งูั์ตัวนั้นร่วงลงมาบนพื้น มันแลบลิ้นออกมาสองสามครั้งในขณะที่หยวนจุนนำผลึกอสูรและแกนภายในออกไปจากร่างกาย ทำให้พิษที่มีฤทธิ์กัดกร่อนของมันระเหยหายไปจนหมด
ขณะที่หยวนจุนกำลังเก็บของสองสิ่งนี้ เขาััได้ว่าภายในร่างกายของงูเหลือมเกล็ดโลหิตมีบางอย่างที่มีขนาดเท่าแขนกำลังเคลื่อนไหวอยู่ ดังนั้นเขาจึงเหวี่ยงกระบี่ออกไป เพื่อให้ปราณกระบี่ขอดเกล็ดแข็งของมันออกมาทันที
เงาสีแดงหม่นขนาดเล็กเลื้อยออกมาจากใต้ิัของมัน ก่อนจะกลายเป็งูเหลือมเกล็ดโลหิตที่เพิ่งกำเนิดใหม่!
แม้ลำตัวจะมีขนาดเล็ก แต่พลังปราณของมันกลับมากกว่าสัตว์อสูรระดับหนึ่ง หากได้รับการเลี้ยงดูอย่างดี ภายหน้าอาจเกิดการเปลี่ยนแปลงที่คาดไม่ถึงก็เป็ได้!
งูเหลือมเกล็ดโลหิตที่ถูกหยวนจุนตัดหัวนั้นอาศัยอยู่ในแอ่งน้ำที่เกิดจากปราณดารามาเป็เวลานาน ดังนั้นร่างกายภายในของมันจึงเกิดการเปลี่ยนแปลง
ตราบใดที่ส่วนสำคัญไม่ถูกทำลาย มันสามารถใช้ปราณดาราสร้างเกล็ดภายนอกขึ้นมาใหม่ได้ รวมถึงสามารถฟื้นตัวจากอาการาเ็ได้อย่างสมบูรณ์อีกด้วย
การที่หยวนจุนััปราณสัตว์อสูรของงูเหลือมเกล็ดโลหิตตัวเล็กที่อยู่ตรงหน้าไม่ได้ แสดงว่ามันได้สืบทอดการกลายพันธุ์นั้นมาด้วย ซึ่งพบเจอได้ยากเป็อย่างยิ่ง!
งูเหลือมเกล็ดโลหิตเป็สัตว์มีค่าที่เกือบหายสาบสูญไปจากมหาภพหลิงเทียน ตามบันทึกโบราณของปีศาจและสัตว์อสูร สัตว์อสูรชนิดนี้สามารถแปลงกายเป็มนุษย์ได้ รวมถึงสามารถเลื่อนระดับเป็มหาสัตว์อสูรได้หากใช้เวลามากพอ
แต่เมื่อมีการกลายพันธุ์ เช่นนั้นก็จะกลายเป็อีกเื่หนึ่ง
เหตุผลที่หลายพันปีมานี้ไม่เคยมีผู้ใดเห็นงูเหลือมเกล็ดโลหิตแปลงกายเป็มนุษย์อยู่ในมหาภพหลิงเทียน เพราะแก่นภายในของมันนั้นมีค่ามาก ดังนั้นเมื่อสัตว์อสูรชนิดนี้ปรากฏตัว พวกมันจะถูกนักยุทธ์รุมสังหารในทันที
กล่าวได้ว่าหยวนจุนนั้นโชคดีมากที่ได้เห็นงูเหลือมเกล็ดโลหิตตัวน้อยนี้!
