“ฉินเฟิง พ่อจะกินตับครูสุดเซ็กซี่คนนี้ต่อหน้าแกแล้วก็จะให้แกได้ดูการล่มสลายของตระกูลฉินอันเกรียงไกรพ่อจะให้แกได้เห็นพ่อตัวเองโดนส่งเข้าคุก เปลี่ยนแกจากนายน้อยเ้าสำราญผู้ล่ำซำให้กลายเป็ขอทานที่สิ้นเนื้อประดาตัว”
“ฮ่าๆ ความรู้สึกที่ตกลงจากสรวง์สู่ขุมนรกคงจะรู้สึกดีไม่น้อยแกต้องได้ลิ้มรสมันแน่!”
ก่อนที่ฉินหวงจะหยิบโทรศัพท์หม่าเต๋อหู่ก็มีความมั่นใจมาก ราวกับว่าเขาได้ความสำเร็จมาไว้ในมือแล้วเขามองไปที่หยุนเซียวอย่างหื่นกาม แสยะยิ้มและเดินเข้าหาเธอ
เมื่อเห็นสีหน้าชั่วร้ายและน่าเกลียดของหม่าเต๋อหู่หยุนเซียวกลัวมากจนขดตัวเป็ลูกบอล และกรีดร้องออกมาอย่างหมดท่า “ไอ้เดรัจฉานต่ำช้า ออกไปห่างๆ ฉันนะ!”
รอยยิ้มเย็นะเืปรากฏบนใบหน้าของฉินเฟิงเขาทำอย่างดีที่สุดเพื่ออดทน และดูดซับผลของยาเสริมพลังขั้นสอง อย่างไรก็ตามเมื่อเขาดูดซับได้ครึ่งหนึ่ง ร่างกายของเขาก็หยุดดูดซับ
ฉินเฟิงรอไม่ไหวอีกต่อไปหลังจากได้เห็นใบหน้าชั่วร้ายของหม่าเต๋อหู่ั์ตาของเขาแดงก่ำด้วยความหื่น มองหยุนเซียวและกำลังจะถอดเสื้อผ้าของเธอฉินเฟิงะโเสียงต่ำและกระโจนขึ้น
ฮ่า!
เสียงะโดังขึ้นกะทันหันมันเขย่าขวัญเหมือนกับราชสีห์เกรี้ยวกราดที่เพิ่งตื่นหม่าเต๋อหู่ใกลัวมากจนล้มลงกับพื้น
ปัง!
ฉินเฟิงออกแรงทำลายเชือกที่มัดตัวเขาไว้เป็ตัวประกันขาดเป็ชิ้นๆ
“ไอ้เศษสวะ ก่อนที่แกจะมาเล่นกับนายน้อยผู้นี้เดี๋ยวปู่จะให้ของขวัญชิ้นบิ๊กเบิ้ม อย่าให้มือสั่นจนรับไม่ไหวแล้วกัน!”
ฉินเฟิงยิ้มและพุ่งตรงไปหาหม่าเต๋อหู่ของขวัญชิ้นบิ๊กเบิ้มของเขาทำให้หม่าเต๋อหู่สั่นกลัวเขาไม่กล้ารับของขวัญชิ้นนี้แน่
กระบี่ยาว1เมตร ที่ไม่รู้ว่าฉินเฟิงเอามาจากไหน!
ผู้คุ้มกันทั้งสี่คนเป็ทหารผ่านศึกที่เกษียณแล้วและผ่านสมรภูมิรบมาอย่างโชกโชน พวกเขาไหวตัวทันและพุ่งไปหาฉินเฟิงทันทีฉินเฟิงไม่มีทางเลือกนอกจากเปลี่ยนวิถีดาบและเหวี่ยงไปหาสองคนด้านหน้า
ฉัวะ!
