี่ยวหรั่นรู้สึกเหลือเชื่อ ร้องว้าวไม่หยุด แล้วหิ้วคอไก่ป่าเดินกลับมาหาเหลียนเซวียน มองเขาด้วยแววตาเป็ประกาย
"เหลียนเซวียน ท่านนี่เก่งกาจสุดยอดไปเลย อะไรจะแม่นยำขนาดนี้ เล็งถูกศีรษะของพวกมันทุกครั้งเลย"
เหลียนเซวียนฟังเสียงนางไม่ขยับเขยื้อน แม้แต่หัวคิ้วยังคร้านจะเลิกขึ้น
ปามีดออกไปแค่นี้ ก็ทำเขาเป็อัมพาตไปเสียครึ่งวัน เก่งกาจกับผีน่ะสิ
เซวียเสี่ยวหรั่นก็คิดได้ในทำนองเดียวกัน
"อา... ข้านึกออกแล้ว เมื่อวานหลังจากที่ท่านปามีดปักหัวงูก็หมดเรี่ยวแรงอยู่นาน"
ดังนั้นการที่เขาจะรวบรวมกำลังได้ขนาดนี้ก็ช่างยากเย็นนัก
เซวียเสี่ยวหรั่นเข้าใจแล้ว
"แต่ท่านก็ยังเก่งกาจอยู่ดี คนที่มีความสามารถปามีดครั้งเดียวเสียบเข้าศีรษะของไก่ป่าพอดี ย่อมไม่ใช่คนธรรมดาอยู่แล้ว"
ยิ่งไปกว่านั้นยังอยู่ภายใต้สถานการณ์ที่ตาของเขายังมองไม่เห็นอีก
ตอนที่เหลียนเซวียนไม่ได้ถูกพิษหรือได้รับาเ็ คงจะเป็ผู้เยี่ยมยุทธ์แห่งยุทธภพเป็แน่
เซวียเสี่ยวหรั่นมองเขาด้วยสายตายกย่องเลื่อมใส ผู้เยี่ยมยุทธ์แห่งยุทธภพ เธอนึกว่าเป็บุคคลที่มีแต่ในนิยาย ตอนนี้กลับอยู่ต่อหน้าเธอแล้ว
"ข้าจะประคองท่านกลับไปก่อน"
เซวียเสี่ยวหรั่นวางไก่ป่าไว้ด้านข้าง หลังจากนั้นก็ออกแรงพยุงเหลียนเซวียนขึ้นมา
ระยะทางสั้นๆ แต่ทั้งสองก็ใช้เวลาไปถึงสิบกว่านาที กลับมาถึงถ้ำด้วยความเร็วดุจเต่าคลาน
หลังจากประคองเขานั่งบนแท่นหินเรียบร้อย เธอก็วิ่งไปตรงเนินดินเมื่อครู่นี้ ตอนไปเก็บไก่ป่าตัวนั้นกลับมายังตัดหญ้ากลับมาด้วยไม่น้อย อีกประเดี๋ยวหญ้าพวกนี้ก็จะได้ใช้ประโยชน์
...
[1] เป็ท่อนหนึ่งของบทเพลงชื่อว่า ห่าว เฮ โย่ว (好嗨哟) ที่ได้รับความนิยมอย่างมากในแพลตฟอร์มโต้วอินของชาวจีน
[2] หรือพริกเสฉวน มีลักษณะเป็เม็ดคล้ายพริกไทย ให้รสชาติเผ็ดชาลิ้น คนไทยมักเรียกว่า หมาล่า ซึ่งแท้จริงแล้วเป็ชื่อของรสชาติ