“พวกนายเป็ใคร? ปล่อยฉันนะฉันจะโทรเรียกตำรวจมาจับนาย...”
ฉินเฟิงขมวดคิ้วเมื่อได้ยินเสียงร้องของหยุนเซียวและเสียงหัวเราะที่ควบคุมไม่อยู่ของหม่าเต๋อหู่
ฉินเฟิงเตรียมพร้อมที่จะเผชิญหน้ากับหม่าเต๋อหู่เนื่องจากมันเป็แค่ลูกชายของหัวหน้าแก๊งแห่งโลกใต้ดินแต่ยังกล้ามาอวดดีต่อหน้าเขาถ้าเป็ฉินเฟิงเมื่อก่อน เขาคงจะไม่เข้าแดนศัตรูด้วยตัวเองเขาคงจะบอกให้ลุงฝูจัดการจะดีกว่า
อย่างไรก็ตามฉินเฟิงใจอ่อนลงหลังจากได้ยินเสียงร้องขอความช่วยเหลืออย่างอับจนยิ่งกว่านั้นเขายังมีภารกิจที่ต้องได้รับความประทับใจจากหยุนเซียวอีกด้วยระยะเวลาภารกิจสิบวันนั้นใกล้เข้ามาแล้ว
ถ้าเขาทำภารกิจล้มเหลวเขาอาจจะต้องโดนผู้หญิงรอบข้างรังเกียจเป็ระยะเวลา 1 ปี ซึ่งฉินเฟิงไม่เสี่ยงแน่ๆ
บางทีความเสี่ยงนี้อาจจะเป็โอกาสอันดี
ฉินเฟิงเหยียบคันเร่งทันทีโดยไม่ลังเลลัมโบร์กินีพุ่งทะยานออกไปท่ามกลางถนนที่จอแจ 15 นาทีต่อมาเขาก็มาถึงโรงงานร้างตรงถนน 83
ตอนนี้เป็ตอนกลางคืนแล้วและแถวนี้ก็ค่อนข้างมืด มีเพียงแสงไฟดวงเล็กดวงน้อยที่มาจากในโรงงานเท่านั้นฉินเฟิงมองไปรอบๆ เมื่อไม่เห็นใครอยู่เลยจึงเดินเข้าไปในโรงงาน
หลังจากเข้ามาในโรงงานเขาก็พบว่ามันมืดสนิท ยกเว้นห้องหนึ่งที่มีไฟอยู่นิดหน่อย ฉินเฟิงกำหมัดและเดินไป
เมื่อเปิดประตูเขาก็พบว่าห้องนั้นกว้างประมาณ 100 ตารางเมตรซึ่งค่อนข้างกว้าง เขาเห็นโต๊ะโซฟา และหยุนเซียวที่โดนจับมัดให้นั่งอยู่ตรงมุมห้องมีรอยฝ่ามือสีแดงอยู่บนแก้มของเธอ ชี้ให้เห็นว่าเธอพึ่งโดนตบมาเมื่อไม่นานมานี้
“นายน้อยฉิน ดูเหมือนว่าชะตาเราจะต้องกันนะ เราเจอกันอีกแล้ว!”หม่าเต๋อหู่มองหยุนเซียวที่กำลังดิ้นอยู่ที่มุม แล้วก็หันไปมองฉินเฟิงด้วยรอยยิ้ม“ใครจะคิดว่านายน้อยฉินเ้าสำราญผู้ใช้ชีวิตเหลวไหลจะมาช่วยสาวสวยคนเดียวพ่อขอชื่นชมเลยจริงๆ ฮ่าๆ”
“นายน้อยผู้นี้ไม่ค่อยจะว่างนัก จะพล่ามอะไรก็พล่ามมา จะตดก็ตดอย่ามัวแต่อั้น” ฉินเฟิงกล่าวอย่างไร้อารมณ์ และพูดตัดบทหม่าเต๋อหู่
“ไอ้บัดซบ ฉินเฟิง แกตกอยู่ในกำมือของพ่อแล้ว แต่ยังทำตัวยโสโอหังแกคิดว่าทุกคนจะกลัวชื่อเสียงนายน้อยแห่งตระกูลฉินของแกหรืออย่างไร? วันนี้ พ่อจะ...”หม่าเต๋อหู่เปลี่ยนท่าทีเป็มุ่งร้ายทันทีและจับเนคไทของฉินเฟิงทว่าก่อนที่มันจะทันพูดจบประโยค ฉินเฟิงก็ชกหมัดเข้าที่ท้องของมันทันที
เปรี้ยง!
