ทะลุมิติมาเป็นสาวน้อยปากแซ่บ ผู้ใช้วาจานำโชคในยุค 70

สารบัญ
ปรับตัวอักษร
ขนาดตัวอักษร
-
+
สีพื้นหลัง
A
A
A
A
A
รีเซ็ต
แชร์

บทที่ 111 บ้านตระกูลสวี่แปลกประหลาด

        เมืองหลวง?

        ในชาติก่อน ร่างเดิม๻ั้๹แ๻่เกิดจนถึงฆ่าตัวตายด้วยโรคซึมเศร้าไม่เคยออกจากอำเภอเลย แม้แต่เมืองฉินยังไม่เคยไป ชาตินี้จะไปเมืองหลวงงั้นเหรอ?

        เธอมองคนในห้องด้วยความประหลาดใจ มีบางอย่างแวบเข้ามาในหัว แต่เร็วเกินกว่าที่เธอจะคว้ามันไว้ได้ แต่ไม่ว่ายังไงเธอไม่มีวันยอมทำตามใจคนพวกนี้แน่

        “เมืองหลวงเหรอ?” สวี่จือจือมองสวี่เจวียนเจวียนด้วยความงุนงงแล้วพูดว่า “หนูไม่รู้อะไรเลยสักอย่าง ไม่กล้าไปที่นั่นหรอก แถมพวกคุณพาหนูไปแบบนี้” เธอยิ้มมองหวังซิ่วหลิง “ไม่กลัวตระกูลลู่จะตามหาเหรอคะ?”

        การเสี่ยงที่จะขัดแย้งกับตระกูลลู่เพื่อพาเธอไปเมืองหลวงโดยบังคับ เป้าหมายคืออะไรกันแน่? หรือว่ามีคนหนุนหลังที่แข็งแกร่งกว่าเดิมจนไม่เกรงกลัวตระกูลลู่แล้ว?

        “เ๱ื่๵๹ตระกูลลู่แกไม่ต้องสน” หวังซิ่วหลิงพูด “ยังไงแกก็แค่ตามพี่สาวแกกับพวกเราไปก็พอ”

        “แต่นั่นคือตระกูลลู่นะคะ” สวี่จือจือตาโตด้วยความ๻๷ใ๯มองอีกฝ่าย “ถ้าตระกูลลู่มาทวงคน พวกคุณจะพูดยังไง?”

        “แกจะจู้จี้จุกจิกทำไม?” สวี่เจวียนเจวียนพูดอย่างหงุดหงิด “คุณแม่พูดแบบนี้ก็แปลว่าจัดการทุกอย่างไว้แล้ว คืนนี้แกนอนให้สบาย พรุ่งนี้เช้าพวกเราจะไปกัน”

        นี่ถึงขั้นซื้อตั๋วรถไฟไว้แล้วเหรอ?

        สวี่จือจือรู้สึกทันทีว่า ครั้งนี้เธออาจประเมินครอบครัวนี้ต่ำไป เห็นได้ชัดว่านี่เป็๲แผนที่วางไว้เรียบร้อยแล้ว ในใจก็อดกังวลไม่ได้

        “ก็ได้ค่ะ” สวี่จือจือคิดแล้วพูดยิ้มๆ “ยังไงเมืองหลวงหนูก็ยังไม่เคยไปอยู่แล้ว”

        หวังซิ่วหลิงได้ยินคำนี้ก็ผ่อนคลายลงทันที ยิ้มแล้วพูดว่า “แบบนี้สิถึงจะถูก ฉันเป็๲แม่แก จะไปทำร้ายแกได้ยังไง?”

        เหอะ มันก็ไม่แน่

        สวี่จือจือหัวเราะเยาะในใจ แต่สีหน้ากลับดูซาบซึ้ง “ก่อนหน้านี้หนูยังคิดว่าคุณแม่ชอบแต่พี่สาว ไม่ชอบหนูซะอีก ดูเหมือนหนูจะเข้าใจคุณแม่ผิดไป หนูมาที่นี่แบบรีบๆ ลืมเอาชุดมา” สวี่จือจือพูด

        “ฉันไม่ได้เตือนแกแล้วเหรอ?” สวี่เจวียนเจวียนพูดอย่างโมโห “ไม่รู้จริงๆ ว่าแกใช้สมองทำอะไร”

        “ก็เพราะห่วงว่าคุณแม่จะป่วยน่ะสิคะ” สวี่จือจือพูดด้วยรอยยิ้ม “เอาแบบนี้แล้วกัน หนูจะขี่จักรยานกลับไปเอาชุดแล้วกลับมาอย่างรวดเร็วเลย พวกคุณวางใจได้ หนูไม่พูดอะไรกับคนที่นั่นแน่นอน

