เมื่อฟังจนถึงตรงนี้ หลินเยว่จึงได้แต่รู้สึกใตอนที่ยังไม่รู้ก็ยังไม่ได้คิดอะไรเลย แต่พอรู้รายละเอียด เขาถึงได้เข้าใจว่าหากจะกลายเป็ปรมาจารย์แห่งหยกมันเป็เื่ที่ยากลำบากมาก
ท่านเฮ่อฉางเหอไม่ได้หยุดชะงัก เขาก็ยังคงพูดอย่างต่อเนื่อง“อย่าคิดไปเองว่าการได้รับบัตรการยอมรับสักใบเป็เื่ที่ง่ายมากความจริงขั้นตอนนี้มีความลำบากจริงๆ การยอมรับของแต่ละแห่งก็ไม่เหมือนกันมีบางแห่งคุณอาจจะต้องพนันหินหยก 10 ก้อนต่อเนื่องกันแล้วต้องพนันได้ทุกก้อนคุณถึงจะได้รับบัตรการยอมรับอันที่จริงขั้นตอนการยอมรับของแต่ละแห่งก็ไม่ได้มีการกำหนดตายตัว แล้วแต่สถานการณ์มีบางแห่งคุณอาจจะแค่มอบเงินก้อนโตให้กับทางสมาคมหยกของที่นั่น พวกเขาก็อาจจะยอมรับคุณแล้วก็ได้หาก้าได้รับบัตรการยอมรับทั้ง 6 ใบถ้าไม่ใช้เวลาหลายสิบปีก็แทบจะเป็ไปไม่ได้เลยยิ่งไปกว่านั้นด่านที่ยากสุดก็คือด่านสุดท้าย นั่นก็คือ การยอมรับจากปรมาจารย์แห่งหยก”
“อันที่จริงคุณก็ไม่ต้องกังวลไปก่อนขอแค่คุณสามารถสร้างผลงานเป็ที่ประจักษ์ในวงการการพนันหินหยกการยอมรับจากแต่ละแห่งย่อมง่ายขึ้น เหมือนปรมาจารย์แห่งหยกรุ่นของอาจารย์รวมทั้งตัวอาจารย์เองด้วย ล้วนเป็เพราะสามารถสร้างผลงานเป็ที่ประจักษ์ได้แล้วหลังจากนั้นก็มอบเงินให้กับสมาคมหยกทั้ง 6 แห่ง สมาคมหยกแต่ละแห่งจึงมอบบัตรการยอมรับให้กับพวกเราเป็การตอบแทนน้ำใจแต่สิ่งที่ยากที่สุดก็คือด่านสุดท้าย มีคนจำนวนมากต้องพ่ายแพ้ให้กับด่านนี้และต้องกลับไปมือเปล่า และยังมีข้อห้ามอีกอย่างหนึ่ง คือ หากด่านสุดท้ายสอบไม่ผ่านก็ไม่สามารถเข้าร่วมการทดสอบปรมาจารย์แห่งหยกภายใน 5 ปีอีก”
“เท่าที่รู้มา ในประวัติศาสตร์ยังไม่เคยมีใครผ่านการทดสอบด่านสุดท้ายภายในครั้งเดียวจำนวนน้อยที่สุดเท่าที่เคยมีก็คือ 2 ครั้ง มากที่สุดก็คือ6 ครั้ง ร่วมทดสอบมาั้แ่อายุ 51ปีจนกระทั่งอายุ 80 ปีถึงได้สอบผ่านอย่างเฉียดฉิว ดังนั้น ปรมาจารย์แห่งหยกในตอนนี้ก็มีพวกเราอยู่ไม่กี่คนรุ่นของพวกเราจำนวนน้อยที่สุดก็คือเข้าร่วมทดสอบ 4 ครั้งถึงแม้ว่าแต่ละยุคแต่ละสมัยจะมีปรมาจารย์แห่งหยกจำนวนน้อยมากแต่แต่ละคนก็มีความสามารถกันจริงๆอย่างความสามารถของเฮ่อโย่วจ้างความจริงก็น่าจะสามารถเข้าร่วมทดสอบปรมาจารย์แห่งหยกด่านสุดท้ายได้แล้วแต่สิ่งที่เขาขาดก็คือประสบการณ์ ความมีชื่อเสียง และการยอมรับผ่านไปอีกสิบกว่าปีเขาก็สามารถเข้าร่วมทดสอบด่านสุดท้ายได้แล้วส่วนสำหรับคุณน่ะหรอ คุณก็เป็ตัวประหลาดไงล่ะ!”