เสียงกระบี่ผ่าเนื้อดังออกมาทำให้อากาศรอบตัวสั่นะเืกลิ่นอายคมกริบพุ่งกระจายไปทั่วทั้งห้อง
กระบี่เจินกังในมือเรืองแสงสีเหลืองจางๆและสามารถตัดเหล็กได้ราวกับตัดเนย ในขณะที่ฉินเฟิงฟันออกไปเขาผ่าเอวทั้งสองคนขาดครึ่งในทันที
เืพุ่งออกมาอย่างรุนแรงโดยไม่หยุด
นี่คืออำนาจของกระบี่เจินกังกระบี่ที่จัดว่าเก่าแก่ที่สุดในบรรดากระบี่ทั้งแปดของจักรพรรดิเยว่
เมื่อกระบี่ปรากฏใครจะกล้าหือ!
ขนาดฉินเฟิงเองยังตะลึงอยู่ในใจนี่เป็ครั้งแรกที่เขาใช้กระบี่เจินกังต่อสู้ เขาไม่เคยคิดว่ากระบี่เก่าแก่แบบนี้จะยังคมได้ขนาดนี้
เหตุการณ์นี้กะทันหันเกินไปดูน่าใอย่างเหลือเชื่อทั้งสองคนที่ยังเหลืออยู่หยุดชะงักและจ้องฉินเฟิงที่กำลังถือดาบด้วยความใเหมือนกับเห็นผี
...
เพียงชั่วครู่ทั้งสองคนก็กลับมามีสติแต่ความแปลกใจยังอยู่ในดวงตา แม้ว่าจะอยู่ใกล้มาก แต่ก็ไม่มีใครเห็นเลยว่าฉินเฟิงหยิบกระบี่มาจากไหน
“ฉินเฟิง แก...แกมันบ้าไปแล้ว!” เมื่อเห็นฉากนองเืหม่าเต๋อหู่ก็ตะลึงงัน เขาโชคดีอย่างอัศจรรย์ที่ไม่ได้พยายามทำอะไรบ้าๆอย่างรับกระบี่ด้วยมือเปล่าเหมือนในทีวี
ไม่อย่างนั้นเขาอาจจะโดนผ่าครึ่งแทน!
เมื่อคิดเช่นนั้นหม่าเต๋อหู่ก็สั่นผวาอย่างควบคุมไม่ได้
สองคนที่ยังเหลืออยู่มองไปที่ฉินเฟิงอย่างระมัดระวังเมื่อบรรยากาศกลับมาเป็ปกติ ไม่มีใครกล้าเริ่มโจมตีฉินเฟิงอีก
วูบ!
ฉินเฟิงตวัดกระบี่ไปรอบๆสร้างเสียงหวืดๆ ในเมื่อเขาเริ่มลงมือสังหาร เขาก็จะสังหารจนกว่าจะพอใจ
เขาแตะเท้าเบาๆบนพื้นและพุ่งไปหาสองคนนั่น เขามาถึงข้างหน้าของคนทั้งสองอย่างรวดเร็วและฟันออกไปทันใดนั้น เืก็กระจายไปทุกที่บนพื้น กระบี่เจินกังแยกพวกมันออกเป็สองซีก
ตอนนี้ทั้งห้องเต็มไปด้วยกลิ่นคาวเื
เพียงแค่ไม่กี่ลมหายใจสถานการณ์ก็พลิกกลับ หม่าเต๋อหู่ใมากจนยืนไม่อยู่อีกต่อไป เขาพยายามจะหนีเขาไม่เคยคิดว่าหลังจากวางแผนแล้ว ฉินเฟิงจะทำลายแผนของเขาทั้งอย่างนั้น
แต่เมื่อเขายืนขึ้นหม่าเต๋อหู่ก็ล้มลงบนพื้น ขาของเขาหมดแรงและไม่เชื่อฟังคำสั่งเขาทำได้แค่มองฉินเฟิงที่ถือกระบี่ยาวเป็เมตร เดินตรงมาหาราวกับปีศาจ ทีละก้าวทีละก้าว
“ติ๊ง...ระบบราชันเ้าสำราญมีภารกิจ :สืบหาคนที่อยู่เื้ัของหม่าเต๋อหู่และพ่อของเขา!”
“ระยะเวลาภารกิจ : 1 เดือน”
“เมื่อภารกิจลุล่วงจะได้รับแต้มสำราญ 500 แต้มเป็รางวัลหากล้มเหลวโฮสต์จะต้องประสบกับภัยพิบัตินองเื”
...