มีเสียงอู้อี้ดังออกมาจากลำคอหลังจากนั้นหม่าเต๋อหู่ก็ร้องโหยหวน
ฉินเฟิงใช้พลังทั้งหมดปล่อยหมัดออกไปหลังจากได้ดื่มยาเสริมพลังและใช้หมัดพยัคฆ์คำรน หมัดของเขาก็มีพลังถึง 150 กิโลกรัม แค่หมัดเดียวก็เพียงพอที่จะทำให้หม่าเต๋อหู่กระอักเืได้
“ฉันบอกแล้วไงว่าฉันไม่ค่อยว่างเลยต้องใช้กำปั้นเพื่อให้นายหยุดพล่ามสักหน่อย”ฉินเฟิงบ่นอย่างไม่สบอารมณ์และจัดชุดให้ดูดี
หม่าเต๋อหู่ที่กำลังโหยหวนอยู่บนพื้นก็โกรธมากจนปอดแทบะเิหลังจากผ่านไประยะหนึ่ง มันก็หายใจได้อีกครั้งและะโด่าออกมาอย่างดัง “เวรจับตัวไอเด็กเวรนี่มาให้พ่อเร็ว พ่อจะฆ่ามัน!”
หม่าเต๋อหู่เกรี้ยวโกรธอย่างมากจนั์ตาทั้งคู่สีแดงฉานทำให้มันดูเหมือนสัตว์อสูร ผู้คุ้มกันสี่นายเชื่อฟังคำสั่งและกระโจนเข้าหาฉินเฟิง
ฉินเฟิงตรวจสอบสี่คนนี้มาตั้งนานแล้วและพบว่าพวกมันทุกคนล้วนมีฝีมือตอนนี้เขาโดนล้อมกรอบโดยคนทั้งสี่และกลิ่นอายทรงพลังที่ปล่อยออกมาจากพวกมันก็ทำให้เขารู้สึกอึดอัดนิดหน่อย
ฮ่า!
ทั้งสี่คนคำรามพร้อมกับเหวี่ยงหมัดไปหาฉินเฟิงการเคลื่อนไหวของพวกมันทั้งสมบูรณ์และแม่นยำ มีทักษะทั้งรุกและรับ
จริงๆแล้วสี่คนนี้ไม่ใช่คนธรรมดา แต่เป็ทหารผ่านศึกจากกองทัพ
ด้วยหมัดพยัคฆ์คำรนฉินเฟิงก็ไม่สามารถดูถูกได้เหมือนกัน แต่ในฐานะลูกคุณหนูที่เพิ่งเริ่มต่อสู้เป็มันอาจจะยากไปสักหน่อยที่เขาจะเอาชนะทหารผ่านศึกทั้งสี่ที่มีประสบการณ์มาอย่างโชกโชน
มันยากมากที่สองมือจะต่อกรกับแปดมือและฉินเฟิงก็พบว่าตัวเองกำลังเสียเปรียบอย่างรวดเร็ว
ในการปะทะไม่กี่ครั้งฉินเฟิงก็โดนโจมตีไปทั่วทั้งตัว และเมื่อไรที่เขาขยับก็จะรู้สึกเ็ปขึ้นมา
“เ้าหมูน้อย รีบช่วยฉันสิวะ ไม่งั้นฉันตายนะโว้ย!”ฉินเฟิงไม่มีแรงเหลือแล้ว ขืนเป็แบบนี้ต่อไป วันนี้เขาคงกลับออกไปไม่ได้แน่ในสถานการณ์คับขันเช่นนี้ เขามองหาเ้าหมูน้อยเพื่อขอความช่วยเหลือ