หลินเยว่ได้ยินประโยคนี้ก็ถึงกับอึ้งไปทันควันตอนแรกเขายังคิดว่าเขาจะได้ยินอาจารย์ของตนเองชมเชยเขาสักหน่อยคาดไม่ถึงว่าเขาจะได้รับผลการประเมินว่า “ตัวประหลาด”ตอนนี้เขาไม่รู้ว่าตัวเองควรจะหัวเราะหรือร้องไห้ดี
ท่านเฮ่อฉางเหอพูดอย่างเคืองๆ“คุณชอบการแกะสลักก็เลยไปเรียนด้านการแกะสลัก ชอบด้านเครื่องเคลือบก็ไปเรียนเครื่องเคลือบชอบการพนันหินหยกก็ไปพนันหินหยก แต่คุณไม่ยอมเลือกเรียนเพียงอย่างเดียวแต่กลับเลือกเรียนทุกอย่าง ส่วนคนอื่นเลือกเรียนเพียงอย่างเดียวกลับยังเรียนได้ไม่ดีแต่ดูคุณสิ เรียนทั้ง 3ด้านแต่ก็เรียนได้ดีทั้งหมด! อาจารย์ไม่รู้ว่าจะพูดถึงคุณอย่างไรดีไอ้หนูอย่างคุณเป็ตัวประหลาดจริงๆ!ด้านเครื่องเคลือบกับการแกะสลักอาจารย์ขอไม่พูดถึงถึงพูดไปก็ดูเหมือนไม่มีประโยชน์ คงมีแต่คำชมคุณทั้งนั้นแหละไอ้หนูอย่างคุณนอกจากเป็คนใจอ่อนจนเกินไปแล้ว อาจารย์ก็ยังไม่เห็นส่วนที่ไม่น่าพอใจส่วนอื่นๆด้านการพนันหินหยก เมื่อเทียบคุณกับเฮ่อโย่วจ้างแล้ว ด้านความรู้ก็น้อยกว่าหน่อยด้านประสบการณ์ก็น้อยกว่าหน่อย แต่คุณกลับเป็คนโชคดีมาก ไม่ว่าจะเป็หินหยกที่มีลักษณะแย่มากแค่ไหนแต่เมื่อตกถึงมือของคุณ มันก็จะกลายเป็หินหยกล้ำค่าทันทีอาจารย์ก็ไม่รู้จะประเมินคุณอย่างไรดี ขอมอบประโยคนี้ให้คุณ ขอให้จัดการทุกอย่างอย่างรอบคอบระมัดระวังก็แล้วกัน!”
คำพูดของท่านเฮ่อฉางเหอก็ทำให้หลินเยว่ทำตัวไม่ถูกแต่ในใจลึกๆ ของเขาก็รู้สึกดีใจมาก เพราะอาจารย์ของตนเองตำหนิกันตรงๆชมกันอย่างชัดเจนแบบนี้ก็เป็เื่ที่น่ายินดียิ่งนัก
“ตอนนี้คุณก็รู้แล้วว่าการจะกลายเป็ปรมาจารย์แห่งหยกมันยากลำบากขนาดไหนและก็รู้ว่าการที่คุณได้รับบัตรการยอมรับใบนี้มันเป็เื่ที่โชคดีขนาดไหน?”
