บทที่ 13 สัตว์ประหลาด
“นั่นยังห่างไกลจากขีดจำกัดของฉัน”
เมื่อเดินออกจาก โรงฝึกงู จางฝูเซิง ครุ่นคิด สองพันจิน ในการชกครั้งสุดท้ายนั้นเป็ผลมาจากการใช้ วิชาสายฟ้าฤดูใบไม้ผลิ ในระดับ ‘สำเร็จขั้นต้น’ อย่างเต็มที่
เทคนิคการออกแรง ของเขาไม่สามารถดึงพลังหมัดได้ถึงสามเท่าของพละกำลัง
แต่ก็เพราะเหตุนี้ พลังนั้นจึงยังห่างไกลจาก ขีดจำกัด ของเขา
หากได้เรียนรู้ เทคนิคการออกแรง ที่ถูกต้อง และสามารถกระตุ้น วิชาสายฟ้าฤดูใบไม้ผลิ ให้ใช้ได้ในระดับ สำเร็จขั้นสูงเล็กน้อย อย่างสมบูรณ์...
คาดว่าจะ ทะลุสามพันจิน หรือสูงกว่านั้น
“วิชาการหายใจสายฟ้าฤดูใบไม้ผลิ ไม่เพียงแต่สามารถ กระตุ้นเืลม และ เสียงฟ้าผ่าของกระดูกและเส้นเอ็น เท่านั้น แต่ดูเหมือนว่าจะ เพิ่มพละกำลัง ได้ด้วย”
“ไม่สิ พูดให้ถูกคือ เสียงฟ้าผ่าของกระดูกและเส้นเอ็น กระตุ้น พลังของ กระดูกสองร้อยหกชิ้น ทั่วร่างกายต่างหาก”
ในขณะที่ความคิดหมุนวน จางฝูเซิง ก็ ขมวดคิ้ว เล็กน้อย เขาเลี้ยวเข้าซอยเล็ก ๆ แห่งหนึ่ง และ ล้วงมือ ไปที่เอวอย่างเงียบ ๆ กำปืนพก ไว้แน่น
“ไม่ทราบว่า ยอดฝีมือ ท่านใด?” เขาถามอย่างราบเรียบ
ครู่หนึ่ง
“เ้าหนุ่ม เอ๋ย ัั ช่าง เฉียบคม เสียจริง เคล็ดวิชาเพ่งจิต ฝึกได้ดีไม่เบา” เสียงที่ แหบแห้ง ดังขึ้น
จากนั้น ชายชรา ที่ดูเหมือน กำลังจะตาย สวมชุดฝึกยุทธ์ ก็ค่อย ๆ เดินออกมาจาก เงา
“ท่านเป็ใคร?” จางฝูเซิง ก้มตัว เล็กน้อย เตรียมพร้อมสำหรับการต่อสู้ และ ปลดสลักนิรภัย ของปืนพกอย่างเงียบ ๆ
นักยุทธ์ระดับสี่บ่มเพาะ ซึ่งเป็การบ่มเพาะก่อนถึง ระดับเนื้อหนัง ไม่สามารถต้านทานะุได้—เฉินน่วนอวี้ ในวันนั้นก็ถูกยิงไปหนึ่งนัด
ชายชรา ที่ใกล้สิ้นอายุขัย ไอ เล็กน้อย ดูเหมือน เหนื่อยล้า มาก เขาพูดเสียงทุ้ม
“ข้า เ้าสำนัก ของ โรงฝึกงู”
“โอ้?” จางฝูเซิง หรี่ตา “มีอะไรหรือ? เมื่อครู่ไป ล่วงเกิน ท่านเ้าสำนักเข้าแล้วหรือ?”