“นายท่าน ตามการคำนวณของระบบราชันเ้าสำราญนายท่านไม่ใช่คู่ต่อสู้ของทั้งสี่คน นายท่านมีแต้มสำราญแค่ 100 แต้ม ซึ่งช่วยไม่ได้มากนัก”
เ้าหมูน้อยบ่นไปพักหนึ่งทำให้ฉินเฟิงรู้สึกโกรธมากจนแทบกระอักเื โชคดีที่มันพูดต่อ“นายท่านสามารถทำภารกิจได้รับความประทับใจจากหยุนเซียวให้สำเร็จเพื่อรับแต้มสำราญ 100 แต้มเป็รางวัล ด้วยวิธีนั้น นายท่านจะสามารถซื้อยาเสริมพลังขั้นสองเพื่อเพิ่มพลังได้บวกกับกระบี่เจินกังนายท่านก็จะสามารถปลดปล่อยพลังอำนาจมหาศาลและสวนกลับไปได้อย่างงดงามนี่จะเป็การพลิกสถานการณ์ทันที”
ฉินเฟิงตะลึงเล็กน้อยและถาม“ยาเสริมพลังขั้นสอง? 200 แต้มสำราญ? ทำไมมันโคตรแพงเลยฟะ? ไม่ใช่ว่าก่อนหน้านี้มันแค่ร้อยเดียวเองหรือไง?”
“นายท่าน ยาเสริมพลังั้แ่ขั้นหนึ่งถึงขั้นสิบใช้เงื่อนไขไม่เหมือนกันนายท่านดูดซับยาขั้นหนึ่งมาก่อนแล้ว หลังจากดูดซับยาเสริมพลังขั้นหนึ่งนายท่านจะแข็งแกร่งขึ้นได้ก็ต่อเมื่อดูดซับยาเสริมพลังขั้นสองเท่านั้น ยาเสริมพลังขั้นหนึ่งใช้แต้มสำราญ100 แต้ม ส่วนขั้นสองก็ใช้ 200 แต้มมากขึ้นตามลำดับไปเรื่อยๆ”
เปรี้ยง!
ในขณะที่ฉินเฟิงกำลังรู้สึกผิดหวังลูกเตะอันหนักหน่วงก็กระแทกมาที่ท้องเข้าอย่างจังเขาไม่ได้เตรียมพร้อมสำหรับลูกเตะนี้ จึงกระเด็นลอยไปตกข้างๆ หยุนเซียว เขาไม่มีแม้แต่แรงจะยืนอีกต่อไป
เมื่อเห็นแบบนี้ใบหน้าบูดบึ้งของหม่าเต๋อหู่ก็กลายเป็รอยยิ้มเบิกบานและะเิเสียงหัวเราะออกมาพร้อมกับกล่าวว่า “ฮ่าๆ จับมันเร็วเข้าจับมันให้พ่อเร็ว และมัดไอเด็กนี่ซะ พ่ออยากจะเล่นกับมันจนกว่ามันจะตาย”
ผู้คุ้มกันสองคนรีบนำเชือกมามัดฉินเฟิงทันทีและโยนเขาไว้ในมุมเดียวกับหยุนเซียว
หม่าเต๋อหู่เดินมาข้างหน้าฉินเฟิงและเหยียบลงบนตัวขณะที่กล่าวอย่างชัยชนะ “นายน้อยฉินหนอนายน้อยฉินใครจะคิดว่าคนอย่างแกจะมีวันนี้!”
“ต่อยเก่งนักเหรอ? ต่อยพ่อสิ!เก่งจริงก็ลุกขึ้นมาต่อยเด้!”