“ครับ”
หลินเยว่พยักหน้าหงึกๆ ใส่โทรศัพท์บัตรการยอมรับใบนี้ดูเหมือนเป็การมอบให้กับเขาฟรีๆ เลยทีเดียว
“การได้รับบัตรการยอมรับแบบคุณแบบนี้ก็เป็เหตุการณ์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนและก็ถือว่าเป็เหตุการณ์มหัศจรรย์อย่างหนึ่งในวงการการพนันหินหยกผู้เฒ่าเหลยจากสมาคมหยกแห่งเถิงชงมักชอบสร้างกรณีพิเศษแบบนี้แต่วงการการพนันหินหยกอาจจะสามารถสร้างกระแสให้คนมีจิตใจดีเพราะมีคุณเป็ตัวอย่างก็เป็ได้และนี่ก็ถือว่าเป็เื่ที่ดีเื่หนึ่ง บัตรการยอมรับใบนั้นต้องรักษาให้ดีล่ะหากหายไปก็จะไม่มีใครจะออกชดเชยให้กับคุณ และก็ถือว่าเป็การไม่เคารพเถิงชงอีกด้วยถึงเวลานั้นคุณคิดอยากจะได้รับการยอมรับจากเถิงชงก็อาจจะกลายเป็เื่ที่ยากมาก” ท่านเฮ่อฉางเหอและฉินจงฮั่นก็พูดเป็เสียงเดียวกันพวกเขาล้วน้าให้หลินเยว่รักษาบัตรการยอมรับใบนี้ไว้เป็อย่างดี
“ครับ อาจารย์วางใจได้เลย ผมจะเก็บรักษามันไว้เป็อย่างดี”บัตรใบนั้นเขาได้เก็บไว้ในตู้เซฟนิรภัยภายในห้องเรียบร้อยแล้วไม่มีทางเกิดปัญหาอย่างแน่นอน
“ถ้าอย่างนั้นก็ดีแล้วการกระทำของคุณอาจารย์ยังคงรู้สึกไว้ใจเสมอส่วนเื่การได้รับราคาพิเศษเวลาซื้อหินหยกหากพวกเขาให้ราคาพิเศษนั่นก็คือราคาพิเศษหากไม่ใช่ราคาพิเศษคุณก็ใช้สายตาของตัวเองประเมินดู ห้ามทะเลาะกับพวกเขา่นี้การจะทำธุรกิจก็ไม่ใช่เื่ง่ายหากคุณทำเช่นนี้ก็จะสามารถสร้างมิตรภาพได้อย่างดี และจะเป็ผลดีต่อคุณในอนาคตเส้นทางการพนันหินหยกของคุณในอนาคตก็จะมีคนคอยช่วยเหลือมากขึ้น ห้ามดื้อรั้นในเื่นี้อย่างเด็ดขาด! ฮ่าๆ...... เื่นี้อาจารย์คงคิดมากจนเกินไปคนอย่างคุณไม่มีทางเอาเปรียบคนอื่นหรอก เอาล่ะ เริ่มดึกแล้วคุณกับโย่วจ้างจะไปเดินที่ตลาดผีในเถิงชงใช่ไหม รอให้พวกคุณกลับมาอาจารย์ค่อยมาคุยกับคุณอีกที” เมื่อท่านเฮ่อฉางเหอพูดจบเขาก็ตัดสายไปในทันที
ตลาดผี?
หลินเยว่ได้แต่ตะลึงอยู่ตรงนั้นเขาคาดไม่ถึงว่าคืนนี้เฮ่อโย่วจ้างจะพาเขาไปตลาดผี แล้วท่านเฮ่อทราบเื่นี้ได้อย่างไร?หรือว่าโทรศัพท์สายนั้น... เฮ่อโย่วจ้างเป็คนโทรอย่างนั้นหรือ?