“ก็ใช่ และก็ไม่ใช่”
ชายชราส่ายหน้าอย่างจริงจัง
“เ้าหนุ่ม การกระทำของเ้าเมื่อครู่ มี เจตนาท้าทายโรงฝึก ราวกับว่า จงใจ มาอวดเบ่งที่ โรงฝึกงู ของข้า”
“ที่ ข้าไม่อยู่ ในโรงฝึก และ ไม่อธิบาย ต่อหน้าสาธารณชน ก็เพราะไม่อยาก บาดหมาง กับเ้า แต่ตาม กฎ ของโรงฝึก ข้า ต้อง มาพบเ้า”
จางฝูเซิง ยังคง ระมัดระวัง และพูดอย่างเ็า
“แล้วไงต่อ?”
เขา ขมวดคิ้ว เล็กน้อย เมื่อครู่ก็ไม่ได้ลงมือโดยตรง ตัวเขาเองก็ไปแค่ วัดพลัง เท่านั้น... เ้าของโรงฝึกยุทธ์ นี่ช่างอ่อนไหวขนาดนี้เลยหรือ?
กฎอะไรกัน?
แต่เมื่อคิดดูอีกครั้งก็เป็ไปได้ นักยุทธ์ระดับหนึ่งบ่มเพาะ วิ่งไป วัดพลัง ที่หน้าบ้านคนอื่น ฟังดูไม่น่าเชื่อถือเท่าไหร่
เ้าสำนักงู ไอ อย่างรุนแรงอีกครั้ง กล่าวอย่าง อ่อนล้า
“ก็ต้อง แลกเปลี่ยน กับ เ้าหนุ่ม สักยก เอาชนะ เ้าด้วย สามกระบวนท่า หรือ สองกระบวนท่า ถ้าเ้ามา ท้าทายโรงฝึก จริง ๆ ในภายหลังเมื่อข้าประกาศออกไป ข้าก็ไม่เสียหน้า”
สุดท้าย เขาก็เสริมว่า
“ไม่ต้องห่วง จะหยุดแค่พอประมาณ”
จางฝูเซิง หรี่ตา คิดอยู่ครู่หนึ่ง แล้วก็ ปล่อยปืนพก ออกจากมือในที่สุด
หลังจาก เคล็ดวิชาเพ่งจิตกระดูกขาวโพลน ก้าวเข้าสู่ขั้น สำเร็จสูง ในระดับ [ฉันระลึกถึงอะไร สิ่งนั้นจักเป็จริง] จิติญญา ของเขาก็ เฉียบคม อย่างยิ่ง
ตอนนี้เขาสามารถรับรู้ได้อย่างชัดเจนว่า ชายชรา คนนี้ไม่มี เจตนาร้าย มากนัก
และที่สำคัญที่สุดคือ ชายชรา ทั้งตัวแผ่ซ่าน กลิ่นอายแห่งความเสื่อมสลาย ดูเหมือน แก่ใกล้ตาย จริง ๆ... เขาอาจจะไม่ใช่คู่ต่อสู้ที่เอาชนะไม่ได้
“ได้ยินว่าเ้าสำนักเก่าเป็ นักยุทธ์ระดับสองบ่มเพาะ?”
ชายชรา เงียบ ไปครู่หนึ่ง
“สองบ่มเพาะ? ในตอนนี้ก็... ข้าจะ เริ่มก่อน นะ เ้าหนุ่ม ระวังตัวด้วย”
เขาไม่ให้โอกาส จางฝูเซิง ได้พูดมาก แม้จะดูเหมือน แก่ใกล้ตาย แต่ในพริบตาเดียวเขาก็ พุ่งตัว ข้ามระยะทางกว่า สิบเมตร เข้ามาประชิดตัว!
เร็ว
เร็ว มาก!
