ก่อนที่หม่าเต๋อหู่จะพูดจบประโยคฉินเฟิงก็รู้สึกถึงออร่าที่เยือกเย็นอยู่ด้านหลังทันที ทำให้ยากที่จะหายใจเขารีบหันไปและเห็นเงาดำหายไปราวกับผี
เขามองกลับมาที่หม่าเต๋อหู่และพบว่ามีมีดบินฝังอยู่ระหว่างคิ้วของเขามีดบินฝังลึกลงไปในหัว ดวงตาเบิกกว้างดูไม่เต็มใจและสับสน หม่าเต๋อหู่ตายแล้ว
ฆ่าปิดปากคนที่อยู่เื้ันี่โหดจริงๆ!
เนื่องจากหม่าเต๋อหู่ตายแล้วฉินเฟิงก็ไม่มีแผนที่จะอยู่ที่นี่ต่อ เหตุผลหลักเพราะเงาดำนั้นแข็งแกร่งมาก ทำให้ฉินเฟิงรู้สึกเหมือนกำลังเผชิญอยู่กับความตายเขารีบคว้าตัวหยุนเซียวและออกไปทันที
พวกเขาออกจากโรงงานร้างฉินเฟิงขับลัมโบร์กินี ส่วนหยุนเซียวนั่งเงียบ ทั้งคู่ไม่มีใครพูดอะไร
สายตาหยุนเซียวไม่ได้อยู่กับร่องกับรอยร่างกายที่เย้ายวนของเธอสั่นอย่างช่วยไม่ได้ เป็หลักฐานว่าเธอใสุดขีดกับฉากที่ฉินเฟิงฆ่าคนด้วยกระบี่
อย่างไรก็ตามฉินเฟิงไม่รู้ว่าจะปลอบหยุนเซียวอย่างไรดีการปรากฏตัวของคนในชุดดำนั่นทำให้เขาสับสน เขารู้สึกโชคดีที่ยังมีชีวิตอยู่
ตอนนี้ฉินเฟิงสงสัยว่าชายชุดดำนั้นอยู่พวกไหนและทำไมมันถึงไม่จู่โจมเขา...
หลังจากที่ส่งหยุนเซียวที่บ้านฉินเฟิงรีบขับรถไปโรงแรมหวงเจีย เขาโทรหาลุงฝูระหว่างทาง และเมื่อเขาออกจากรถปุ๊บเขาก็เห็นลุงฝูกำลังรออยู่ตรงทางเข้า
“นายน้อยครับ เป็อะไรหรือเปล่า?” ลุงฝูถามด้วยความกังวลเมื่อเห็นฉินเฟิง
จริงๆแล้วลุงฝูไม่จำเป็ต้องถาม เพราะเขาคอยปกป้องฉินเฟิงภายในเงามืดตลอดเวลา
“ผมสบายดี ลุงฝู ลุงได้ตรวจสอบหม่าต้าหลงให้ผมหรือเปล่า?”
10 นาทีก่อน ลุงฝูได้เก็บรวบรวมข้อมูลทั้งหมดของหม่าต้าหลงั้แ่ประวัติที่เขาอยู่อนุบาลจนถึงการกระทำที่เขาทำไว้ในวันก่อนๆ ไม่พลาดแม้แต่ชิ้นเดียว
นี่คือพลังที่น่ากลัวของตระกูลฉินแห่งเมืองเว่ยเฉิง!
