อดีตอันยาวนานผ่านพ้นมา เผ่าเทพผู้เป็ใหญ่มีอำนาจเหนือเผ่าทั้งหลายในใต้หล้า ไม่เคยเว้นว่างจากการทำา เผ่ามารมักหาโอกาสบุกทำลายเผ่าเทพเพื่อแย่งชิงความเป็ใหญ่ เขตแดนจำต้องมีกำแพงอาคมแ่า เพื่อป้องกันมารบุกทำลาย ทั่วทั้งพิภพไม่เคยสงบสุข คราใดที่มีา ความสูญเสียจะก่อเกิด ส่งผลให้พิภพเกิดอาเพศใหญ่ เดือดร้อนไปยังเบื้องล่างเขตแดนมนุษย์
จวบจนทายาทของเผ่ามารถือกำเนิดขึ้นเป็แฝด ผู้พี่นามว่า ตงฟาง ผู้น้องนามว่า ตงหยาง ทั้งสองถูกเลี้ยงดูด้วยสิ่งแวดล้อมเดียวกัน ทว่านิสัยต่างกันราวฟ้ากับเหว ผู้พี่มีดวงจิตมืดบอดตามชาติกำเนิด ผู้น้องทะนงตัวและรักสันโดษ เมื่อเติบใหญ่ทั้งสองมีรูปโฉมงดงามหมดจด จนเป็ที่เลื่องลือไปทั่วพิภพว่าไม่มีผู้ใดงดงามเท่าโอรสทั้งสองของเผ่ามาร
ตงฟางเฝ้าบำเพ็ญเพียร เพื่อยกระดับพลังิญญา มุ่งหมายช่วยบิดาทำลายเผ่าเทพเพื่อขึ้นเป็ใหญ่ ทว่าตงหยางกลับปลีกวิเวกบำเพ็ญเพียรเพียงลำพังในถ้ำหลังตำหนัก นานวันเข้าจึงหาโอกาสลงไปยังแดนมนุษย์เรียนรู้สิ่งต่าง ๆ แล้วตกตะกอนความคิดที่ว่า เผ่ามารแท้จริงแล้วเป็ภัยต่อสรรพชีวิตทั้งหลายเพียงใด
“เ้าหยุดอ่านทำไมกัน อ่านให้ข้าฟังต่อสิ” ิเยว่ผงกศีรษะขึ้นมาแล้วถามสาวใช้ด้วยความแปลกใจ ชุดสีเขียวโบกไสวไปตามแรงลม ภายใต้ศาลาหลังเล็กที่ตั้งอยู่บนยอดเขาสูง ในเขตแดนอันเงียบสงบของเผ่าวิหค
“ธิดาิเยว่ ท่านให้ข้าอ่านบันทึกนี้หลายรอบแล้ว ั้แ่ท่านเป็เด็ก จวบจวนตอนนี้ท่านมีอายุหนึ่งพันปี ยังไม่เบื่ออีกเหรอเ้าคะ” สาวใช้เอียงศีรษะถามด้วยความไม่เข้าใจ ก่อนิเยว่จะปล่อยยิ้มกว้างแล้วเท้าคาง พร้อมสายตาเป็ประกายมีความหมาย
“ข้าไม่เบื่อ ข้าอยากฟังเื่ราวของประมุขตงหยาง เ้าจงอ่านให้ข้าฟังต่อ” สายลมอ่อนพัดโชยมาพร้อมกลิ่นดอกไม้ ก่อนเสียงเจื้อยแจ้วของซิ่วอิงจะอ่านบันทึกโบราณต่อตามคำสั่งธิดาเผ่าวิหค
“เหมือนชะตาฟ้าลิขิต ให้ตงหยางผู้เป็โอรสเผ่ามารในตอนนั้น พานพบกับจางเหว่ยโอรสแห่ง์ผู้มีจิตสะอาดบริสุทธิ์ เขาทั้งสองพากันท่องเที่ยวในแดนมนุษย์จนเกิดความไว้วางใจซึ่งกันและกัน โดยไม่มีผู้ใดล่วงรู้ ว่าโอรสแห่งเผ่ามารและเผ่าเทพ เป็สหายกันด้วยใจบริสุทธิ์นับจากนั้น หลายครั้งโอรสจางเหว่ยแอบพาโอรสเผ่ามารเข้าไปยังแดนเทพ เพื่อเดินหมากและเรียนรู้ธรรมเนียมต่าง ๆ ในเผ่าเทพ ความสัมพันธ์ทั้งสองดำเนินมาอย่างเหนียวแน่น