“ฮ่าๆ ไปกินขี้ซะไป๊! ตอนนี้แกมันก็แค่ของเล่นในมือพ่อพ่อจะทำอะไรก็ได้ที่อยากทำ”
หม่าเต๋อหู่กระทืบฉินเฟิงหลายครั้งจนเกิดกำลังใจฮึกเหิมขึ้นฉินเฟิงกัดฟันอดทนต่อความเ็ปโดยไม่ปล่อยให้เสียงใดๆ เล็ดลอดออกมา
เขาสุขุมมากเขาคิดว่าจะทำอย่างไรถึงจะทำภารกิจหยุนเซียวให้สำเร็จได้ เขาจะได้มีโอกาสพลิกสถานการณ์
“หม่าเต๋อหู่ บอกมา เป้าหมายของแกคืออะไรทำไมต้องมาทำแผนอะไรอ้อมค้อมแบบนี้?” ฉินเฟิงรู้ว่ามีคนพยายามจะจัดการตระกูลฉินหม่าเต๋อหู่ไม่มีปัญญาพอที่จะทำเื่แบบนี้ได้ด้วยตัวคนเดียวมันต้องมีพวกอิทธิพลคอยหนุนหลังมันอยู่แน่นอน
ฉินเฟิงอยากจะรู้ว่าใครอยู่เื้ัเื่นี้ถ้าเขารอดไปได้ เขาจะบอกพ่อให้จับพวกมันในคราวเดียว
“ฮ่าๆ! เป้าหมายฉัน? มันก็ต้องกำจัดตระกูลฉินของแกไง”หม่าเต๋อหู่หัวเราะ และหยิบโทรศัพท์ออกมาส่ายไปส่ายมาต่อหน้าฉินเฟิงพร้อมกับกล่าว“เดี๋ยวพ่อจะโทรหาฉินหวงและบอกว่าลูกมันอยู่ในกำมือของฉันฉันจะบอกให้มันโอนหุ้นทั้งหมดในธุรกิจมาให้ฉัน ไม่งั้นแกจะได้ลงไปเยี่ยมยมบาลแน่”
“แกคิดว่าพ่อของแกจะทำอย่างไรล่ะ?”
หม่าเต๋อหู่หัวเราะอย่างบ้าคลั่งในขณะที่ฉินเฟิงขมวดคิ้ว เขารู้ว่าถ้าพ่อของเขาพบว่าเขาถูกลักพาตัวเขาคงจะต้องจ่ายเท่าไรก็ตามเพื่อช่วยเขา
หลังจากที่เห็นดังนั้นหม่าเต๋อหู่ก็กดโทร ฉินเฟิงที่หมดหวังมองไปที่หยุนเซียวด้วยสายตาอ่อนโยนเขาพยายามจะพูดในขณะที่ไอออกมา “ครูหยุนเซียว ครูไม่เป็อะไรนะ?”
หยุนเซียวสะดุ้งและมองไปที่ฉินเฟิงพร้อมกับน้ำตาคลอเบ้า
นี่เป็ครั้งแรกที่เขาเรียกเธอว่า‘ครู’ อย่างจริงใจ
ฉินเฟิงผู้นี้คนที่ไม่สนใจกฎระเบียบในห้องเรียน มีภูมิหลังอันน่าสะพรึง และทำตัวไร้สาระไปวันๆทำให้เกิดความรังเกียจและอคติในหัวใจของหยุนเซียว
สองวันก่อนความสับสนวุ่นวายในห้องเรียนที่เกิดขึ้นก็เพราะเขา เธอจึงอยากจะกัดฉินเฟิงให้ตายหลังจากนั้นอีก เพราะเธอคิดว่าเขา้าจะข่มขืนเธอ เธอเลยเกลียดเขามากขึ้น
อย่างไรก็ตามในตอนนี้เธอรู้แล้วว่าเธอเข้าใจฉินเฟิงผิดไปอย่างสิ้นเชิงฉินเฟิงไม่ได้เป็พวกเดียวกับคนพวกนั้นอย่างน้อยเขาคงไม่เอาชีวิตตัวเองมาเล่นละครแบบนี้ นั่นมันคงจะเกินไป