“นายน้อยครับ ไว้พูดบนรถกันดีกว่า ท่านฉินรู้เื่ที่เกิดขึ้นแล้วและเป็ห่วงนายน้อยมาก ท่านบอกให้นายน้อยไปหา” ลุงฝูตอบ
ทั้งสองมาที่เมอร์เซเดสเบนซ์ลุงฝูขับ ส่วนฉินเฟิงนั่งข้างหลัง
“หม่าต้าหลง เพศชาย อายุ 47 ปีหัวหน้าแก๊งับินตะวันออกเฉียงใต้แห่งเมืองเว่ยเฉิงเมื่อไม่นานมานี้เขายุ่งอยู่กับการพัฒนาบริษัทเป่าหลงดังนั้นการใช้ชีวิตส่วนตัวจึงไม่มีอะไรผิดปกติครับ” ลุงฝูพูดในขณะขับรถ
“หรือว่าแม้แต่พ่อของหม่าเต๋อหู่เองก็ไม่รู้ว่ามันลงมือกับตระกูลฉิน?”ฉินเฟิงสงสัย
“ผมก็ได้ตรวจสอบหม่าเต๋อหู่แล้ว แต่ไม่พบอะไรที่เป็พิรุธเลยคนที่อยู่เื้ัซ่อนตัวได้แเีมาก และพวกมันก็ค่อนข้างมีอิทธิพลเหมือนกันดูเหมือนว่าตระกูลฉินกำลังจะเข้าสู่วิกฤติแล้วล่ะครับ ในอนาคตจะไปไหนมาไหนโปรดระวังด้วยนะครับ นายน้อย!” เขาขมวดคิ้วอย่างช่วยไม่ได้เมื่อคิดถึงมีดบินของคนใส่หน้ากาก
ผู้อยู่เื้ัที่มียอดฝีมือขนาดนั้นเป็ลูกน้องจะไม่มีอิทธิพลได้อย่างไร?
หลังจากรีบขับรถมาสักระยะหนึ่งเมอร์เซเดสเบนซ์ก็มาถึงกำแพงขนาดใหญ่ที่อยู่เหนือสุดของเมืองเว่ยเฉิงมีคำสองคำเขียนบนกำแพงว่า
ตำหนักฉิน!
พื้นทีู่เาขนาดใหญ่อยู่ข้างหลังกำแพงกินพื้นที่ส่วนใหญ่ของตะวันตกเฉียงเหนือของเมืองเว่ยเฉิงฐานของตระกูลฉินตั้งอยู่ที่นี่
มันตั้งอยู่บนูเาลูกใหญ่มีป่าโอบคลุมทั้งสองด้านสุดสายตา ระบบรักษาความปลอดภัยก็ชั้นหนึ่ง
บนกำแพงสูงมีผู้ชายร่างกำยำใส่สูทยืนคุมอยู่หลังจากยืนยันรถด้วยกล้องส่องทางไกล พวกเขาก็รีบเปิดประตูและให้พวกเขาขับรถเข้ามา
ในขณะที่พวกเขาขับเข้ามาได้ผ่านป่าเล็กป่าน้อยก่อนจะมาถึงคฤหาสน์หรูหราซึ่งเป็พื้นที่ส่วนในของตำหนักฉิน
“เฟิงเอ๋อ ลุงฝู มาถึงกันแล้ว!” ในขณะที่ฉินเฟิงและลุงฝูออกจากรถผู้ชายใส่ชุดถัง1สีขาวก็เดินออกมา
ชายรูปร่างสูงบึกบึนใบหน้าน่าเกรงขาม เขาคือผู้ชายที่รวยที่สุดในเมืองเว่ยเฉิง ฉินหวง
“พ่อ!” ฉินเฟิงโค้งให้กับฉินหวงนี่เป็หนึ่งในประเพณีที่สืบทอดกันมายังตระกูลของพวกเขา
“เฟิงเอ๋อ ลูกกลับมาแล้ว”ั์ตาสีดำคมคายของฉินหวงมองไปที่ฉินเฟิงั้แ่หัวจรดเท้าเมื่อเห็นว่าไม่ได้รับาเ็ เขาก็รู้สึกโล่งอกอย่างมาก
“พ่อ มีบางอย่างที่ผมอยากจะคุยกับพ่อ ขึ้นไปข้างบนกันเถอะ”