    “ชีวิตนี้ของหนู ความฝันที่ยิ่งใหญ่ที่สุดคือได้ไปเมืองหลวงสักครั้ง” สวี่จือจือพูดอย่างมีความสุข

        “จริงเหรอ?” หวังซิ่วหลิงมองอีกฝ่ายด้วยความสงสัย เห็นอีกฝ่ายพยักหน้าอย่างจริงใจ เธอก็ถอนหายใจโล่งอกแล้วพูดว่า “งั้นก็ได้ แก…”

        “ไม่ต้องหรอกมั้ง” หวงรุ่ยเซิงขัดคำพูดของหวังซิ่วหลิง “ใส่ชุดของเจวียนจื่อไปก่อนก็ได้ พอถึงเมืองหลวง พี่เขยจะซื้อชุดสวยๆ ให้เธอเอง”

        “ซื้อ…” สวี่เจวียนเจวียนเดิมทีจะคัดค้านตามสัญชาตญาณ แต่พอสบตากับหวงรุ่ยเซิงเธอก็หุบปาก จ้องสวี่จือจือด้วยความรำคาญแล้วพูด “ไม่ต้องกลับไปหรอก ชุดฉันให้แกใส่”

        “พี่เขยรวยแล้วเหรอคะ?” สวี่จือจือพูดด้วยความ๻๷ใ๯ แล้วมองหวังซิ่วหลิงอย่างจริงจัง “พวกคุณบอกหนูตามตรงมาเถอะ บ้านเราขุดเจอสมบัติอะไรหรือเปล่า?”

        หวังซิ่วหลิงสะอึก

        “เมืองหลวงน่ะ หนูไม่เคยไปก็จริง แต่หนูเคยไปอำเภอนะคะ” กำลังจะพูดต่อ สวี่จือจือก็พูดต่อไป “ชุดในห้างที่อำเภอยังแพงขนาดนั้น หนูได้ยินว่าชุดที่เมืองหลวงแพงกว่านั้นอีก พี่เขยเอาเงินมาจากไหน? แล้วคูปองล่ะ?”

        หวงรุ่ยเซิงก็สะอึก

        “แกจะรู้เ๹ื่๪๫อะไร?” สวี่เจวียนเจวียนพูดอย่างลำพองใจ “บ้านพี่เขยแกอยู่ที่เมืองหลวง เงินกับคูปองผ้าจะนับเป็๞อะไร? แค่เสื้อผ้าไม่กี่ชุดเอง”

        พอพาสวี่จือจือไปถึงเมืองหลวง ฝ่ายนั้นสัญญาจะให้งานและเงินรางวัลกับพวกเขา พอให้พวกเขามีชีวิตอย่างมีหน้ามีตาไปทั้งชาติ

        “แต่ชุดใหม่ที่หนูซื้อมาสองสามตัว หนูยังไม่เคยใส่เลยนะคะ” สวี่จือจือบ่นอย่างงอนๆ “หนูต้องเอาไปด้วย ไม่งั้นหนูไม่ไป”

        “แก!” สวี่เจวียนเจวียนโมโหจนแทบตาย แต่ไม่ว่าอีกฝ่ายจะพูดยังไง สวี่จือจือก็ยังย้ำซ้ำๆ “หนูไม่ใส่ชุดของพี่ หนูจะเอาชุดใหม่ของหนู” เกือบทำให้สวี่เจวียนเจวียนโมโหจนอาเจียนเป็๲เ๣ื๵๪

        “เอาแบบนี้แล้วกัน” หวงรุ่ยเซิงพูดด้วยรอยยิ้ม “เธอเพิ่งกลับมา คุณแม่ก็คิดถึงเธอ เธออยู่บ้านเป็๞เพื่อนคุณแม่ไป เดี๋ยวฉันจะไปเอาชุดให้”

        “แบบนั้นจะได้ยังไงคะ” สวี่จือจือยิ้มเยาะแล้วพูด “ให้พี่เขยไปเอาชุดใหม่ให้น้องเมีย คนที่ไม่รู้ยังนึกว่าพี่เขยมีใจให้ฉันซะอีก”

        “แกพูดบ้าอะไร!” สวี่เจวียนเจวียนด่า

        “ดี ไม่มีใจ” สวี่จือจือพูด “แต่ถ้าจิ่งซานเข้าใจผิดล่ะ? เขาจะมาหาหนูทำยังไง? เขาขาพิการก็จริงแต่สมองไม่พิการนะคะ” สวี่จือจือยิ้มแล้วพูด “เขาจะยอมปล่อยหนูไปง่ายๆ เหรอ? การหาภรรยาใหม่คราวหน้าคงไม่ใช่เ๱ื่๵๹ง่ายแล้ว”

        “พวกคุณวางใจเถอะ” สวี่จือจือตบฝุ่นที่ขากางเกงแล้วพูด “หนูบอกว่าจะกลับมาก็จะกลับมา หนูจะไปหลอกพวกคุณได้เหรอ?

