บทที่ 74: สมาคมโบตั๋นดำปรากฏตัว
ซากปรักหักพังของหอคัมภีร์หลวงยังคงคุกรุ่นไปด้วยควันและเปลวไฟที่ริบหรี่...กลิ่นไหม้ของกระดาษและไม้เก่าแก่ลอยคละคลุ้งไปทั่วบริเวณ แสงจันทร์ถูกบดบังด้วยควันดำหนาทึบ ทำให้บรรยากาศยิ่งดูน่ากลัวและลึกลับ...องค์ฮ่องเต้ประทับยืนนิ่งท่ามกลางความวุ่นวาย พระพักตร์ของพระองค์เคร่งขรึมจนน่าหวาดเสียว...ราชครูเจิ่นถูกมัดมือไว้ด้านหลัง คุกเข่าอยู่ต่อหน้าพระองค์ ส่วนเจิ่นฮวาถูกหามไปรักษาที่สำนักแพทย์หลวงแล้ว...
"ราชครูเจิ่น" องค์ฮ่องเต้ตรัสเสียงเย็นเยียบ "เ้าทำลายมรดกพันปีของราชวงศ์ลงในคืนเดียว และยังฆ่าทหารองครักษ์ของข้า และก่อฏต่อบัลลังก์ เ้ามีอะไรจะกล่าวก่อนรับโทษปะา"
ราชครูเจิ่นเงยหน้าขึ้นช้าๆ ดวงตาที่เคยเต็มไปด้วยปัญญาบัดนี้กลับว่างเปล่าและหมดหวัง "ข้าเป็เพียงตัวตลกพ่ะย่ะค่ะ ตัวตลกที่คิดว่าตนเองฉลาด แต่กลับถูกหลอกมาสิบห้าปี" ขณะนั้นเอง ลมกลางคืนพลันพัดแรงขึ้นอย่างฉับพลัน เปลวไฟที่กำลังมอดดับถูกพัดให้ลุกโชนอีกครั้ง และท่ามกลางแสงไฟที่ริบหรี่นั้น...
เงาดำสิบกว่าร่างปรากฏขึ้นราวกับผีในความมืด!พวกเขาสวมชุดคลุมดำสนิท ใบหน้าถูกปิดบังด้วยผ้าดำ มีเพียงดวงตาที่ฉายแววเย็นเยียบ ที่อกเสื้อของแต่ละคนมีตราโบตั๋นดำปักไว้..."องครักษ์!" หัวหน้าขันทีเฉินะโ "ปกป้องฝ่าา!"ทหารองครักษ์รีบล้อมรอบองค์ฮ่องเต้ แต่กลุ่มชุดดำกลับไม่ได้เคลื่อนไหวจะโจมตี พวกเขายืนนิ่งเป็วงกลม ราวกับรอคอยบางสิ่ง...
และแล้วจากกลุ่มคนชุดดำ ร่างหนึ่งก็ค่อยๆ ก้าวออกมา...เป็หญิงสูงวัย สวมชุดคลุมดำปักลายโบตั๋นด้วยด้ายเงิน ใบหน้าของนางถูกปิดบังด้วยผ้าคลุมหน้าสีดำ แต่ดวงตาคู่นั้น... แม้จะเต็มไปด้วยริ้วรอยแห่งกาลเวลา แต่กลับคมกริบและเต็มไปด้วยความแค้นที่สะสมมานาน
"สิบห้าปี" นางเอ่ยขึ้นเสียงแหบต่ำ "พวกเรารอคอยมาสิบห้าปีเต็ม"
"พวกเ้าคือใคร!" องค์ฮ่องเต้ตรัสถามหญิงชราค่อยๆ ดึงผ้าคลุมหน้าออก เผยให้เห็นใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยแผลเป็ ใบหน้าที่ครั้งหนึ่งเคยงดงาม แต่บัดนี้กลับบิดเบี้ยวจากการทรมาน"หม่อมฉันคือหลิ่วซื่อ" นางกล่าว "อดีตหัวหน้านางกำนัลของพระสนมเอกจิว"
ทุกคนอึ้งไป ซูเหยียนจ้องมองหญิงชราด้วยความใ นี่คือผู้นำของสมาคมโบตั๋นดำ!