“ตกลง ไปกันเถอะ พ่อก็มีบางอย่างที่อยากจะถามลูกอยู่เหมือนกัน”
ลุงฝูยืนป้องกันที่ทางเข้าคฤหาสน์พ่อลูกขึ้นไปชั้นดาดฟ้าของคฤหาสน์ พื้นที่ตรงกลางของดาดฟ้ามีไว้สำหรับทำบาร์บีคิวและด้านขวาก็มีสระว่ายน้ำขนาดปานกลางแบบเปิด
ฉินเฟิงตัวชุ่มเหงื่อจากการต่อสู้เขาจึงถอดเสื้อและะโลงสระ หลังจากว่ายน้ำไปกลับเขาก็โผล่หัวออกมาสูดหายใจเฮือกใหญ่ก่อนจะพูด “พ่อมีบางคนอยากจะจัดการตระกูลฉินของเรา ดูเหมือนพวกมันจะมีเื้ัที่แข็งแกร่งด้วย
ฉินหวงนั่งอยู่ใต้ร่มและดื่มไวน์แดงสายตาสุดหยั่งลึกมองไปที่ห่างไกล จากที่นี่ เขาสามารถเห็นเมืองเว่ยเฉิงเกือบครึ่งแม้แต่แสงยามค่ำคืนของทางตะวันออกเฉียงใต้ก็สามารถมองเห็นได้จากมุมนี้
“เฟิงเอ๋อ ลูกต้องลำบากแน่ๆ ลูกโตขึ้นแล้วจริงๆ” จู่ๆฉินหวงก็มองฉินเฟิงและพูดอย่างจริงจัง “ลุงฝูบอกพ่อแล้วศัตรูคราวนี้ไม่ง่ายที่จะจัดการ แต่ตระกูลฉินเราก็ไม่ง่ายที่จะโดนรังแกเช่นกัน”
“พ่อจัดการเื่เฝิงต้าเวยให้แล้ว ไม่กี่นาทีก่อน เขาโดนเบื้องบนพาตัวไปลงโทษตามกฎหมายส่วนพ่อลูกตระกูลหม่า พ่อจะส่งคนไปทำให้พวกมันหายไปเอง”
“พ่อ พ่อพบอะไรบ้างหรือเปล่า? พ่อรู้หรือเปล่าว่าใครอยู่เื้ั?”ฉินเฟิงถามพ่อในระหว่างเช็ดหัว
การสืบหาคนที่อยู่เื้ัของหม่าเต๋อหู่เป็ภารกิจจากระบบราชันเ้าสำราญฉินเฟิงจะไม่ให้ความสำคัญกับมันก็ไม่ได้
ั์ตาของฉินหวงดูเหมือนอสรพิษร้ายเขาเต็มไปด้วยความโกรธเมื่อคิดว่ามีใครบางคนกำลังวางแผนจัดการกับตระกูลฉินและเกือบจะทำร้ายเฟิงเอ๋อ
20 ปีก่อน เขาพาฉินเฟิงที่เพิ่งเกิดมาที่เมืองเว่ยเฉิง
หลังจากยี่สิบปีแห่งการดิ้นรนก่อรากสร้างฐานจากไม่มีอะไรเลยในที่สุดเขาก็มาถึงจุดนี้จึงมีศัตรูมากมายนับไม่ถ้วนทั้งต่อหน้าและลับหลังเขามีประสบการณ์ผ่านมรสุมโชกโชน ชายผู้นี้ยิ่งใหญ่และสง่างามดั่งภูผาเขาไม่เคยหน้านิ่วด้วยเื่เหล่านี้มาก่อน
อย่างไรก็ตามครั้งนี้ หลังจากคิดอยู่สักพักฉินหวงค่อนข้างผิดหวังและแสดงความเป็ห่วงในขณะที่พูดว่า“เราไม่เจออะไรที่เป็ประโยชน์เลย ศัตรูครั้งนี้แข็งแกร่งพอควร ดังนั้นเฟิงเอ๋อลูกต้องระมัดระวังตัวเองให้มากั้แ่นี้เป็ต้นไป ไม่ว่าลูกจะไปไหนมาไหนให้พาลุงฝูไปด้วยพ่อกลัวว่าครั้งนี้จะเป็พวกคนจากเมืองหลวง...”
