"พรูดดดด!" เจียงเหยี่ยนพ่นเืออกมา "เสียงพี่กังจริงๆด้วย"
"ฮ่าฮ่าฮ่า" เหมาเหมาหัวเราะจนต้องค้ำลงไปกับโต๊ะแม้แต่ชิงิที่ปกติจะไม่ค่อยหัวเราะก็ยังหัวเราะขึ้นมาเฉยเลยทำให้เด็กน้อยซืออีนั่วนั่งมองดูทุกคนอย่างมึนงง
ดูสิ นี่แหละคือมายากลของพี่กัง
ฉันมองโทรศัพท์ "ไม่ได้ ไม่ได้ ฉันจะเปลี่ยนอันใหม่"
"อย่านะ!" ทุกคนส่งสายตาจ้องมองมือฉันที่เอื้อมออกไปจับโทรศัพท์เหมือนกับไม่อนุญาตให้ฉันเปลี่ยนเสียงโทรศัพท์
ฉันมองหน้าพวกเขาอย่างไม่รู้จะพูดอะไร "โอเคงั้นดูต่อดีกว่าว่ายังมีอย่างอื่นอีกไหม" ฉันวางโทรศัพท์ลงและมองดูข้างในกล่องซืออีนั่วที่หลบอยู่ด้านหลังเสี่ยวไป๋ค่อยๆ เอื้อมมือออกมาหยิบโทรศัพท์หลังจากนั้นเพียงครู่เดียวเขาก็หยิบโทรศัพท์ไปเล่นทันที
ข้างในกล่องมีชุดจีนโบราณสีฟ้าอ่อนพับเก็บไว้อย่างเรียบร้อยเห็นแค่แวบเดียวฉันก็ชอบแล้ว ชุดสีฟ้าอ่อน แนวกระดุมเสื้อเป็สีเขียวอ่อนๆตรงอกเสื้อมีตราสัญลักษณ์ของมหาลัยเทพและปีศาจ ฉันหยิบขึ้นมาดูอย่างชอบใจก่อนจะพบว่ามันเป็เสื้อเชิ้ตยาวลงมาเหมือนชุดเดรส เสื้อเข้ารูปกับเอวและชายเสื้อยาวคลุมเลยสะโพกลงมาฉันชอบมากๆ เลยแล้วข้างในกล่องก็ยังมีกางเกงขายาวที่เข้าคู่กับเสื้อได้อย่างพอดีอยู่อีกด้วย
"นี่เป็ชุดนักศึกษา" เจียงเหยี่ยนพูดขึ้นมา "หลังจากเปิดเทอมถ้าหากมีกิจกรรมที่ต้องรวมตัวกันก็จะต้องใส่ชุดนักศึกษานี้ แต่ถ้าวันปกติก็ใส่ชุดไปรเวทได้" ถึงแม้ว่าเขาจะพูดออกมาด้วยน้ำเสียงปกติอีกทั้งทุกคนก็ดูจะไม่ค่อยสนใจชุดนี้สักเท่าไรนักแต่ว่าฉันกลับชอบเครื่องแบบของที่นี่มากนี่เป็เครื่องแบบนักศึกษาที่สวยที่สุดที่ฉันเคยเห็นมาเลย
"รองเท้าเหาะได้!" จู่ๆ เหมาเหมาก็ะโขึ้นมาเสียงดังจากนั้นก็หยิบรองเท้าสีฟ้าคู่หนึ่งออกมาจากกล่อง "รุ่นล่าสุดของปีนี้เลย"
ทันใดนั้น เจียงเหยี่ยน ชิงิ และซืออีนั่วก็รีบพากันกรูไปดูรองเท้าทันที
เจียงเหยี่ยนไม่สนใจแม้แต่จะดูดเืต่อแล้ว "ของขวัญปีนี้อลังการมาก"
ชิงิไม่ละสายตาออกจากรองเท้าคู่นั้นเลยแววตาคู่นั้นเหมือนกับแววตาของผู้ชายที่ได้รองเท้าไนกี้รุ่นใหม่ล่าสุดยังไงยังงั้นเลย
แต่ว่า...เอ่อ...นี่มันรองเท้าผู้หญิงนะ
ฉันมองหน้าพวกเขา "อันนี้มันมีค่ามากหรือเปล่า"
"แน่นอนสิ" เหมาเหมายังคงตื่นเต้นไม่หยุด "ผู้หญิงใส่รองเท้าผู้หญิงผู้ชายก็ใส่รองเท้าผู้ชายและมันยังสามารถเปลี่ยนไปตามสิ่งที่พี่คิดจะให้มันเป็ได้ด้วยนะพี่สามารถเปลี่ยนให้เป็ในแบบที่พี่ชอบได้เองเลย แต่ว่า แค่มีรองเท้าคู่นี้ก็เท่ากับมีสมบัติล้ำค่าแล้ว"