จางฝูเซิง ใ ม่านตา หดตัวลงทันที กำปั้น ของชายชราในสายตาของเขา ใหญ่ขึ้น เรื่อย ๆ
เขา ไม่เป็ การต่อสู้ ทำได้เพียงทำตามสัญชาตญาณ ไขว้ฝ่ามือ ทั้งสองข้างเพื่อ สกัด กำปั้นที่เต็มไปด้วย รอยเหี่ยวย่น แต่ชายชรากลับ เปลี่ยนหมัดเป็ฝ่ามือ เปลี่ยนการโจมตีเป็การจิ้ม
ฝ่ามือสี่นิ้ว พุ่งผ่าน ช่องว่าง ระหว่างมือทั้งสองข้างของ จางฝูเซิง มุ่งตรงไปยัง ใบหน้า ของเขา!
เร็ว เกินไป
จางฝูเซิง รู้สึกเพียงแค่ ภาพพร่ามัว ตรงหน้า ฝ่ามือจิ้ม ก็หยุดนิ่งอยู่ตรงหน้า สันจมูก ของเขา
“หนึ่งกระบวนท่า” ชายชราดึงมือกลับ ไอ แล้วพูดว่า “เอาชนะ เ้าอีก สองกระบวนท่า”
เมื่อพูดจบ เขาไม่ได้ทำอะไรเพิ่มเติม เพียงแค่ ปล่อยหมัดตรง อย่าง ง่าย ๆ ครั้งนี้ดูเหมือนจะ ไม่มีการเปลี่ยนแปลง ใด ๆ เพียงแค่ พุ่งตรง เข้ามา
แต่ในสายตาของ จางฝูเซิง หมัดนี้กลับดูเหมือน ‘ไร้ที่ติ’ ไม่สามารถ หลบ หรือ ป้องกัน ได้เลย
สายตา ทั้งหมดถูก กำปั้น นั้น ดูดกลืน เอาไว้ ไม่สามารถละสายตาได้!
บ้าจริง!
“กระบวนท่าที่สอง” คำพูดถูกกล่าวออกมาก่อนที่หมัดจะถึงตัว แต่ก่อนที่คำพูดของชายชราจะจบลง
เ้าหนุ่ม ที่จิติญญาถูก ดูดกลืน ด้วยกำปั้นก็ แสดงความโกรธ ออกมาอย่างกะทันหัน พลังปราณ ทั้งตัว ร่วงหล่น ลงสู่ จุดเยือกแข็ง เหมือน คนตาย!
คนตาย ย่อม ไม่มีจิติญญา และจะไม่ถูก สะกดจิต
เขาสามารถ หลบ หมัดนั้นไปได้อย่าง ง่ายดาย
“อืม?” ชายชราประหลาดใจเล็กน้อย “นี่คือ เคล็ดวิชาเพ่งจิตกระดูกขาวโพลน ที่ใกล้จะ สำเร็จขั้นสูง แล้วงั้นหรือ? เ้าหนุ่ม เ้าน่าจะอายุ ไม่เกินยี่สิบสองหรือยี่สิบสาม ปีใช่ไหม?”
“สิบแปด” จางฝูเซิง ตอบด้วยเสียงเ็า ถอย ไปสามก้าว จ้องมอง ชายชราเขม็ง “ท่านรู้ได้อย่างไรว่าเป็ เคล็ดวิชาเพ่งจิตกระดูกขาวโพลน?”
ชายชรา ยิ้ม เล็กน้อย
“ข้าเห็นเ้าครั้งแรกที่ โรงฝึกงู ข้าก็รู้แล้ว กลิ่นอาย นั้นมัน รุนแรง เกินไป”
ทันใดนั้น สีหน้าของเขาก็ เคร่งขรึม และ ทอดถอนใจ
“สิบแปดปี เคล็ดวิชาเพ่งจิตกระดูกขาวโพลน ที่ใกล้จะ สำเร็จสูง... หงเทียนเป่า ได้ ศิษย์ดี อีกคนแล้วสินะ ไม่แปลกใจที่ให้เ้ามา ท้าทายโรงฝึก ถึงที่ แล้วเขาหาข้าเจอได้อย่างไร?”