“เฮ้อ...อย่าพูดถึงเื่นี้เลย”ฉินหวงหยุดพูดทันทีและไม่ได้พูดสิ่งที่เขาสงสัยออกมาเขารู้สึกว่ายังไม่ถึงเวลาที่จะพูดเื่พวกนี้กับฉินเฟิง
เขาหายใจเข้าลึกๆและใบหน้าที่กังวลก็หายไป แทนด้วยรอยยิ้มที่อบอุ่นและพูด “เ้าเด็กขี้เหม็นพ่อได้ยินจากลุงฝูว่าลูกแอบเรียนวิชาหมัดกำลังภายนอก”
“ฮ่าๆ ไม่ใช่หรอก ผมก็แค่เล่นไปเรื่อยและศึกษาพวกเล่นกลมาบ้าง”ฉินเฟิงกลัวว่าพ่อของเขาจะตรวจสอบเพลงหมัดพยัคฆ์คำรนของเขาเขาจึงเกาหัวอย่างอึดอัดและพยายามกลบเกลื่อน
มันไม่ใช่ว่าเขาไม่เชื่อใจพ่อแต่ระบบนี้มันเข้าใจยากเกินไป แม้ว่าเขาจะบอกพ่อ ก็ไม่รู้จะเชื่อหรือเปล่า
“อย่ามาทำกลบเกลื่อนต่อหน้าพ่อนะลุงฝูบอกว่าเพลงหมัดของลูกทั้งรุนแรงและทรงพลัง จะต้องเป็เพลงหมัดระดับสูงแน่นอนซึ่งชัดเจนว่าแกต้องฝึกฝนมาอย่างน้อย 10 ปี ไอ้หนูน้อยแกซ่อนได้เนียนดีนี่ ขนาดพ่อแกก็ยังไม่รู้อะไรเลย”
ฉินหวงหัวเราะและตบบ่าฉินเฟิง“นี่เป็ข่าวดีของลูก ดังนั้นพ่อจะไม่ถามว่าลูกไปเรียนมาจากไหน ตราบใดที่ลูกชอบลูกควรจะฝึกให้เต็มที่ต่อไป”
เมื่อได้ยินแบบนี้ฉินเฟิงก็โล่งใจ ฉินหวงพูดต่อ “จริงสิ เมื่อเร็วๆนี้พ่อได้โอนหุ้นบางส่วนของพ่อให้ลูกเดือนหน้าพ่ออยากให้ลูกเริ่มทำงานที่หวงเจียกรุ๊ปพ่อจะหาคนสักคนมาสอนวิธีการบริหารบริษัทให้ลูก”
ทำงาน? บริหารบริษัท?
ปากของฉินเฟิงกระตุกเขารู้สึกว่าพ่อตัวเองนี่ช่างใจกล้า ไม่กลัวว่าเขาจะพาบริษัทล้มละลายภายในสามวันหรือไง?
ฉินหวงอยากให้เขาที่เป็นายน้อยเ้าสำราญไปทำงานและบริหารบริษัท? ฉินเฟิงเกือบจะหัวเราะดังๆ ออกมา
“แกยิ้มอะไร? หยุดเสเพลและเอาจริงเอาจังได้แล้วแกอายุ 20 แล้วนะ เมื่อพ่ออายุ 20 พ่อเพิ่งมาที่เมืองเว่ยเฉิงกับลูกตอนนั้น พ่อต้องประสบกับความลำบากมากมาย ในทางกลับกันลูกมีชีวิตแสนสบายและรู้แต่วิธีดูดเงินจากพ่อเท่านั้น”
ฉินหวงเข้มงวดทันทีและฉินเฟิงก็ไม่กล้าเถียง เขาแกล้งเป็ฟังอย่างกระตือรือร้น ฉินหวงพูดต่อ“มีอีกอย่าง พ่อจะจัดการหมั้นให้ลูกในเมืองหลวง”
“บัดซบ!”