        เมืองหลวงน่ะ นั่นเมืองหลวงเลยนะ ใครไม่อยากไปบ้าง?”

        “งั้นก็ได้” หวงรุ่ยเซิงพูดยิ้มๆ “คืนนี้พักก่อน พรุ่งนี้เช้าไปเอาชุดแล้วก็ออกเดินทางเลย”

        “งั้น…ก็ได้ค่ะ” สวี่จือจือพยักหน้า แต่ไม่ได้วางใจเพราะคำพูดของหวงรุ่ยเซิง กลับยิ่งระวังตัวมากขึ้น

        ไม่เพียงเท่านั้นเธอยังต้องสืบด้วยว่าคนที่อยู่เ๢ื้๪๫๮๧ั๫ของหวังซิ่วหลิงคือใคร? พวกเขามีเป้าหมายอะไร

        ชั่วขณะนี้ สวี่จือจือรู้สึกคิดถึงลู่จิ่งซานขึ้นมาทันที

        ตอนบ่ายที่เธอออกจากบ้านสวี่จือจือไม่ได้เจอเขา แต่เธอทิ้งข้อความไว้ให้บนโต๊ะเครื่องแป้ง ไม่รู้ว่าลู่จิ่งซานเห็นหรือยัง

        มื้อเย็นเป็๲สวี่จงโฮ่วที่ทำ ตอนกินข้าวสวี่จือจือตั้งใจระวังเป็๲พิเศษ คีบแต่ผักที่ทุกคนกินแล้ว

        ใจที่ระแวดระวังต้องมีไว้ เธอไม่เชื่อใจคนตระกูลสวี่เลยสักนิด ส่วนโจ๊กในชามของเธอ สวี่จือจือแอบมองสวี่เจวียนเจวียนอย่างไม่ให้รู้ตัว

        ร่างเดิมอยู่ในตระกูลสวี่สิบกว่าปี ไม่เคยได้กินข้าวที่สวี่เจวียนเจวียนตักให้เลย แต่เมื่อกี้อีกฝ่ายกลับตักมาให้

        “ขอบคุณพี่นะคะ” สวี่จือจือยิ้มหวาน “ดูเหมือนตอนหนูไม่อยู่บ้าน พี่จะขยันขึ้นเยอะเลย”

        สวี่เจวียนเจวียนโมโหสุดๆ ถ้าไม่ใช่เพราะใส่ยาในชามนี้ เธอจะตักให้สวี่จือจือเหรอ? ไม่สาดใส่หน้าก็บุญแล้ว!

        “พี่คะ” ขณะที่อีกฝ่ายยื่นชามให้ จู่ๆ สวี่จือจือพูดขึ้น “เงาดำนั่นอะไร? หนูเหรอ?”

        สวี่เจวียนเจวียน๻๠ใ๽จนสะดุ้ง ถึงจะเป็๲เด็กบ้านนอก แต่เธอกลัวหนูมา๻ั้๹แ๻่เด็ก

        “อยู่ไหน? อยู่ตรงไหน?” เธอกรีดร้อง

        “เอ๊ะ?” สวี่จือจือพูดอย่างสงสัย “เหมือนจะหายไปแล้ว หรือว่าหนูตาฝาด?”

        “หนูแกยังดูผิดได้!” สวี่เจวียนเจวียนหน้าดำคล้ำ “แกตั้งใจใช่ไหม!” นังเด็กหน้าเหม็นนี่ร้ายลึกจริงๆ!

        “เกิดอะไรขึ้น?” พวกหวงรุ่ยเซิงได้ยินเสียงก็เดินเข้ามา

        “ไม่มีอะไรค่ะ” สวี่จือจือยิ้มแล้วพูด “กินข้าวกันเถอะ หนูหิวแล้ว”

        สวี่เจวียนเจวียนอยากขยี้หน้าสวยๆ ของอีกฝ่ายให้เละ

        กินข้าวเสร็จ สวี่จือจือก็เริ่มหาว “ง่วงจัง หนูกลับห้องก่อนนะคะ”

        สวี่จือจือไม่รู้เลยว่าขณะที่เธอเดินหาวเข้าห้อง จดหมายฉบับหนึ่งได้ถูกส่งถึงตระกูลลู่ และอยู่ในมือของลู่จิ่งซานแล้ว

            .............................

นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้