และในตอนนั้นฉันก็เกิดความคิดหนึ่งขึ้นมาทันที"สมบัติล้ำค่า! งั้นฉันเอาไปขายเปลี่ยนเป็เงินดีกว่า" มิน่าละชิงิถึงได้จ้องไม่วางตาขนาดนั้นที่แท้รองเท้าคู่นี้มันเปลี่ยนเป็เงินได้นี่เอง
"พี่เสี่ยวหลัน!" เหมาเหมาแทบจะะโใส่ฉัน "รองเท้าเหาะได้ไม่เพียงแต่จะเปลี่ยนรูปแบบได้เท่านั้นนะเหาะได้อะเหาะได้ หมายความว่าพี่จะเหาะอยู่บนฟ้าได้ พี่ไม่ต้องกลัวว่าจะมีใครจับพี่โยนลงไปอีกแล้วแค่พี่ไม่ถอดรองเท้าคู่นี้ ต่อให้พี่หล่นลงไปพี่ก็จะไม่ตาย"
"จริงเหรอ" ฉันตัดสินใจเปลี่ยนรองเท้าทันที การเรียนที่นี่อันตรายมากเกินไปแล้ว
ชิงิหันมามองฉันที่กำลังเปลี่ยนรองเท้าอย่างไม่ละสายตาเขาเอื้อมมือออกมาพร้อมกับมองหน้าฉัน สีหน้าเขาเต็มไปด้วยความสงสารพลางพูดออกมา "เธออ่อนโยนกับมันหน่อยสิ"
เหมาเหมาก็นั่งคุกเข่าลงกับพื้นและหันหน้ามามองฉัน "พี่เสี่ยวหลัน...พี่ช่วยล้างเท้าก่อนแล้วค่อยเปลี่ยน..."
หลังจากที่ฉันสวมรองเท้าลงไปพร้อมกับย้ำเท้าดู "แฮะๆ ใส่ได้พอดีเลย"
ใบหน้าเหมาเหมาลู่ลงด้วยความเ็ป "ไม่มีประโยชน์แล้ว...ถ้ารองเท้าโดนเ้าของสวมใส่ไปแล้วก็จะจดจำแค่เ้าของเท่านั้นคนอื่นจะใส่อีกไม่ได้แล้ว...ฉันอยากลองใส่ดูบ้างจัง..."
ฉันหันกลับไปมองในกล่องอีกครั้งแล้วกระตุกคิ้วขึ้นอย่างสงสัย หยิบเอากล่องนั้นมาคว่ำลง "ชิส์...ไม่เห็นเหมือนอย่างที่คิดเลย...ของขวัญในเกมมันต้องมีเงินอยู่ด้วยสิ...ทำไมไม่มีเงินล่ะ"
"พี่เสี่ยวหลันนี่พี่...พอได้แล้วมั้ง..." เหมาเหมาลุกขึ้นยืนแล้วมองหน้าฉันเหมือนกับเป็ศัตรูกัน "พี่มีรองเท้าเหาะได้อยู่แล้วนะ"
ตอนที่เหมาเหมากำลังยืนท้วงติงอยู่นั้นจู่ๆ โทรศัพท์ก็มีเสียงดังขึ้นมา "กริ๊ง" คล้ายกับมีเสียงเหรียญหล่นลงไปฉันความรู้สึกไวจึงรีบเบนสายตาไปมองที่โทรศัพท์เวทมนตร์นั้นทันทีบนหน้าจอปรากฏเป็ภาพของถุงใส่เงินโผล่ขึ้นมา
ทุกคนจ้องมองที่กล่องข้อความทันทีฉันจับโทรศัพท์ขึ้นมา เสียงของกัวเต๋อกังดังขึ้นมาอีกครั้ง "ยินดีด้วยนะสาวน้อยวีดีโอของเธอมียอดกดถูกใจมากเป็อันดับหนึ่ง ได้รับเงินรางวัลจำนวนห้าพันหยวนมาเถอะ ทั้งหมดนี่คืนให้ฉันนะ"
"ว้าวววววว" เหมาเหมาปรบมือดีใจ
เจียงเหยี่ยน ชิงิ และซืออีนั่วแปะมือกันเพื่อแสดงความยินดี
ฉันถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่อย่างโล่งอกถึงแม้ว่าพวกเขาจะบอกฉันว่าเงินห้าพันหยวนนี้ใช้ซื้ออาวุธได้อย่างสบายแต่ถ้าไม่คิดถึงเื่การซื้ออาวุธแล้วละก็เงินห้าพันหยวนนี้ก็สามารถต่อชีวิตฉันไปได้อีกหลายวันเลย
แล้วอีกอย่าง นักศึกษาใหม่คนอื่นๆ ก็จะต้องได้รับรางวัลที่ไม่เหมือนกันตามยอดจำนวนของการกดถูกใจในวีดีโอเพราะรางวัลเหล่านี้มาจากจำนวนการกดถูกใจของทุกคนซึ่งขั้นตอนนี้ก็เป็สิ่งที่คนบนโลกมนุษย์ใช้เพื่อวัดผลปริมาณเช่นเดียวกัน
ตอนเที่ยงวันนี้ฉันก็เลยได้เลี้ยงเป็ดปักกิ่งทุกคน
เจียงเหยี่ยนที่น่าสงสารทำได้แค่มองพวกเรากินสำหรับคนที่เป็สายกินแล้ว ถ้าหากทำได้แค่มองแต่กินไม่ได้ฉันคิดว่ามันเป็ความทรมานแบบสุดๆ
ในตอนบ่าย ฉันเริ่มคุยกับโทรศัพท์เวทมนตร์นั่นอยู่ภายในห้อง
โทรศัพท์เวทมนตร์นี้เป็เทคโนโลยีขั้นสูงเหมือนอย่างที่เห็นในหนังเลยใช้งานง่าย ฟังก์ชันครบถ้วน แล้วยังมีลูกเล่นถามได้ตอบได้อีก
"กัวเต๋อกัง"
"อยู่จ้า~~ เธอมีอะไรจะสั่งฉันไหม" ใบหน้าอ้วนกลมของกัวเต๋อกังปรากฏขึ้นมาบนหน้าจอโทรศัพท์ที่โปร่งแสงนั้น
ฉันนอนเอนตัวอยู่บนเตียงนอนพลางมองไปทางประตูอยากที่จะถาม "ทำไมที่แดนเทพนี่ถึงโบราณคร่ำครึซะขนาดนั้นทำไมต้องแบ่งแยกความแตกต่างระหว่างเทพกับคนด้วย"
"อุ้ย! ปัญหานี้ตกมาถึงฉันแล้วเหรอเนี่ยถ้าอย่างนั้นฉันให้หยูเชียนมาอธิบายให้เธอฟังดีไหม"
"คุณพาหยูเชียนมาด้วยเหรอ"
"ฮ่าฮ่าล้อเล่นน่า หยูเชียนนะเหรอ ฉันเก็บเขาไว้ที่บ้านแล้ว"
"...ทำไมฉันถึงรู้สึกว่าเสียงที่ใช้คุยกับกัวเต๋อกังเหมือนเสียงร้องละครเพลงเลย..."
"ละครเพลงสนุกมากนะโจมตีดุเดือด ถูกทำนองคลองธรรม"
"..." หมดคำจะพูดเลยจริงๆ
หัวกลมเหมือนลูกแตงโมของกัวเต๋อกังที่อยู่ในโทรศัพท์ส่ายไปมาหรี่ตาลงและพูดด้วยเสียงอันแ่เบาราวกับกลัวว่าจะมีคนมาแอบฟัง "เธอจะพูดว่าที่นี่โบราณคร่ำครึได้ยังไงกันเธอคิดดูสิว่าเทพกับมนุษย์มีอายุขัยไม่เท่ากัน ถ้าหากว่าเทพไปตกหลุมรักมนุษย์และส่งเสริมให้มนุษย์ได้เป็เทพ แบบนี้ไม่เรียกว่าเป็การใช้เส้นสายหรอกเหรุ์บนโลกแบบพวกเธอเกลียดคนที่ใช้เส้นสายแบบนี้ไม่ใช่เหรอ"
ฉันคิดดูดีๆ แล้วที่แท้ก็เพราะเื่นี้นี่เองฟังจากที่เขาพูดมาแล้วทำไมฉันถึงคิดว่าเทพที่หลงรักมนุษย์ก็ควรที่จะต้องกลายมาเป็มนุษย์มันก็เป็เื่ที่ถูกต้องแล้วนี่นา