“แก...แก้าอะไร?” เมื่อเห็นกระบี่ที่เชือดคนไปสี่คนวางลงบนไหล่หม่าเต๋อหู่ก็รู้สึกถึงความอบอุ่นในกางเกง และพบว่าตัวเองปัสสาวะราดเสียแล้ว
“บอกฉันมา ใครให้แกมาจัดการกับตระกูลฉินของฉัน?” ฉินเฟิงจ้องไปยังหม่าเต๋อหู่อย่างเ็าและยินดีอยู่ในใจภารกิจนี้มาได้ถูกจังหวะจริงๆ ฮ่าๆ! ฉินเฟิงตื่นเต้นเื่แต้มสำราญ 500 แต้ม
ฉัวะ!
ฉินเฟิงไม่ลังเลเลยสักนิดเขาฟันดาบลงและแขนข้างหนึ่งของหม่าเต๋อหู่ก็ปลิวลอยไป
ความเจ็บที่เสียแขนทำให้หม่าเต๋อหู่กรีดร้องอย่างโหยหวน“อ้ากกก...เจ็บ ฉันจะตายแล้ว...ฉินเฟิง แกมันบ้าไปแล้ว แกมันปีศาจ”
สีหน้าของฉินเฟิงยังคงสงบเยือกเย็นเขาเป็ดั่งเทพเ้าแห่งความตายที่ยืนอยู่ตรงหน้าของหม่าเต๋อหู่ เขาไม่แน่ใจว่าทำไมแต่เมื่อเขาถือกระบี่เจินกัง เขารู้สึกเหมือนกับว่ากลิ่นอายทั้งหมดของเขาเปลี่ยนไปหม่าเต๋อหู่เป็คนธรรมดาที่สู้ไม่เป็ ก็เปรียบเสมือนยุงสำหรับเขา
ฉินเฟิงพลิกกระบี่พร้อมกล่าวด้วยเสียงต่ำ“ฉันจะให้โอกาสครั้งสุดท้าย ใครให้ความกล้าแกมาต่อกรตระกูลฉินของฉัน?”
“ฉัน ฉัน...”
ก่อนที่หม่าเต๋อหู่จะพูดจบฉินเฟิงก็แทงเขา ฉินเฟิงบอกได้ว่าหม่าเต๋อหู่ยัง้าจะโกหกอยู่เพราะว่าสายตาของเขาล่อกแล่กไปมา
ฉินเฟิงใส่แรงไปที่กระบี่เจินกังอีกหน่อยทำให้คมดาบจมลงในเนื้อและกระดูกของหม่าเต๋อหู่เล็กน้อยความเ็ปทำให้ใบหน้าของเขาซีดเผือด
“ก่อนที่แกจะพูดอีกครั้ง คิดถึงความรู้สึกตรงแขนขวาของแกมันไม่คุ้มหรอกที่แกจะพิการเพื่อปกป้องใครบางคน! เก็บแขนตัวเองไว้จะดีกว่าอย่างน้อยในอนาคตก็ยังเอาไว้ช่วยตัวเองสำเร็จความใคร่ได้อยู่”
คำของฉินเฟิงเสียดแทงใจของหม่าเต๋อหู่มันไม่คุ้มเลยที่จะยอมแพ้ในชีวิตเพื่อช่วยคนบางคนจัดการกับฉินเฟิง
บวกกับสิ่งที่ฉินเฟิงกล่าวเื่ช่วยตัวเองมันก็ค่อนข้างจริงเพราะเขาจะใช้เท้าทำก็ไม่ได้ หากกลิ่นเท้าเหม็นกระจายตรงของลับนั่นก็อาจจะเป็ปัญหา
“ไว้ชีวิตฉันด้วย...นายน้อยฉิน ปล่อยข้าน้อยไปเถิด ฉันจะบอกนายฉันจะบอกทุกอย่างเลย”
หม่าเต๋อหู่ทนไม่ไหวอีกต่อไปเขาเป็เหมือนกับลูกบอลแฟบในขณะที่สั่นเทาและพูดว่า “ทั้งหมดนี่เป็เพราะ...”