จวบจนอายุขัยของตงหยางครบหกหมื่นปี ประมุขเผ่ามารตงเหรินดับขันธ์ แฝดพี่ตงฟาง จึงขึ้นเป็ประมุขเผ่ามารตามธรรมเนียมปฏิบัติ ด้วยอยากแสดงอำนาจจึงรวบรวมกำลังพล หมายบุกโจมตีเผ่าเทพเพื่อแย่งชิงความเป็ใหญ่ เวลานั้นตงหยางรีบเข้าห้ามไม่ให้พี่ชายของเขาทำเช่นนั้น เกรงจะส่งผลให้พิภพเกิดเภทภัยเดือดร้อนไปถึงแดนมนุษย์ ทว่าด้วยดวงจิตอันมืดบอดของตงฟางยืนยันจะทำศึกกับเผ่าเทพ
แฝดน้องอย่างตงหยาง จำต้องเข้าร่วมกับเผ่าเทพ ต่อสู้กับกับตงฟางเพื่อยุติาที่จะเกิดขึ้น การต่อสู้ระหว่างสายเืกินระยะเวลายาวนานหลายชั่วยาม ก่อนตงหยางจะสามารถเอาชนะได้ในที่สุด จึงใช้พลังิญญาขั้นหกกักขังตงฟางไว้ใต้พื้นพิภพ
นับจากนั้นตงหยางได้ขึ้นครองตำแหน่งประมุขเผ่ามาร ส่งผลให้เผ่าเทพและเผ่ามารสงบศึก และอยู่ร่วมกันอย่างร่มเย็นเสมอมา สามารถไปมาหาสู่กันได้ ไร้เขตอาคมขวางกั้นจวบจนถึงปัจจุบันนี้ จบแล้วเ้าค่ะ” ซิ่วอิงม้วนตำราแล้วหันมายังธิดาเผ่าวิหคพร้อมรอยยิ้ม ก่อนอีกฝ่ายจะทอดสายตาไปยังเบื้องหน้า ปลาบปลื้มกับประวัติของประมุขมารอย่างตงหยาง
“ปัจจุบันนี้ จางเหว่ยสำเร็จเป็ราชันเผ่าเทพแล้ว พวกเขาต่างเป็สหายรักกัน ทั้งเผ่าเทพและเผ่ามารสนิทแนบชิด จนเผ่าวิหค เผ่าจิ้งจอก อย่างพวกเราต้องยอมรับ ทั่วทั้งใต้หล้าสงบสุข นับจากนั้นเป็ต้นมา ถูกต้องหรือไม่” ิเยว่เอ่ยถามสาวใช้ด้วยแววตาเป็ประกายมีความสุข
“ถูกต้องเ้าค่ะ” ซิ่วอิงโน้มกายลงแล้วตอบรับด้วยกิริยาอ่อนน้อม
“ซิ่วอิง ตอนนี้ท่านพ่อกลับจากเผ่าเทพหรือยัง”
“ยังเ้าค่ะ” คำตอบของซิ่วอิงทำให้ธิดาแห่งเผ่าวิหคส่อสายตาเ้าแผนการขึ้นมา
“เช่นนั้น พวกเราไปยังแดนมนุษย์กันเถอะ เผื่อสักวันข้าจะมีโอกาสได้เจอกับประมุขตงหยาง”
“ไม่ได้เ้าค่ะ ประมุขต้าเหรินสั่งห้ามธิดาิเยว่ออกจากเผ่าวิหคเป็อันขาด หากถูกท่านประมุขจับได้ ธิดาิเยว่จะโดนโทษเ้าค่ะ” ิเยว่ยิ้มรับแล้วส่ายศีรษะไปมาด้วยความมั่นใจ
“ข้าสัญญาว่าจะรีบกลับก่อนท่านพ่อจะกลับมา เ้าไม่ต้องห่วง”
ดินแดนกว้างใหญ่ไพศาล ยากหาสถานที่ใดในใต้หล้าเทียบได้ เหล่าเทพทั้งหลายต่างมาชุมนุม หลังจากเสียงระฆังเทพส่งสัญญาณบอกเวลา ประมุขเผ่าต่าง ๆ ทยอยเดินทางมายังท้องพระโรงของดินแดนแห่งเทพ ด้วยท่าทางสงบเสงี่ยม
บนแท่นประทับสูงสุด ประดับด้วยมุกทะเลสีขาวงดงามเป็ประกายวาววับ ก่อนราชันเผ่าเทพอย่างจางเหว่ยจะย่อตัวลงนั่งยังแท่นประทับอันมากด้วยบารมี พร้อมทอดสายตาไปยังผู้นำทั้งสามเผ่า ได้แก่ ประมุขเผ่ามาร ประมุขเผ่าวิหค ประมุขเผ่าจิ้งจอก ทั้งหมดค่อย ๆ โน้มกายลงเคารพผู้ปกครองสูงสุดอย่างราชันเผ่าเทพ