"เธอดูสิเธอเข้าใจแล้วใช่ไหม ดังนั้น การที่เทพรักกับมนุษย์แล้วต้องกลายเป็มนุษย์ แล้วมันจะยุติธรรมสำหรับใครล่ะอีกอย่าง ไม่เพียงแต่ว่าเทพจะไม่ได้กลับมาเป็เทพแล้วแต่เขาจะต้องใช้ชีวิตอยู่ในดินแดนแห่งนี้ในฐานะมนุษย์คนหนึ่งเท่านั้นสาวน้อยเธอว่ามันไม่ดูโง่ไปหน่อยเหรอ อวัยวะในร่างกายก็ครบนี่ทำไมถึงได้ขาดมันสมองไปได้นะเนี่ย"
พรูดดด มาบอกว่าฉันขาดมันสมองเนี่ยนะฉันโดนเ้าโทรศัพท์นี่แขวะเข้าแล้ว ฟังก์ชันของโทรศัพท์เครื่องนี้มีประสิทธิภาพสูงมากเช่นเดียวกับอุปกรณ์ที่ติดตามตัวของกัวเต๋อกังนั้นแหละ
"ถ้าอย่างนั้นแล้วทำไมพวกเทพหรือว่าปีศาจจะต้องรีบแต่งงานด้วยล่ะ" เอ๊ะ เสียงฉันกลายเป็สำเนียงของคนทางเหนือไปซะแล้ว คิดๆ ดูแล้วถ้าฉันเรียนไม่จบจากมหาลัยเทพและปีศาจนี้ฉันกลับไปร้องละครเพลงบนโลกมนุษย์ก็ได้นะเนี่ย
"สาวน้อยเธอควรจะกินยาได้แล้วนะ ฉันมียาบำรุงสมองอยู่ เธอจะเอาสักสองเม็ดไหม" เขาหยิบยาบำรุงสมองออกมาหนึ่งขวด ฉันถลึงตาใส่เขา เขายิ้มเจื่อนๆ ตอบกลับมาและเก็บขวดยานั้น "สาวน้อย เธอนี่โง่ชะมัดเลย ถ้าพวกเขาไม่แต่งงานพวกเขาก็จะต้องกลายเป็มนุษย์แบบพวกเธอยังไงล่ะ"
"กลายเป็มนุษย์งั้นเหรอ" ฉันใกับสิ่งที่ได้ยิน
กัวเต๋อกังที่อยู่ในโทรศัพท์นั้นพยักหน้า "มันคือกฎถ้าไม่ได้แต่งงานก็จะต้องไปเกิดเป็สิ่งไม่ดีบนโลกมนุษย์ คิดดูสิว่ามันน่ากลัวขนาดไหนใครจะไปรู้ว่าเธอจะได้ลงไปเกิดเป็แมลงสาบหรือว่าขอทานมันมีแต่สิ่งชั่วร้ายทั้งนั้น พวกเทพและปีศาจพวกนี้ต่างก็เคยชินกับความสุขสบายไม่มีใครที่จะยอมไปเกิดเป็มนุษย์หรอก แต่ทุกคนก็ติดต่อกับทั้งหกปรโลกน้อยมากเลยนะเพราะแบบนี้จึงเกิดเป็มหาลัยเทพและปีศาจขึ้นมาเพื่อให้ทุกคนได้อยู่ด้วยกันรู้จักกัน เข้าใจกัน ที่จริงแล้วแบบนี้ก็ค่อนข้างดูสนิทกันดี สาวน้อยเธอเป็มนุษย์อยู่แล้ว ดังนั้นกฎพวกนี้จึงไม่ได้ส่งผลกระทบอะไรกับเธอ ไม่ต้องกลัวแต่ยิ่งเป็จอมเทพจอมมารชั้นสูงก็จะยิ่งกลัวมากขึ้นเท่านั้น เธอเข้าใจรึยัง"
ฉันพยักหน้ารับ "ฉันเข้าใจแล้วขอบคุณมากนะที่บอกกฎบังคับของมหาลัยปีศาจนี้ให้ฉันรู้"
"แฮะๆไม่ต้องขอบคุณหรอก แสงจันทร์ส่องเจิดจ้าที่หน้าเตียงเผลอว่าเพียงคือน้ำแข็งที่เคลือบพื้น เงยหน้ามองจันทรายามค่ำคืน มีเื่ใดใคร่รู้ขอเชิญคุณถามกัว เต๋อ กัง วันนี้คุยกันแค่นี้ ละครจบลงแล้วฉันเลี้ยงเอง ใครไปคนนั้นก็จ่ายเงิน~~~" เสียงกัวเต๋อกังเงียบไปแล้ว ทิ้งไว้เพียงความแปลกใจ