"หลิ่วซื่อ..." องค์ฮ่องเต้ขมวดพระขนง "ข้านึกว่าเ้าตายไปแล้ว"
"ตาย?" หลิ่วซื่อหัวเราะเสียงขมขื่น "หม่อมฉันเกือบตาย ตอนที่ถูกทรมานให้สารภาพว่านายหญิงของหม่อมฉันเป็ชู้กับใคร ตอนที่ถูกตราหน้าว่าเป็ทาสนอกคอก แต่หม่อมฉันก็รอด เพราะหม่อมฉันต้องมีชีวิตอยู่เพื่อล้างแค้นให้นายหญิงเพค่ะฝ่าา"นางหันไปมองราชครูเจิ่น "ท่านราชครู ท่านคิดว่าท่านรักพี่สาวของท่านมากใช่ไหม? แต่ท่านรู้ไหมว่าพระนางต้องทนทุกข์ทรมานแค่ไหนก่อนตาย"
ราชครูเจิ่นสั่นเทา "ข้า... ข้าพยายามช่วยนาง..."
"ช่วย?" หลิ่วซื่อขมวดคิ้ว "ท่านถูกหลอก! ท่านคิดว่าท่านกำลังแก้แค้นให้พระนาง แต่ท่านกลับร่วมมือกับฆาตกรตัวจริง!"นางหันมาทางซูเหยียน "หมอหญิงซู ข้าได้ติดตามท่านมาตลอด ข้าเห็นความกล้าหาญและความซื่อตรงของท่าน ท่านคือคนเดียวที่ข้าไว้ใจได้" ซูเหยียนรู้ทันทีว่าสายตาที่มองนางจากระยะไกลก็คือผู้คนเหล่านี้นี่เอง
หลิ่วซื่อยื่นม้วนผ้าไหมเก่าๆ ออกมา "นี่คือสิ่งที่นายหญิงของข้าเขียนไว้ก่อนตาย พระนางรู้ว่าพระนางกำลังจะตาย พระนางรู้ว่าใครคือฆาตกร"ซูเหยียนรับม้วนผ้าไหมมาด้วยมือที่สั่นเล็กน้อย นางค่อยๆ คลี่มันออก ตัวอักษรบนผ้าไหมเขียนด้วยเื!
"ข้า จิวหลิน กำลังจะตาย... ฆาตกรไม่ใช่ใครที่ไกลตัว แต่เป็คนที่อยู่ใกล้ที่สุด... เขาเฝ้ามองข้าทุกวัน ด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความปรารถนาอันวิปริต... ข้าปฏิเสธเขา และนั่นคือความผิดของข้า... หัวหน้าขันที"
ข้อความขาดตอนตรงนั้น...ราวกับพระสนมจิวสิ้นใจก่อนจะเขียนจบ...ซูเหยียนอ่านออกเสียง ทุกคนนิ่งอึ้ง สายตาทั้งหมดหันไปมองหัวหน้าขันทีเฉินที่ยืนอยู่ข้างองค์ฮ่องเต้...หัวหน้าขันทีเฉินยังคงสีหน้าสงบนิ่ง "นี่มันเป็การใส่ร้ายพ่ะย่ะค่ะ! ข้ารับใช้ฝ่าามาสามสิบปี ข้าภักดีต่อราชบัลลังก์ต้องเป็เื่เข้าใจผิดอย่างแน่นอน!"
"ภักดี?" หลิ่วซื่อหัวเราะเย็น "แล้วทำไมท่านถึงแอบเข้าไปในห้องของนายหญิงทุกคืนตอนที่องค์ฮ่องเต้ไม่อยู่ ทำไมท่านถึงขโมยของใช้ส่วนตัวของพระนาง ทำไมท่านถึง"
"หุบปาก!" หัวหน้าขันทีเฉินะโ "พวกเ้ากำลังปลักปลำข้าโดยไม่มีหลักฐาน!"
"หลักฐานรึ?" หลิ่วซื่อยิ้มเศร้า "พวกเราใช้เวลาสิบห้าปีรวบรวมหลักฐาน"
นางผายมือ สมาชิกสมาคมโบตั๋นดำคนหนึ่งก้าวออกมา เป็ขันทีแก่คนหนึ่ง
"ข้าคือหวังกง" เขากล่าว "อดีตผู้ช่วยของหัวหน้าขันทีเฉิน ข้าเห็นเขาเอายาพิษใส่ในน้ำแกงซิ่งเหรินที่จะถวายพระสนมจิว"
อีกคนก้าวออกมา "ข้าคือนางกำนัลเม่ย ข้าเห็นเขาขโมยผมของพระสนมจิวไปทำเป็เครื่องราง"หลักฐานเริ่มทับถมขึ้นเรื่อยๆ แต่หัวหน้าขันทีเฉินยังคงปฏิเสธ จนกระทั่ง ซ่งไป่เฉินพูดขึ้น "ถ้างั้นลองตรวจค้นห้องของเขาสิ ถ้าเขาบริสุทธิ์จริง ก็ไม่มีอะไรต้องกลัว" องค์ฮ่องเต้ทรงพิจารณาครู่หนึ่งก่อนจะเอ่ยขึ้น.