จางฝูเซิง ตะลึง ไปครู่หนึ่ง และ เข้าใจ ในทันที
ตาแก่ คนนี้รู้จัก เ้าสำนักหง และดูเหมือนจะเป็ คู่ปรับ ด้วย ตอนนี้คง เข้าใจผิด อะไรบางอย่าง... เดี๋ยวก่อน
เ้าสำนักหง เป็บุคคลที่ เหนือกว่าระดับสิบสองบ่มเพาะ เป็ [ปรมาจารย์วิถียุทธ์] ที่แท้จริง นักยุทธ์ระดับสองบ่มเพาะ คู่ควรที่จะเป็ คู่ปรับ ของ เ้าสำนักหง ด้วยหรือ?
ในขณะที่ความคิดของ จางฝูเซิง หมุนวน ชายชรา ก็ ปล่อยฝ่ามือ ลอยมาอีกครั้ง
ฝ่ามือ ที่แก่ชรานั้นราวกับ สายลมพัดผ่านูเาสูงนับหมื่น มีทั้ง ความนุ่มนวล และ ความแข็งแกร่ง อยู่ในตัว และยังมีความหมายของ การแทรกซึมทุกช่องว่าง อีกด้วย เป็กระบวนท่าที่ ‘หลีกเลี่ยงไม่ได้’ อีกครั้ง!
ทั้งหมัดเมื่อครู่และฝ่ามือในตอนนี้ ดูเหมือนจะเกี่ยวข้องกับ [จิติญญา]?
เคล็ดวิชาเพ่งจิต?
จางฝูเซิง นึกถึงคำพูดของ หนิวต้าลี่ ที่ซื่อสัตย์ในชั้นเรียน เคล็ดวิชาเพ่งจิต
เคล็ดวิชาเพ่งจิต เป็ พื้นฐาน ที่สุด แต่ก็เป็สิ่งที่ สำคัญที่สุด สำคัญกว่า การหล่อเลี้ยงร่างกาย มากนัก
ความคิดหมุนเวียนราวกับ สายฟ้าแลบ
“ฉัต!!” เขา คำราม เสียงฟ้าผ่าของกระดูกและเส้นเอ็น ถูกกระตุ้นในร่างกาย เสียงฟ้าผ่าของกระดูกและเส้นเอ็น นั้น พุ่ง ออกมาจากปากของเขา กลายเป็ เสียงฟ้าร้อง ครึ่งหนึ่ง ก้องกังวาน ในซอยเล็ก ๆ ทำลายความหมาย ของ ‘การแทรกซึมทุกช่องว่าง’ และ ‘หลีกเลี่ยงไม่ได้’ ระหว่างนิ้วมือและฝ่ามือของชายชรา!
ใบหน้าของชายชราแสดงความ ประหลาดใจ
จางฝูเซิง เอียงตัว หลบ และพยายาม ตอบโต้
เขาต้อง พยายามอย่างเต็มที่
เขาใช้ เคล็ดวิชาเพ่งจิต เพ่งจิต เห็นตัวเองเป็ กระดูกขาวโพลน กระดูกขาวโพลน นั้น งอกเนื้อหนัง และ เปล่งแสง ออกมา แล้ว ิั ใต้ิัของเขาก็ เปล่งแสงเรืองรอง ออกมาจริง ๆ!
เ้าสำนักงู ใ จริง ๆ และร้องออกมาอย่างควบคุมไม่ได้
“เคล็ดวิชาเพ่งจิตกระดูกขาวโพลน สำเร็จขั้นสูง! หงเทียนเป่า บ้าเอ๊ย ไปเจอ โชคดี อะไรมา!”
กระดูกสองร้อยหกชิ้น ทั่วร่างกาย เปล่งแสงเรืองรอง จางฝูเซิง กระตุ้น เสียงฟ้าผ่าของกระดูกและเส้นเอ็น อีกครั้ง กักเก็บ และ สะสม อยู่ภายในร่างกาย ประสาน กันจนกลายเป็ เสียงฟ้าผ่าฤดูใบไม้ผลิ ที่แท้จริง
จากนั้น
ปล่อยหมัด
เสียงฟ้าผ่าฤดูใบไม้ผลิ ที่สั่งสมอยู่ในร่างกาย พุ่ง ออกมาจาก สามพันรูขุมขน บนหมัด ราวกับว่าหมัดนั้นได้ เหวี่ยงสายฟ้า ออกไป
‘ตูม! แคร่ก!’