แม้ว่าเขาจะอยู่ต่อหน้าฉินหวงแต่ฉินเฟิงก็อดไม่ได้ที่จะสบถออกมาดังๆ
ข่าวนี้ทำให้เขามึนงงไปสิบวินาที
ถึงขนาดลืมเื่ที่จะได้ไปทำงานจนหมดเขามองไปที่ฉินหวงด้วยความตกตะลึง และหลังจากคืนสติคืนมา เขาจึงรีบท้วง “พ่อพ่อจัดการหมั้นให้ผมอีกแล้วเหรอ? ครั้งก่อนก็จ้าวหลิงเซียนของตระกูลจ้าวพ่อไม่ถามผมเลยก่อนที่จะจัดการหมั้น มันยากมากเลยนะที่ผมจะต้องยกเลิกการหมั้นนั่นและพ่อก็ยังทำอีกแล้ว พ่ออยากฆ่าลูกตัวเองหรือไง?” ทันใดนั้นฉินเฟิงก็รู้สึกอยากจะวิ่งเอาหัวโหม่งกำแพงตาย
ถึงขนาดเริ่มสงสัยว่าฉินหวงเก็บเขาจากถังขยะมาเลี้ยงหรือเปล่า
“เลิกงี่เง่าได้แล้ว การหมั้นจะฆ่าลูกได้ยังไง?” ครั้งนี้ฉินหวงไม่ไปตามน้ำกับสิ่งที่ฉินเฟิง้าเขาทำหน้าทนในขณะที่พูดอย่างชัดถ้อยชัดคำ “ลูกยังมีหน้ามาพูดอย่างนั้นอีกเหรอ?ลูกรู้หรือเปล่าว่าลูกก่อปัญหาให้กับตระกูลฉินมากแค่ไหนเพราะความเห็นแก่ตัวที่ไปยกเลิกการหมั้นกับตระกูลจ้าวน่ะ? วันๆลูกไม่ทำอะไรเลยนอกจากหลับนอนกับผู้หญิงลูกตาบอดและไม่เห็นคุณค่าว่าหลิงเซียนเป็ผู้หญิงที่ดีแค่ไหนครั้งนี้พ่อ้าจะหาผู้หญิงที่ดีเพื่อแต่งงานกับลูก จะได้ดัดนิสัยลูกเสียถ้าลูกกล้ายกเลิกการหมั้นนี้ มาดูกันว่าพ่อจะกล้าหักขาหมาๆ ของแกหรือไม่!”
ถ้าผมมีขาหมางั้นพ่อก็ต้องมีขาหมาด้วยสิ และทั้งตระกูลของพ่อก็ต้องมีขาหมา!
ฉินเฟิงบ่นในใจแต่ไม่กล้าพูดออกมาดังๆ เขาอ้อนวอนฉินหวงต่อเื่การหมั้นกะทันหันครั้งนี้แต่ฉินหวงไม่ยอมแพ้เลยสักนิดในที่สุดเขาก็ทำได้เพียงเดินหน้าบึ้งออกไปจากตำหนักฉิน
หลังจากเหตุการณ์วันนี้ฉินเฟิงรู้ว่าเขายังค่อนข้างอ่อนแอ เขาต้องทำภารกิจเพื่อที่จะแข็งแกร่งขึ้น
หลังจากฉินเฟิงออกไปแล้วฉินหวงยืนอยู่ด้านหน้าของหน้าต่างฝรั่งเศสเขาทำหน้านิ่วขณะที่มองไปยังแสงไฟในเมืองที่มีชีวิตชีวาและพูดกับตัวเอง
“ยังเหลืออีกหนึ่งปีก่อนที่ตระกูลฉินจะมารวมตัวกัน เป็ไปได้ว่าคนพวกนั้นคงจะทนรอไม่ไหวและเริ่มชิงลงมือแล้วสินะ?”
********************
1 ชุดถัง ชุดเสื้อคอปกแบบจีน