ไม่ต้องสนใจว่าใครเป็คนโทรหรอกอย่างน้อยก็ถือว่าเป็เื่ที่ดีเื่หนึ่งมิฉะนั้นแล้วเขาก็คงยังไม่รู้เื่บัตรการยอมรับการเป็ปรมาจารย์แห่งหยก
หลินเยว่วางโทรศัพท์ลง เขานั่งนิ่งๆอยู่บนเตียงแล้วเริ่มคิดถึงตลาดผีขึ้นมา
“ตลาดผี” ชื่อนี้เขาเคยได้ยินคนอื่นพูดถึงแต่ยังไม่เคยไปมาก่อน
ตามคำเล่าลือ ตลาดผีจะมีความลึกลับมากแต่ความจริงแล้วมันเป็สถานที่ที่คนออกมาขายของปลอมในเวลากลางคืนซึ่งสินค้าเหล่านี้จะเป็สินค้าที่ไม่ได้ผ่านกระบวนการที่ถูกต้องตามกฎหมายอันที่จริงที่นี่ก็มีของแท้อยู่เหมือนกัน แต่มันจะต้องทดสอบสายตากันมากหน่อย เพราะการมองสินค้าในเวลากลางคืนมักจะมองพลาดได้ง่ายไฟฉายกำลังสูงก็ยังสู้แสงแดดในเวลากลางวันไม่ได้เลย
โดยปกติตลาดผีจะเริ่มเปิดตอนสี่ทุ่ม และจะปิดตอนตีสี่และที่นั่นจะเป็สถานที่ที่มีของที่ขุดมาจากสุสานมากที่สุดไม่ใช่ว่าตำรวจในพื้นที่ไม่อยากเข้ามาดูแล แต่เป็เพราะพวกเขาไม่สามารถเข้ามาจัดการได้มากกว่าทุกครั้งที่พวกเขาเริ่มลงมือ คนที่คอยดูต้นทางของถนนเส้นนี้ก็จะรีบเป่านกหวีดส่งข่าวให้กับทุกคนทันทีการเคลื่อนไหวของคนในตลาดผีจะมีความรวดเร็วอย่างยิ่งแผงแต่ละร้านสามารถเก็บเสร็จเรียบร้อยภายใน 1 นาที หลังจากนั้นก็จะแยกย้ายหายไปพอรอให้ตำรวจกลับไป พวกเขาถึงจะออกมาวางแผงขายอีกครั้ง สภาพแบบนี้ก็มีบรรยากาศคล้ายกับการสู้รบแบบกองโจรในสมัยคุณปู่ประธานเหมาเจ๋อตงอยู่เหมือนกันและหากมองอีกมุม ตลาดผีก็ถือว่าเป็สถานที่ที่มีความโดดเด่นแห่งหนึ่ง ดังนั้นตำรวจในพื้นที่จึงทำเป็มองไม่เห็นอยู่บ้าง
สถานที่หลายๆ แห่งจะมีตลาดผีอยู่แต่หากไม่ใช่คนในพื้นที่ก็จะไม่มีทางรู้ว่าจะไปที่นั่นได้อย่างไร ดังนั้น คนทั่วๆไปจึงไม่รู้ว่ามีตลาดผีอยู่จริงๆที่หลินเยว่เคยได้ยินคนพูดถึงตลาดผีก็คือที่คุนิแต่เขาไม่เคยได้ยินมาก่อนว่าเถิงชงก็มีตลาดผีด้วยเหมือนกัน
เมื่อคิดว่าคืนนี้เขาจะไปตลาดผี หลินเยว่จึงเกิดอาการตื่นเต้นอยู่ในใจที่ตลาดผีไม่ได้มีเพียงหินหยกเท่านั้น แต่ยังมีวัตถุโบราณมากมายแต่ทว่าตลาดผีของเถิงชงน่าจะมีหินหยกมากกว่าอย่างอื่น
วงการการพนันหินหยกมีคำพูดหนึ่งที่มีค่ามากนั่นก็คือ “ห้ามดูสีภายใต้แสงไฟ”
เป็เพราะว่ามันจะทำให้มองพลาดได้ง่าย ผิวนอกของหินหยกหากมองภายใต้แสงอาทิตย์กับการมองด้วยไฟฉายกำลังสูงจะให้สีที่ไม่เหมือนกันแต่คนจำนวนมากรักความตื่นเต้นท้าทาย หากหาหินหยกที่ดีไม่ได้จากถนนหินหยกถ้าอย่างนั้นก็อาจจะพบในตลาดผีก็ได้ ดังนั้นคนจำนวนมากจึงมีความชอบหินหยกในตลาดผีมากเป็พิเศษ
และก็เหมือนกับตอน่เช้าเมื่อหลินเยว่มาถึงห้องอาหารที่ใต้โรงแรมเขาพบว่าเฮ่อโย่วจ้างได้อยู่ที่นั่นอยู่แล้วในใจของเขาคิดว่าทำไมผู้ชายคนนี้ถึงไม่คิดจะะโเรียกเขาสักหน่อยล่ะหากท่านเฮ่อไม่ได้โทรศัพท์หาเขา อีกฝ่ายก็คงจะทานข้าวเสร็จแล้วค่อยไปเรียกเขาแล้วเขาก็ต้องหิ้วท้องอันหิวโหยไปที่ตลาดผีหรืออย่างไร?
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้