เสียงฟ้าร้อง ก้องกังวาน ภายในตรอกเล็ก ๆ
“วิชาสายฟ้าฤดูใบไม้ผลิ? วิชาสายฟ้าฤดูใบไม้ผลิ มี ความลึกลับ เช่นนี้ได้อย่างไร??” ชายชราดูเหมือนจะ เข้าใจ เคล็ดวิชา ของ สำนักยุทธ์หงจี้ เป็อย่างดี แม้จะโวยวาย แต่ก็ไม่กล้า ประมาท อีกต่อไป
ในขณะที่เขายังคง ด่าทอ ‘หงเทียนเป่าเหยียบขี้หมา’ เขาก็ ประสานมือ ทำท่า ร่ายรำ จากนั้นก็ ย่ำเท้า พุ่งไปข้างหน้า และ เปล่งเสียง “ตึ้ง!”
ก็ คำราม เป็เสียงฟ้าร้องออกมา!
เสียงฟ้าร้อง ทั้งสอง ปะทะ กัน
ชายชรา พุ่งเข้าใกล้ ปัด หมัดของ จางฝูเซิง ออกไป จิ้มนิ้ว ไปที่ หว่างคิ้ว ของเขาอย่าง แ่เบา และ สับฝ่ามือ ไปที่ คอ ของเขาอย่าง แ่เบา อีกครั้ง
ทั้งสองหยุดอยู่แค่ พอประมาณ
เหงื่อเย็น ผุดขึ้นที่ด้านหลังของ จางฝูเซิง สองกระบวนท่า นี้ เขาไม่รู้จริง ๆ ว่าจะ หลบ หรือ ป้องกัน ได้อย่างไร
ถ้าโดน เต็ม ๆ...
แน่นอนว่า ตาย
“เอาชนะ เ้า สามกระบวนท่า แล้ว” ชายชรา ถอย ออกไป แม้จะชนะ แต่ก็ไม่เห็นความ ดีใจ เลยแม้แต่น้อย ใบหน้าเหมือนกับ กินอุจจาระ เข้าไป
“ทำไมวะ?” เขาะโอย่างโกรธเกรี้ยว จ้องมองจางฝูเซิงอยู่ครู่หนึ่ง จนขนของเขาลุกชัน
ผ่านไปพักใหญ่
“หงเทียนเป่า บ้าเอ๊ย!” ชายชรา ด่าทอ อีกครั้งอย่างโกรธจัด หันหลัง เดินจากไปอย่างไม่ลังเล
ดูเหมือนว่าเขา ไม่อยากเจอ จางฝูเซิง อีกต่อไปแล้ว
ขณะที่เขาเดินจากไป ยังคงมีเสียง ‘โชคดีเหยียบขี้หมา’ ‘ทำไมวะ’ ‘์ไม่ยุติธรรม’ ก้องกังวาน
เสียง ด่าทอ ผสมผสานกับ เสียงแตร ของ รถยนต์ ที่ ระบบป้องกันขโมย ถูกกระตุ้นด้วยเสียงฟ้าร้องนอกซอย
จางฝูเซิง เช็ดเหงื่อ
“สัตว์ประหลาด ตาแก่นี่สัตว์ประหลาดชัด ๆ!” เขาพูดอย่างหนักแน่น
ชายชราที่เดินออกจากซอยก็ถอนหายใจ
“สัตว์ประหลาด เ้าหนุ่มนี่สัตว์ประหลาดชัด ๆ!”
“หงเทียนเป่า ไปตายซะ!”