"ค้น!"
องครักษ์หลวงต่างรีบไปค้นห้องของหัวหน้าขันทีเฉิน ไม่นานก็กลับมาพร้อมกับหีบไม้เล็กๆ เมื่อเปิดออก... ข้างในเต็มไปด้วยของที่น่าขนลุก ผมที่ถักเป็เปีย ผ้าเช็ดหน้า ปิ่นปักผม และที่น่าสะพรึงที่สุด... รูปวาดของพระสนมจิวนับสิบภาพ วาดในท่าทางต่างๆ บางภาพวาดขณะพระนางบรรทม!
"นี่..." องค์ฮ่องเต้พระพักตร์ซีดเผือด "เฉิน... เ้า..."หัวหน้าขันทีเฉินทรุดลง เขารู้ว่าทุกอย่างจบแล้ว
"ใช่! ข้ารักพระนาง!" เขาะโ "ข้ารักพระนางมาั้แ่แรกพบ! แต่พระนางดูถูกข้า! ข้าเป็แค่ขันที! ไม่ใช่ผู้ชาย! พระนางปฏิเสธข้า! หัวเราะเยาะข้า!"เขาหันไปมองราชครูเจิ่น "แล้วข้าก็รู้ความลับของเ้า...รู้ว่าเ้าอยากแก้แค้นให้พี่สาว ข้าจึงใช้เ้า! ข้าหลอกเ้าว่าองค์ฮองเฮาเป็คนฆ่านาง ข้าให้เ้าเป็มือสังหารแทนข้า!"ราชครูเจิ่นตัวสั่นด้วยความโกรธ "เ้า... เ้าใช้ข้า...ใช้ความรักที่ข้ามีต่อพี่สาว..."
"ความรัก?" หัวหน้าขันทีเฉินหัวเราะบ้าคลั่ง "เ้ารู้อะไรเกี่ยวกับความรัก! เ้ามีครบทุกอย่าง! แต่ข้า... ข้าเป็แค่ขันที! ข้าไม่มีสิทธิ์แม้แต่จะรัก!"เขาหันไปมององค์ฮ่องเต้ "ฝ่าาทรงรู้ไหมว่าพระสนมจิวทรงร้องไห้ทุกคืน ทรงเหงา ทรง้าคนที่เข้าใจ...แต่พระองค์ไม่เคยอยู่ข้างนาง ข้าอยู่...ข้าดูแลพระนางทุกวัน...แต่พระนางกลับมองไม่เห็นข้า!"
"พอเถอะ!" องค์ฮ่องเต้ตรัสเสียงสั่น
"เ้าสารภาพแล้ว ลากตัวไปปะา!"
"ฝ่าานั่นไม่ใช่ความผิดของข้าเพียงคนเดียว..พระองค์ก็มีส่วนด้วย!"
"ตัดหัวมันเดี๋ยวนี้"
ในขณะที่ทุกอย่างกำลังวุุ่นวายราชครูเจิ่นยกมือเรียกซูเหยียนเข้ามาใกล้แล้วเอ๋ยขึ้น"ข้าขอโทษโง่ที่ถูกหลอก...แต่สิ่งที่ข้าเตรียมไว้มันเป็อันตรายกับทุกคน" ราชครูเจิ่นกล่าว ซูเหยียนรู้สึกไม่ดี
"แท้จริงยาพิษที่ข้าใส่ในสุราเมื่อวาน... มันไม่ได้มีแค่นั้น...ข้าใส่มันในน้ำบ่อใหญ่ของวังหลวงด้วย ตอนนี้ทุกคนในวังคงดื่มน้ำนั้นไปแล้ว อีกไม่นาน... ทุกคนจะตายกันหมด...ซูเหยียนเ้าต้องรีบคิดหาทางแก้ไขเร็วเข้า!"พูดจบ
อั๊ก.!ราชครูเจิ่นหยุดหายใจ ดวงตาค้างเบิกกว้าง และสิ้นใจทันที.!