“ครูไม่เป็ไร ฉินเฟิง เธอเป็อะไรหรือเปล่า? ครูผิดเองที่ตำหนิเธอ!”หยุนเซียวมองไปยังฉินเฟิงด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความเป็ห่วงเธอตระหนักทันทีว่าการที่ทำตัววุ่นวายในห้องเรียนมันเป็เื่ปกติสำหรับวัยรุ่น
พวกเขานั้นซุกซนและร่าเริงแต่ลึกๆ แล้วพวกเขาก็เป็คนดี เพื่อช่วยเธอฉินเฟิงจึงมาเสี่ยงอันตรายด้วยตัวคนเดียว
“ผมรู้สึกว่าผมคงจะทนต่อไปได้ไม่นานนัก ครูหยุนเซียวครูเป็ครูที่สวยและมีพร์มากที่สุดเท่าที่ผมเคยเจอ แต่ผมยังไร้พลังนักที่ไม่สามารถช่วยครูในคืนนี้ได้ถ้าชาติหน้ามีจริง ผมอยากจะเป็นักเรียนของครูและได้เรียนจากครูถ้าให้เวลาเชื่อมความสัมพันธ์ในฐานะครูกับนักเรียนได้ผมอยากจะมีเวลาอย่างน้อยสักหมื่นปี...” ในขณะที่เขาพูดฉินเฟิงได้ใช้พลังเฮือกสุดท้ายและปิดตาลง
“ฮือออ...ฉินเฟิง เธอจะต้องไม่เป็อะไร! อดทนไว้นะ!”หยุนเซียวจับมือของฉินเฟิงพร้อมกับมีน้ำตาไหลออกมา
“ติ๊ง...ขอแสดงความยินดีแก่โฮสต์ฉินเฟิงที่ทำภารกิจทำให้ครูหยุนเซียวประทับใจในตัวคุณสำเร็จคุณได้รับแต้มสำราญ 100 แต้มเป็รางวัล”
เฮ้ย!ตูทำสำเร็จจริงๆ ด้วยเว้ยเฮ้ย!
ฉินเฟิงะโลั่นในใจดูเหมือนวลีคลาสสิกพวกนี้ก็มีประโยชน์เหมือนกัน
เขาที่ดูเหมือนกำลังเข้าปากเหวแห่งความตายแต่หลังจากได้ยินการประกาศของระบบ เขาเกือบจะะโด้วยความตื่นเต้นขนาดเขาเองยังประหลาดใจกับฝีมือการเล่นละครของตัวเอง
เนื่องจากเขาไม่ใช่นักแสดงดาวเด่นที่โลดแล่นอยู่ในโลกมายา
ม้วฟ!
ด้วยความตื่นเต้นฉินเฟิงหอมแก้มหยุนเซียวไปฟอดใหญ่
หยุนเซียวตกตะลึงเธอมองดูฉินเฟิงด้วยความใและแก้มก็เริ่มแดง
ฉินเฟิงไม่ได้มีเจตนาอะไรอย่างนั้นเขาแค่หอมแก้มเธอเพื่อคลายความตื่นเต้น เมื่อคิดได้สักพักฉินเฟิงก็รีบเปิดระบบราชันเ้าสำราญ และซื้อยาเสริมพลังขั้นสอง
ยาเสริมพลังขั้นสอง
หลังจากดูดซับผลของยาความแข็งแกร่งของโฮสต์จะเพิ่มขึ้นเป็ 3
ฉินเฟิงดื่มรวดเดียวหมดขวดโดยไม่ต้องคิดคลื่นความอบอุ่นแพร่กระจายไปทั่วทั้งตัว ร่างกายของเขาที่แต่เดิมแล้วอ่อนแอก็รู้สึกเหมือนกับมีพลังกำลังจะปะทุออกมาและพร้อมะเิได้ทุกเมื่อ
การที่มีพลังเพิ่มขึ้นแบบฉับพลันทำให้เขาอยากจะหาคนมาสู้ด้วยใจจะขาด