ลูกของงูเหลือมเกล็ดโลหิตมองหยวนจุนตาเป็ประกาย มันค่อนข้างตื่นตาตื่นใจกับสิ่งแวดล้อมโดยรอบ หลังจากเลื้อยไปมาอยู่ครู่หนึ่ง มันก็ค่อยๆ เลื้อยมาที่เท้าของหยวนจุน
เมื่อหยวนจุนก้มลงและยื่นมือออกมา งูเหลือมเกล็ดโลหิตจึงเลื้อยพันรอบข้อมือของเขา ก่อนจะแลบลิ้นออกมานอกแขนเสื้อ
‘ครั้งนี้ถือว่าได้ประโยชน์มากทีเดียว!’ หยวนจุนคิดแล้วยิ้มออกมา จากนั้นจึงเอื้อมมือไปแตะผมสีเข้มอันเรียบตรงของเสี่ยวเมิ่งแล้วกล่าวว่า “ขอโทษนะ ทำให้เ้าเป็ห่วงแล้ว”
“พี่จุนไม่เป็ไรก็ดีแล้ว”
เสี่ยวเมิ่งเผยรอยยิ้มอันแสนหวานออกมา ก่อนที่ความกังวลในใจของนางจะค่อยๆ หายไป
หยวนจุนโค้งคำนับผู้าุโชิวอย่างสุภาพ จากนั้นจึงหันกายมองจวนตระกูลหลิวที่พังทลาย ซากปรักหักพังพวกนั้นทำให้เขาตกตะลึง ไม่มีจวนตระกูลหลิวที่ใหญ่โตโอ่อ่าอีกต่อไป
หลิวหรูเยียนและหลิวซินไห่พยายามนำร่างของหลิววั่นซานออกมาจากร่างของงูเหลือมเกล็ดโลหิต แต่ทว่าไม่มีสัญญาณบ่งบอกถึงการมีชีวิตอยู่อีกแล้ว
“นับั้แ่วันนี้ตระกูลหลิวนั้นล่มสลายแล้ว และข้าสาบานว่าตระกูลหยวนจะต้องใหญ่โตขึ้นอย่างแน่นอน! ในฐานะผู้นำของตระกูลหยวน ข้า้าตำแหน่งผู้นำอันดับหนึ่งของเมือง!” เขาเอ่ยเสียงนิ่ง จากนั้นจึงชี้กระบี่หยวนจุนไปทางมู่ชิงหยางที่กำลังงงงัน
น้ำเสียงที่ดูเป็มิตรแฝงไปด้วยการตัดสินใจที่เด็ดเดี่ยว หากตระกูลมู่กล้าโต้แย้งออกไปแม้แต่คำเดียว ทั้งตระกูลคงมีจุดจบที่ไม่ต่างไปจากตระกูลหลิวอย่างแน่นอน!
เมื่อรู้ว่าตระกูลหลิวล่มสลาย มู่ชิงหยางก็รู้สึกเ็ปใจ หยวนจุนไม่เพียงแต่มีโรงประมูลคอยสนับสนุนเท่านั้น แต่เขายังสนิทสนมกับตระกูลเซียวแห่งเมืองลั่วฝานอีกด้วย
แค่เพียงกำลังของตระกูลมู่ ไม่มีทางพลิกคลื่นลูกใหญ่นี้ได้อย่างแน่นอน
มู่ชิงหยางมองหยวนจุนด้วยความใ ในใจแฝงไปด้วยการยกย่องยินดีและความหวาดกลัว
ไม่นึกเลยว่าตระกูลใหญ่ที่มีรากฐานยาวนานนับศตวรรษอย่างตระกูลเจียงและตระกูลหลิว จะพ่ายแพ้ให้กับเด็กหนุ่มอายุสิบเจ็ดปี
“ตระกูลมู่ยอมรับตระกูลหยวนในฐานะเ้าเมืองอันดับหนึ่งและยินดีที่จะอยู่ใต้อาณัติของจวนตระกูลหยวน ไม่ว่าจะได้รับมอบหมายให้ทำสิ่งใดก็จะไม่มีทางปฏิเสธ!”
เมื่อได้ยินน้ำเสียงหนักแน่นของมู่ชิงหยาง หยวนจุนจึงพยักหน้าด้วยความพอใจแล้วกล่าวว่า “เมืองเทียนอวิ่นควรเปลี่ยนผู้นำนานแล้ว!”
“การที่ตระกูลหลิวกดขี่ข่มเหง ไม่ช้าก็เร็วจะทำลายอนาคตของตระกูลมากมายที่อยู่ในเมืองเทียนอวิ่น ตราบใดที่ยอมรับตระกูลหยวนในฐานะผู้นำและไม่ตีตัวออกหาก ตระกูลหยวนจะปฏิบัติต่อพวกเ้าอย่างดีแน่นอน!”
“ั้แ่วันนี้เป็ต้นไป หากตระกูลใดให้การสนับสนุนตระกูลหยวน ไม่ว่าตระกูลนั้นจะมีความแข็งแกร่งมากน้อยเพียงใดก็จะได้รับการคุ้มครองจากตระกูลหยวน นอกจากนี้ หากผู้ใดที่มีพลังแข็งแกร่งมากที่สุด ผู้นั้นจะมีโอกาสได้รับอาวุธระดับิญญาจากตระกูลหยวนไปอีกด้วย!”
ทันทีที่หยวนจุนกล่าวเงื่อนไขที่น่าสนใจเช่นนั้นออกมา แววตาของตระกูลเล็กและตระกูลกลางที่มาชมการต่อสู้ก็ลุกวาวขึ้นทันที!
ตราบใดที่พวกเขายอมรับตระกูลหยวนในฐานะผู้นำ นอกจากได้รับการคุ้มครองแล้ว ยังมีโอกาสได้รับอาวุธระดับิญญาขั้นสองเป็รางวัลอีกด้วย
หากคำพูดนี้ออกมาจากปากของผู้นำตระกูลอื่น พวกเขาคงต้องคิดใคร่ครวญอย่างรอบคอบ แต่เมื่อคำพูดนี้ออกมาจากปากของหยวนจุน สิ่งเหล่านี้จึงน่าเชื่อถือเป็อย่างมาก!
ประการแรกคือตระกูลหยวนมีความสัมพันธ์อันดีกับโรงประมูล ประการที่สองคือตระกูลหยวนมีนักสร้างระดับปรมาจารย์ตัวจริง!
“ทั้งนี้ หากพวกเ้าทำดีกับตระกูลหยวนเพื่อผลประโยชน์ส่วนตน พวกเ้าจะได้รับความตายเป็สิ่งตอบแทน!”
“สิ่งที่ข้าหยวนจุนเกลียดมากที่สุดคือการทรยศ! หากผู้ใดกล้าเป็นกสองหัวในยามที่เรากำลังลำบาก ตระกูลหยวนจะฆ่าคนผู้นั้นอย่างไร้ความปรานีแน่นอน!”
หยวนจุนมองนักยุทธ์ที่แสดงอาการหวาดกลัวด้วยสายตาเยือกเย็น เขาชี้ซากปรักหักพังของตระกูลหลิวที่อยู่ด้านหลังแล้วกล่าวว่า “ไม่ว่าเ้าจะมาที่นี่ในสถานะใด เชื่อเถอะว่าการทำให้ตระกูลหยวนไม่พอใจนั้นถือเป็ทางเลือกที่ไม่ฉลาด เพราะข้าจะทำให้เขาต้องทนทุกข์ทรมานไปทั้งชีวิต!”
ผู้าุโชิวที่ยืนอยู่ข้างๆ หยวนจุนเม้มปาก เขาพอใจวิธีการตอบแทนและการลงโทษนี้เป็อย่างมาก ท่าทางและน้ำเสียงของหยวนจุนแตกต่างจากนักยุทธ์ในวัยเดียวกันอย่างสิ้นเชิง
หลังจากครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง คิ้วเรียวของผู้าุโชิวก็กระตุกเล็กน้อย เขาจึงเข้าไปใกล้ๆ ใบหูของหยวนจุนแล้วถามเสียงเบาว่า “หากข้าเข้าร่วมกับตระกูลหยวน เ้าจะให้ประโยชน์อันใดแก่ข้า?”
“หา!”
หยวนจุนและเสี่ยวเมิ่งอดไม่ได้ที่จะอุทานออกมา ทั้งสองมองไปที่ผู้าุโชิวด้วยสายตาประหลาดใจและตื่นเต้น เขากล่าวว่า “ผู้าุโชิวโปรดอย่าล้อข้าเล่น ท่านเป็ผู้าุโระดับสูงของโรงประมูล จะฝ่าฝืนคำสั่งของโรงประมูลแล้วมาเข้าร่วมกับตระกูลหยวนของข้าได้อย่างไร”
“หึ เช่นนี้แสดงว่าเ้าไม่ต้อนรับข้าใช่หรือไม่”
เมื่อเห็นผู้าุโชิวแสดงความไม่พอใจออกมาเหมือนกับผู้เยาว์ หยวนจุนจึงยิ้มแล้วรีบส่ายหน้า “มิกล้า หากผู้าุโชิวเข้าร่วมกับตระกูลหยวน เช่นนั้นก็เหมือนกับเสือติดปีก เมืองรอบๆ ต้องล้มเลิกความคิดที่จะรุกรานเมืองเทียนอวิ่นกับตระกูลหยวนอย่างแน่นอน!”
เมื่อผู้าุโชิวได้ยินหยวนจุนเยินยอก็มีความสุข เขายิ้มกว้างอย่างพอใจแล้วกล่าวว่า “ข้าปรึกษากับโรงประมูลแล้ว ข้าสามารถมีสองสถานะพร้อมกันได้!”
“หากท่าน้า เช่นนั้นข้าจะมอบตำแหน่งผู้าุโของตระกูลหยวนให้ท่าน!”
เสี่ยวเมิ่งและหยวนจุนชำเลืองมองกันก่อนจะแสดงความตื่นเต้นดีใจออกมา การที่ผู้าุโชิวของโรงประมูลมาเป็ผู้าุโของตระกูลหยวน เรียกได้ว่าเป็เื่ที่ไม่มีผู้ใดคาดคิดมาก่อน
ความร่วมมือนี้ ต้องทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างโรงประมูลกับตระกูลหยวนในวันหน้าแน่นแฟ้นขึ้นอย่างแน่นอน!
หยวนจุนรู้ว่าการตัดสินใจเช่นนี้ของผู้าุโชิวและผู้จัดการฉางนั้นล้วนทำเพื่อตนเอง เนื่องจากโรงประมูลใส่ใจในความสัมพันธ์ และให้ความสำคัญกับผลประโยชน์เป็อย่างยิ่ง
เพราะตระกูลหยวนมีเสี่ยวเมิ่งที่เป็นักสร้างระดับปรมาจารย์ ซึ่งสามารถนำความมั่งคั่งมาสู่ทั้งสองฝ่ายได้
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้